แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 95 คำมั่นสัญญาของมู่เฉินฮ่าว
“ดูเหมือนตอนที่ฉีเหยียนเอ๋อจากไป เธอจะไม่ได้ถืออะไรในมือนะ แต่กระเป๋าของเธอตกอยู่ที่นี่ เธอเพิ่งให้คนรับใช้มารับไป” เซี่ยฉิงกงตอบ
“คุณว่ากระเป๋าของเธออยู่ที่นี่ แล้วเธอสั่งให้คนมาเอาไปให้ใช่ไหม ?”
เซี่ยฉิงกงพยักหน้าอย่างงง ๆ พลางถามว่า
“มีอะไรเหรอ ?”
แววตาของมู่เฉินฮ่าวเย็นชาลงเรื่อย ๆ โดยปกติแล้วหากฉีเหยียนเอ๋อลืมกระเป๋าไว้ที่นี่ เธอจะไม่รีบมาเอากลับไปภายในวันอย่างแน่นอน เพื่อที่ว่าวันหน้าเธอจะได้มีเหตุผลในการกลับเข้ามาในห้องของมู่เฉินฮ่าวอีก แต่แล้วจู่ ๆ วันนี้เธอกลับห่วงกระเป๋าขนาดนั้น ต้องมีอะไรแปลก ๆ เป็นแน่ และต้องเป็นเธอที่เอาเครื่องบันทึกเสียงเครื่องนั้นออกไปอย่างแน่นอน
“ผมไปรับข้อมูลเกี่ยวกับคดีของเฉินเหวินกังที่สำนักสันติบาล มีเครื่องบันทึกเสียงซึ่งบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ที่น่าสงสัยของเฉินเหวินกังภายในสองสัปดาห์ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตไว้”
“คุณฟังสิ่งที่ถูกบันทึกไว้ในนั้นแล้วหรือยัง ?”
มู่เฉินฮ่าวพยักหน้าเล็กน้อย
“อืม ผมได้ยินว่า เฉินเหวินกังถูกยุยงให้ลักพาตัวคุณ และอีกฝ่ายก็สัญญาว่าหากมีการเปิดเผยเรื่องนี้ เขาสามารถนำตัวเฉินเหวินกังออกจากสำนักสันติบาลได้อย่างแน่นอน”
“สัญญาว่าจะพาออกจากสำนักสันติบาลงั้นหรือ ? แต่เฉินเหวินกังกินยานอนหลับฆ่าตัวตายไม่ใช่หรือ ?”
เซี่ยฉิงกงไม่ได้ยินเสียงที่ถูกบันทึกไว้ ดังนั้นเธอจึงยังคงสับสนเล็กน้อย
มู่เฉินฮ่าวยื่นมือออกมารั้งเซี่ยฉิงกงเข้าไปไว้ในอ้อมแขนอย่างนุ่มนวล จากนั้นเขาก็ใช้มือใหญ่รวบเส้นผมที่ยุ่ง ๆ ของเซี่ยฉิงกงพลางพยักหน้า
“อืม..ใช่ เขาสัญญาว่าจะพาเฉินเหวินกังออกจากสำนักสันติบาล เขาว่าเขาเตรียมขวดยานอนหลับหลอก ๆ ที่คล้ายกับยานอนหลับจริง ๆ ให้เฉินเหวินกังกิน เพื่อแสร้งทำเป็นฆ่าตัวตาย หลังจากเฉินเหวินกังกินยาหลอก ๆ นั้น สภาพร่างกายของเฉินเหวินกังก็จะเหมือนคนที่ตายไปแล้วซึ่งนั่นจะเป็นการสะดวกในการช่วยชีวิตเฉินเหวินกัง แต่อีกฝ่ายดูเหมือนไม่ได้คิดที่จะช่วยชีวิตเฉินเหวินกังจริง ๆ ในขวดยานั่นก็เลยเป็นยานอนหลับของจริง
เซี่ยฉิงกงเอนอิงกายอยู่ในอ้อมแขนของมู่เฉินฮ่าว เธอพยักหน้าอย่างครุ่นคิด ดูเหมือนว่า เฉินเหวินกังเองก็ถูกใครบางคนหลอกใช้เช่นกัน
“อืม ไม่สำคัญหรอกว่าเราจะมีเครื่องบันทึกเทปนั่นหรือไม่มี เพราะสิ่งสำคัญที่สุดก็คือตัวละครอีกตัวที่เฉินเหวินกังเรียกเขาว่า ‘นายน้อยหมิง’ เราสามารถเริ่มจากจุดนี้ แล้วสาวต่อไปเรื่อย ๆ แวดวงคนดังในเมืองนี้จะใหญ่โตสักแค่ไหนกันเชียว”
เซี่ยฉิงกงพยักหน้า
“อืม”
ทุกอย่างซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ เดิมทีเซี่ยฉิงกงคิดว่าเฉินเหวินกังอาจเกี่ยวข้องกับแม่เลี้ยงของเธอ ทว่าตอนนี้ดูเหมือนจะมีตัวละครเพิ่มขึ้นอีกคนแล้ว
แต่หากไม่มีหนอนบ่อนไส้ในตระกูลเซี่ย เฉินเหวินกังก็จะไม่มีทางรู้ที่อยู่ของเซี่ยฉิงกง โดยเฉพาะในวันนั้น คนที่ติดต่อกับเธอก็มีเพียงเซี่ยชิงฉวนกับคนรับใช้ของตระกูลเซี่ยเท่านั้น
“เอาล่ะ ไม่ต้องคิดมาก ตราบใดที่คุณอยู่กับผม ผมจะไม่มีวันปล่อยให้ใครทำร้ายคุณได้อีก ลงไปข้างล่างกันเถอะ คุณพ่อคุณแม่ของผมรอเราอยู่ที่ห้องนั่งเล่น หลังจากที่เราปรึกษาหารือกับท่านเสร็จแล้วเราก็จะได้กลับบ้าน”
มู่เฉินฮ่าวยิ้มอย่างอ่อนโยน
“ที่แล้วก็ให้แล้วไปเถอะ ตระกูลฉีสามคนนั่นก็ได้ออกไปจากตระกูลมู่แล้ว”
เซี่ยฉิงกงกล่าวอย่างเซ็ง ๆ พร้อมกับเบะปาก
มู่เฉินฮ่าวจูงมือเล็ก ๆ ของเซี่ยฉิงกงก้าวออกจากห้อง เขาพูดขณะที่เดินไปยังห้องนั่งเล่นว่า
“วันนี้คุณพ่อของผมเห็นแก่หน้าคุณลุงฉี เลยไม่สืบสาวเอาความเรื่องนี้ต่อ แต่หากยังมีครั้งหน้าอีก ผมก็ไม่รังเกียจที่จะทำให้ตระกูลฉีหายไปจากเมืองนี้”
เซี่ยฉิงกงหันหน้าไปมองการแสดงออกที่จริงจังของมู่เฉินฮ่าว เธอเชื่อถ้อยคำของมู่เฉินฮ่าว แววตาของมู่เฉินฮ่าวแน่วแน่ และจริงจังที่สำคัญเขากำลังให้คำมั่นสัญญากับเธอ
***จบตอน คำมั่นสัญญาของมู่เฉินฮ่าว***
คอมเม้นต์