เฮดโฟนของผมเชื่อมต่อกับอนาคตได้! My Headphones Can Connect to the Future – ตอนที่ 25
บทสนทนาระหว่างคังหมินฟูและครูใหญ่น่าเบื่อมาก ครูใหญ่เอาแต่ประจบประแจงและชมเชยคังหมินฟูทุกอย่างเมื่อมีโอกาส
ครูใหญ่ซึ่งเดิมดูเป็นคนมีระดับกับกลายเป็นสุนัขที่กำลังเลียขาคังหมินฟู
“ครูใหญ่หวัง ฉันรู้เกี่ยวกับโครงการของคุณแล้ว อันที่จริงมีคนพูดถึงโครงการของคุณกับฉันมาก่อน ฉันอ่านข้อมูลโดยละเอียดแล้ว ที่จริงฉันไม่คิดว่าฉันจะมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับมันได้นะ ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมคุณถึงต้องเอาทรัพยากรที่ควรเพียงพอต่อสถานการณ์ตอนนี้ไปสร้างอาคารอีกหลังถัดจากสถาบันของคุณ”
คังหมินฟูขัดจังหวะครูใหญ่ที่ยังคงพูดคุยเกี่ยวกับโครงการของเขา
รอยยิ้มที่มั่นใจบนใบหน้าของครูใหญ่ค่อย ๆ แข็งทื่อและหายไป
ความรู้สึกผิดลอยอยู่บนใบหน้าของเขา แม้แต่ซูฟ่านก็ยังสามารถมองเห็นได้
เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับครูใหญ่คนนี้
“อันที่จริงสถาบันของเรามีแผนจะขยายการรับสมัครในปีหน้า…”
“ขยายการรับสมัครงั้นหรือ มันจะไม่เป็นการลดคุณภาพของนักเรียนงั้นหรือ และอีกอย่างการขยายการรับสมัครไม่เคยเป็นรูปแบบการดำเนินการของสถาบันธุรกิจมอร์ตูมาก่อน และตอนนี้ถ้าจำไม่ผิดจำนวนนักเรียนก็ลดลงทุกปี คุณหมายถึงการขยายการลงทะเบียนอะไรรึ?”
ครูใหญ่พูดไม่ออก
เขาแทบสำลักน้ำลาย
ครูใหญ่ถูกคังหมินฟูพูดขัดขวางอีกครั้งและไม่สามารถพูดอะไรได้สักคำ
ผู้บริหารที่ยักยอกเงินสาธารณะถูกพบเห็นและเปิดโปงโดยคังหมินฟูมามากมาย
แต่ครูใหญ่ตรงหน้าเขานั้นคังหมินฟูไม่ได้คิดจะจัดการ
“ไม่จำเป็นต้องจริงจังมากนักหรอก ฉันเต็มใจที่จะลงทุนในโครงการนี้ ฉันจะทำเป็นมองผ่านหลาย ๆ เรื่องก็แล้วกัน แต่ฉันต้องการให้มันชัดเจน”
“ใช่ ๆ คุณพูดถูก คุณเป็นผู้นำในแวดวงการเงิน ผู้หลักผู้ใหญ่ตัวเล็ก ๆ อย่างผมไม่มีทางติดต่อคุณได้ตั้งแต่แรกแล้วครับ”
ครูใหญ่กลัวคังหมินฟูมากจนเหงื่อออกที่หน้าผาก ถ้าคังหมินฟูสืบเรื่องเขาและเปิดเผยเรื่องของเขา เขาจะต้องตายแน่นอน
“ฉันไม่ได้สนใจโครงการนี้ แต่เพราะเป็นซูฟ่านฉันจึงยินดีที่จะลงทุนด้วย”
หลังจากพูดแล้วสายตาของคังหมินฟูก็มองไปที่ซูฟ่าน
ครูใหญ่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและยื่นสัญญาที่เตรียมไว้ทันที
หากต้องการจะสร้างอาคาร คังหมินฟูก็ต้องลงทุนถึง 100 ล้านหยวน
แต่สำหรับเขาเงินหนึ่งร้อยล้านหยวนนี้เป็นเพียงตัวเลขที่น้อยมาก มันเหมือนกับเงินสิบหยวนสำหรับคนธรรมดา
คังหมิงฟูไม่กะพริบตาด้วยซ้ำและเซ็นชื่อด้วยปากกา
“ฉันจะไปแล้ว”
หลังจากลงนามคังหมินฟูก็ลุกขึ้นยืน
เขาไม่อยากอยู่ร่วมห้องเดียวกันกับจิ้งจอกเฒ่าตัวนี้อีกแม้แต่วินาทีเดียว
ครูใหญ่ยังต้องการให้คังหมิงฟูอยู่เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน แต่เขาก็ปฏิเสธ
“ความกังวลของเธอได้รับการแก้ไขแล้ว ฉันขอตัวก่อน”
ก่อนขึ้นรถคังหมินฟูหันมาพูดกับซูฟ่าน
“มิสเตอร์คัง…”
“หืม?”
“ที่จริงคุณไม่จำเป็นต้องทำเพื่อหน้าผมก็ได้…”
“ฉันรู้ว่าเธอกำลังจะพูดอะไร ฉันไม่ได้สนใจโครงการนี้ไม่ใช่เพราะรายได้ของฉันไม่เพียงพอ แต่เป็นเพราะครูใหญ่มันเห็นแก่ตัว แต่เนื่องจากเธอเป็นคนเอ่ยปาก ฉันก็จะทำให้เธอพอใจอย่างแน่นอนและรายได้ที่เขาจะคืนให้ฉันในโครงการนี้ก็ดีมากเช่นกัน แล้วทำไมฉันจะไม่ทำสิ่งที่ทำกำไรได้โดยไม่ต้องขาดทุนล่ะ?”
คังหมินฟูพูดกับซูฟ่าน
ซูฟ่านรู้สึกประทับใจมาก เขารู้ว่าคังหมินฟูเป็นคนใจดีแต่เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมีใจดีและใจป้ำขนาดนี้
“ประธานคังขอบคุณมากครับ”
“ไม่มีอะไรจะพูดนอกจากเรื่องนี้แล้วหรือ?”
การแสดงออกของซูฟ่าน คังหมินฟูสามารถมองเห็นความคิดของเขาได้อย่างง่ายดาย
ซูฟ่านตกใจกับผู้ชายที่ดูซื่อสัตย์และใจดีตรงหน้าเขาที่มีดวงตาราวกบนกเหยี่ยวที่สามารถมองทะลุหัวใจของเขาได้เพียงแค่มองผ่าน ๆ
เดิมซูฟ่านกังวลที่จะเปิดใจพูดเรื่องปัญหากับคังหมินฟู แต่เมื่ออีกฝ่ายเป็นฝ่ายถามมา เช่นนั้นเขาก็จะพูดตรง ๆ
“ประธานคังได้โปรดนางเอกของ “ฉางหลิง” ที่คุณลงทุนช่วยให้ชูหยุนซีเป็นคนรับบทได้ไหมครับ?”
ซูฟ่านพูดอย่างมุ่งมั่น
คังหมิงฟูเลิกคิ้วและหันหน้าไปถามผู้ช่วยว่าสถานการณ์ปัจจุบันของละครเป็นอย่างไร
ผู้ช่วยตอบว่านางเอกมีกำหนดการอย่างไม่แน่นอนมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นชูหยุนซีแต่การประกาศอย่างจริงจังยังไม่ออกมา
“โอ้ งั้นเหรอ งั้นก็ส่งเรื่องไปเลยว่านางเอกคือชูหยุนซี ฉันเคยได้ยินเพลงของผู้หญิงคนนี้แล้ว ฉันก็รอดูการแสดงของเธอในโทรทัศน์เหมือนกัน”
คังหมินฟูหัวเราะอีกครั้งจากนั้นตบไหล่ซูฟ่านก่อนเข้าไปในรถ
ซูฟ่านยังไม่ฟื้นสติจนกระทั่งรถออกไป
คังหมินฟูตามใจเขามากกว่าพ่อของเขาเองเสียอีก นี่ทำให้ซูฟ่านรู้สึกปลื้มใจมาก
ตั้งแต่การปรากฏตัวของระบบ ไม่ว่าจะเงิน สถานะ และ ความรู้สึกดี ๆ ต่างก็พุ่งมาที่ซูฟ่านและซูฟ่านก็รู้สึกว่าเขามีความสุขมากเกินไปแล้ว
อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาข่าวบันเทิงก็ได้ออกมายืนยันว่านางเอกของ “ฉางหลิง” คือชูหยุนซี
“ภารกิจย่อยของคุณเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทิศทางในอนาคตได้ถูกเปลี่ยนไปและระบบจะให้รางวัลการจับลอตเตอรี”
เสียงของระบบดังขึ้นในเวลาเดียวกันและทันใดนั้นหน้าจอเสมือนจริงก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาซูฟ่าน!
ด้านหน้าเขาคือเป็นระบบลอตเตอรี รางวัลต่าง ๆ ก็เลื่อนอยู่บนหน้าจอตลอดเวลา
ซูฟ่านรู้สึกกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับการปรากฏตัวของหน้าจออย่างกะทันหันนี้ทำให้เขาร้องว๊ากจนหลี่หนานสงสัย เมื่อเขาชี้ให้หลี่หนานดูหน้าจอ หลี่หนานก็ถามกลับมส
“ไม่เห็นมีอะไรนี่?”
“งั้นก็ไม่มีไร”
“ประสาทเรอะ?”
หลังจากยืนยันว่ามีเพียงเขาเท่านั้นที่มองเห็นหน้าจอนี้ซูฟ่านก็โล่งใจ
เขาจ้องไปที่รางวัลที่เลื่อนไปมาและร้องอุทานอย่างเงียบ ๆ ในใจ
ลอตเตอรีหยุดหมุนแล้ว!
รางวัล: ย้อนเวลากลับไป * 1 (โฮสต์สามารถใช้ทักษะนี้เพื่อกลับไปยังช่วงเวลาใดก็ได้ภายในหนึ่งปีตามต้องการและสามารถอยู่ได้หนึ่งชั่วโมง)
นี่มันทักษะนางฟ้าแบบไหนกันเนี่ย? ย้อนอดีตเลยเรอะ!?
หรือเขาจะย้อนกลับไปวันที่ 29 แล้วเอาเงินทั้งหมดไปซื้อหุ้นของ Yongsheng Pharmaceutical ดี?
ตื๊ด ตื๊ด
แอร์พอดของซูฟ่านสั่นกะทันหันขัดจังหวะจินตนาการของเขา เขารีบหยิบหูฟังขึ้นมาและใส่เข้าไปในหูของเขา
“เนื่องจากโฮสต์ทำงานเสร็จก่อนกำหนดระบบจะคัดกรองข่าวที่ออกอากาศใหม่”
“ตามข่าวของเราเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม หวังฉางเจียง ชายที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหลวงถูกจับในข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนา ลูกชายของเขาตกเป็นต้องสงสัยตัวฉกาจและยังมีรางวัลนำจับจำนวนมาก”
“เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ผู้ชนะรางวัลลอตเตอรีหลายสิบล้านหยวนคือเจ้าของแผงขายหมูในเมืองปินเจียง”
“เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ฉินเสี่ยวหยุนซีอีโอของบริษัท Pinfeng Investment Group ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายในบริษัท คาดว่าเนื่องจากบริษัทล้มละลายจากการหยุดพักทางการเงิน”
ข่าวมาใหม่อีกสาม
เมื่อซูฟ่านฟังแล้วเขาก็ได้สังเกตทั้งสามข่าวแล้วและฟังพวกมันใหม่ทั้งหมด
ข่าวแรกฟังดูเหมือนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับซูฟ่าน แม้ว่าเขาจะรู้ว่าลูกชายของหวังฉางเจียงมีรางวัลนำจับขำนวนมาก แต่ซูฟ่านก็ไม่สามารถจับคนและขอรางวัลจากตำรวจได้ใช่ไหมล่ะ?
ส่วนข่าวที่สองซูฟ่านเชื่อถือลอตเตอรีกีฬามาโดยตลอด แต่หวยเด็ด (หวยที่ขายทั่วไป สุ่มเลขหาผู้ชนะ) มีหลายช่องทางมากเกินไป แม้ว่าเขาจะซื้อหมายเลขตามการคาดการณ์แต่ผลการชนะก็อาจถูกปลอมแปลงได้
อย่างไรก็ตามซูฟ่านก็ฟังข่าวเกี่ยวกับหวยเด็ดอีกครั้งและบันทึกตัวเลขไว้
เขาไม่คิดละโมบถ้าเขาซื้อหวยอีกเพียงครั้งเดียว บางทีถ้าเขาได้รับรางวัลก็คงจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับหวยอีก
สำหรับฉินเสี่ยวหยุน ซูฟ่านรู้จักคนนี้
เธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรีเมื่ออายุ 16 ปีและไปศึกษาต่อในสถาบันการเงินที่ดีที่สุดในต่างประเทศ
เมื่อกลับมาจากการสำเร็จการศึกษาเมื่ออายุ 18 ปี เธอได้เปิดบริษัทแรกด้วยเงิน 1 ล้านที่ครอบครัวมอบให้และเธอได้รับผลกำไรกลับมา 100 ล้านหยวนภายในเวลาเพียงปีเดียว
เมื่อปีที่แล้วเมื่อเธออายุ 20 ปีเธอได้ตั้งบริษัทด้านการลงทุน แต่ซูฟ่านไม่รู้ว่า บริษัทนี้เป็นอย่างไร
แต่เมื่อพิจารณาจากข่าวนี้ฉินเสี่ยวหยุนก็คงจะพลาดในครั้งนี้
แต่นี่ไม่น่าใช่การฆ่าตัวตายใช่มั้ย?
ฉินเสี่ยวหยุนเป็นคนรวยรุ่นที่สองที่ครอบครัวมีทรัพย์สินหลายแสนล้านและไม่น่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะเอามาเติมเต็มส่วนที่ขาดแคลนของบริษัท
การที่เรายังเด็กมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้งนี่ มีเรื่องอะไรถึงต้องตายเชียวหรือ?
ซูฟ่านเคยได้ดูวิดีโอสัมภาษณ์ของเธอและซูฟ่านชอบคนแบบนี้มาก
ข่าวดังกล่าวทำให้ซูฟ่านรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยและเขาตัดสินใจที่จะหาทางช่วยชีวิตของฉินเสี่ยวหยุน
(เนียนแปล : ไอเรื่องนี้พระเอกต้องช่วยชีวิตผู้หญิงจากการกระโดดตึกอีกกี่ครั้งกันเนี่ย?)
คอมเม้นต์