องค์หญิงหมอเทวะ – บทที่ 36 : ตามหาใต้เท้าด้วยตัวเอง

อ่านนิยายจีนเรื่อง World-shaking First Daughter: Powerful Medical Princess องค์หญิงหมอเทวะ ตอนที่ 36 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

หลังจากหยุดชั่วขณะ  ซูมู่เกอก็หันศีรษะและมองไปที่เมิ่งซิ่วเหวิน

 

“นายท่านอาวุโสเมิ่ง  มีอันใดอีกรึเจ้าค่ะ?”

 

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา  ตระกูลเมิ่งได้ส่งคนมาแจ้งกับนางว่า  นางไม่จำเป็นต้องไปที่คฤหาสน์เมิงเพื่อรักษานายหญิงแม่เฒ่าเมิ่งอีกต่อไปแล้ว  ในวันนั้นซูมู่เกอได้แจ้งให้ผู้แจ้งข่าวเพื่อนำข้อความกลับไป  จากนั้นก็เป็นการพบกันระหว่างนางกับเมิ่งซิ่วเหวิน

 

“ท่านยายของข้า….”  เมิ่งซิ่วเหวินต้องการอธิบายให้นางฟังว่าทำไมพวกเขาจึงหยุดการรักษานายหญิงเมิ่ง  อย่างไรก็ตาม  ในตอนนี้  จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นสำหรับมัน  เพราะไม่ว่าจะทางใด  หญิงชราก็ใช้มันเป็นข้ออ้างในการที่พวกเขาตัดขาดกับตระกูลซู

 

“นายท่านอาวุโสเมิ่ง  ท่านไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องเหล่านี้เจ้าค่ะ  ตระกูลเมิ่งได้ให้ประโยชน์ตอบแทนแก่ข้าแล้ว”  ซูมู่เกอยกกล่องเล็กๆในมือขึ้นและอธิบาย  นางทำการรักษานายหญิงชราเมิ่งและตระกูลเมิ่งช่วยนางหาสิ่งที่นางต้องการแล้ว  ตอนนี้พวกเขาใช้หนี้ซึ่งกันและกันเรียบร้อย

 

“ข้าขอลา”

 

ซูมู่เกอก้มหัวคำนับและหมุนตัวเดินจากไป

 

คราวนี้แทนที่จะหยุดนางไม่ให้ไป  เมิ่งซิ่วเหวินทำเพียงแค่ยืนมองนางจากไป  ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น

 

ซูมู่เกอนำกล่องเล็กๆ กลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลซู

 

“คุณหนูใหญ่  ท่านกลับมาแล้ว”  เยว่รู่นำขนมเข้ามาในห้องและเห็นกล่องวางบนโต๊ะ  นางตกใจเล็กน้อย  แต่ไม่ได้ถามเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

“เจ้าไม่จำเป็นต้องรับใช้ที่นี่แล้ว  ออกไปเถอะ”

 

“เจ้าค่ะ”

 

เยว่รู่ออกไปหาซินเอ๋อร์และคนอื่นๆ

 

ซูมู่เกอเปิดกล่องไม้  มีโสมนอนอยู่ในกล่องซึ่งน่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่าสามร้อยปี  และเห็นหลินจือมันวาวสีแดงเพลิงอายุหลายร้อยปีแต่ไม่น่าจะถึงพันปี

 

มันเป็นความในใจของนางว่ามันเป็นเพราะตระกูลเมิ่งที่ทำผิดเมื่อคนๆนั้นถูกส่งมาบอกให้นางหยุดรักษา

 

นางจึงช่วยให้นางได้ค้นพบโสมและเห็นหลินจือเพื่อเป็นการชดใช้

 

ซูมู่เกอนำพวกมันออกมาจากกล่องและทำความสะอาดด้วยน้ำ  จากนั้น  โสมและเห็ดหลินจือก็ถูกเติมลงในของเหลวเพื่อทำยาซึ่งนางเตรียมไว้ก่อนหน้านี้

 

นางทำการครุ่นคิดมาหลายคืนหลายวันแล้วเพื่อศึกษาพิษในร่างกายนาง  แล้วนางก็พบว่ามันเป็นกลลวง  และเล่ห์เหลี่ยมนางรู้ความหมายของมันแล้วว่าการล้างพิษไม่ใช่เรื่องยาก  แต่มันเกี่ยวกับสมุนไพรในการทำยาแก้พิษ

 

ด้วยสมุนไพรชนิดเดียวกันที่เติบโตขึ้นในสถานที่ต่างกันในเมืองฉู่และดินแดนพวกตะวันตก  ยาที่ทำจากพวกมันอาจมีผลแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

 

นางรู้เรื่องนี้โดยบังเอิญตอนที่นางอยู่ที่ร้านขายยา  พวกเขามีการติดต่อค้าขายระหว่างเมืองฉู่และพวกตะวันตกซึ่งสมุนไพรเป็นที่ต้องการมากโดยเฉพาะจากพ่อค้าของฉู่

 

ตอนนั้นนางซื้อกลับมาบ้าง  เพื่ออยากจะลอกดู  กลับกลายเป็นว่าผลของยาที่ทำนั้นดีกว่าของฉู่มาก

 

ซูมู่เกออยู่ในห้องของนางเป็นเวลาห้าวันและนางไม่ได้ออกจากห้อง  ซึ่งคาดหวังว่าจะได้กลับทานอาหารกับนางจ้าวหลังจากนี้

 

“สมบูรณ์แบบ!  ในที่สุดข้าก็ทำสำเร็จแล้ว!”

 

ประตูห้องถูกเปิดออกโดยซูมู่เกอเสียงดังโครม  นางมีความสุขเหมือน…เหมือนเช่นคนบ้าในขณะที่นางเต้นรำด้วยยาเม็ดสีดำขนาดใหญ่ในมือ….

 

เยว่รู่เป็นห่วงนางและกลัวว่านางจะเป็นบ้าไปแล้วเพราะนางเก็บตัวอยู่ในห้องเป็นเวลาหลายวันเพื่อทำของแปลกๆ

 

“คุณหนูใหญ่  เป็น  ท่านเป็นอย่างไรเจ้าค่ะ?”

 

ยกก้อนยาในมือของนางอย่างมีความสุข  ซูมู่เกอโบกมือด้วยความตื่นเต้น

 

“เกิดอะไรขึ้นกับฉัน?  เอาเงินไปและซื้อเนื้อและปลากลับมาที่ครัวใหญ่  ข้าจะทำอาหารดีๆให้ท่านทาด้วยตัวเองในคืนนี้”

 

ซินหลันสาวใช้ที่อายุน้อยที่สุดเดินไปหาพวกเขาอย่างรีบเร่งก่อนที่เยว่รู่จะตอบ

 

“คุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ  บาง  มีบางอย่างผิดปกติ!  ท่านขุนนาง  ท่านขุนนางหายตัวไปเจ้าค่ะ!”

 

“อะไรนะ!”

 

ก่อนที่ซูมู่เกอจะพูดอะไร  มีอีกหนึ่งร่างวิ่งเข้ามาหานางแล้วจับมือนางด้วยสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย

 

“เจ้ากำลังพูดอะไร?  ท่านขุนนางหายไป!?”

 

ซูมู่เกอเงยหน้าขึ้นและพบร่างนั้นเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแม่ของนาง

 

“ท่านแม่  ไม่ต้องกังวล  มาคุยกันห้อง”

 

นางจ้าวพยักหน้าและพวกเขาทั้งหมดก็กลับเข้าไปในห้อง

 

ซูมู่เกอมองไปที่ซินหลันที่ยืนอยู่กลางห้อง  “เกิดอะไรขึ้น?”

 

ร่างของซินหลันยังคงสั่นสะท้านด้วยความกลัว

 

“ข้า  ข้าได้ยินเรื่องนี้จากคนอื่นๆ  พวกเขาบอกว่าท่านขุนนางไปที่เขตเมืองโจวเมื่อสองวันก่อนเพื่อตรวจสอบสถานการณ์ที่นั่น  แต่ผู้คนในเขตเมืองโจวบอกว่าท่านขุนนางไม่เคยปรากฏตัวที่นั่น  ตอนนี้มีข่าวลือในคฤหาสน์ว่าท่านขุนนางได้หลบหนีไปอย่างลับๆ  เพื่อไม่ต้องรับโทษจากการถูกคุมขังของจักรพรรดิ!เจ้าค่ะ”

 

ใบหน้าของทุกคนยกเว้นซูมู่เกอซีดลง

 

“เป็นไปไม่ได้!  ใต้ท้าวไม่มีวันที่จะทิ้งพวกเราไว้ข้างหลัง!”  นางจ้าวตอบโต้โดยไม่รู้ตัว

 

ซึ่งแตกต่างจากปฏิกิริยาทางอารมณ์ของนางจ้าว  ซูมู่เกอ  ในความรู้สึกของนาง  เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่ซูหลุนจะทำสิ่งที่โง่เขลาเช่นนั้น  เขาฉลาดพอที่จะรู้ว่าถ้าเขาหนี  เขาจะทำให้ตระกูลซูทั้งหมดตกอยู่ในห้วงเหวลึกที่ไม่อาจคาดเดาได้  ยิ่งกว่านั้นชีวิตที่เหลือของเขาจะสิ้นสุดลง

 

“นายหญิงอันส่งใครไปตามหาเขาหรือเปล่า?”

 

“ข้า  ข้าไม่รู้….”  แม้ว่าซินหลันจะเกิดและโตในคฤหาสน์  พ่อแม่ของนางทำงานอยู่ในหมู่บ้าน  นางจึงไม่ได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดภายในคฤหาสน์มากนัก

 

“มูมู่  ข้า ข้าไม่เชื่อมัน  ท่านพ่อของเจ้า  เขาจะไม่มีวันทอดทิ้งพวกเรา….”  นางจ้าวไม่ค่อยเข้าใจว่ามันว่าจะมีความหมายอย่างไรสำหรับพวกเขา  ถ้าซูหลุนหนีไปแบบนี้จริงๆ

 

ซูมู่เกอจับมือแม่ของนาง  “ไม่แน่นอนเจ้าค่ะ  ซินหลัน  เจ้ารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ในคฤหาสน์และกลับมาหาเราทันทีที่เจ้าได้ข่าว”

 

“เจ้าค่ะ”

 

“เจ้าไม่ต้องกังวลและทำงานของเจ้าให้ดี  หากพบว่าใครทำงานไม่ดีหรือมีความคิดอื่นๆ  ข้าจะไม่ปล่อยมันไปอย่างแน่นอน!”

 

ซินหลันและคนอื่นๆ คุกเข่ารับคำของนาง

 

“เจ้าค่ะ  คุณหนูใหญ่”

 

สิ่งที่ไม่คาดคิดคือไม่มีข่าวจากซูหลุนเป็นเวลาหลายวัน  ราวกับว่าเขาหายไปจากโลกนี้อย่างสิ้นเชิง

 

นางอันแสร้งทำเป็นสงบมาหลายวันแล้ว  และตอนนี้นางไม่สามารถซ่อนมันได้อีกต่อไป  หากจักรพรรดิรู้เรื่องนี้และลงโทษพวกเขา  จะไม่มีใครเหลือรอดแม้แต่คนเดียว!

 

“มาม่า  ใต้ท้าวตายไปแล้วหรือไม่?  เขาจริงๆเหรอ…” นางอันนั่งหน้าซีดราวกระดาษ  นางกำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น

 

หลี่มาม่าก็ลูกลี้ลุกลนเช่นกัน  แต่นางต้องสงบสติอารมณ์และนางกล่าวว่า  “นายหญิงเจ้าค่ะ  อย่าพูดไร้สาระ  ท่านรู้ดีว่าการไปเขตเมืองโจวนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะน้ำท่วม  ท่านขุนนางอาจจะอยู่ที่ไหนสักแห่งระหว่างทาง….”

 

“มาม่า  อย่าโกหกเพื่อปลอบใจข้าเลย  จากที่นี่ไปยังเขตเมืองโจวใช้เวลาเดินทางเพียงสามวัน  และเขาไปที่นั่นโดยรถม้า!  ข้าควรทำอย่างไรดี? ข้าได้เขียนจดหมายถึงท่านพ่อของข้าเมื่อไม่กี่วันก่อน และเขายังไม่ตอบกลับมาเลย”

 

“นายหญิงเจ้าค่ะ  คุณหนูใหญ่ต้องการขอเข้าพบท่านเจ้าค่ะ”  เสียงแม่บ้านดังมาจากด้านนอกห้อง

 

นางอันไม่ได้ซ่อนความรำคาญไม่พอใจบนใบหน้าของนางเมื่อได้ยินมัน

 

“นางมาทำอะไรตอนนี้?  นางต้องการขอให้ข้าช่วยชีวิตคนทั้งสามเหรอ!  บอกให้นางกลับไป  และบอกนางว่าข้าหลับแล้ว”

 

“เยี่ยม  ประมาทขนาดไหนที่ท่านยังมีอารมณ์หลับลงได้”

 

“นี่ เจ้าไม่ควรเข้ามา….”

 

ก่อนที่นางอันจะพูดจบ  ซูมู่เกออยู่ในห้องของนางแล้ว  สาวใช้ที่อยู่เบื้องหลังไม่สามารถหยุดนางได้

 

นางอันได้แต่โบกมือให้สาวใช้ออกไป

 

“คุณหนูใหญ่  เจ้ามาที่นี่เพื่ออะไร?”

 

ซูมู่เกอเพิกเฉยต่อความไม่อดทนบนใบหน้าของนางอัน  เดินไปที่เก้าอี้และนั่งลง

 

“นายหญิง  ข้ารู้ว่าท่านกังวลเรื่องอะไร  ข้ามาที่นี่ในวันนี้เพื่อพูดกับท่านเกี่ยวกับทางเลือกในการแก้ปัญหา”

 

นางอันเหลือบมองนางด้วยความถากถาง  “ทางเลือก?  เจ้ามีวิธีแก้ปัญหาแบบไหนกันล่ะ?”

 

“ข้าจะไปตามหาท่านพ่อที่เขตเมืองโจว”

 

ทั้งสองคนตกอยู่ในความประหลาดใจ  นางอันและหลี่มาม่ามองไปที่ซูมู่เกอราวกับว่าพวกเขากำลังสนทนากับคนบ้า

 

“เจ้ากำลังพูดถึงอะไร?  เจ้ากำลังจะไปที่เขตเมืองโจวและไปตามหาท่านพ่อของเข้า?”

 

“นั่นถูกต้องแล้ว”

 

“คุณหนูใหญ่  เจ้ามีความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เจ้ากำลังพูดหรือไม่?”  ใบหน้าของหลี่มาม่าประหลาดใจมากยิ่งขึ้น

 

ซูมู่เกอมองนางด้วยความสงบ “ข้ารู้ดีว่ากำลังทำอะไรอยู่  นายหญิง  ข้ามาหาท่านเพื่อสองสิ่ง  สิ่งแรก  คือขอให้ท่านเตรียมของสำหรับการเดินทางของข้า  สิ่งที่สองคือ  ข้าต้องการตราประทับอย่างเป็นทางการของท่านพ่อ”

 

“เจ้าต้องการตราประทับอย่างเป็นทางการสำหรับอะไร?”

 

“ข้าไม่สามารถตามหาท่านพ่อด้วยตัวของข้าเองได้  ข้าต้องการคน  ตอนนี้ทุกคนอยู่ในความตระหนกในคฤหาสน์ตระกูลซู  นายหญิง  ท่านคิดว่าพวกเขาวางใจได้หรือ?”

 

นางอันจ้องไปที่ซูมู่เกอ  นางไม่เคยคิดว่าซูมู่เกอจริงจังกับการตามหาพ่อของนาง  ซูหลุน!

 

“แล้วถ้าท่านพ่อของข้า…หายไปจริงๆ  ท่านสามารถทำอะไรกับตราประทับที่เป็นทางการของเขาได้?”

 

นางอันขมวดคิ้ว  นางรู้ว่าซูมู่เกอพูดถูก  ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับซูหลุน  หรือถ้าเขาหนีไป  ไม่มีใครสนใจตราประทับอย่างเป็นทางการใดๆ

 

จากที่ซูมู่เกอต้องการตามหาพ่อของนาง  ทำไมไม่ให้นางไปล่ะ?  นางแทบรอไม่ไหวที่จะเห็นว่าซูมู่เกอจะมีกลเม็ดแบบไหน

 

“ดี  เจ้าจะไปเมื่อไหร่?”

 

“ยิ่งเร็วยิ่งดี”

………………………

 

ซูมู่เกอบรรจุยาเม็ดด้วยความระมัดระวังเมื่อนางกลับมาที่ลานดอกท้อ

 

“คุณหนูเจ้าค่ะ ท่านจริงๆ…”  เยว่รู่เป็นคนเดียวในลานบ้านดอกท้อบานที่รู้ว่าซูมู่เกอกำลังจะมุ่งหน้าไปที่ใด

 

“ท่านพ่อของข้าไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรในตอนนี้  ในฐานะลูกสาวของเขาข้ามีหน้าที่ต้องไป”  ซูมู่เกอเก็บข้าวของของนางอย่างสงบนิ่ง

 

“แต่คุณหนู  ท่านไม่รู้หรอกว่าสถานที่นั้นจะอันตรายแค่ไหน…ข้ารู้สึกกังวลเกี่ยวกับการเดินทางคนเดียวของท่าน”

 

ซูมู่เกอผูกกริชไว้ที่ขาของนางและเปลี่ยนเป็นเครื่องแต่งกายชายที่นางเตรียมไว้

 

“คุณหนูเจ้าค่ะ  ให้ข้าไปด้วยเถิด  อย่างน้อยข้าก็ดูแลท่านระหว่างทางได้”

 

“ข้าต้องห่วงใครสักคนแล้วข้าไม่รู้สึกสนุก”

 

“คุณหนู….”

 

ซูมู่เกอหยิบกระดาษโน้ตออกมาจากร่างของนาง  “หลังจากที่ข้าออกเดินทางไปแล้ว  จัดการมอบสิ่งนี้ให้กับนายท่านผู้อาวุโสเมิ่งให้ข้าด้วย”

 

เยว่รู่รับจดหมายมาโดยอัตโนมัติ  แต่ยังอยู่ในความพิศวง

 

“เจ้าค่ะ  ข้าจะมอบสิ่งนี้ให้กับนายท่านอาวุโสเมิ่ง”

 

“และบอกแม่ของข้าดูแลน้องชายของข้าด้วย  ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับข้า  ข้าจะไปแล้ว”

 

ซูมู่เกอจากไปโดยไม่ลังเลใดๆ  เวลาเป็นเงินเป็นทอง  และนางไม่สามารถเสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียวเพราะนางไม่รู้ว่าสถานการณ์ในเขตเมืองโจวเลวร้ายแค่ไหน

 

นางอันทำงานอย่างเงียบๆด้วยความมีประสิทธิภาพดี  ตอนที่ซูมู่เกอไปที่ประตูทางออก  รถม้า  แม้จะไม่ใหญ่มาก แต่ก็มั่นคงเพียงพอรออยู่ด้านนอก  หลี่มาม่าส่งเจ้าหน้าที่มาให้         ซูมู่เกอด้วยตัวนางเอง

 

“นายหยิงได้เตรียมสิ่งของทั้งหมดที่ท่านต้องการไว้ในรถม้าแล้ว  ท่านสามารถทิ้งความกังวลอื่นๆได้เลย”  แม้ว่าหลี่มาม่าไม่เคยชอบซูมู่เกอ  ในตอนนี้นางชื่นชมซูมู่เกอ  ที่จริงแล้วหญิงสาวที่ยังไม่แต่งงานจากคฤหาสน์แทบจะไม่มีความกล้าหาญใดเลย

 

ซูมู่เกอนำสิ่งของติดตัวมาด้วยและขึ้นรถม้า

 

นางอันได้จัดคนขับรถม้าให้นางเพียงคนเดียว  มีสมุนไพรและยาสามัญบางอย่างอยู่ในรถม้านอกจากอาหารแห้ง

 

ถ้าเร็วพอนางสามารถไปถึงเขตเมืองโจวได้ในหนึ่งวันเป็นอย่างเร็วที่สุด

 

อย่างไรก็ตาม  ด้วยฝนตกตลอดวัน  ถนนสายหลักจึงเป็นหลุมเป็นบ่อ  เพียงครึ่งวันหลังจากพวกเขาออกจากเมืองชุนหยาง  ม้าเหนื่อยและรถม้าก็ชะลอตัวลง

 

ซูมู่เกอพิงผนังรถม้าเมื่อนางเกือบจะหลุดออกมาเพราะการกระแทกอย่างฉับพลัน

 

นางพยายามรักษาสมดุลการทรงตัวและเปิดม่าน  “เกิดอะไรขึ้น?”

 

“ใหญ่  คุณหนูใหญ่ขอรับ  ที่นั่น  ที่นั่นมี…..”  ใบหน้าของคนขับซีดเผือดและมีความหวาดกลัวในสายตาของเขาเมื่อเขามองมาที่ซูมู่เกอราวกับว่ามีผี……

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด