แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 104 เลียส้นสูงให้สะอาด
อาเจิ้งถูกสั่งให้ไปทำงานบางอย่างให้มู่เฉินฮ่าวในตอนเช้า เขาเพิ่งกลับมาตอนเที่ยง เขาต้องการรายงานมู่เฉินฮ่าว จึงพบว่ามู่เฉินฮ่าวไม่ได้อยู่ในห้องทำงาน เขาค่อนข้างแปลกใจเล็กน้อย เพราะเท่าที่รู้ น่าจะมีประชุมสำคัญอีกครั้งในช่วงบ่าย นี่นายน้อยออกไปก่อนเวลางั้นหรือ ?
กำลังจะโทรหามู่เฉินฮ่าว หมายเลขโทรศัพท์ของมู่เฉินฮ่าวก็โทรเข้ามา
“นายน้อย”
“นายไปทำตามที่ฉันบอกหรือยัง ?”
“เรียบร้อยแล้วครับ “
“ฉันกำลังจะไปรับฉิงกง เดี๋ยวนายช่วยพิมพ์ไฟล์เอกสารเกี่ยวกับตำแหน่งของหมั่นโถวในกองทัพส่งไปให้เจ้าบ้านตระกูลเสิ่นด้วย”
“เกิดอะไรขึ้นกับหมั่นโถวครับ ?”
อาเจิ้งงง
“เสิ่นหรงเจีย คุณหนูที่จบการศึกษาจากโรงเรียนตำรวจของตระกูลเสิ่นหลักสูตรห้าปีนั่น สั่งให้สำนักสันติบาลควบคุมตัวหมั่นโถว”
อาเจิ้งยื่นนิ่ง มีคนกล้าจับกุมหมั่นโถว …
“ผมเข้าใจแล้วครับ นายน้อย”
หลังจากวางสายโทรศัพท์ อาเจิ้งก็พิมพ์สำเนาข้อมูลเกี่ยวกับหมั่นโถวในกองทัพทหารหน่วยรบพิเศษตามคำสั่งของมู่เฉินฮ่าว จากนั้นเขาก็ขับรถไปที่บ้านสกุลเสิ่นด้วยตนเอง เขาอธิบายอย่างตรงไปตรงมาว่าในเวลานี้ บุคคลผู้นี้ถูกหลานสาวที่รักของเจ้าบ้านเสิ่นควบคุมตัวไว้ที่สำนักสันติบาล ขอให้เจ้าบ้านเสิ่นช่วยจัดการเรื่องนี้ด้วย
หลังจากพูดจบอาเจิ้งก็รีบไปที่สำนักสันติบาล เขายืนรออยู่ที่ประตูของสำนักสันติบาล หากผ่านไปสามชั่วโมงแล้ว ตระกูลเสิ่นยังไม่ลงมือทำการใด ๆ ทั้งไม่รู้ว่าอะไรควรทำ หรือไม่ควรทำ อาเจิ้งก็จะบุกเข้าไปช่วยหมั่นโถวด้วยตัวเอง
ครั้งที่หมั่นโถวตบเสิ่นหรงเจียในวันนั้น อาเจิ้งก็ได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมดมาจากหมั่นโถวแล้ว ด้วยเหตุนี้เขาจึงรู้ว่าคุณหนูเสิ่นต้องโกรธแค้นหมั่นโถวมาก และหากคุณหนูเสิ่นใช้ศาลเตี้ยกับหมั่นโถว หมั่นโถวจะต้องทุกข์ทรมานมากเป็นแน่
หมั่นโถวเคยฝึกฝนอยู่ในหน่วยรบพิเศษมา 7 ปี อาเจิ้งคิดถึงใบหน้าของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่มีแววตาดื้อดึงในเวลานั้นแล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ได้แต่รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเล็ก ๆ
มู่เฉินฮ่าวตรงต่อเวลามาก เขามาถึงอาคารฮุ่ยเหลียนภายในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาที เขาตามหาเซี่ยฉิงกงจนพบ
เซี่ยฉิงกงกำลังก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์มือถือ จู่ ๆ ก็มีคนตบหลังเธอ เธอจึงรู้สึกตกใจมาก เธอตบหน้าอกตนเอง พูดอย่างโกรธ ๆ ว่า
“คุณเป็นผีรึไง ชอบโผล่ออกมาจากด้านหลัง ?”
“หึ หึ เจอหน้าทีไร ดุผมทุกที แทนที่จะขอบคุณที่ผมอุตส่าห์มารับคุณ”
เซี่ยฉิงกงมุ่ยปาก
“ฉันไม่ได้ขอให้คุณมารับฉันสักหน่อย”
“งั้น ผมกลับล่ะ ส่วนคุณก็กลับบ้านเองแล้วกัน”
มู่เฉินฮ่าวหันหลังตั้งท่าผละจากไป
เซี่ยฉิงกงงง นายน้อยคนนี้มาอารมณ์ไหนเนี่ย ?
เซี่ยฉิงกงยกมือขึ้นเท้าสะเอว พร้อมกับตะโกนเสียงดังว่า
“มู่เฉินฮ่าว พาฉันกลับบ้านเดี๋ยวนี้นะ”
เสียงตะโกนนี้ทำให้คนรอบข้างหันมามองเป็นตาเดียว เซี่ยฉิงกงอาจไม่เป็นที่รู้จัก หากแต่สำหรับมู่เฉินฮ่าวนั้นต่างกัน เดิมทีทุกคนมาที่ห้างสรรพสินค้าก็เพื่อซื้อของ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ให้ความสนใจอะไรมากนัก
ทว่าทันทีที่เซี่ยฉิงกงตะโกนขึ้น ผู้คนรอบข้าง ต่างก็เริ่มหันมามอง
มู่เฉินฮ่าวต้องหันหลังเดินกลับมาอย่างช่วยไม่ได้ เขาต้องคุยกับยัยตัวแสบนี่ให้จริงจังสักหน่อย เธอไม่ไว้หน้าเขาเลย อย่างไรเสียเขาก็เป็นถึงประธานของกลุ่มบริษัทมู่ เข้าใจบ้างมั้ยเนี่ย ?
หากมีใครถ่ายภาพไว้ และเผยแพร่ออกไปว่าภรรยาของเขาตามจิกสามีล่ะ ? เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน !
มู่เฉินฮ่าวรู้สึกปวดหัว เขายกแขนขึ้นโอบรอบเอวเล็ก ๆ ของเซี่ยฉิงกง
“เซี่ยฉิงกง ผมขอคุณสักเรื่องได้มั้ย ?”
“อะไร ?”
“คราวหน้าอย่าทำแบบนี้เวลามีคนเยอะ ๆ พูดจากับผมดี ๆ หน่อย อย่าใช้คำพูด ‘จิก’ .. ตกลงมั้ย ? … มันน่าขายหน้ามากเลย”
เซี่ยฉิงกงรู้สึกขบขันกับคำพูดของมู่เฉินฮ่าว
“ขอดูพฤติกรรมของคุณก่อน แล้วฉันค่อยตัดสินใจ”
ในห้องสอบสวนขนาดเล็กของสำนักสันติบาล
หมั่นโถวถูกใส่กุญแจมือล็อคไว้กับเก้าอี้ นอกจากนี้ขาของเธอก็ถูกมัด
เก้าอี้ที่เธอนั่งก็ไม่ใช่เก้าอี้ธรรมดา ทว่าเป็นเก้าอี้ไฟฟ้าที่สำนักสันติบาลใช้สอบปากคำอาชญากรปากแข็งในคดีค้ายาเสพติด และคดีฆาตกรรม
“ฉันจะให้โอกาสเธอคุกเข่าต่อหน้าฉัน แล้วเลียรองเท้าส้นสูงของฉันกับเหยียนเอ๋อให้สะอาด เพื่อที่ว่าฉันจะให้เธอทรมานน้อยลงหน่อยเอามั้ย ?”
คอมเม้นต์