องค์หญิงหมอเทวะ – บทที่ 45 : ถลกหนังของมันออก

อ่านนิยายจีนเรื่อง World-shaking First Daughter: Powerful Medical Princess องค์หญิงหมอเทวะ ตอนที่ 45 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ซูมู่เกอจับตัวยายฟางไว้  ที่เดินโซซัดโซเซ

 

“ยายฟาง  อย่ากังวลไปเลย  มาทำให้ทุกอย่างชัดเจนก่อน”  ซูมู่เกอเดินเข้าไปในหย่า    เหมินโดยมียายฟางอยู่ในอ้อมแขน

 

เสียงของยายฟางสั่นเล็กน้อย

 

“มันเป็น…เป็นเวลาค่ำแล้ว  ข้าน้อยกำลังเตรียมอาหารเย็นสำหรับทุกคนและขอให้ถงเอ๋อเอาน้ำมาให้  แต่เขาไปเป็นเวลานานมากแล้วและไม่กลับมา  ข้าน้อยเป็นห่วงและไปตามหาเขา  แต่ข้าน้อยได้ค้นหาทั่วเขตหย่าเหมินแล้ว  และก็ไม่พบเขาที่ไหนเลย…”  ยายฟางได้ร้องไห้เรียบร้อยแล้ว  บอกเล่า

 

“ใต้เท้าซู  ได้โปรดช่วยเราด้วย  ถงเอ๋อเป็นลูกชายคนเดียวและเป็นทายาทของครอบครัวของเรา  และข้าน้อยจะปล่อยให้สิ่งผิดพลาดเกิดกับเขาไม่ได้….”

 

ซูมู่เกอช่วยพยุงยายฟางเข้าไปในห้อง  “ยายฟาง  ไม่ต้องกังวล  ข้าจะส่งคนไปตามหาเขาตอนนี้เลย  บอกข้ามาว่าถงเอ๋อชอบไปที่ใดบ้างในเวลาว่าง  มีโอกาสหรือไม่ที่เขาจะออกไปเล่นกับเด็กคนอื่นแล้วลืมเวลากลับ?”

 

ยายฟางเอาแต่ร้องไห้และส่ายหัว  “ไม่ หลานน้อยของข้ามักจะประพฤติตัวดีและรับฟังคำพูดของข้า  หลังจากเรามาถึงที่นี่ในเขตโจว  ข้าบอกเขาว่าข้างนอกมันอันตรายและเขาต้องไม่ออกไปข้างนอก  เด็กนั้นเชื่อฟังและจะไม่มีวันเดินไปมาโดยไม่มีข้า”

 

“ข้ารู้  ข้าจะส่งคนไปค้นหาเขาเดี๋ยวนี้ล่ะ”

 

ซูมู่เกอกังวลเล็กน้อย  แต่นางก็ไม่แสดงมันออกมา  ความรู้สึกและกลิ่นของชายในชุดดำที่ทำร้ายนางเมื่อคืนก่อนนั้นค่อนข้างคล้ายกับคนในป่า  แม้ว่าชายชุดดำจะถูกจับโดยคนของเซี่ย โฮวโม่  แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่เขาจะยังมีผู้สมรู้ร่วมคิดอีก  หากพวกเขาเริ่มมุ่งเป้าไปที่ถงเอ๋อ…

 

นางขอให้ที่ปรึกษาหลี่ส่งคนไปตามหาเด็กน้อยทันที  ที่ปรึกษาหลี่ไม่กล้าออกไป  และได้ส่งคนของเขาออกไปแทน

 

แสงจันทร์ส่องสว่าไปทั่วทั้งเขตเมืองโจว  ถนนก็ว่างเปล่าในตอนดึกเช่นนี้

 

ทันใดนั้น  ร่างสีดำก็ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วท่ามกลางแสงจันทร์  ถ้าได้มองใกล้ๆ จะพบว่าเขาได้พกอะไรติดตัวไปด้วย

 

เงานั้นพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วในความมืดไกลเกินกว่าที่แสงจันทร์จะส่องถึงและในเวลาเพียงสั้นๆ มันหายไปในซอยลึก

 

ในไม่ช้ามีอีกสองร่างก็แวบผ่านไป  พวกเขาเห็นเงาดำหายไป  จากนั้นก็มองหน้ากัน

 

“เขาเห็นเราไหม?”

 

“เราซ่อนตัวอย่างดีเมื่อเราตามเขามา  เขาจะไม่สังเกตเห็นเราแน่”

 

“แล้วตอนนี้เราจะทำยังไงดี?”

 

“ตามดูเขาต่อไปสิ”

 

ร่างทั้งสองหายไปพร้อมกับเสียงของพวกเขา  เข้าไปในซอยมืด

 

ในบ้านที่อยู่อาศัยในตรอก  ชายชุดดำโยนคนที่แบกบนไหล่ของเขาลงไปที่พื้นแล้วนั่งยองๆ  เพื่อมองหาอะไรบางอย่างบนตัวเขา

 

แต่เขาไม่พบสิ่งใดเลยหลงจากค้นหามาหลายรอบแล้ว

 

“ไอ้บ้านั่น  มันซ่อนไว้ตรงไหนของมัน!”

 

ชายคนนั้นจุดเทียนให้แสงสว่างทั้งห้อง  ด้วยแสงสลัวทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าเด็กนอนอยู่บนพื้นคือถงเอ๋อ  เด็กน้อยที่ซูมู่เกอกำลังตามหา!

 

ชายในชุดดำสะกิดเด็กชายหลายครั้งและถงเอ๋อก็รู้สึกตัวเงียบๆ เมื่อเขาเห็นสภาพแวด  ล้อมรอบๆ และชายในชุดดำ  เขาก็กลัวและคู้ตัวเข้า

 

“ใคร  ท่านเป็นใคร?  ท่านต้องการอะไร!”

 

“บอกข้ามา  มันอยู่ที่ไหน?”

 

ถงเอ๋อยังคงส่ายหัวพร้อมสั่นไปทั้งตัวด้วยความหวาดกลัว  “ข้าไม่รู้  ไม่รู้ว่าท่านกำลังพูดถึงอะไร…”

 

“เจ้าไม่ยอมบอกข้าเหรอ?  เจ้าสัตว์ดื้อรั้นตัวน้อย!”  ชายชุดดำรีบวิ่งไปคว้าตัวถงเอ๋อขึ้นจากพื้น  เด็กน้อยดิ้นรนด้วยความกลัว

 

“ช่วยด้วย  ช่วยข้าด้วย….”

 

“เจ้าอยากตายรึไง?”

 

ทันทีที่ส่งเสียงขู่ดังกล่าว

 

ชายชุดดำโยนถงเอ๋อลงกับพื้นขณะที่เสื้อผ้าของเขาถูกเล็บเกี่ยวอย่างไม่ตั้งใจทำให้เสื้อของถงเอ๋อฉีกออกเป็นชิ้นใหญ่  เปิดเผยให้เห็นแผ่นหลังบอบบางของเขา

 

ชายชุดดำเดินไปข้างหน้าและกำลังจะทรมานเขาต่อ  เมื่อจู่ๆเขาก็ได้เห็นอะไรบางอย่างที่ด้านหลังของถงเอ๋อ

“เจ้าคนฉลาดน้อย  เจ้ากล้าคิดว่าจะซ่อนมันไว้ที่ตรงนี้เหรอ!”  ชายชุดดำจับถงเอ๋อหยิบขวดกระเบื้องเคลือบสีดำออกจากร่างของเขาแล้วเทราดลงบนหลังของเด็กน้อย

 

“ทีสสส-สส”  เสียงราวกับเนื้อและหนังที่ปิ้งอยู่บนกองไฟดังขึ้นในห้องพร้อมกับกลิ่นไหม้

 

“อ๊ากกก!”  ก่อนที่เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของถงเอ๋อจะดังออกมาอย่างเต็มที่  ชายชุดดำก็ทุบเขาให้หมดสติไป

 

เมื่อเห็นเช่นนั้น  ชายสองคนที่แอบสังเกตการณ์อยู่ด้านนอกทั้งคู่ขมวดคิ้ว

 

ผ่านรอยแตกของหน้าต่าง  พวกเขาสามารถมองเห็นบางสิ่งบางอย่างค่อยๆ ปรากฏขึ้นที่แผ่นหลังของถงเอ๋อ

 

ทั้งสองสบตากันอย่างรวดเร็วและบุกเข้าไปในห้องทันที

 

ชายที่จับถงเอ๋อในมือสะดุ้ง  และเขาดึงถงเอ๋อที่ไม่รู้สึกตัวไว้ด้านหลังเขาโดยอัตโนมัติ

 

ด้วยการสบตาเพียงครั้งเดียวพวกเขาทั้งสามก็เริ่มต่อสู้กัน

 

สองต่อหนึ่ง  ชายชุดดำค่อยๆสูญเสียการป้องกันของเขาเพรี่ยงพร้ำให้กับอีกสองคน

 

“เจ้าเป็นใคร?”  ชายชุดดำถูกต้อนให้จนมุมและเขาก็ส่งเสียงข่ม  เขามองไปที่ถงเอ๋ออีกครั้งอย่างเสียดายและโยนถงเอ๋อใส่สองคนนั้นอย่างไม่เต็มใจเพื่อเปิดทางหนี  แล้วเขาก็หมุนตัวหลบหนีไปทันที

 

“เจ้าตามเขาไป  ส่วนข้าจะพาเด็กกลับไปรายงาน”

 

“ตกลง”

 

โจวเหว่ยอุ้มถงเอ๋อขึ้นมาพาดไหล่ของเขา  จากนั้นเขาก็จากไปทันที

 

เขากลับมาพร้อมเด็กน้อยบนไหล่ที่ห้องพักในเขตที่พักอย่างเหมินภายในเสี้ยวชั่วยาม

 

ตงหลินมาที่ประตูและพูดเสียงเบาจากด้านนอกว่า  “ใต้เท้า  โจวเหว่ยกลับมาแล้วขอรับ”

 

“ให้เขาเข้ามา”

 

“ขอรับ”

 

โจวเหว่ยเดินเข้าไปในห้องโดยมีถงเอ๋ออยู่บนไหล่ของเขา

 

เซี่ยโฮวโม่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนที่นั่ง  เขาสามารถรวมพลังลมปราณทั้งหมดของเขาเคลื่อนไหวไปทั่วร่างกายของเขา  หลังจากโจวเหว่ยเข้ามา  แล้วค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ

 

“ใต้เท้า  มันอยู่ที่เด็กคนนี้จริงๆ ขอรับ”

 

โจวเหว่ยดึงเสื้อของถงเอ๋อออก เผยให้เห็นแผ่นหลังของเขาทั้งหมด  มีรอยแผลเป็นราวกับว่ามีคนลวกมันด้วยกระบอกไฟ  อย่างไรก็ตามแผนที่ปรากฏขึ้นซึ่งกระจายไปทั่วทั้งหลังของถงเอ๋อและดูน่ากลัว

 

โจวเหว่ยอุ้มถงเอ๋อขั้นไปบนโต๊ะนอนคว่ำเผยให้เห็นแผ่นหลังทั้งหมดของเขาอย่างชัดเจน

 

เซี่ยโฮวโม่เดินไปข้างหน้าและมองอย่างถี่ถ้วน  รูปแบบด้านหลังนี้เป็นแผนที่การป้องกันของค่ายหยานเซี่ย

 

“ชายคนนั้นอยู่ที่ไหน?ไ

 

“โจวฉิ่วตามเขาไปขอรับ”

 

หลังจากมองดูถงเอ๋ออีกครั้ง  เซี่ยโฮวโม่พูดด้วยเสียงต่ำ  “เรียก  ใต้เท้าซู มาที่นี่”

 

โจวเหว่ยตะลึงไปชั่วขณะโดยไม่คาดคิดว่าจะมีคำสั่งนี้จากนายท่านของเขา

 

“ขอรับ”

 

ซูมู่เกอค้นหาทั่วเขตหย่าเหมิน  และนางไม่พบถงเอ๋อ  นางพบรองเท้าของเด็กชายอยู่ข้างบ่อน้ำเท่านั้น

 

นางจับรองเท้าไว้แน่นในมือและดูเคร่งเครียด

 

“ใต้เท้าซู  ท่านอยู่นี่เอง”

 

ซูมู่เกอข่มใจลงและเงยหน้าขึ้น  นางรู้ว่าเขาเป็นผู้คุ้มกันของเซี่ยโฮวโม่

 

“ใต้เท้าเซี่ยมองหาข้าหรือไม่?”

 

“ขอรับ  ใต้เท้าเซี่ยมีเรื่องจะพูดคุยกับท่านขอรับ ใต้เท้าซู”

 

“ข้ารับทราบ  ไปกันเถอะ”

 

มันเป็นเวลาดึกแล้ว  เซี่ยโฮวโม่ต้องการอะไร?

 

ด้วยความสับสนในใจ  ซูมู่เกอผลักประตูให้เปิดและเดินเข้าไปในห้องของเซี่ยโฮวโม่

 

ถงเอ๋อเข้ามาในสายตาของนางเมื่อนางก้าวเข้าไป  นอนอยู่บนโต๊ะ  คว่ำหน้า  โดยไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่ตาย

 

“ถงเอ๋อ!”

 

ดวงตาของนางกระตุกและเดินไปหาเขาทีละก้าว  ทีละก้าวอย่างใช้เวลา  เพื่อตรวจสอบสภาพของเขา

 

นางปล่อยลมหายใจยาวๆออกมาอย่างโล่งอก  เมื่อแน่ใจว่าเด็กคนนั้นเพียงแค่หมดสติเท่านั้น

 

ซูมู่เกอมองไปที่เซี่ยโฮวโม่อย่างรวดเร็ว  และพูดว่า  “ใต้เท้าเซี่ย  ข้าไม่รู้ว่าถงเอ๋อทำให้ท่านขุ่นเคืองอย่างไร  แต่ท่านจะโหดร้ายกับเด็กขนาดนี้เลยหรือ?”

 

คิ้วของเขายกขึ้นเล็กน้อย  เซี่ยโฮวโม่มองเข้าไปในดวงตาของซูมู่เกอตรงๆ  “เจ้าคิดว่าข้าทำแบบนี้กับเขารึ?”

 

ซูมู่เกอขมวดคิ้วและก้มศีรษะลง  ทันใดนั้นนางก็เห็นแผนที่บนหลังของเด็กและรู้สึกประหลาดใจ

 

“อะไร..นี่คือ?”

 

มองไปที่ใบหน้าอันประหลาดใจของซูมู่เกอ  เซี่ยโฮวโม่ตอบอย่างใจเย็น  “ใต้เท้าซู  เจ้าเคยเห็นแผนผังการป้องกันของค่ายหยานเซี่ยหรือไม่?”

 

แผนผังการป้องกันของค่ายหยานเซี่ย คือแผนผังการป้องกันทางทหารของฉู่!

 

ซูมู่เกอฉลาดพอที่จะเข้าใจว่าผู้ชายที่ติดตามนางกำลังพยายามหาสิ่งที่อยู่ด้านหลังของถงเอ๋อ

 

แผนผังการป้องกันทางทหาร  ซึ่งเป็นความลับทางทหารที่สำคัญได้ปรากฎตัวบนตัวเด็กชายชาวบ้านคนหนึ่ง  ทำไมกัน?

 

มันอธิบายได้เพียงว่าถงเอ๋อเป็นเพียง “เครื่องมือ”   ในการซ่อนแผนที่นี้  ที่ถงเอ๋อหายตัวไปในวันนี้อาจเป็นเพราะชายคนนั้นกลับมาเอาแผนที่นี้

 

ซูมู่เกอเงยหน้าขึ้นและมองไปที่เซี่ยโฮวโม่ด้วยความคิดของนางเพียงเพื่อที่จะได้เห็นความเย็นชาและไอสังหารที่มองลึกเข้าไปในดวงตาของเขา

 

เขาสงสัยนาง  เขาสังสัยว่านางมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับมัน  จากทั้งหมดแล้ว  นางพา  ถงเอ๋อมาที่เขตโจว

 

ไม่น่าแปลกใจที่ขุนนางที่มีความสำเร็จอันยอดเยี่ยมในสงคราได้มาที่เขตโจว  เขามาที่นี่เพื่อหาแผนผังการป้องกัน  แต่ไม่ใช่น้ำท่วม!

 

“ใต้เท้าเซี่ย  ข้าจะมีโอกาสได้เห็นมันได้อย่างไร?”  ซูมู่เกอกำมือแน่นขึ้นเรื่อยๆ

 

เซี่ยโฮวโม่จ้องมองนิ่งมาที่นาง  เดินเข้ามาทีละก้าวๆ

 

ก้าวของเขาเบา แต่การเข้าใกล้ของเขาทำให้นางหายใจหนักขึ้น

 

ชายคนนี้กำลังกดดันนาง!

 

ซู่มู่เกอหายใจเข้าลึก ๆ และพยายามสงบสติอารมณ์

 

“ใต้เท้าซู  ท่านรู้ผลที่ตามมาของแผนที่รั่วไหลหรือไม่?”

 

แน่นอนว่าซู่มู่เกอรู้!

 

การป้องกันค่ายทหารก็เหมือนกับความสามารถทางเวทย์มนตร์ในการรักษาแรงขับของอาวุธที่แหลมคมลงบนผิวหนังที่เปลือยเปล่าของคนๆหนึ่ง  หากไม่มีมันก็เกือบจะเทียบเท่ากับการเปิดเผยค่ายทหารทั้งหมดให้ศัตรูได้รับรู้

 

“แม้ว่าข้าไม่รู้ว่าจะสู้รบหรือจัดการทหารอย่างไร  ข้าตระหนักดีถึงความสำคัญของแผนผังการป้องกัน  แต่มีสิ่งหนึ่งที่ข้าไม่เข้าใจ   เหตุใดสิ่งสำคัญเช่นนี้จึงปรากฏบนหลังของเด็ก?”

 

เซี่ยโฮวโม่มองลงไปที่ซูมู่เกอ  แต่ไม่ตอบนาง

 

“ ตงหลิน”

 

ตงหลินผลักประตูและเข้ามา

 

“ใต้เท้า  ท่านต้องการสิ่งใดขอรับ?”

 

“ ทำให้แผนที่นี้หายไปจากความหลังของเด็ก”

 

ตงหลินตกใจเล็กน้อย  แต่ในไม่ช้าเขาก็พยักหน้าดึงกริชออกมาจากตัวและพยายามแทงลงไปที่หลังของเด็ก

 

“ท่านกำลังทำอะไร!”  ซูมู่เกอถลาเข้าไปและหยุดเขา

 

เซี่ยโฮวโม่มองไปที่นางและรอยยิ้มก็เกิดขึ้นที่ริมฝีปากของเขา  “แผนที่บนหลังของเขาวาดด้วยยาพิษชนิดหนึ่ง  แผนที่จะไม่มีวันหายไปจากเขาได้”

 

เมื่อได้ยินสิ่งเหล่านี้  ดวงตาของซูมู่เกอก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ  แต่ในไม่ช้านางก็มีสีหน้าโกรธเกรี้ยว

 

“ถงเอ๋อเป็นผู้บริสุทธ์  ถ้าท่านถลกหนังของเขา  ท่านสามารถฆ่าเขาได้!”

 

“ยังมีคนบริสุทธิ์อีกมากมายดังเช่นเขา  ตงหลินทำมัน”

 

“ขอรับ”

 

ตงหลินก้าวเข้าไปอีกครั้ง  และซูมู่เกอยืนตรงหน้าถงเอ๋อพร้อมปกป้องเขา นิยาย อ่านนิยาย

 

ตงหลินขมวดคิ้วและกำลังจะดึงตัวนางให้พ้นไป  แต่นางก็หลบเขาได้อย่างชาญฉลาด

 

“ใต้เท้าซู  ได้โปรดอย่างทำให้ข้าต้องสะดุดด้วยเรื่องเช่นนี้เลย”  ตงหลินตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก  เนื่องจากเขาไม่แน่ใจว่าเซี่ยโฮวโม่ต้องการอะไร

 

ซูมู่เกอเหวี่ยงตัวไปที่ถงเอ๋อจับเขาขึ้นมาและกำลังจะพาเขาออกไปเมื่อตงหลินเดินไปดักหน้านางไว้อย่างรวดเร็วเพื่อหยุดนาง

 

นางจ้องมองเซี่ยโฮวโม่ด้วยดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธ  “ใหเวลาหนึ่งวัน  และข้าจะทำให้แผนที่หายไปจากหลังเขา!”

 

เซี่ยโฮวโม่นั่งบนเก้าอี้และเล่นกับแหวนหยกที่นิ้วหัวแม่มือของเขา  เขาไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง

 

“ใต้เท้าเซี่ย  ท่านเป็นขุนนางที่ได้รับการแต่งตั้งจากราชสำนัก  ท่านจะเหยียบย่ำชีวิตผู้คนราวกับเป็นโคลนตมและขี้เถ้าได้อย่างไร!”  ซูมู่เกอกัดฟันด้วยความโกรธและเกลียดชัง

 

“ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น”  ในที่สุดเซี่ยโฮวโม่ก็เงยหน้าขึ้นและมองไปที่นาง

 

ซูมู่เกอพยักหน้าด้วยความเคารพ  “ได้  ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด