องค์หญิงหมอเทวะ – บทที่ 41 : เซี่ยโฮวโม่ ราชาแห่งจิน!

อ่านนิยายจีนเรื่อง World-shaking First Daughter: Powerful Medical Princess องค์หญิงหมอเทวะ ตอนที่ 41 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ซูมู่เกอก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว  “ข้ามีไปตรวจเยี่ยมคนไข้คนอื่นอีก  โปรดรอที่นี่เถิด  ท่านใต้เท้าเซี่ย”

 

“ท่านไม่สามารถช่วยอะไรได้!”  นางรำพึงออกมา

 

เซี่ยโฮวโม่ไม่ปฏิเสธในครั้งนี้  “ก็ดี”

 

หลังจากกำจัด “หาง” ที่เป็นปัญหานี้แล้ว  ซูมู่เกอพรูลมหายใจออกมาเป็นเวลานานและเดินไปที่หอผู้ป่วยต่างๆพร้อมชุดอุปกรณ์การแพทย์

 

จ้องมองร่างของนางที่กำลังถอยห่างไป  มีความเย็นชาเล็กน้อยในดวงตาของเซี่ยโฮวโม่  “โจวเหว่ย”

 

โจวเหว่ยเข้ามาจากด้านนอกเมื่อนายท่านของเขาเรียกหา

 

“ขอรับ  ใต้เท้า”

 

“กุยหม่าหายไปไหน?”

 

“หมอกุยได้ออกจากค่ายหยานเซี่ยไปแล้วขอรับ  และน่าจะเดินทางไปยังดินแดนพวกตะวันตก”

 

เซี่ยโฮวโม่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย  “เขาไปยังดินแดนพวกตะวันตก?”

 

“ขอรับ”

 

“อืม ปล่อยเขาไป”

 

“ใต้เท้า  ที่ท่านกำลังมองหาหมอกุยเพราะรู้สึกไม่สบายหรือไม่ขอรับ?  อย่างไรเสียส่งข้อความและเรียกให้เขากลับมาไหมขอรับ?”

 

เซี่ยโฮวโม่ส่ายหัว  “ไม่  ไปหาหมอที่เชี่ยวชาญมาให้ได้ก่อนเย็นวันพรุ่งนี้”

 

“ขอรับ”

 

ซูมู่เกอเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยและเริ่มตรวจเพิ่มเติมและบอกวิธีการรักษา การดูแลกับผู้ป่วยแต่ละราย  ถามพวกเขาเกี่ยวกับปฏิกิริยาของพวกเขาหลังจากรับประทานยา

 

เมื่อนางมาถึงเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่นอนอยู่ที่มุมห้อง  ซูมู่เกอขมวดคิ้ว

 

“ขอบันทึกทางการแพทย์ให้ข้าด้วย”  นางได้จดบันทึกสถานการณ์ของทุกคนเมื่อนางไปตรวจเยี่ยมผู้ป่วยทุกคนเมื่อวานนี้

 

วันนี้  ที่ปรึกษาหลี่ขอให้ผู้ช่วยแพทย์รุ่นใหม่หลายคนมาช่วยนาง  และทุก ๆ สามคนได้รับการจัดสรรให้ดูแลผู้ป่วยในหนึ่งห้อง

 

ผู้ช่วยแพทย์อายุราวๆสิบสองปี  หรือสิบสามปีไปเอาเวชระเบียนที่แขวนไว้ตรงผนังห้อง และส่งมอบให้ซูมู่เกอตามคำขอของนาง

 

ซูมู่เกอดูบันทึกเกี่ยวกับอาการของเด็กหญิงตัวเล็กๆคนนั้นในเวชระเบียน  เมื่อนางตรวจสอบอาการเมื่อวานนี้  เด็กหญิงตัวเล็กอ่อนแอและเบื่ออาหาร  ตอนนั้นเด็กหญิงตัวเล็กไม่มีไข้และชีพจรปกติ

 

“มีอะไรผิดปกติกับเด็กหลังจากทานยาเมื่อวานนี้หรือไม่?”

 

ผู้ช่วยแพทย์หนุ่มคนหนึ่งส่ายหน้า  “เนื่องจากน้องสาวยังเด็กมาก  ข้าดูแลนางเป็นพิเศษในบางเวลาข้าเข้ามาดูนางอีก  นางหลับไปหลังจากทานยาและทานโจ๊ก  ตอนนั้นไม่มีอะไรผิดปกติขอรับ”

 

ซูมู่เกอตรวจสอบสาวน้อยอีกครั้งและพบว่ามีอาการคล้ายๆกับเด็กชายที่เป็นไข้

 

“ถ่ายทอดคำพูดของข้าไป  และเตรียมห้องว่างเพิ่มเติม  ทำความสะอาดด้วยน้ำส้มสายชูต้มน้ำเดือดเพื่อฆ่าเชื้อโรค แล้วห้ามไม่ให้คนอื่นเข้ามาในห้อง”

 

ผู้ช่วยแพทย์หนุ่มเกาหัวด้วยความสับสน  “ใต้เท้าซู  เรามีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นหรือ?”

 

ซูมู่เกอส่ายหัวและอธิบายว่า  “ในกรณีนี้มันจำเป็น  ลงมือทำมันตอนนี้เลย”

 

“ขอรับ”

 

ซูมู่เกอจึงขอให้ผู้ช่วยแพทย์อีกสองคนช่วยพาเด็กหญิงไปยังห้องว่างอีกห้องหนึ่ง

 

นางไปตรวจคนไข้คนอื่น ๆ อีก  และหลังจากไม่พบความผิดปกติ  นางจึงออกจากห้องผู้ป่วยมา

 

พระอาทิตย์กำลังตกดินเมื่อในที่สุดนางก็ออกมา

 

“ใต้เท้าซู  ห้องว่างตามความต้องการท่านพร้อมหมดแล้วขอรับ”

 

ซูมู่เกอพยักหน้า “ดี  พาเด็กหญิงตัวเล็กคนนั้น เข้าไปและคืนนี้ดูแลนางเป็นพิเศษด้วย  หากมีอะไรผิดปกติให้รีบมาเรียกข้าที่บ้านพักหย่าเหมินโดยเร็วที่สุด”

 

“แน่นอนขอรับ  ใต้เท้า  ข้ารับทราบ”

 

จนกระทั่งซูมู่เกอเดินออกจากประตูโดยมีชุดเครื่องมือแพทย์อยู่ด้านหลังนางก็ตระหนักถึงสิ่งที่น่าอึดอัดใจ  เงยหน้าขึ้น  นางเห็นเซี่ยโฮวโม่ยืนอยู่ข้างรถม้า  และหยุดชั่วขณะ

 

“ใต้เท้าเซี่ย…” นางอยู่ในหอผู้ป่วยนานจนลืมผู้ชายคนนี้ไปเสียสนิท  คาดไม่ถึงว่าเขายังอยู่ที่นั่น!

 

ใบหน้าของเซี่ยโฮวโม่ดูเฉยเมยและไม่สามารถรับรู้อารมณ์ของเขาได้ เขากล่าวว่า  “ท่านใต้เท้าซู  ท่านทำงานเสร็จแล้วหรือ?”

 

“ขอรับใต้เท้า  ขออภัยที่ทำให้ท่านต้องรอนาน”

 

“ไปกันเถอะ”  เซี่ยโฮวโม่หันกลับไปและขึ้นรถม้า แม้ว่าจะรู้สึกไม่เต็มใจ  ซูมู่เกอก็ตามเขาไปเนื่องจากนางไม่ต้องการเดินกลับไปที่ที่พักหย่าเหมิน

 

รถม้าแล่นไปข้างหน้าบนถนน

 

ในพื้นที่ปิด  ซูมู่เกอรู้สึกง่วงงุนกับบรรยากาศอันเงียบสงบ  ต่อสู้กับเปลือกตาที่จะปิดของนาง ในขณะที่กลิ่นรอบจมูกของนางยังคงบอกนางว่า  นางต้องตื่นให้ได้!

 

เมื่อพวกเขามาถึงจวนหย่าเหมิน  ตาของนางเป็นสีแดงด้วยความเหนื่อยล้าและง่วงนอน

 

เซี่ยโฮวโม่ลงจากรถม้าก่อน  ตามมาด้วยซูมู่เกอ  อย่างไรก็ตามด้วยชุดแพทย์ในมือของนาง  นางสะดุดและรู้สึกเจ็บที่เข่าอย่างกะทันหัน  นางงอเข่าโดยไม่รู้ตัว  ตกลงสู่พื้น

 

โอ้ย ไม่นะ!

 

อีกแล้วเหรอ!

 

 

เวลานี้  อย่างไรก็ตาม  คราวนี้ซูมู่เกอตอบสนองอย่างรวดเร็ว  นางสามารถทรงร่างกายของนางไว้ได้ตราบเท่าที่นางเอื้อมมือไปที่ขอบของรถม้า

 

แต่มีคนเร็วกว่า  เซี่ยโฮวโม่เอื้อมมือจับนางไว้และดึงนางเข้าสู่อ้อมแขนของเขา

 

“อุ๊ย!”

 

ด้วยความประหลาดใจ  ซูมู่เกอไม่ได้รู้สึกผิดอะไรก่อนที่นางจะพบสมดุลของนาง

 

นางก้มศีรษะลงและเห็นมือใหญ่ แต่เรียวบนหน้าอกของนาง  นางพลิกตัวในอ้อมแขนของเขาและดิ้นรน

 

“ปล่อยข้า!”

 

เซี่ยโฮวโม่ปล่อยมือออกช้าๆ

 

ซูมู่เกอจ้องมองเขาด้วยอาการอ้าปากค้างจากอุบัติเหตุนี้

 

“นี่เป็นครั้งที่สอง  อืม ดูเหมือนว่าท่านใต้เท้าซู  ขาของท่านสั้นเกินไปจริงๆ”  ดูเหมือนจะมีประกายหยอกล้อในดวงตาสีดำเข้มที่ลึกล้ำนั้น

 

ซูมู่เกอกัดฟันด้วยความโกรธ  ซูมู่เกอสาบานกับตัวเองในใจว่า  “ขอให้ท่านเป็นคนที่มีขาขึ้นมาก!”  ครอบครัวของท่านทุกคนมีขาสั้น!”

 

“ใต้เท้าเซี่ย  ข้าขอโทษที่ทำให้ท่านลำบาก!  ข้าขอลา”  ซูมู่เกอหยิบอุปกรณ์การแพทย์ของเธอไว้ในมือและเดินเข้าไปในเขตบ้านพัก  ผ่านเซี่ยโฮวโม่  ที่ปรึกษาหลี่ที่เพิ่งออกมาและเข้าไม่รู้เรื่องเสียหน้าของนาง

 

“ใต้เท้าเซี่ย….ใต้เท้าซู  เขา….”

 

มองลงไปที่มือของเขา  มีรอยยิ้มจางๆเกิดขึ้นบนใบหน้าของเซี่ยโฮวโม่

 

“ไม่มีอะไร”  หลังจากนั้นเขาก็เดินผ่านหน้าที่ปรึกษาหลี่และเดินเข้าสู่เขตบ้านพักเช่นกัน

 

ที่ปรึกษาหลี่ยืนนิ่งพร้อมกับคำถามนับพันในใจของเขา  ทำไมมีบรรยากาศแปลกๆ ระหว่างใต้เท้าทั้งสอง?

 

“ปัง!” ซูมู่เกอปิดประตูตามหลังนางอย่างแรงหลังจากที่นางกลับมาที่ห้องและนั่งลงบนเก้าอี้  ความโกรธในตัวนางไม่ได้หายไปจนกว่าจะถึงเวลาต่อมา

 

นางวางมือบนหน้าอกและสัมผัสมัน  ด้วยการขาดสารอาหาร  ดังนั้นลักษณะความเป็นหญิงของนางจึงไม่เติบโตดีมากขนาดนั้น  นอกจากนี้นางยังยุ่งอยู่กับการจัดการกับสิ่งของต่างๆโดยแทบไม่ได้ใส่ใจกับอาหารและการพักผ่อนของนางเลย  แม้ตอนนี้นางดูดีขึ้น  นอกจากนี้  ยังมีเครื่องรัดตัวที่สวมอยู่บนตัวนางซึ่งทำให้รู้สึกแข็ง  ไม่น่าจะมีข้อบกพร่องให้เขาจับได้

 

ชายคนนี้อันตรายเกินไป  นางเริ่มสงสัยว่านางอันได้รับข่าวที่ส่งกลับไปที่คฤหาสน์ซูหรือยัง  นางขอให้นางอันจัดคนเพื่อมาค้นหาซูหลุนอย่างลับๆ  เมื่อนางออกมาจากคฤหาสน์

 

สิ่งสำคัญคือต้องทำให้ชัดเจนว่าซูหลุนถูกจับหรือถูกฆ่า  อาจมีปัญหาหลายอย่างในภายหลัง  แม้ว่านางจะแก้ไขปัญหาในตอนนี้ที่เขตโจวตราบจนที่ยังไม่พบตัวซูหลุน

 

หลังจากทานอาหารเย็นที่ยายฟางนำมาให้อย่างเร่งรีบ  ซูมู่เกอนำตัวอย่างเลือดที่ได้จากเด็กทั้งสองคนในวันนี้ออกมา

 

ถ้ามีเพียงคนเดียวที่เป็นโรคนี้ก็คงจะดี  แต่ตอนนี้มีสองคนแล้วและนางก็อดไม่ได้ที่จะให้ความสนใจมันเป็นพิเศษ

 

นอกเขตหย่าเหมินมีร่างสีดำสองร่างซ่อนตัวอยู่ในตรอกลึกตรงข้าม

 

หลังจากสังเกตอย่างลับๆมานาน  พวกเขาจากไปอย่างรวดเร็ว  ไปยังบ้านที่อยู่ห่างไกล

 

ในความมืด  คนหนึ่งผลักประตูให้เปิดและเข้าไป  ในขณะที่อีกฝ่ายเฝ้าดูสภาพแวดล้อมอย่างระมัดระวัง  ก่อนจะปิดประตูตามหลังพวกเขา

 

“นายท่านกำลังกระตุ้นพวกเรา ท่านจะได้รับมันเมื่อไหร่?” เสียงแหบดังออกมาจากความมืด

 

“ข้าวางแผนที่จะดำเนินการก่อนที่ข้าจะมาถึงที่นี่เขตโจว  แต่ดูเหมือนชายคนนั้นจะเป็นเชี่ยวชาญ  ข้ากลัวที่จะกระตุ้นความสงสัยของเขาดังนั้นข้าจึงไม่ลงมือ”

 

เสียงแหบแห้งด้วยความเย็นชา  “หลังจากผ่านมาหลายปีกับใต้เท้า  ดูเหมือนท่านจะยังไม่ใจเลย!  ท่านไม่รู้วิธีซ่อนสิ่งที่สำคัญเช่นนี้ไว้กับตัวเอง!”

 

“ถ้าข้ามีมันกับข้า  ข้าไม่สามารถออกจากค่ายหยานเซี่ยได้”

 

“ข้าไม่สนใจเรื่องนั้น  หากเจ้าไม่ได้อะไรเลยก่อนสิ้นเดือนนี้  เจ้าไม่ต้องกลับไป!”

 

ร่างในความมืดกัดฟันกรอด  ตอนนี้มันเหลือเวลาแค่เพียงไม่กี่วันก่อนสิ้นเดือน!

 

“ข้าทราบ!”

…………….

 

“ดูซิ  ใต้เท้าซู  คนที่ใต้เท้าเซี่ยจัดเตรียมไว้ได้ยกตลิ่งด้วยทรายและหิน  น้ำหยุดไหล!”  ที่ปรึกษาหลี่ชี้ไปที่ริมฝั่งแม่น้ำไม่ไกลด้วยความตื่นเต้น

 

ที่ปรึกษาหลี่มาหานางเมื่อเช้านี้บอกว่าน้ำท่วมหยุดแล้ว  และมันจะไม่มาถึงเขตโจวอีกต่อไป  ตามความเร็วก่อนหน้าของน้ำท่วม  เขตโจวทั้งหมดจะถูกน้ำท่วมหมดแล้วในตอนนี้!

 

ซูมู่เกอยังสงสัยว่าใต้เท้าเซี่ยจะหาคนที่มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงขนาดนี้ได้ที่ไหน  ดังนั้นนางจึงตามที่ปรึกษาหลี่ไปที่ริมฝั่งแม่น้ำเพื่อตรวจสอบ

 

“มานี่เร็ว  ยกกระสอบทราบมาที่นี่  ยังมีช่องว่าอยู่ตรงนี้อีก!”

 

“เร็วเข้า!”

 

เมื่อมองไปที่ชายในเครื่องแบบที่ทำจากผ้าเนื้อหยางในดวงตาของซูมู่เกอก็มีแต่ความประหลาดใจ

 

คนเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีและมีพลังพร้อมกับความแข็งแกร่ง  เมื่อพวกเขาทำมัน  พวกเขาไม่พูดอะไรซักคำ  แต่แค่จดจ่อกับงานของตน

 

พวกเขาไม่ใช่คนที่จับพลัดจับพลูมาจากหมู่บ้านหนือเขตเมืองใกล้เคียงเลย  แต่กลับดูเหมือนกลุ่มทหารที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี!

 

เบื้องหลังของใต้เท้าเซี่ยท่านนี้คืออะไรกันแน่?  เขาสามารถหากองทัพที่แข็งแกร่งเพื่อแบกกระสอบทรายได้ในเวลาอันสั้น!

 

ฝนค่อยๆหยุดตกในสองวันนี้  ด้วยแนวโน้มนี้น้ำท่วมจะไม่เลวร้ายลงไปกว่านี้

 

“ที่ปรึกษาหลี่  ตำแหน่งทางการของใต้เท้าเซี่ยในราชสำนักของจักรพรรดิคืออะไร?”  ซูมู่เกอถามระหว่างเดินทางกลับ

 

ที่ปรึกษาหลี่รู้สึกประหลาดใจที่ได้ยินคำถามเช่นนี้จากซูมู่เกอ  เจ้าเมืองชุนหยางจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?

 

สังเกตเห็นความประหลาดใจในดวงตาของเขา  ซูมู่เกอไอเบาๆ และพูดว่า  “ที่ปรึกษาหลี่  ท่านรู้ว่าข้ายุ่งอยู่กับงานบรรเทาอุทกภัยในสองสามวันมานี้ และข้าไม่ได้นำใครมาด้วยเพื่อช่วยเหลือ  มันจึงเป็นเรื่องทียอมรับได้สำหรับข้าที่จะเพิกเฉยต่อบางสิ่ง”

 

ที่ปรึกษาหลี่เชื่อในคำอธิบายนี้และตอบนางว่า  “ใต้เท้าเซี่ยดำรงตำแหน่งก่อนตำแหน่งอันดับหนึ่งในราชสำนัก  และตราประทับอย่างเป็นทางการของเขานั้นไม่ธรรมดา”

 

ที่ปรึกษาหลี่ใช้ชีวิตครึ่งหนึ่งในเขตโจว  และเขาได้ตำแหน่งนี้ในเขตหย่าเหมินโดยอาศัยความสัมพันธ์อันใกล้ชิด  เขาไม่ได้มีการศึกษาในระดับดี  แต่เขาก็รู้ดีเกี่ยวกับโลกและผู้คน  ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เขารักษาตำแหน่งนี้ได้จนถึงตอนนี้

 

มันไม่เคยมีมาถึงเขาเลยที่เขาได้ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของราชสำนักในช่วงชีวิตของเขา  คงเป็นเรื่องน่ายินดีที่ต้องถ่ายทอดต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน!

 

“ก่อนการจัดอันดับแรก?”

 

ทันใดนั้น  หัวใจของนางก็ขึ้นมาจุกที่ลำคอ

 

ที่จริงแล้ว  ที่ปรึกษาหลี่ไม่ค่อยชดเจนเกี่ยวกับการจัดอันดับในระดับนั้น  ซูมู่เกอรู้  นางให้เยว่รู่ช่วยรื้อฟื้นข้อมูลมากมายเกี่ยวกับราชวงศ์นี้เมื่อนางรู้ว่านางได้รับประสบการณ์ในการเดินทางข้ามเวลา

 

ตำแหน่งสูงสุดอย่างเป็นทางการของฉู่เป็นอันดับแรก  นั้นเรียกว่า “ก่อนอันดับหนึ่ง”  สามารถเป็นเพียงตำแหน่งขุนนางเท่านั้น  องค์ชายแห่งราชวงศ์  หรือสถานะราชาผู้ครองแผ่นดินแห่งข้าราชบริพาร!

 

นั่นหมายความว่า  “ใต้เท้าเซี่ย”  คนนี้ก็คือองค์ชายแห่งราชวงศ์ หรือราชาแห่งข้ารับใช้ทั้งหลาย!

 

เดี๋ยนะ  เซี่ย….ถ้านางจำไม่ผิด  ชื่อสกุลของราชวงศ์ฉู่ มีตัวอักษรสองตัว….เซี่ยโฮว…ดังนั้นชื่อแรกของเขาคือเซี่ยโฮว แทนที่จะเป็นเซี่ย!

 

เยว่รู่เคยกล่าวไว้ว่าในค่ายหยานเซี่ย  ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองชุนหยางหนึ่งร้อยไมล์  มีกษัตริย์ที่อยู่ยงคงกระพัน  ราชาแห่งจิน  เซี่ยโฮวโม่!

 

ด้วยท่าทางที่สง่าผ่าเผยนี้  “ใต้เท้าเซี่ย” คนนี้  รวมกับกองทัพที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีที่นางเพิ่งได้เห็น  นางมั่นใจแล้วในตอนนี้ว่าใต้เท้าเซี่ยคนนี้ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากราชสำนัก  แต่เป็นเซี่ย โฮวโม่ ราชาแห่งจิน ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์กับจักรพรรดิ!

 

ที่ปรึกษาหลี่เห็นใบหน้าของซูมู่เกอในตอนแรกเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นสีขาวซีดเผือด  แล้วเปลี่ยนจากซีดเป็นดำ  ในที่สุดมันก็ดูตกใจราวกับถูกฟ้าผ่า  เขางงงวยเกี่ยวกับปฏิกิริยาของนาง

 

“ใต้เท้าซู  ท่าน  ท่านสบายดีไหมขอรับ?”

 

ซูมู่เกอเงยหน้าขึ้นมองที่ปรึกษาหลี่  นิ่งและเงียบ

 

ข้าทำอะไรไม่ถูก  ข้าพูดอะไรไม่ได้เลย!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด