องค์หญิงหมอเทวะ – บทที่ 32 : การรักษาฉุกเฉิน

อ่านนิยายจีนเรื่อง World-shaking First Daughter: Powerful Medical Princess องค์หญิงหมอเทวะ ตอนที่ 32 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

“เปาะ-แปะ ซ่า!”  ฝนกำลังตกบนรถม้าเสียงดังเช่นเดียวกับสิ่งที่น่ารำคาญในใจของซูหลุน

 

เพียงครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา  เมิ่งฉางเต๋อปรากฎตัวขึ้นที่คฤหาสน์ตระกูลซูโดยไม่คาดคิด  ขอให้เขาพาซูมู่เกอไปที่บ้านของเขาเพื่อรักษานายหญิงแม่เฒ่าเมิ่ง  และบอกเป็นนัยว่าสามารถช่วยประเมินการเลื่อนตำแหน่งงานได้อย่างแน่นอน

 

ซูหลุนกำลังตัดสินใจว่าจะแนบชิดความสัมพันธ์กับเมิ่งฉางเต๋ออย่างไร  แล้วเขาจะคาดหวังว่าสิ่งดีๆเช่นนี้ลอยมาสู่ตัวเขาเองได้ยังไง!

 

เขาถูมือไปมาในรถม้า  เขาพยายามอย่างหนักที่จะซ่อนความตื่นเต้น  ซึ่งซูมู่เกอยังคงรู้สึกได้อย่างง่ายดายจากดวงตาของเขา

 

ซูหลุนจับนางขึ้นรถม้าก่อนที่นางจะเข้าไปนั่งในห้องศึกษาและนางไม่รู้ว่าพวกเขากำลังจะไปที่ไหนกัน

 

ด้วยอาการไอเล็กน้อยก่อนที่เขาจะพูด  ซูหลุนอ้าปากด้วยอารมณ์ปกติและกล่าวว่า  “นายหญิงแม่เฒ่าเมิ่งรู้สึกไม่สบายในคืนนี้และหมอหลวงของจักรวรรดิที่กลับมาพร้อมพวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้  ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการให้เจ้าไปตรวจรักษา”

 

ซูมู่เกอขมวดคิ้วด้วยสีหน้าหนักใจ  “ท่านพ่อ  ถ้าข้าทำอะไรไม่ได้เล่า?”

 

นางรู้ว่าซูหลุนตกลงกับพวกเขาแล้ว  แม้ไม่จำเป็นต้องถามเกี่ยวกับเรื่องนี้  ถ้าไม่ใช่เพราะสัญญาของเมิ่งฉางเต๋อไม่น่าจะมีอะไรอื่น  สิ่งไหนจะทำให้เขาตื่นเต้นได้ขนาดนี้!

 

เมื่อเห็นใบหน้าที่ดูแข็งกร้าวของซูมู่เกอ  ซูหลุนรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย  “เราต้องไปดู  อย่างไรก็ดี  ครอบครัวเมิ่งคือผู้มีพระคุณของเรา”

 

ซูมู่เกอเม้มริมฝีปากและไม่พูดอะไร

 

หลังจากนั้นไม่นานรถม้าก็อยู่หน้าคฤหาสน์ตระกูลเมิ่ง  คนรับใช้เปิดประตูออกเพื่อให้รถม้าตรงเข้าไปข้างในได้เลยหลังจากที่พวกเขาแจ้งว่าพวกเขาเป็นใครและมาที่นี่เพื่อการใด  สถานการณ์ของนายหญิงแม่เฒ่าเมิ่งไม่เลวร้ายไปกว่านี้แล้ว

 

ฝนก็ตกหนักขึ้นเรื่อยๆ  โดยม่านสายฝนเกือบจะปิดกั้นสายตาของผู้คน

 

มีคนมากมายในลานอายุมั่นขวัญยืนที่หญิงชราเมิ่งอาศัยอยู่  เมิ่งฉางเต๋อเดินโซเซออกมาจากห้องด้วยความตระหนกเมื่อซูมู่เกอและพ่อของนางมาถึง

 

“คุณหนูใหญ่ซู  ได้โปรดช่วยท่านแม่ของข้าด้วย!”

 

เมิ่งซิ่วเหวินยืนอยู่ด้านหลังของเมิ่งฉางเต๋อมองไปที่ซูมู่เกอด้วยใบหน้ามืดมน

 

“ได้โปรดยกโทษให้เราหากเจ้าคิดว่าเราเคยทำให้เจ้าขุ่นเองใจมาก่อน”

 

ซูมู่เกอสงบนิ่งและเหลือบมองพวกเขา

 

“พาข้าเข้าไปข้าในเถอะ  และข้าจะได้ตรวจดู”

 

“ได้สิ  ได้แน่นอน  เชิญทางนี้  คุณหนูใหญ่ซู”

 

ซูมู่เกอตามเมิ่งฉางเต๋อและคนอื่น ๆ เข้าไปในห้อง  และมีคนเกือบสิบคนอยู่ในนั้น

 

“มีสองคนที่คุ้นเคยกับสถานการณ์นี้มากที่สุดและหมอหลวงของจักรพรรดิให้อยู่ต่อ  คนอื่นควรจะออกไป”

 

คำพูดทื่อเกินไปและผู้หญิงในห้องหลายคนเกิดความรู้สึกไม่พอใจ  แต่ไม่มีใครกล้าที่จะโต้แย้งนางในตอนนี้เนื่องจากพวกเขารู้ว่าเมิ่งฉางเต๋อคิดหวังในตัวซูมู่เกอสูงมาก

 

เมิ่งซิ่วเหวินเข้าหาเมิ่งฉางเต๋อ  “ท่านพ่อ  ได้โปรดออกมากับคนอื่นๆด้วยเจ้าค่ะ  คนมีจำนวนมากเกินไปอาจทำให้เกิดความโกลาหลได้”

 

เมิ่งฉางเต๋อมีความเชื่อมั่นในตัวซูมู่เกออย่างไม่คาดคิด  เขาผงกศีรษะและออกไปพร้อมกับคนอื่นๆ  เหลือเพียงสาวใช้สองคนและหมอหลวงจักรวรรดิ  หมอหู

 

อย่างไรก็ตามเมิ่งซิ่วเหวินยังคงอยู่  และซูมู่เกอไม่ได้พูดอะไร

 

นางเดินไปที่เตียงของหญิงชราเมิ่ง  และเห็นนายหญิงแห่งตระกูลเมิ่งนอนหลับตาแน่นอยู่บนเตียง

 

“ผลการวินิจฉัยก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร?”  ซูมู่เกอมองไปที่หมอหูและถามขึ้น

 

หมอหูทำงานในสำนักหมอหลวงของจักรวรรดิมาเป็นเวลาหลายปี  โดยเด็กผู้หญิงอายุต่ำกว่าสิบห้าถามคำถามแบบนี้  หมอหูเกิดความไม่พอใจเล็กๆ  แต่เขาไม่ได้แสดงมันออกมา  เขาตอบว่า  “นายหญิงเมิ่งมีอาการหนาวสั่นในกระดูกมาตลอด  ก่อนหน้านี้มีเสมหะชื้นและด้วยความชื้นที่เกิดจากฝนตกทำให้อาการป่วยกำเริบขึ้นมาอีกจากการถูกกระตุ้นทั้งหมดเหล่านั้น”

 

“ขอใบสั่งยาของท่านหน่อย”

 

ใบหน้าของหมอหูแข็งกระด้างขึ้นและเขาก็หยุดนิ่ง

 

เมิ่งซิ่วเหวินรับใบสั่งยามาและส่งมันให้ซูมู่เกอ

 

“ขอบคุณ”

 

ซูมู่เกออ่านตามใบสั่งยาอย่างละเอียด  เป็นยาที่เหมาะสมกับอาการเหล่านั้นที่เขาอธิบายไว้  แต่หญิงชราก็ไม่ได้มีอาการดีขึ้นแต่อย่างใดหลังจากได้ทานยาตามรายการนั้น  อาการของนางกลับแย่ลงยิ่งไปกว่าเดิม  หมายความว่าหญิงชราถูกวินิจฉัยผิดพลาด

 

ซูมู่เกอก้าวขึ้นนั่งบนเตียงและเริ่มจับชีพจรของนาง  จากสภาพชีพจรมันเหมือนกับว่าร่างกายได้รับความชื้นมากซึ่งนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการปิดกั้นพลังงานสำคัญและการไหลเวียนของเลือด

 

“ทุกวันนางขับถ่ายเป็นอย่างไรบ้าง?”

 

ใบหน้าของนางแดงซ่านด้วยความตระหนกเล็กน้อย  รู่เหม่ยไม่รู้จะตอบคำถามอย่างไร

 

เมิ่งซิ่วเหวินก็ตกใจเช่นกันที่ซูมู่เกอถามคำถามที่ตรงไปตรงมามาก

 

“ชรา  นายหญิงแม่เฒ่า  นาง  นางไม่…”

 

“ดี  บอกข้ามาเกี่ยวกับสิ่งที่นางได้รับประทานในวันนี้”

 

“ได้เจ้าค่ะ  ตอนเช้านางมีโจ๊กรังนกพื้นเมืองหนึ่งชาม  แป้งม้วนนึ่งพร้อมเครื่องเคียง…”

 

หลังจากได้ยินคำตอบของรู่เหม่ย  ซูมู่เกอพบว่านายหญิงแม่เฒ่าเมิ่งมีอาการท้องผูก

 

นางเอื้อมมือไปกดที่ท้องของหญิงชราและมันมีลมเล็กน้อยอย่างที่คาดไว้

 

โดยปกติความเย็นจะทำให้ท้องเสีย  อย่างไรก็ตามหญิงชราเมิ่งมีอาการท้องผูกซึ่งหมายความว่านางมีความร้อนภายในสะสมอยู่พอสมควร

 

ซูมู่เกอบีบแขนและขาของหญิงชรา  และพบว่านางตัวแข็งมาก  ด้วยความเปียกชื้น  ความเย็นและความร้อนทั้งสามรวมกันในเวลาเดียวกันจึงไม่น่าแปลกใจที่นางป่วยหนัก

 

“คุณหนูใหญ่ซู  อย่างไร  นายหญิงเป็นอย่างไรบ้าง?”  เมื่อเห็นใบหน้าจริงจังของซูมู่เกอ  รู่เหม่ยก็รู้สึกลมหายใจจุกที่ลำคอ

 

อาการป่วยของนายหญิงเมิ่งนั้นค่อนข้างง่ายที่จะแก้ไขเมื่อสาเหตุถูกทำให้กระจ่าง

 

โดยไม่รีบร้อนที่จะทำการักษาต่อ  ซูมู่เก๋อขมวดคิ้วอย่างเงียบๆ

 

ยิ่งนางทำตัวแบบนี้คนในห้องก็ยิ่งวิตกกังวลมากขึ้น  หมอหูทำตัวเฉยชาและเขาเชื่อว่ามันเป็นฝันกลางวันที่งี่เง่าที่ทักษะทางการแพทย์ของเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้จะสามารถเอาชนะเขาได้!

 

เมิ่งซิ่วเหวินไม่แน่ใจเกี่ยวกับการแสดงออกของซูมู่เกอเช่นกัน

 

“เจ้าสามารถรักษาท่านยายของข้าได้หรือไม่  คุณหนูซู?”

 

ซูมู่เกอเงยหน้าขึ้นมามองเขา  “เจ้าค่ะ  แต่ขึ้นอยู่กับนายหญิงแม่เฒ่าเมิ่งเองว่านางจะรักษาให้หายขาดได้หรือเปล่า”

 

“เจ้ามีวิธีรักษา?”  หมอหูเต็มไปด้วยความสงสัย

 

“ถึงจะยากลำบาก  มันไม่ใช่ไม่มีทางแก้”  ซูมู่เกอพูดจบหยิบถุงเข็มเงินออกมาหนึ่งถุงและเปิดมัน

 

หมอหูประหลาดใจมากขึ้นเมื่อเห็นเข็มเงิน  ดวงตาของเขาเบิกกว้าง  “เจ้ารู้วิธีใช้เข็มเงิน?”

 

ซูมู่เกอเลิกคิ้วอย่างไม่ใส่ใจ  “ยากเกินไปสำหรับท่านหรือ?”

 

หมอหูแทบสำลักเมื่อได้ยินคำถามเช่นนี้  นั่นมากกว่าคำว่า “ยาก!”  แทบไม่น่าเชื่อเลย

 

เขาเรียนรู้มาหลายปีแล้ว  และเขาได้รับความรู้เพียงผิวเผิน  แม้จะร่ำเรียนมาหลายปี  ตลอดที่เรียนผ่านมาเขากลับการใช้เข็มเงินที่สุด  และยิ่งกลัวมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งใช้มันน้อยลงเท่านั้น  ในที่สุดเขาก็กลัวเกินกว่าจะแตะต้องพวกมัน!  แม้แต่อาจารย์ที่เคารพของเขาก็แทบไม่เคยใช้เข็มเงินเลย  เห็นได้ชัดว่าทักษะการฝังเข็มนั้นยากแค่ไหน!

 

คุณหนูจากคฤหาสน์ซู  อย่างไรถึงไม่กลัวที่จะใช้เข็มเงินเหล่านั้นในการรักษาผู้ป่วย  นางกล้าดียังไง!

 

ซูมู่เกอซึ่งตอนนี้ได้ทำการฆ่าเชื้อเข็มเงินแล้วไม่มีเวลามากพอที่จะกังวลเกี่ยวกับความคิดของหมอหู  นางใช้เพียงเพราะการฝังเข็มเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

 

“ยืดขาของนายหญิงผู้เฒ่าออก”

 

รู่เหม่ย  ร่วมกับสาวใช้อีกคนที่ชื่อรู่ซิ่วทำตามที่นางบอก

 

ซูมู่เกอหยิบเข็มในมือของนาง  และฝังพวกมันเข้าไปในจุดลมปราณโดยหมุนเล็กน้อยระหว่างปลายนิ้วของนาง  หลังจากนั้นไม่นานก็มีเข็มสีเงินปักอยู่ที่ขาและเท้าของนายหญิงแม่เฒ่า

 

ในขณะที่รอนายหญิงแม่เฒ่าเมิ่งรู้สึกตัว  ซูมู่เกอจดรายการใบสั่งยาและมอบมันให้กับ      รู่เหม่ย  “ไปเอายาตามนี้มา  นำไปให้นายหญิงเมิ่งทันทีเมื่อทำการต้มอย่างดีแล้ว”

 

“ได้เจ้าค่ะ  ข้าจะทำอย่างดี”

 

“คุณหนูซู  ท่านยายของข้าจะตื่นเมื่อไหร่?”

 

“ในไม่ช้านี้”

 

หนึ่งในสี่หลังจากนี้  ด้วยการไออย่างรุนแรงหญิงชราก็ฟื้นขึ้นมา

 

“ท่านยาย!”  เพียงก้าวเท้าสองก้าวเมิ่งซิ่วเหวินก็มาถึงเตียงของนายหญิงแม่เฒ่าเมิ่ง

 

หมอหูตาเบิกโตมองไปที่หญิงชราด้วยความอัศจรรย์ใจ

 

“ยังไง  มันเป็นไปได้ยังไง!”

 

ซูมู่เกอเดินไปข้างหน้าและถอนเข็มเงินออกทีละเล่มจนหมด

 

ตาของหญิงชราเมิ่งยังคงพร่ามัว  หลังจากถอดเข็มเงินออกหมด  นางก็สามารถมองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน

 

“ฮันหยู…..”

 

“ข้าอยู่นี่ท่านยาย”

 

เมิ่งซิ่วเหวินช่วยพยุงหญิงชราเมิ่งให้ลุกขึ้นนั่ง

 

เมื่อนางเห็นซูมู่เกอยืนอยู่ในห้องของนาง  หญิงชราเมิ่งตกตะลึงเล็กน้อย  จากนั้นนางก็มองไปที่หมอหูอีกครั้งซึ่งยืนอยู่ข้างๆด้วยใบหน้าซีดเซียว

 

“ทำไม…ทำไมเด็กคนนี้ถึงอยู่ที่นี่?”

 

เมื่อเห็นความสับสนในสายตาของนายหญิงแม่เฒ่าเมิ่ง  เมิ่งซิ่วเหวินตอบนางด้วยความอ่อนโยน  “ท่านพ่อนำนางมาที่นี่ขอรับ”

 

หญิงชราเมิ่งพยักหน้า  และเอนกายลงบนหมอนนุ่มพร้อมกับร่างกายอันอ่อนล้าของนาง

 

“ท่านแม่  ท่านฟื้นแล้ว!”

 

เมื่อได้รับการบอกว่านายหญิงเมิ่งรู้สึกตัวแล้ว  เมิ่งฉางเต๋อก็กลับเข้ามาในห้องพร้อมกับคนอื่นๆ

 

ซูมู่เกอวางสิ่งของของนางไว้

 

เมื่อเห็นซูมู่เกอออกมาซูหลุนก็ก้าวเข้าไปหานางและถามด้วยเสียงต่ำว่า  “ทุกอย่างเป็นอย่างไร?”

 

“นางฟื้นแล้ว”

 

ซูหลุนรู้สึกตื่นเต้นมาก แต่เขาก็ไม่กล้าแสดงความสุขใด ๆ

 

เมิ่งซิ่วเหวินเดินตามซูมู่เกอออกมาและเดินไปยืนตรงหน้านาง  “คุณหนูใหญ่ซู  ข้าขอบคุณมากที่ช่วยชีวิตท่านย่าของข้า”

 

พ่อของเขาต้องเชิญพวกเขาออกมาจากคฤหาสน์ซูในตอนดึกเนื่องจากทุกคนรีบเมื่อหมอหูบอกพวกเขาว่าท่านย่าของเขาอาจจะอยู่ต่อไม่ถึงเช้าวันรุ่งขึ้น

 

มันจนกระทั่งถึงเวลานี้เขาคลายข้อสงสัยทั้งหมดเกี่ยวกับทักษะทางการแพทย์ของซูมู่เกอ  นางมีพรสวรรค์อย่างแม้จริง

 

ดังนั้น  ความขอบคุณที่เขาแสดงในตอนนี้จึงมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

 

ซูมู่เกอยิ้มรับ  แต่ด้วยความเฉยชาเล็กน้อย  “ตราบเท่าที่นายท่านเมิ่งไม่คิดว่าข้ามีเจตนาอื่นใด”  แม้ว่านางต้องการขอบางสิ่งบางอย่าง  เขาไม่สามารถปฏิเสธความจริงที่ว่านางคือผู้ช่วยชีวิต

 

คำพูดเหล่านั้นทำให้เมิ่งซิ่วเหวินรู้สึกอับอายเนื่องจากเขาคิดว่าซูมู่เกอเข้าหาท่านย่าของเขาด้วยจุดประสงค์ที่เห็นแก่ตัวของนาง

 

หลังจากนั้นไม่นานเมิ่งฉางเต๋อกับฮูหยินของเขาก็ออกมา

 

“ขุนนางซูและคุณหนูใหญ่ซู  ขอบคุณท่านมากที่ช่วยชีวิตท่านย่าของข้า”

 

“ด้วยความยินดียิ่ง  ท่านขุนนางเมิ่ง  นายหญิงแม่เฒ่าเมิ่งมีเมตตากับลูกสาวของข้า มู่เกอ  และเป็นหน้าที่ของเราที่จะตอบแทนน้ำใจของนาง”

 

“ข้าขอโทษที่ขอให้พวกท่านทั้งสองมาที่นี่กลางดึกเช่นนี้  เกือบเที่ยงคืนแล้ว  ทำไมไม่พักที่คฤหาสน์ของเราล่ะ  ท่านสามารถคฤหาสน์ในเช้าพรุ่งนี้”

 

“มันจะ…”

 

“ข้าสามารถบอกได้ว่าคุณหนูใหญ่ซูคงจะเหนื่อย  ดังนั้น ท่านขุนนางเมิ่ง โปรดอยู่ที่นี่เถิด”  นายหญิงอาวุโสก็พยายามขอให้พวกเขาอยู่ต่อ

 

มันจะเป็นการหยาบคายมากไปที่จะปฏิเสธเมิ่งฉางเต๋อ  ดังนั้น ซูหลุนจึงยอมรับคำเชิญนั้น

 

มันไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับซูมู่เกอ  หลังจากต้องใช้แรงกายเป็นอย่างมากในการเรียกตัวขึ้นมากลางดึกเพื่อรักษาคนไข้

 

ซูมู่เกอถูกแม่บ้านพาไปที่ห้องพักสำหรับผู้หญิงซึ่งได้รับคำสั่งจากนายหญิงอาวุโสเมิ่ง  ซูมู่เกอมีความสุขกับทุกสิ่งมาโดยตลอด   การช่วยเหลือตัวเองในทุกสถานการณ์อาจเป็นสิ่งดี  และนางไม่มีนิสัยชอบนอนบนเตียงของตัวเอง  ดังนั้นนางจึงหลับไปทันทีหลังจากที่นางล้มตัวลงนอน

 

ดวงอาทิตย์ขึ้นแล้วเมื่อนางตื่นขึ้นในเช้าวันรุ่งขึ้น

 

“พี่ซูยังหลับอยู่หรือ?”

 

“เจ้าค่อ เมื่อคืนนางนอนดึกและตอนนี้ก็ยังหลับอยู่”

 

“ฮืม ช่างเป็นมารยาทที่ดี  เป็นแขกจะตื่นสายขนาดนี้ได้ยังไง?”

 

ซูมู่เกอถูที่มุมคิ้วด้านในและลืมตาขึ้น จะดีกว่าถ้านอนในห้องของนางเองโดยไม่มีใครมา รบกวนนาง

 

สาวใช้ข้างนอกได้ยินเสียงซูมู่เกอดึงกระดิ่งข้างเตียง  จึงเข้าไปช่วยนางทำความสะอาดและแต่งตัว

 

“พี่ซู  ท่านตื่นแล้ว”  เมื่อยื่นหน้าเข้าไปในห้องเมิ่งเถียนเถียนยิ้มให้ซูมู่เกอด้วยความอ่อนหวาน

 

“คุณหนูสามตระกูลเมิ่ง”

 

“ท่านพี่  โปรดอย่างห่างเหินเช่นนี้เลย  เพียงแค่เรียกข้าว่า เถียนเถียน  ท่านย่าของข้าตื่นแล้วและนางกำลังรอพบท่านอยู่”

 

“คุณหนูใหญ่ซู  เจ้าคิดว่าตัวเองสำคัญแค่ไหน  ให้คนทั้งห้องรอเจ้า!”  เมิ่งซูซูที่ยืนอยู่ที่ประตูเบิกตากว้างด้วยความโกรธ

 

ซูมู่เกอลุกขึ้นยืนโดยไม่ใส่ใจ  “ขออภัยที่ทำให้ทุกคนต้องรอนาน  ไปกันเถอะ”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด