The Daily Life of the Immortal King – ตอนที่ 73

อ่านนิยายจีนเรื่อง The Daily Life of the Immortal King ตอนที่ 73 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 73 ชุนน้อยอยู่ไหมเอ่ย?

 

 

เส้นทางการเดินรถบัสได้ถูกกำหนดโดยโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว โดยที่จะไล่ส่งเด็กนักเรียนไปยังบ้านตามระยะทางที่ใกล้ที่สุดจนถึงไกลที่สุด

 

บ้านของหวังลิ่งนั้นอยู่ไกลที่สุดเขาจึงเป็นคนสุดท้ายที่ถึงบ้าน

 

ทางโรงเรียนได้จ่ายค่าทำงานล่วงเวลาให้แก่คนขับรถในการไปส่งให้ถึงบ้านของนักเรียนเพื่อรับรองความภัยให้แก่นักเรียน ถึงแม้จะเป็นการเดินรถที่แสนยาวนานแต่คนขับรถก็ไม่ได้ปริปากบ่นแม้แต่คำเดียว

 

เมื่อคนขับรถขับมาถึงหน้าบ้านของหวังลิ่ง เขามองไปยังบ้านของหวังลิ่ง ซึ่งเป็นบ้านเพียงหลังเดียวที่ส่องสว่างท่ามกลางทะเลทรายทำให้เขารู้สึกเห็นใจต่อหวังลิ่ง

 

‘เด็กคนนี้ช่างน่าสงสารจริงๆ’

 

ทุกวันนี้ราคาบ้านในเมืองก็ไม่ค่อยสูงแล้ว แต่ครอบครัวนี้ก็ยังไม่สามารถซื้อบ้านที่อยู่ใกล้กับโรงเรียนได้และยังคงอาศัยอยู่พื้นที่ชนบทที่อยู่เกือบสุดขอบเมือง เด็กคนนี้คงไปโรงเรียนอย่างยากลำบากทุกวันสินะ

 

คนขับรถคำนวณคร่าวๆในใจ แม้ว่าจะใช้รถบัสพลังวิญญาณก็ยังใช้เวลาไปกลับไม่ต่ำกว่าสองชั่วโมงจากโรงเรียน ทำให้เด็กคนนี้คงมีอาการพักผ่อนไม่เพียงพอด้วยถึงได้มีหน้าตาซังกะตายแบบนี้

 

หน้าตาของหวังลิ่งในขณะนี้แสดงออกมาว่าเหนื่อยจริงแต่ทว่ามันเป็นความเหนื่อยมาจากอย่างอื่น เขาเหนื่อยเพราะนั่งบนรถคันนี้มานี่แหละ ถ้าเขาเดินมาเองเขาคงถึงไปตั้งนานแล้ว!

 

ด้วยการที่คนขับรถเป็นคนขี้สงสารเขาจึงหยิบสิ่งที่เขาคิดว่าจะให้เอาไว้ออกมาและจึงเรียกหวังลิ่งในขณะที่เขากำลังจะเดินลงจากรถ “นี่หนู!”

 

หวังลิ่งหันหลังกลับมาด้วยความสงสัย “???”

 

ลุงคนขับรถยื่นธนบัตรร้อยหยวนจำนวนห้าใบให้แก่หวังลิ่ง “นี่หนู ลุงก็เป็นแค่พนักงานขับรถตาดำๆคนนึง ลุงเห็นว่าฐานะการเป็นอยู่ของหนูมันไม่ค่อยดี ลุงก็มีตังไม่มากนี่อาจจะเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆที่ลุงจะช่วยได้ รับไว้เถอะนะ!”

 

“…”

 

หวังลิ่งยืนอยู่ข้างถนนหลังจากที่ลงรถมา เขามองรถบัสคันนั้นค่อยๆวิ่งหายไปจากคลองสายตา ในขณะที่มือของเขายังกำเงินจำนวนห้าร้อยหยวนด้วยความงุนงง

 

…………………………………

 

 

เมื่อหวังลิ่งเข้าบ้านมาตรงทางเดินนั้นค่อนข้างมืดมีเพียงแสงลอดออกมาจากทีวีในห้องนั่งเล่น จากการฟังเสียง หวังลิ่งรู้ว่าแม่ของเขากำลังนั่งดูรายการโปรดของเธออยู่ซึ่งมันชื่อว่า “ตำนานของเจิ้งหวน” ซึ่งเป็นเรื่องต่อจากองค์หญิงไข่มุก โดยเนื้อเรื่องมีอยู่ว่า มีผู้หญิงคนนึงนามว่าเจิ้งหวน ผู้ซึ่งเก็บรวบรวมแหวนทั้งห้าต่อสู้ฝ่าฟันผู้เข้าแข่งขันจนชนะการแข่งขันโอลิมปิกของเหล่าผู้ฝึกต้น

 

แม่ของหวังลิ่งดูตอนนี้ไปแล้วเมื่อตอนหัวค่ำขณะนี้มันเป็นการรีรันรายการ เหตุผลที่เธอยังคงอยู่ในห้องนั่งเล่นเพราะว่าเธอเฝ้ารอการกลับมาของลูกชายสุดที่รักของเธอ

 

แต่ท้ายที่สุดเธอก็ไม่สามารถต้านอาการง่วงของร่างกายตัวเองได้และผล็อยหลับไป

 

คุณแม่ของหวังลิ่งนั่นเป็นเพียงแค่คนธรรมดาถึงแม้ว่าเธอจะมีพลังลมปราณแต่ก็มีเพียงเล็กน้อย เปรียบเทียบกับผู้ฝึกตนคนอื่นเธอก็เป็นแค่เพียงคุณป้าวัยกลางคนคนหนึ่ง

 

แม่ของหวังลิ่งนั้นนอนอยู่บนโซฟา มุมปากของเธอเผยอขึ้นเล็กน้อยราวกับว่าเธอกำลังฝันดีอยู่ บนตัวเธอมีผ้าห่มคลุมอยู่หวังลิ่งคิดว่าพ่อของเขาคงเป็นคนเดินมาห่มผ้าห่มให้

 

หวังลิ่งมองไปยังนาฬิกา เขาเห็นว่าขณะนี้เป็นเวลาตีสองแล้ว

 

เขาจึงวาดมือของเขาไปบนอากาศเกิดละอองพลังวิญญาณขึ้นรอบตัวแม่ของเขาก่อนจะที่จะหายไป ร่างของคุณแม่ได้ถูกย้ายไปอยู่บนเตียงในห้องนอนของเธอเป็นที่เรียบร้อย

 

หลังจากนั้นหวังลิ่งจึงค่อยๆเดินขึ้นไปยังชั้นสอง หลังจากผ่านไปสี่วันเขารู้สึกคิดถึงห้องนอนห้องเล็กๆของเขามาก พ่อแม่ของหวังลิ่งนอนในห้องใหญ่บนชั้นสาม นอกจากห้องนอนของเขาที่อยู่บนชั้นสองแล้ว ยังมีห้องทำงานของคุณพ่อของเขาเช่นกันที่อยู่ในชั้นสอง

 

หวังลิ่งสังเกตเห็นแสงในห้องทำงานของพ่อเขาซึ่งแปลว่าพ่อของเขายังคงทำงานเขียนของเขาอยู่

 

ทันทีที่หวังลิ่งเห็นเขาก็รู้ทันทีว่าพ่อของเขากำลังเขียนบล็อกของเขาอยู่

 

สำหรับนักเขียนนิยายแล้ว แรงบันดาลใจถือเป็นเลือดเนื้อของพวกเขา แม้ว่าพ่อของหวังลิ่งจะไม่ได้เรียนเก่ง การเขียนนิยายนั้นต่างไปจากงานเขียนทั่วไป ซึ่งมันสามารถเพิ่มความเก่งกาจขึ้นได้จากประสบการณ์การอ่านนิยาย หลังจากที่เขาคลุกคลีอยู่ในวงการนักเขียนมามากกว่าสิบปี สไตล์งานเขียนของเขาก็ถือว่าไม่เลว แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถเขียนได้มากกว่าหมื่นคำต่อวันได้แล้ว ทุกวันนี้เขายังคงค้นหาพล็อตสำหรับเขียนงานของเขาอยู่

 

นักเขียนค้นหาแรงบันดาลใจมาจากหลายทาง ทั้งการสูบบุหรี่ การดื่ม แต่สำหรับพ่อของหวังลิ่งมันพิเศษกว่านั้น ทุกครั้งที่เขาไปยุ่งกับบล็อคนักเขียนเขาจะต้องเข้าห้องสตรีมมิ่ง เพื่อสื่อสารแบบใจถึงใจระหว่างแคสเตอร์สาวในการค้นหาแรงบันดาลใจของเขา

 

พ่อของหวังลิ่งมีชื่อเต็มๆว่า หวังเจียว ในการที่เขาจะได้เข้าใกล้เหล่าแคสเตอร์นอกจากการซื้อของขวัญการบริจาคแล้ว เขาต้องใช้ชื่อที่ดูน่ารักกุ๊งกิ๊งอย่างที่เขากำลังใช้ในตอนนี้ หวังเจียวเม่ย

 

แน่นอนว่าแม่ของเขาไม่รู้เรื่องพวกนี้ ถ้าหากแม่ของเขารู้เข้าหล่ะก็พ่อของเขาอาจจะอยู่ไม่พ้นรุ่งสางของวันรุ่งขึ้น… และในการที่จะให้หวังลิ่งเก็บเรื่องนี้ไว้ พ่อของเขาได้ติดสินบนด้วยการอนุญาตให้เขาทำสิ่งต่างๆได้เยอะขึ้น

 

บางทีมันอาจจะเป็นเพราะอะไรหลายๆอย่างเกิดขึ้นตลอดสี่วันที่ผ่านมา ทำให้หวังลิ่งรู้สึกอยากรู้และสงสัยว่าพ่อของเขากำลังทำอะไรอยู่

 

หวังลิ่งคิดว่าเชื้อความอยากรู้อยากเห็นของกัวหาวอาจจะแพร่มาถึงเขา ซึ่งก่อนหน้านี้เขาไม่ได้เป็นคนชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้านสักเท่าไหร่

 

เขาจึงลุกขึ้นนั่งและหันหน้าไปทางห้องทำงานของพ่อเขา ม่านตาของเขาทำหน้าที่เหมือนเครื่องแสกนซึ่งสามารถมองทะลุกำแพงได้ เขาเพ่งไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ของพ่อเขา

 

หวังลิ่งเห็นว่าพ่อของเขาพิมพ์ชื่อห้องของสตรีมเมอร์ลงไป “จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า” ข้างๆชื่อห้องมีชื่อของแคสเตอร์หญิงเขียนอยู่ “ID : ชุนน้อย”

 

หวังลิ่งรู้สึกตกใจเขาเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน ผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่ฮอตที่สุดแล้วในบรรดาสตรีมเมอร์หญิงในขณะนี้ ด้วยรูปร่างหน้าตาสะสวย เสียงหวานและเธอพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับบรรดาคนเหงาในยามค่ำคืน

 

ในอันดับการบริจาคของแฟนคลับ หวังลิ่งแอบเห็นว่าพ่อของเขานั้นอยู่ในสิบอันดับยอดบริจาค และเขามีตำแหน่งเป็นถึงดาบของช่องด้วย! สองแสนแต้มในเดือนนี้… ซึ่งหมายความว่าเขาใช้ตังอย่างน้อยสองหมื่นหยวนบนช่องสตรีมเมอร์หญิงคนนี้!

 

ถ้าหากหวังลิ่งส่งภาพถ่ายหน้าจออันดับอันนี้ไปให้แม่ของเขา พ่อของเขาคงเหลือแค่เศษกระดูก…

 

แต่เพื่อความสงบเรียบร้อยของครอบครัวหวังลิ่งไม่ทำแบบนั้นหรอก

 

จากที่เห็นพ่อของเขาคงเป็นคนดังในช่องนี้ ทันทีที่เขาออนไลน์ก็มีการแจ้งเตือนในช่องแชทว่า [ดาบของช่องชุนน้อย : หวังเจียวเม่ย ออนไลน์!]

 

ในขณะนี้ภายในห้องของสตรีมเมอร์หญิงคนนั้นไม่มีใครอยู่ ดูเหมือนว่าเธอลุกออกไปเข้าห้องน้ำหรือทำธุระส่วนตัว…

 

ในช่องนี้ มีเพียงแค่ดาบของช่องที่สามารถพูดโต้ตอบโดยตรงกับสตรีมเมอร์หญิงคนนั้นได้

 

เมื่อพ่อของหวังลิ่งเห็นว่าไม่มีใครอยู่ เขาจึงสวมเฮดเซ็ตและเคลียร์ลำคอ

 

หลังจากนั้นพ่อของหวังลิ่งก็พูดด้วยน้ำเสียงน่ารักขี้เล่นอย่างที่หวังลิ่งไม่เคยได้ยินมาก่อน

 

“ชุนน้อยอยู่ไหมเอ่ย? ชุนน้อย? จั๊บ จั๊บ จั๊บ จั๊บ… นี่เจียวเม่ยเอง!”

 

หวังลิ่ง “…” (=..=)

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด