แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 34 ผมรู้ว่าผมหล่อ ไม่ต้องจ้องนานก็ได้
“นายหญิงน้อย … ผมเพิ่งมาถึง ไม่ได้ยินอะไรเลย ไม่ได้ยินจริง ๆ”
ยิ่งอธิบายก็ยิ่งดูวุ่นวายเคอะเขิน
อาเจิ้งจึงหุบปาก
หลังออกจากห้องหนังสือ เซี่ยฉิงกงก็กลับไปที่ห้อง
ห้องพักตกแต่งอย่างสวยงามสไตล์ยุโรป ทำให้เซี่ยฉิงกงรู้สึกทึ่ง เตียงคู่ กระจกแต่งตัว โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า ทีวีสุดหรู … และโคมระย้าที่หรูหราฟู่ฟ่า
ทุกอย่างล้วนได้รับการจัดแต่งจนเข้ากันได้อย่างลงตัว
แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตสำหรับตระกูลมู่ หากแต่สำหรับเซี่ยฉิงกงแล้ว เธอไม่คุ้นเคยกับมันนัก
เธอหายตัวไปตั้งแต่เด็ก เธอไม่รู้ว่าชีวิตในครอบครัวที่ร่ำรวยนั้นเป็นอย่างไร ? เธอเป็นเด็กฉลาดและมีเหตุผล เธอต้องช่วยแม่บุญธรรมทำงานบ้านตั้งแต่ยังเด็ก แล้วตอนที่เธอเรียนมหาวิทยาลัย เธอก็ใช้เวลาว่างทำงานหาเงินเพื่อจุนเจือครอบครัว เธอสอนเซี่ยหว่านอิงน้องสาวของเธอให้ทำการบ้าน และคอยเป็นเพื่อนเล่นกับน้องสาวด้วย
เมื่อพูดถึงน้องสาวของเธอแล้ว เซี่ยฉิงกงก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ เซี่ยหว่านอิงน้องสาวตัวน้อยของเธอค่อนข้างที่จะแตกต่างจากน้องสาวอย่างเซี่ยชิงฉวน
แม้ว่าน้องสาวตัวน้อยของเธอจะเอาแต่ใจตัวเอง ไม่เชื่อฟังเธอ ทั้งมักจะสร้างปัญหามากมายที่บ้าน แต่เซี่ยฉิงกงก็รู้ดีว่าเซี่ยหว่านอิงรักเธอและนับถือเธอในฐานะพี่สาวอย่างจริงใจ
แม้ว่าผลการเรียนของเซี่ยหว่านอิงจะไม่ดีนัก แต่เธอก็ชอบเรื่องการใช้งานคอมพิวเตอร์ ทำให้เธอสนใจในคอมพิวเตอร์โดยธรรมชาติ เมื่อเธอยังเป็นนักศึกษาใหม่ในโรงเรียนมัธยม เธอก็สามารถเจาะเข้าระบบเครือข่ายของ สำนักสันติบาลเมืองได้โดยไม่ตั้งใจ ทำให้เครือข่ายสำนักสันติบาลเมืองทั้งหมดเป็นอัมพาตไปสิบนาที
หลังจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยม น้องสาวของเธอก็ได้รับคัดเลือกเป็นนักศึกษาโควต้าพิเศษในภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยแห่งกระทรวงกลาโหม เพื่อศึกษากับศาสตราจารย์ใหญ่
นับได้ว่าเธอมีความสามารถพิเศษจริง ๆ
เพียงพริบตาน้องสาวก็จากเธอไปนานกว่าหนึ่งปีแล้ว
เซี่ยฉิงกงคิดถึงเรื่องนี้ จนกระทั่งผล็อยหลับไป
ในเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น แสงแดดอ่อน ๆ สาดส่องเข้ามาในห้อง
ภายใต้แสงไฟสลัว จู่ ๆ เซี่ยฉิงกงก็รู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อยเลยตื่นขึ้นมา
เธอนอนหลับสบายอย่างมาก จึงบิดตัวเหยียดยาวอย่างเกียจคร้าน ขณะที่เซี่ยฉิงกงยืดตัวเธอก็สัมผัสได้ถึงบางสิ่งอุ่น ๆ
เซี่ยฉิงกงผงะลุกขึ้นจากเตียง เธอรีบหันไปมองด้านข้าง
มู่เฉินฮ่าวนอนเงียบ ๆ อยู่ข้าง ๆ เธอ ร่างกายท่อนบนของเขาไร้เสื้อผ้าปกปิด
เซี่ยฉิงกงผงะแทบจะถีบมู่เฉินฮ่าวตกจากเตียง
หลังจากคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เซี่ยฉิงกงก็รีบเลิกผ้าห่มขึ้นดูเสื้อผ้าของเธอ แล้วเธอก็โล่งใจ
เท้าของเธอที่ง้างออกไปหมายจะถีบชะงักงัน หลังจากเซี่ยฉิงกงคิดอยู่พักหนึ่ง เธอก็ยั้งไว้
หลังจากพบปะเขามาสองสามวันนี้ มู่เฉินฮ่าวมีนิสัยเช่นไร ? เซี่ยฉิงกงย่อมกระจ่างแจ้งดี
แม้ว่าเธอจะเรียนวิชาเอกเคมีที่มหาวิทยาลัย หากแต่เธอก็เรียนวิชาโทในสาขาจิตวิทยาด้วย และเธอก็สำเร็จการศึกษาเกรด A + ในแต่ละหลักสูตร
มู่เฉินฮ่าวเป็นคนอารมณ์แปรปรวน ทั้งยังหลงตัว และชอบข่มคนอื่น
อย่างเช่นที่เห็นทุกคราวที่เธอใกล้ชิดกับเขา ?
เซี่ยฉิงกงมองออกอย่างทะลุปรุโปร่ง จากมุมมองทางจิตวิทยา รากเหง้าของสภาวะดังกล่าว คือความไม่พอใจ และความไม่ไว้วางใจผู้อื่น
แต่มู่เฉินฮ่าว..นายน้อยของตระกูลมู่ผู้ซึ่งไม่เคยต้องกังวลเรื่องปัจจัยสี่ ตระกูลมู่เป็นตระกูลที่ควบคุมเศรษฐกิจโดยรวมของนครเซี่ยงไฮ้แห่งนี้ ทั้งยังขยายอิทธิพลไปยังต่างประเทศอีกด้วย
เขาเป็นลูกชายคนโตคนเดียวของตระกูลมู่ เป็นทายาทในอนาคตของตระกูล เขาจะต้องกังวลอะไร ? ยังจะอารมณ์เสียเรื่องอะไรอีก ?
เซี่ยฉิงกงไม่คิดจะเดาเรื่องความคิดในใจของเขาอีกต่อไป
เธอก็แค่จับตามองชายที่นอนหลับตาเงียบราวกับเทพบุตรอย่างสังเกต และระแวดระวัง
แล้วเซี่ยฉิงกงก็พบว่า เวลาที่ชายคนนี้หุบปาก เขาก็หล่อเหลา และไม่น่ารำคาญอย่างที่ผ่านมา
“ผมรู้ว่าผมหล่อ คุณไม่ต้องจ้องผมนานขนาดนี้ก็ได้”
ไม่กี่นาทีต่อมา มู่เฉินฮ่าวก็ขยับปากพูดช้า ๆ ทว่าตาของเขายังปิดสนิท
“นี่..คุณคิดว่าคุณน่าสนใจนักหรือ ? ยังแกล้งทำเป็นหลับอีก ! ทำไมคุณถึงคลานขึ้นมานอนบนเตียงของฉัน บ้านนี้ก็มีตั้งหลายห้อง !”
***จบตอน ผมรู้ว่าผมหล่อ ไม่ต้องจ้องนานก็ได้**
คอมเม้นต์