The Great Merchant in the Cataclysm – ตอนที่3:ดาบแทงค์เทเลอร์
หลังจากที่เขาเข้าไปในห้อง,จางมู่เห็นท่านเซเหลียงกำลังจับโลหะอยู่บนพื้น.ท่านเซเหลียงยกหูจับขึ้น ทำให้เห็นว่าลึกลงไปมีบรรไดไม้.เขาไม่รอช้าและปีนลงไปในหลุม,จางมู่ตามเขาไปในทันที.
มันคือห้องใต้ดิน.เมื่อลมพัดเข้ามาในห้องใต้ดินผ่านทางหลุม,หลอดไฟก็สว่างโชติช่วง,ภายในห้องเต็มไปด้วยแสงเปล่งประกาย.ทำให้ตาของจางมู่ปรับให้เข้ากลับแสงจนลืมแทบไม่ขึ้น.
ห้องใต้ดินนั้นไม่ใหญ่มาก.เขาสามารถเห็นทุกอย่างภายในห้องใต้ดินโดยแค่มองผ่านๆ.มีโต๊ะทำงานที่เด่นมากอยู่ตรงกลางห้องซึ่งนั้นก็เป็นพื้นที่ส่วนใหญ่.มันรกเต็มไปด้วยงานที่ยังไม่เสร็จและอุปกรณ์ต่างๆ.
จางมู่เงยหน้าขึ้นมองก็พบกับมีดและดาบแขวนอยู่บนกำแพง.
จางมู่เงียบและมองไปรอบๆเขาเห็นถึงข้าวฟ่างหลายสิบถุงและอาหารอื่นๆวางอยู่ที่มุมห้อง.
อ๋อ,อย่างนี้นี้เองที่ทำให้ท่านเซเหลียงรอดจากช่วงเวลาที่ยากที่สุดหลังจากเกิดภัยพิบัติ.เมื่อเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น,ผู้คนจำนวนมากหิวตายภายในห้องของเขาเพราะว่ากลัวการที่จะออกจากห้อง.
เซเหลียงแสดงให้เห็นถึงรอยยิ้มที่มั่นใจบนปากของเขา หลังจากที่เขาเห็นความตกใจบนใบหน้าของจางมู่.ภายในห้องนี้เขาคือราชาที่ดีที่สุดในอาณาเขตนี้.
ท่าทางเสื่อมทรามของเขาหายไป,และพูดกับจางมู่ด้วยรอยยิ้ม”น้องชายดาบหรือมีดอันไหนที่เจ้าชอบ? พวกมันไม่ใช่อุปกรณ์ตัดเย็บเสื้อผ้า,เจ้าอาจจะรู้สึกอึดอัดที่จะใช้มัน.ตอนนี้,มันไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับเจ้า.”
จางมู่มองไปรอบๆและไม่พบอะไรที่เหมาะสม.ในที่สุด,เขาก็มองไปที่ดาบยาวด้านมุมของกำแพง.
ใบมีดของดาบบาง แคบ และมีปลายแหลมคม.ที่สำคัญที่สุดมันมีความยาวถึง1.2เมตรและมีแสงวูบวาบทะลุผ่านใบมีดของมัน.
จางมู่รู้สึกประหลาดขึ้นในใจ.เขาชี้ไปที่ดาบแล้วพูดว่า”อันนี้,ข้าต้องการด้ามจับดาบที่มีขนาดยาว.”
แต่อย่างไรก็ตาม,ท่านเซเหลียงแสดงให้เห็นถึงความอึดอัดใจบนหน้าของเขา.
“ดีมาก,น้องชายจาง,เจ้ามีดวงตาที่แหลมคม.ดาบแทงค์อันนี้เป็นดาบที่ดีที่สุดที่ข้าทำมา.แต่อย่างไรก็ตาม,มันถูกปรับให้เหมาะสำหรับคนอื่น.ไม่เช่นนั้น,มันคงไม่ยาวกว่าดาบแทงค์ปกติถึง 20 เซนติเมตร.มันถูกทำให้คมตามลักษณะนิสัยของคนๆนั้น.มันไม่เหมาะสำหรับเจ้า.ไม่,ข้าไม่เต็มใจที่จะขายให้เจ้า.แต่อย่างไรก็ตาม,มันถูกวางที่มุมห้องเป็นเวลานานถึงครึ่งปี,สำหรับคนๆนั้นจ่ายข้าเพียงสองพันหยวนสำหรับการมัดจำและไม่เคยมาอีกเลย.เจ้าควรจะฟังคำแนะนำของข้า.มันเป็นเวลานานมาก.เจ้าอาจจะรู้สึกไม่สบายที่จะใช้มัน.”
จางมู่รู้ว่าคำพูดของเซเหลียงนั้นจริงใจและเขาก็รู้สึกประทับใจเล็กน้อย.แต่อย่างไรก็ตาม,เขายังคงโบกมือและพูดว่า”เนื่องจากคนๆนั้นผิดสัญญาของเขา,มันจะดีกว่าที่จะขายมันให้ข้ามากกว่าที่จะวางอยู่ตรงนี้.นอกจากนั้น,มันถูกทำให้แหลมคมซึ่งประหยัดเวลาข้ามาก.
เซเหลียงไม่รู้ว่าชายหนุ่มคิดอะไรอยู่.จากที่จางมู่พูดมา,เขารู้ว่าจางมู่ไม่ใช่คนธรรมดา.
“ข้าคิดอย่างตรงไปตรงมาแล้วเจ้าน่าจะคิดมากกว่านี้.”
“ไม่ล่ะ,ขอบคุณ.ดาบนี้ราคาเท่าไร? บอกข้ามาและข้าจะซื้อมัน.”
เซเหลียงรู้ว่าจางมู่ตัดสินใจไปแล้วและไม่สามารถเปลี่ยนมันได้.
เขาบอกราคากับจางมู่”เนื่องจากมันไม่ใช่ดาบที่สงวนไว้อีกต่อไปและมันดีมากที่ได้พูดคุยกับเจ้า,ข้าสามารถพิจารณาคำขอที่จริงใจของเจ้าได้.เจ้าให้ข้ามาสองพันห้าร้อยหยวนแล้วมันจะเป็นของเจ้า.”
สองพันห้าร้อยหยวนนั้นเป็นราคาที่ถูก.ในกรณีอื่น เขาไม่สามารถซื้อมันได้ในราคานั้น.
จางมู่ดีใจกับโชคของเขา เงินสามพันหยวนมันเพียงพอ.เขาสำนึกบุญคุณคนโชคร้ายที่ถูกเขาขโมยเงิน.
แม้ว่าสัญชาตญาณของจางมู่ในฐานะพ่อค้าจะหงุดหงิดในใจ,แต่เขาก็ไม่เจรจาต่อรอง.เขารู้ถึงความหมายของ”พอแล้ว”เขาไม่อาจเสี่ยงต่อการทำลายมิตรภาพที่เพิ่งสร้างขึ้น นอกจากนี้ถ้าเซเหลียงรู้สึกหงุดหงิดและปฏิเสธที่จะขายดาบให้กับเขานั่นก็คือความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของเขา.
จางมู่ในเงินแก่เซเหลียงในทันที.
“ดีมาก,เจ้ามีใจที่ใหญ่มาก.เจ้าน้องชาย,ดาบจะเป็นของเจ้าในตอนนี้.สำหรับข้า,ข้าจะเขียนใบเสร็จให้แก่เจ้าด้วย.”
จางมู่ยิ้มและโบกมือของเขา.
“ไม่ล่ะ,ขอบคุณ.ข้าไม่ต้องการใบเสร็จ.”
เขาเดินเข้าไปที่กำแพงและเอาดาบแทงค์จับไว้ในมือของเขา.
เขาค่อย ๆ ลูบใบมีดของดาบ เป็นครั้งแรกหลังจากที่เขากลับมาในเวลานี้,หัวใจของเขารู้สึกผ่อนคลาย.
“ดีเลยเพราะเจ้าไม่จำเป็นให้ข้าเขียนใบเสร็จรับเงิน … ข้าสามารถคืนเงินเจ้าหนึ่งร้อยหยวน.”
เซเหลียงรู้สึกแปลกๆในใจ,แต่เขาไม่ได้คิดมากเกินไป.เขาคืนเงินให้จางมู่หนึ่งร้อยหยวน.
จางมู่ไม่ปฏิเสธเขา.เขาต้องการใช้เงินในตอนนี้.
จางมู่ต้องการที่จะตรวจสอบดาบแทงค์อย่างถี่ถ้วน,แต่ทันใดนั้นเขาก็เหลือบไปเห็นนาฬิกาบนกำแพง.
เขาขมวดคิ้ว,แล้วก็เอาดาบใส่ฝักและถือไว้ในมือของเขา.
“ท่านเซเหลียง ข้ามีบางอย่างในแผนที่วางไว้.ลาก่อน!”
หลังจากนั้น,จางมู่ก็รีบปีนบันไดและวิ่งออกจากร้าน.
ก่อนที่เซเหลียงจะตระหนักว่าจางมู่ได้วิ่งหนีไป.ชายร่างใหญ่ยืนอยู่บนพื้นและกระซิบว่า”ดูเถอะ..น้องชายจางนี้แปลกจริงๆ.”
หลังจากออกจากซอยแล้วจางมู่ก็วิ่งถือดาบยาวไว้ในมือ ของเขา เขาไม่สนใจสายตาที่แปลกประหลาดของคนอื่นและวิ่งเข้าไปในตลาดมือสอง.
ตลาดมือสองมีชื่อเสียงในหมู่ผู้ที่อาศัยในฐานะล่างของสังคมในเมืองหลวงหลัวหยาง.
แม้ว่าสินค้าที่ขายที่นี่เป็นสินค้ามือสอง แต่ส่วนใหญ่พวกมันเป็นของแท้ นอกจากนี้พวกมันจะมีราคาถูก ถูกมาก จางมู่ค้นกระเป๋าของเขาและพบเพียง 6 ร้อยหยวนเท่านั้น เขาต้องใช้อย่างระมัดระวัง.
จางมู่มีความรู้สึกประทับใจลึก ๆ เกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้.แม้ว่าในปัจจุบันจะเป็นสถานที่ที่ธรรมดา,แต่ในอนาคตเนื่องจากมีสินค้าที่เหมาะสมและร้านขายเมล็ดพืชหลายแห่งในตลาด จึงเป็นสมบัติอันยิ่งใหญ่ในสายตาของกองกำลังหลายแห่งในเมืองหลัวหยาง.
คอมเม้นต์