แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 119 มีเมียแล้วลืมพ่อเลยใช่มั้ยนี่ ?

อ่านนิยายจีนเรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก ตอนที่ 119 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

เมื่อรู้สึกได้ว่าผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาพยายามทิ้งน้ำหนักตัวของเธอทั้งหมดลงมาบนร่างกายของเขา ปากของมู่เฉินฮ่าวก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เขาเกร็งแขนอันแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

 

“คุณอยากทำอะไรกันแน่ ?”

 

“ฉันอยากจะทับคุณให้แบนไปเลย” เซี่ยฉิงกงกระซิบ

 

 

“น้ำหนักคุณแค่นี้อยากทับผมจนแบน อย่าฝันไปหน่อยเลย หรือไม่คุณก็ต้องกินให้มากขึ้น ให้อ้วนขึ้นกว่านี้ กินมากขึ้นอีก 30 หรือ 50 แคลอรี่ต่อมื้อ นั่นล่ะบางทีคุณอาจจะทับผมตายได้”

 

นัยน์ตาของเซี่ยฉิงกงโค้งงอขึ้นเล็กน้อยจนเป็นพระจันทร์เสี้ยว

 

ผู้ชายมักชอบปากหวานใส่สาว ๆ ผู้หญิงก็ได้แต่ฟัง เพราะหากอ้วนขึ้นมาจริง ๆ ผู้ชายจะรักผู้หญิงอ้วน ๆ แบบนั้นได้ไง ?

 

ทั้งสองคนต่อปากต่อคำกัน ขณะเดินไปที่ประตู วันนี้อากาศค่อนข้างอบอ้าวเล็กน้อย

 

ต้นไม้ในสวนเติบโตอย่าสะเปะสะปะ แต่ครั้นต้นไม้สูงใหญ่แผ่กิ่งก้านบดบังแสงแดดจนมิด เซี่ยฉิงกงก็รู้สึกดีขึ้น

 

เซี่ยฉิงกงพบว่าบุคลิกของมู่เฉินฮ่าวเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก เมื่อไม่นานมานี้ เวลาพูดกับเธอ เขามักจะแสดงท่าทางเย็นชาอยู่เสมอ

 

ทำราวกับว่าคำพูดของเขาประดุจทองคำ ไม่อยากจะพูดอะไรมากนักเดี๋ยวทองจะร่วงจากปาก

 

หากแต่ตอนนี้มู่เฉินฮ่าวกลับชอบพูดคุยกับเธอ บางทีก็ชอบหยอกล้อเธอ ซึ่งเซี่ยฉิงกงก็รู้ดีว่ามู่เฉินฮ่าวทำเช่นนี้กับเธอคนเดียวเท่านั้น

 

เธอคิดว่าการหมั้นหมายกับมู่เฉินฮ่าวเป็นจุดจบของสัญญาการแต่งงานของเธอ และเธอก็ยอมรับชะตากรรมนั้นแล้ว ทว่าเธอก็ยังไม่ค่อยมั่นใจนัก

 

เธอคิดว่า เธอแค่ยอมถูกผูกมัด เพียงเพื่อรักษาอาการป่วยของแม่บุญธรรม และล้างแค้นให้กับตัวเธอเอง

 

ชีวิตก็เป็นเช่นนี้มิใช่หรือ ? ผุพังไม่ต่างจากใบไม้ร่วงรอวันเน่าสลายภายใต้ต้นไม้อย่างเงียบ ๆ  ครั้นฤดูใบไม้ผลิมาเยือนก็จะเหลือเพียงสิ่งสกปรกภายใต้ฝ่าเท้าของผู้คน

 

หากแต่เธอไม่ได้คาดหวังว่า มันจะเติบโตกระทั่งกลายเป็นดอกไม้เล็ก ๆ ที่มีสีสันได้ มู่เฉินฮ่าวได้เข้ามากวนระลอกคลื่นในใจของเซี่ยฉิงกงอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

 

ครั้นทั้งคู่ไปถึงประตู เซี่ยฉิงกงก็มองไปที่ที่นั่งคนขับของรถเบ๊นซ์ เอส600  ซึ่งยามนี้มู่จื่อหมิงกำลังนั่งอยู่ในตำแหน่งที่นั่งข้างคนขับแต่เพียงลำพัง

 

เอ๊ะ ? ซิงเหวินจิ้งไม่มาด้วยหรือ ?

 

ดูเหมือนว่าซิงเหวินจิ้งจะยังไม่พอใจในตัวเธออย่างมาก ดังนั้นแม้ว่าลูกชายกำลังจะหมั้น ทว่าซิงเหวินจิ้งก็ไม่เต็มใจที่จะไปเจรจาที่ตระกูลเซี่ย

 

หมั่นโถวช่วยเซี่ยฉิงกงขึ้นรถด้วยความระมัดระวัง การสวมรองเท้าส้นสูงนั้นลำบากมาก และเซี่ยฉิงกงก็รู้สึกไม่มั่นคงเล็ก ๆ

 

หลังจากทั้งคู่ก้าวขึ้นรถแล้ว อาเจิ้งก็ขึ้นรถไปนั่งที่เบาะคนขับ ส่วนหมั่นโถวก็ตามขึ้นรถและนั่งข้าง ๆ เซี่ยฉิงกง

 

เอส 600 เคลื่อนตัวออกช้า ๆ และแล่นไปในทิศทางของบ้านสกุลเซี่ย

 

รถแล่นไปบนถนนอย่างราบรื่น

 

“วันนี้ลูกสะใภ้สวยมาก !”

 

หลังจากรถสตาร์ท มู่จื่อหมิงก็หันกลับมามองเซี่ยฉิงกงพร้อมกับกล่าวชื่นชม

 

ขณะที่เซี่ยฉิงกงกำลังจะเอ่ยปากนั้น มู่เฉินฮ่าวก็แสดงท่าทางไม่พอใจ

 

“คุณพ่อ เธอเป็นภรรยาของผม ผมชมเองได้ ไม่ต้องให้คุณพ่อชมหรอก”

 

“เฮ้ ! เจ้าลูกชาย มีเมียแล้วลืมพ่อเลยใช่มั้ยนี่ ? แกพูดแบบนี้กับพ่อของแกได้ไง ?”

 

มู่จื่อหมิงเป่าหนวดของเขาด้วยความหดหู่เล็กน้อย

 

ในรถพูดจากันอย่างครื้นเครง เซี่ยฉิงกงลอบอมยิ้มอยู่ข้าง ๆ เธอคิดว่าพ่อลูกคู่นี้ช่างน่าสนใจจริง ๆ

 

“เอ่อ… วันนี้คุณป้าไม่มาด้วยหรือคะ ?”

 

เซี่ยฉิงกงยังอดไม่ได้ที่จะถาม ลึก ๆ ในใจแล้วเธอรู้สึกว่าการแต่งงานควรที่จะได้รับพรจากครอบครัว หากซิงเหวินจิ้งไม่ชอบเธอ เธอก็รู้สึกว่าตนเองมีปมในใจเล็ก ๆ

 

“อ้อ เหวินจิ้งน่ะหรือ ! ช่วงนี้เหวินจิ้งอารมณ์ไม่ดีเธอก็เลยไปพักผ่อนที่อเมริกาน่ะ”

 

“ค่ะ” เซี่ยฉิงกงตอบ

 

“ลูกสะใภ้ อย่าได้ถือโทษที่เหวินจิ้งไม่ชอบหนูเลย ฉันเองก็อยากพูด ความจริงแล้วฟังดูก็เหมือนเรื่องตลก ตอนที่ฉันยังเด็ก ฉันชอบแม่ของหนูมากจริง ๆ แล้วหนูก็หน้าตาเหมือนแม่ของหนูมากใช่ไหมล่ะ ? เหวินจิ้งจึงมักจะนึกถึงแม่ของหนูทุกครั้งที่เห็นหน้าหนู”

 

***จบตอน มีเมียแล้วลืมพ่อเลยใช่มั้ยนี่ ?***

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด