แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 22 ฉันเป็นลูกสะใภ้ตระกูลมู่
เธอกับมู่เฉินฮ่าวมีสัญญาการแต่งงานระหว่างกัน ไม่ว่ามู่เฉินฮ่าวจะเกลียดเธอมากแค่ไหน ? แต่นี่เป็นเรื่องของผู้หลักผู้ใหญ่ระหว่างตระกูลเขาที่ตกลงไว้กับตระกูลเซี่ย อย่างไรเสียเขาก็ต้องช่วยเธอ !
อย่างไรเขาก็รับเธอมาจากตระกูลเซี่ยแล้วนี่ !
ดังนั้นสิ่งที่เธอต้องทำในตอนนี้ก็คือถ่วงเวลา
เท่าที่เห็น..อำนาจของตระกูลมู่ก็ไม่ใช่ธรรมดา
ด้วยเครือข่ายข่าวกรองของสกุลมู่ ก็ไม่น่าที่จะเป็นการยากในการค้นหาว่าเธออยู่ที่ไหน ?
“เซี่ยฉิงกง แกรู้มั้ยเป็นเพราะความจุ้นจ้านวุ่นวายของแกทำให้ครอบครัวของฉันพังพินาศ ภรรยาของฉันขอแยกทาง ทั้งเธอยังพรากลูกไปจากฉันอีกด้วย นอกจากนี้อาชีพของฉันก็ตกต่ำ ตอนนี้ฉันไม่เหลืออะไรแล้ว เพราะแกคนเดียว ฉันไปทำอะไรให้แก ? ทำไมแกถึงทำกับฉันแบบนี้ ? ที่ฉันมีอะไรกับภรรยาของโจวตัน นั่นเพราะเราสองคนเคยเป็นคู่รักกันมาก่อน ! อย่างแกจะไปรู้อะไร !”
เฉินเหวินกังตีโพยตีพาย และเพราะความโกรธแค้นทำให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวอย่างรุนแรงแลดูน่ากลัวเกินบรรยาย
ที่นายถูกทำร้ายก็เพราะนายมีความสัมพันธ์กับภรรยาของคนอื่น นายคิดว่ามันถูกต้องแล้วหรือ ? สำหรับผู้ชายนอกใจอย่างนาย หากภรรยาไม่หย่ากับนาย เธอจะเก็บนายไว้ฉลองปีใหม่รึไง ? (เป็นคำแสลงคล้ายเก็บไว้ทำซากอะไร ?)
เซี่ยฉิงกงนิ่งอึ้ง พลางแอบตำหนิบรรพบุรุษของเฉินเหวินกังอยู่ในใจ หากแต่เธอก็ยังคงพูดในสิ่งที่เขาน่าจะชอบฟัง
“บอสเฉิน เอาอย่างนี้ดีไหม ? ฉันรู้ว่าตอนนี้คุณคงจะเศร้ามาก ฉันเองก็เคยเรียนจิตวิทยาในวิทยาลัย คุณอยากคุยกับฉันไหม ? บางทีคุณอาจจะรู้สึกดีขึ้นก็ได้นะ”
ที่พูดมาทั้งหมดก็เพื่อที่จะยื้อเวลา !
“ไม่ต้องมาบอกว่าอะไรมีประโยชน์ และไม่มีประโยชน์สำหรับฉัน ฉันขอบอกแกไว้ตรงนี้ นังผู้หญิงตัวเหม็น วันนี้ฉันจะฆ่าแก ไม่ว่าแกจะพูดอะไรก็ตาม !”
“แต่ … ”
เฉินเหวินกังหันกลับมา เขายื่นฝ่ามือที่หยาบกร้านของตนออกมาบีบใบหน้าที่ว่างเปล่า และสวยงามของเซี่ยฉิงกง ใบหน้าของเขาแสดงความหื่นกระหาย
“ก่อนที่ฉันจะฆ่าแก ขอให้ฉันได้ชมฉากที่คุณหนูตระกูลเซี่ยเป็นของเล่นของไอ้หื่นพวกนั้นก่อน ลองคิดดูสิ … มันคงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากเลยทีเดียว”
เซี่ยฉิงกงรู้สึกได้ถึงลางร้าย หัวใจของเธอแทบจะหมดแรงเต้น
ประตูโกดังใต้ดินถูกเปิดออก มีชายสองคนก้าวเข้ามา คนหนึ่งอ้วน อีกคนหนึ่งผอม
คนผอมที่หน้าตาอัปลักษณ์นั่นทำท่าทางเหมือนจิ๊กโก๋ ส่วนคนอ้วนก็หน้าตาน่าสังเวช ทั้งคู่ต่างจ้องมองเซี่ยฉิงกงนัยน์ตาวาว
พวกมันต้องกำลังคิดอะไรสกปรกอยู่เป็นแน่
“บะ บะ บะ… บอสกัง… สะ สะ สาวน้อยน่ารักคนนี้ … บะ บะ บอสแน่ใจนะ นะ ว่า จะ จะให้พวกเราสองคน ละ ละ ลงมือก่อน…”
เพียงชายร่างผอมพูด เซี่ยฉิงกงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ก็เขาพูดติดอ่างนี่ !
เฉินเหวินกังเหลือบไปมองเซี่ยฉิงกง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง เขาหย่อนกายลงนั่งบนโซฟาข้าง ๆ แล้วพูดว่า
“อืม ลงมือได้เลยแต่อย่าให้ถึงตาย เมื่อเสร็จแล้ว ฉันจะเผด็จศึกเธอเอง จากนั้นก็ค่อยขายเธอไปเป็นโสเภณีที่แอฟริกา”
ถึงตอนนี้ เซี่ยฉิงกงก็เพิ่งสังเกตเห็นว่ามีกล้องทรงสามเหลี่ยมสำหรับถ่ายคลิปติดอยู่ข้างโซฟาของเฉินเหวินกัง ซึ่งกล้องนั่นหันเลนส์มาทางตัวเธอตลอดเวลา
เฉินเหวินกังใช้สายตาออกคำสั่ง พลันชายอ้วนและผอมที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็ถูมือไปมา พลางเหล่ตามามองเซี่ยฉิงกง พวกเขาต่างร้องตะโกนว่า
“คนสวยจ๋า พี่มาแล้วจ้ะ”
ขนาดตอนที่ชายอ้วนปลดเข็มขัดกางเกงของเขาออก … ไขมันบนใบหน้าของเขาก็ยังสะบัดไปสะบัดมา และนั่นยิ่งทำให้เซี่ยฉิงกงกลัวจนตัวสั่น
“พะ พะ พี่อ้วน … ฉะ ฉะ ฉัน ยะ ยะอยากอยู่บน พะ พะ พี่อยู่ ละ ละ ล่างนะ”
“ไงก็ได้ เดี๋ยวค่อยสลับกัน”
“ตะ ตะ ตกลง”
ครั้นได้ยินบทสนทนาที่สกปรกเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็รู้ตัวว่า เธอคงไม่อาจรอดพ้นได้แน่แล้ว และไม่มีประโยชน์ที่จะพูดจาดี ๆ กับคนพวกนี้ด้วย ดังนั้นเธอจึงพยายามสงบใจให้เย็นลง
“ออกไปให้พ้นนะ ไปให้ไกล ๆ เลย กล้าแตะแม้แต่ปลายนิ้วของฉัน ไม่กลัวว่าตระกูลมู่จะฆ่าพวกแกสามชั่วโครตรึไง ? ฉันเป็นลูกสะใภ้ของบ้านสกุลมู่นะ !”
***จบตอน ฉันเป็นลูกสะใภ้ตระกูลมู่***
คอมเม้นต์