เฮดโฟนของผมเชื่อมต่อกับอนาคตได้! My Headphones Can Connect to the Future – ตอนที่ 22
ตลอดทั้งวันหลี่หนานนั่งอยู่บนเตียงของตัวเองจนกระทั่งถึงตอนเย็นอาการของเขาก็ดีขึ้นเล็กน้อย
ในที่สุดซูฟ่านก็ทำลายความเงียบและถามเขาว่าอยากกินข้าวด้วยกันไหม หลี่หนานจึงไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจ
เมื่อเห็นท่าทางของหลี่หนาน เฮต้าก็อยากจะทะเลาะกับหลี่หนานหลายครั้ง แต่ซูฟ่านก็หยุดเขา อาหารเย็นมื้อนั้นช่างอึดอัดนัก
มันดึกแล้วเขาจึงกลับไปที่หอพักแล้วซูฟ่านก็ได้รับข้อความหลังจากที่เขาเก็บโทรศัพท์ขณะนอนอยู่บนเตียง
“วันนี้วุ่นวายมากแล้วก็เหนื่อยมาก ฉันขอโทษด้วยที่งานยุ่งจนติดต่อกลับไม่ได้”
ชูหยุนซีอธิบายต่อซูฟ่านตามด้วยอิโมติคอนที่โค้งคำนับขอโทษ
เมื่อเห็นข้อความจากชูหยุนซี ซูฟ่านก็รู้สึกหวานอยู่ในใจ
“ไม่เป็นไร ดาราดังงานก็ต้องยุ่งทุกวันในฐานะแฟนตัวยงของคุณผมรู้ดี! แล้วซีรีส์ทีวีของคุณชื่ออะไรเหรอ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ปากหวาน! ละครของฉันชื่อ “ฉางหลิง” เป็นละครคอสตูม แต่ฉันถูกคัดเลือกเป็นตัวละครนำด้วยตัวเองไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ใด ๆ ทั้งนั้น ฉันรู้สึกว่าละครเรื่องนี้จะได้รับความนิยมอย่างแน่นอน!”
ฉางหลิง? ทำไมชื่อนี้ถึงคุ้นหูจัง
ทันใดนั้นซูฟ่านก็นึกถึงข่าวทางวิทยุก่อนหน้านี้ว่า ไป๋เช่อฉิงได้เป็นตัวละครหลักหญิงของ “ฉางหลิง”…
เดิมซูฟ่านไม่สนใจข่าวนี้
เขาไม่มีความสนใจต่อนักแสดงไป๋เช่อฉิง
เพราะนักแสดงหญิงคนนี้มีทักษะการแสดงที่ไม่ดีและนิสัยก็ไม่ค่อยจะดี
ข่าวบอกว่าเธอเป็นนางเอกของละครทีวี แต่ทำไมตอนนี้ชูหยุนซีถึงบอกว่าเธอเป็นนักแสดงนำ? หรืออาจเป็นนางเอกคู่จิ้นได้มั้ย?
“ผมเคยได้ยินเรื่องละครของคุณ ผมได้ยินข่าวซุบซิบมาว่าไป่เช่อฉิงก็ไปออดิชั่นด้วยใช่ไหม?”
ซูฟ่านถามอย่างไม่แน่ใจ
“ข่าวของคุณมีข้อมูลที่ดีจริง ๆ เธอมาแล้วและเธอก็ได้รับบทตัวนำหญิงด้วย แต่ผู้กำกับคิดว่าฉันเหมาะกับบทนี้มากกว่าเขาจึงจัดให้ฉันเป็นตัวหลักหนึ่งและเธอเป็นตัวรอง” (เนียนแปล : ก็คือนางเอก และนางรอง แต่นางเอกนั้นไม่จำเป็นต้องคู่กับพระเอก แค่เป็นตัวละครนำของมุมฝ่ายผู้หญิง)
เมื่อพูดอย่างนั้นซูฟ่านก็ยิ่งสับสนจนถึงขณะนี้เนื้อหาของรายงานข่าวยังไม่เคยผิดพลาดมาก่อน
แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้นางเอกหลักคือชูหยุนซี
“ใช่แล้ว ชูหยุนซีของเรายอดเยี่ยมมาก! เรื่องดี ๆ แบบนี้ถ้าคุณมีเวลาช่วยบอกผมด้วย ผมจะเลี้ยงคุณเอง!”
ซูฟ่านพิมพ์ตอบ
“งั้นขอเลือกวันเลย ฉันว่างวันมะรืน!”
ชูหยุนซีส่งอีโมจิยิ้มให้
“โอเค เจอกันวันมะรืน!”
ซูฟ่านกล่าวราตรีสวัสดิ์กับชูหยุนซี
การสนทนาจบลงอย่างเร่งรีบชูหยุนซีรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
เธอไม่รู้ว่าซูฟ่านไม่ได้ไม่ต้องการสนทนากับเธอ แต่ซูฟ่านรู้สึกกังวลจนต้องไปฟังเนื้อหาเฉพาะของข่าวที่ออกอากาศจากอนาคต
เมื่อสวมหูฟังวิทยุก็ถ่ายทอดเนื้อหาโดยละเอียดไปยังซูฟ่าน
เนื่องจากเป็นของส่วนซุบซิบคนดังเนื้อหาที่ออกอากาศทางวิทยุจึงรวมถึงเรื่องซุบซิบบางส่วนด้วย เนื้อหาบอกว่าละครเรื่อง “ฉางหลิง” เดิมทีแสดงนำโดยชูหยุนซี แต่ไป๋เช่อฉิงไปเคาะประตูผู้กำกับกลางดึก ในวันที่สองนางเอกหลักก็กลายเป็นไป๋เช่อฉิง
สิ่งที่น่าเกลียดยิ่งกว่านั้นก็คือไป๋เช่อฉิงด้วยความอิจฉาชูหยุนซี เธอจึงแนะนำเด็กใหม่อีกคนให้กับผู้กำกับเพื่อรับบทเป็นนางรอง ผลก็คือชูหยุนซีไม่ได้เป็นนางรองด้วยซ้ำและในที่สุดก็พลาดแสดงเรื่อง “ฉางหลิง” ไป
เมื่อได้ยินเนื้อหาทั้งหมดซูฟ่านก็รู้สึกโกรธ
เขารู้ว่าชูหยุนซีให้ความสำคัญกับละครเรื่องนี้ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ร่วมแสดงซีรีส์
ยิ่งไปกว่านั้นทรัพยากรภาพยนตร์และโทรทัศน์ของบริษัทของเธอยังไม่แข็งแกร่ง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เธอจะหาโอกาสนี้ด้วยตัวเองนี่ยังเป็นโอกาสที่เธอจะได้ก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์และโทรทัศน์ได้สำเร็จ หากเธอพลาดก็ไม่มีใครรู้ว่าโอกาสต่อไปจะมาเมื่อไร
ซูฟ่านต้องการช่วยชูหยุนซีรักษาโอกาสนี้ไว้ แต่แม้ว่าเขาจะได้รับความช่วยเหลือจากระบบแต่เรื่องนี้ก็ดูเหมือนยากที่จะทำให้เสร็จสมบูรณ์และระบบก็ไม่ได้ให้ฟังก์ชันเสริมที่มีประโยชน์ใด ๆ แก่เขาในขณะนี้
ซูฟ่านเปิดเสิร์ชเอนจิ้นและค้นหาชื่อผู้กำกับฉางหลิง ผู้กำกับคนนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงซูฟ่านเองก็ได้ดูภาพยนตร์และรายการทีวีของเขาหลายเรื่อง ผู้กำกับคนนี้ชื่อ เฟิงอิงฉวน
แต่เมื่อชายคนนี้เป็นคนมีชื่อเสียง ซูฟ่านจะติดต่อได้อย่างไร?
หลังจากค้นหาสิ่งต่าง ๆ มากมายข้อมูลทั้งหมดบนอินเทอร์เน็ตกก็มีข้อจำกัด ซูฟ่านยังไม่อาจคิดหาวิธีดี ๆในการช่วยชูหยุนซีได้เลย
ก่อนวันที่ 1 เพียงสองวัน
แม้แต่ในชั้นเรียนในวันรุ่งขึ้นซูฟ่านก็ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเฟิงอิงฉวน
“ซูฟ่าน!”
จู่ ๆ อาจารย์ก็เรียกเขา
ซูฟ่านตกใจมากจึงรีบวางโทรศัพท์ไป เขาคิดว่าเพราะเขากำลังเล่นโทรศัพท์แล้วถูกอาจารย์จับได้ แต่ใครจะคิดว่าอาจารย์ขอให้เขาไปที่ทางเดิน
การเล่นโทรศัพท์มือถือไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปโดนทำโทษที่ทางเดินไหม? เพราะเขาก็เป็นนักศึกษาแล้ว…
ซูฟ่านบ่นในใจแต่ไม่กล้าพูดและเดินไปที่ทางเดินอย่างเชื่อฟัง
ซูฟ่านรู้สึกโง่ทันทีที่เขาออกไปพบชายชราผมสีขาวในชุดสูทและรองเท้าหนังยืนอยู่ตรงทางเดินโดยเอามือไพล่หลังจ้องมองซูฟ่านด้วยใบหน้าจริงจัง
“คุณ…สวัสดีคุณมีอะไรกับผมหรือเปล่า?”
“เธอคือซูฟ่านหรือ?”
“ใช่……”
กลิ่นอายของชายชรานั้นสง่างามมากจนซูฟ่านกลัวเกินกว่าที่จะพูด
และซูฟ่านก็สงสัยว่าทำไมชายชราคนนี้ถึงดูคุ้นเคยเหมือนเขาเคยเห็นชายคนนี้ที่ไหนสักแห่งแต่เขาจำไม่ได้จริง ๆ
“อืม มากับฉันสิ”
เมื่อเห็นอาจารย์ของเขายอมรับ ซูฟ่านจึงต้องติดตามชายชราด้วยความรู้สึกแปลก ๆ โดยไม่รู้ที่มาของชายคนนี้
ฉันไม่ได้ทำอะไรเลวร้ายเลยนะเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทำไมถึงถูกเรียกล่ะ?
ชายวัยชราพาซูฟ่านไปที่ชั้นหกของอาคารเรียก เมื่อชายชราเปิดประตูห้องทำงานของเขาซูฟ่านก็เห็นตัวอักษรบนป้าย Principal’s Office
ทันใดนั้นซูฟ่านก็นึกขึ้นได้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงรู้สึกคุ้นเคยนัก คนนี้คือคนสำคัญของพวกเขานี่เอง!
“นั่งสิ”
ด้วยความประหลาดใจซูฟ่านก็ได้ตามครูใหญ่เข้าไปในสำนักงานแล้ว ครูใหญ่นั่งบนโซฟาแล้วชี้ไปที่โซฟาตรงข้ามของเขาและบอกให้ซูฟ่านนั่งลงด้วย
หลังจากรู้ว่าเขาคือครูใหญ่ซูฟ่านก็ยิ่งกังวลมากขึ้น เขานั่งตัวตรงบนโซฟาอย่างอดกลั้นราวกับว่าเขากำลังคาดเข็มขัดนิรภัย เขาจ้องมองไปข้างหน้าแต่ไม่กล้าที่จะหน้าของครูใหญ่
“นักศึกษาซู ฉันแค่อยากถามเธอว่าวันที่ 27 เธอไปไหนมาหรือเปล่า”
“วันที่ 27…ผม…ผมไปกินข้าวเย็นกับเพื่อน ๆ”
ซูฟ่านรู้สึกเย็นวาบที่หลัง เขาสงสัยว่าทำไมครูใหญ่ถึงถามที่อยู่ของเขาในวันที่ 27
ดวงตาของอาจารย์ใหญ่หรี่ลงเล็กน้อยอย่างครุ่นคิด
“ลืมไปเถอะ ให้ฉันพูดเองวันนั้นเธอช่วยหญิงชราคนหนึ่งหรือเปล่า?”
“ผม…ใช่…ผมบังเอิญผ่านไปและผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
ซูฟ่านตกใจกลัว เขาไม่รู้ว่าทำไมครูใหญ่ถึงรู้เรื่องนี้ เป็นไปได้ไหมที่เขาเผลอไปฆ่าคนอื่น?
ตอนนี้เขาเชี่ยวชาญกังฟูมากและมีระดับการโจมตีที่แตกต่างออกไปจากเดิม วันนั้นมีนักฆ่าอย่างแน่นอนและเขาอาจจะเผลอฆ่าคน ๆ หนึ่งไปก็ได้
สีหน้าของอาจารย์ใหญ่จริงจังมากขึ้นหลังจากได้ยินเรื่องนี้และเขามองไปที่ซูฟ่านด้วยดวงตาสีแดงก่ำ
“นั่นไง! ซูฟ่านเธอทำได้ดีมาก!”
“ดี?”
ซูฟ่านมองไปที่ครูใหญ่
ครูใหญ่มองไปที่ซูฟ่านด้วยความพึงพอใจและพยักหน้า
“ใช่ เธอรู้ไหมว่าคนที่เธอช่วยชีวิตคือแม่ของคังหมินฟูนักธุรกิจที่ร่ำรวยที่มีชื่อเสียงในประเทศจีน วันนี้มีคนติดต่อฉันมาและขอให้ฉันถามว่านักเรียนของฉันช่วยเหลือแม่ของเขาไว้หรือไม่ เขาอยากจะขอบคุณคน ๆ นั้นเป็นการส่วนตัว!”
คอมเม้นต์