แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 133 เซี่ยฉิงกงกับชิงฉวน..ใครเป็นพี่ใครเป็นน้อง ?

อ่านนิยายจีนเรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก ตอนที่ 133 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

เป็นเรื่องง่ายมากที่เซี่ยฉิงกงจะหลบให้พ้นจากเงื้อมมือของเจินเมี่ยวหยู เพราะในตอนนี้เธอเองก็มีแหวนหัวมังกรอยู่ในมือเช่นกัน

 

เธอย่อมสามารถใช้แหวนหัวมังกรนี้หลบหนีได้ด้วยตนเอง

 

ทว่าผู้ชายที่ชื่อหยุนหมิงผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังคนนั้นล่ะ คนที่เจินเมี่ยวหยูเรียกว่าเจ้านาย เขาคือใคร ?

 

หลายสิ่งยังไม่ได้รับการเปิดเผย ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถกำจัดผู้หญิงคนนี้ได้

 

“หากคุณยังต้องการให้คู่หมั้นของคุณมีชีวิตรอดก็เตรียมรถมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ ห้ามมีป้ายทะเบียนรถด้วย รีบไปเตรียมมาเลย”

 

มู่เฉินฮ่าวเลิกคิ้วน้อย ๆ

 

“ได้สิ”

 

“โจวหยุนเซินอยู่ที่ไหน ? คุณจับตัวเขาไว้ใช่ไหม ?”

 

ดวงตาของเจินเมี่ยวหยูหรี่ลงเล็กน้อย

 

“เขาอยู่ที่หน้าประตู”

 

เจินเมี่ยวหยูถือชามที่แตกไว้ในมือข้างหนึ่ง ขณะเดียวกันก็บีบไหล่ของเซี่ยฉิงกงด้วยมืออีกข้างหนึ่ง เธอบังคับให้เซี่ยฉิงกงเดินถอยห่างออกไปพร้อมกันอย่างช้า ๆ

 

“ปล่อยเขามา”

 

เซี่ยฉิงกงรู้สึกเจ็บบริเวณไหล่ นั่นแสดงให้เห็นว่าเจินเมี่ยวหยูต้องใช้แรงและความพยายามในครั้งนี้มากแค่ไหน

 

มู่เฉินฮ่าวยกมือขึ้นโบก อาเจิ้งเดินไปที่รถซึ่งจอดอยู่ตรงประตู เขานำตัวโจวหยุนเซินซึ่งถูกจับมัดยัดใส่ท้ายรถไว้ลงมา จากนั้นก็ปลดเชือกที่มัดตัวโจวหยุนเซินออก

 

“คุณยังต้องการอะไรอีก ช่วยพูดให้หมดในครั้งเดียวเลย”

 

เซี่ยฉิงกงกล่าวอย่างสุดจะทน เซี่ยเจิ้งหัวยังคงอยู่ในบ้าน และเซี่ยฉิงกงก็รู้สึกเป็นห่วงเขามาก

 

เจินเมี่ยวหยูคนนี้เล่นบอกเงื่อนไขทีละข้อ ๆ ไม่ต่างจากบีบยาสีฟันทีละนิด ๆ

 

และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงรู้สึกเริ่มจะรำคาญที่ต้องทนรับฟัง

 

เจินเมี่ยวหยูพูดอย่างเย็นชา

 

“ตอนนี้ แกอยู่ในกำมือของฉันแล้ว หัดอยู่เงียบ ๆ เสียบ้างจะดีกว่า หาไม่หากทำให้ฉันหงุดหงิดใจ ชีวิตของแกก็อาจจะไม่เหลือ”

 

“เอาล่ะ งั้นให้ฉันถามสักคำถามนะ ต่อให้คุณหนีออกไปจากที่นี่ได้ คุณก็ไม่คิดจะปล่อยฉันไปใช่มั้ยล่ะ ?”

 

ปากของเจินเมี่ยวหยูยกยิ้มแปลก ๆ

 

“แกก็ฉลาดดีนี่ แล้วไง ?”

 

“ทำไมคุณไม่บอกฉันล่ะว่า จ้านายของคุณคือใคร ?”

 

เจินเมี่ยวหยูตกตะลึง ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างมาก เธอลืมว่าจะพูดอะไรไปชั่วขณะ

 

ไพ่ใบสุดท้ายในมือของเธอถูกเปิดโปงอย่างง่ายดาย

 

“ว่าไง ?”

 

มุมปากของเซี่ยฉิงกงยกยิ้มเยาะหยัน เธอเกรงว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ แม่เลี้ยงของเธอจะสวมเขาให้กับเซี่ยเจิ้งหัว

 

“แกรู้ได้ยังไง ?

 

“ตอบคำถามของฉันก่อน”

 

“เหอ เหอ แกไม่มีคุณสมบัติพอที่จะรู้เรื่องนี้หรอก เซี่ยฉิงกง แก..นังผู้หญิงสารเลว ทำไมแกต้องกลับมาที่นี่ด้วย”

 

นัยน์ตาของเจินเมี่ยวหยูเผยให้เห็นร่องรอยของความเย็นชา ดูราวกับจะกินเลือดกินเนื้อของเซี่ยฉิงกง

 

เซี่ยฉิงกงกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทว่าเธอกลับได้ยินเสียงโกรธเกรี้ยวจากในห้องคำรามออกมา

 

“ฉิงกงไม่มีคุณสมบัติพอที่จะรู้ แล้วผมล่ะมีคุณสมบัติพอที่จะรู้หรือไม่ ?”

 

เจินเมี่ยวหยูตัวสั่น ร่องรอยของความตื่นตระหนกพลันท่วมท้นออกมาจากนัยน์ตาของเธอ เพราะนั่นคือเสียงของเซี่ยเจิ้งหัว

 

แปลกจริง ? เซี่ยเจิ้งหัวควรจะนอนแซ่วอยู่บนเตียงหลังจากกินยาไปแล้วไม่ใช่หรือ ? นี่มันเกิดอะไรขึ้น ?

 

ครั้นมู่เฉินฮ่าวได้ยินน้ำเสียงอันดุดันของเซี่ยเจิ้งหัว เขาก็ยกมือขึ้นกุมหน้าผากด้วยความรู้สึกเศร้า นี่…เจ้าบ้านเซี่ยคงไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไปแล้วล่ะสิ ?

 

เซี่ยเจิ้งหัวทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาก้าวออกจากห้อง พร้อมกับชี้นิ้วไปที่เจินเมี่ยวหยูด้วยมือที่สั่นระริก ขณะกล่าวว่า

 

“เจินเมี่ยวหยู ผมปฏิบัติต่อคุณเป็นอย่างดีตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำไมคุณถึงยังสวมเขาให้ผมได้ ?”

 

ในเมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว เจินเมี่ยวหยูก็ไม่มีทางเลือกอื่น เธอหัวเราะเยาะพร้อมกับพูดว่า

 

“เซี่ยเจิ้งหัว ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ของนังเด็กนี่ตาย คุณจะแต่งงานกับฉันมั้ย ?”

 

เซี่ยเจิ้งหัวเงียบ…

 

“คุณไม่เคยคิดถึงฉันเลย ! พูดความจริงสิว่า ระหว่างฉิงกงกับชิงฉวน ใครเป็นพี่ใครเป็นน้อง คุณพูดออกมาสิ !”

 

“เซี่ยเจิ้งหัวพูดมาสิ ทำไมคุณไม่พูดออกมาล่ะ ? คุณกลัวจะอับอายขายขี้หน้าต่อหน้าลูกสาวของคุณใช่มั้ย ? กลัวเธอจะรู้ว่าชิงฉวนเป็นพี่สาวใช่รึเปล่า ?

 

***จบตอน เซี่ยฉิงกงกับชิงฉวน..ใครเป็นพี่ใครเป็นน้อง ?***

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด