The Daily Life of the Immortal King – ตอนที่ 94

อ่านนิยายจีนเรื่อง The Daily Life of the Immortal King ตอนที่ 94 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 94 สิ่งที่น่ากลัวที่สุด

 

 

หลังจากลี่เหมงเหมงกลับไป พ่อของหวังลิ่งได้ไปคุ้ยหาเบาะแสภายในห้องเก็บของและเจอเข้ากับกล่องลายดอกกุหลาบกล่องหนึ่ง ซึ่งมันเป็นของที่คุณพ่อของเขาฝากฝังเขาไว้ว่าให้ฝังไปพร้อมกับร่างกายเมื่อเวลานั้นมาถึง

 

พ่อของหวังลิ่งรู้ว่าภายในกล่องนั้นบรรจุความลับมากมายของชายแก่เอาไว้ เมื่อตอนที่ชายแก่รู้ตัวว่าเป็นโรคทางสมองชายแก่ก็เตรียมกล่องใบนี้ขึ้นมาเผื่อในกรณีที่เลวร้าย และย้ำเขาไว้ว่าห้ามเปิดมันเด็ดขาด แต่ขณะนี้เขาไม่สนแล้วว่ามันจะเป็นเช่นไรขอแค่รักษาชายแก่ไว้ได้ก็เป็นพอ

 

“เธอ เหมือนหยดฝน ที่ชโลมหัวใจฉัน เธอ เหมือนสายรุ้ง ที่ทำให้หยุดมอง เธอ เหมือนแสงจันทร์ ที่ทำให้ใจฉันสดใส เหมือนสายธารที่ไหลเชี่ยวเหนือน้ำตก ฉันอยากจะกุมมือเธอ วิ่งกระโดดและปั่นจักยานภายใต้แสงอาทิตย์อันร้อนแรง”

 

“อ้า~ฉันชอบเธอ ฉันชอบท่าทีเย็นชาของเธอต่อมุขของฉัน ฉันชอบยามที่เธอพูดจารวดเร็ว เมื่อฉันไปซื้อของกับเธอฉันชอบท่าทีของเธอที่งุนงงและสับสนเล็กน้อย การข้ามถนนด้วยการจูงมือกับเธอ พวกเราไม่ต้องไปไหนไกลเพราะจุดหมายปลายทางของพวกเราคือความสุข”

 

พ่อของหวังลิ่งอ่านออกเสียงจดหมายรักฉบับนี้ด้วยเสียงค่อนข้างดัง ชายแก่น่าจะเป็นคนเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมาด้วยลายมือของตัวเอง

 

ทั้งพ่อของหวังลิ่งและตัวของหวังลิ่งเอง ตัวสั่นเพราะกลั้นหัวเราะบทกวีจากจดหมายรักฉบับนี้ และแม้แต่ขนของเจ้าสองสีเองก็ลุกซู่ด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก จดหมายรักฉบับนี้ถูกเขียนขึ้นมาด้วยการผสมผสานระหว่างประโยคของเด็กประถมและเพลงที่ฮิตในช่วงนั้น

 

‘ยังมีใครที่จะสารภาพรักด้วยวิธีแบบนี้อีกหรือ?’

 

สองสีสงสัยว่าไอจดหมายนี่มันจะได้ผลไหมถ้าหากได้มีโอกาสมอบให้หญิงสาวคนนั้น…

 

พ่อของหวังลิ่งชี้ไปยังกองจดหมายภายในกล่อง ทุกๆฉบับได้ถูกเขียนขึ้นโดยตาแก่ด้วยหลากหลายสไตล์ เป็นที่ทราบกันดีว่าเมื่อตอนที่คุณปู่เป็นหนุ่ม เขาค่อนข้างจะคาสโนว่าเอาการ ทำให้พ่อของเขามีความชำนาญในการเขียนจดหมายรักตามนิสัยและความชอบของผู้หญิงเหล่านั้น

 

หลังจากเปิดจดหมายมาหลายฉบับ ในที่สุดพ่อของหวังลิ่งก็พบจดหมายที่เขียนถึงรักแรกของตาแก่ ซึ่งมีด้วยกันหลากหลายสไตล์ในการเขียน

 

“เธอเหมือนดั่งปุยเมฆสีขาวและฉันเป็นดั่งก้อนดินสีดำไร้ค่า แม้ว่าเธอจะอายเจ็ดสิบเอ็ด หรือ ฉันอายุเจ็ดสิบห้า… ฉันจะกุมมือเธอไว้และแก่ไปพร้อมเธอ เมื่อฉันแก่ฉันจะยังคงล่องเรือด้วยเรือชำรุดของฉัน…”

 

สไตล์เด็กเนิร์ด…

 

“ฉันจะเป็นดั่งรากที่สามอันโดดเดี่ยว แต่ภายใต้สัญลักษณ์สแคว์รูทอันน่าเกลียด ฉันอยากจะเป็นเลขเก้าแม้ว่าเลขเก้าจะเป็นเลขที่ดูโชคร้าย หากว่าเธอนั้นเป็นสัญลักษณ์สแคว์รูท ฉันก็จะกลายเป็นเลขสอง เมื่อเธอได้ถอดร่างฉันออกมาจากเลขเก้า…”

 

สไตล์ที่เร้าร้อนโรแมนติก…

 

“ฉันหวังว่าวันหนึ่ง เธอจะสามารถสอนบทเรียนรักด้วยมือของเธอ ฉันหวังว่าเธอจะจูบกล้ามของฉันด้วยปากแดงสุดเซ็กซี่ของเธอ…”

 

………………………..

 

 

หลังจากอ่านจดหมายเหล่านั้นจบ พ่อของหวังลิ่งก็เข้าใจขึ้นมาทันทีว่าทำไมตาแก่ถึงอยากให้ฝังจดหมายเหล่านี้ไปพร้อมกับเขาและกำชับว่าห้ามเปิดเด็ดขาด เพราะจดหมายเหล่านี้มันเป็นสิ่งที่น่าอับอายสิ้นดี ตาแก่คงอยากให้ความลับอันดำมืดของเขาถูกฝังไปพร้อมกับร่างของเขา มันจะไม่มีทางได้ถูกนำมาอ่านแบบนี้

 

พ่อของหวังลิ่งปิดฝากล่องนั่นลง และส่งจดหมายของรักแรกคุณปู่ให้กับหวังลิ่ง “พอจะมีทางตามหารักแรกของปู่ได้ไหม?”

 

หวังลิ่งขมวดคิ้วด้วยความลังเล

 

ตอนนี้คนที่มีโอกาสได้อ่านจดหมายเหล่านี้มีเพียงตัวหวังลิ่ง พ่อของเขา คุณปู่ และผู้หญิงชุดเขียวคนนั้น

 

เงื่อนไขของวิชารำลึกขั้นสูงนั้นมีอยู่ด้วยกันสองอย่าง หนึ่งคือบุคคลผู้นั้นต้องมีชีวิตอยู่ และสองต้องเป็นคนที่หวังลิ่งเคยพบเจอมาก่อน
เงื่อนไขอย่างแรกนั้นไม่น่ามีปัญหา แต่เงื่อนไขที่สองนี้ถือเป็นปัญหาใหญ่ ถ้าหากเป็นภาวะปกติเขาคงจะเข้าไปดึงความทรงจำจากสมองของคุณปู่โดยตรงเพื่อตามรอยได้โดยตรง

 

แต่ความทรงของของคุณปู่ตอนนี้ค่อนข้างเลือนรางเนื่องมาจากปัญหาทางสมอง ถ้าหวังลิ่งใช้วิชาอ่านความทรงจำคงเห็นแค่เพียงภาพสัญญาณรบกวนเหมือนทีวีที่ไร้สัญญาณ และมันก็เป็นเวลาหลายปีแล้วด้วยไม่รู้ว่าความทรงจำเหล่านั้นเหลืออยู่ภายในสมองของคุณปู่มากแค่ไหน รวมไปถึงมีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้อาการของคุณปู่กำเริบหนักกว่าเดิม

 

พ่อของหวังลิ่งนำจดหมายไปวางไว้ใต้จมูกหวังลิ่ง “ตามหาจากการตามกลิ่นเป็นไง? ดูเหมือนว่ากลิ่นของผู้หญิงคนนั้นจะยังมีหลงเหลืออยู่ในจดหมายนิดหน่อย”

 

“…” ‘หมาตัวเป็นๆก็นั่งอยู่ตรงนี้ไง ทำไมพ่อถึงให้ผมดมกลิ่นกันฮะ?’

 

มุมปากของหวังลิ่งเริ่มกระตุกด้วยความไม่พอใจ แต่เพราะเขากลัวว่าค่าขนมจะถูกหักไปอีก เขาจึงเลือกที่จะไม่เถียง ในทางกลับกันเขาผลักจดหมายเหล่านั้นไปยังสองสี ในขณะนี้เขามีทางเลือกเดียวคือต้องเชื่อใจสองสี ไหนๆสองสีมันก็เรียนรู้การที่จะเป็นสุนัขมาแล้ว หวังลิ่งคิดว่ามันคงถึงคราวที่จะทดสอบความเป็นสุนัขของมันเสียหน่อย

 

ก่อนหน้านี้ เมื่อตอนที่มันยังคงเป็นกบมันได้ฝึกวิชาการใช้ลิ้นมาจนถึงขั้นชำนาญ

 

ตอนนี้มันกลายมาเป็นสุนัข การฝึกของมันก็ต้องเปลี่ยนไปนิดหน่อย

 

ทุกคนรู้ว่าจมูกสุนัขนั้นดีแค่ไหน ด้วยการเป็นถึงราชาปีศาจสองสีพยายามที่จะทำความเข้าใจร่างกายนี้อย่างมาก

 

เมื่อหวังลิ่งผลักจดหมายมาให้ สองสีก็ดมมันอย่างระมัดระวัง และทันใดนั้นเองมันก็รู้สึกคุ้นเคยกับกลิ่นที่หลงเหลืออยู่บนจดหมายอย่างบอกไม่ถูก

 

‘หืมรู้ผลแล้วหรือ?’

 

‘น่าอัศจรรย์จริงๆ!’

 

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของสองสีพ่อของหวังลิ่งก็รู้สึกโล่งอก

 

แม้ว่าสองสีจะเข้าใจภาษามนุษย์ แต่ร่างกายของมันในตอนนี้ก็เป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวง มันยังไม่ได้ฝึกฝนจนถึงขั้นสามารถพูดได้ ทุกคำพูดต้องถ่ายทอดผ่านทางการอ่านใจของหวังลิ่ง และหวังลิ่งจึงส่งผ่านคำพูดเหล่านั้นไปยังพ่อของเขา หลังจากที่หวังลิ่งได้ยินคำตอบของสองสี เขาก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย

 

คิ้วของพ่อหวังลิ่งขมวดเข้าหากันในขณะที่จ้องไปยังหวังลิ่ง “นี่ลูกกำลังบอกว่า…สองสีได้กลิ่นที่เหมือนกับกลิ่นที่อยู่ในจดหมายฉบับนี้มาก่อน และมันก็อยู่ภายในโรงเรียนอันดับที่60?”

 

หวังลิ่งพยักหน้า ทันใดนั้นเองพ่อของหวังลิ่งก็ตบมือเข้าหากัน “ปู่ของลูกเคยบอกว่า ผู้หญิงคนนั้นจบจากคณะครุศาสตร์ แน่นอนแล้วว่ามันมีโอกาสที่เธอยังคงสอนอยู่ภายในโรงเรียน! แต่ว่าครูคนไหนกันที่จะเป็นผู้หญิงคนนั้น?”

 

คำถามเหล่านั้นกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของพ่อหวังลิ่งอย่างสมบูรณ์

 

รักแรกของคุณพ่อของเขากลับกลายเป็นครูในโรงเรียนของลูกชายของเขา

 

ในการที่จะหยุดสายตาของตาแก่ได้ ผู้หญิงคนนั้นจะต้องเป็นคนที่สวยมากๆในตอนที่ยังสาวแน่นอน! และยิ่งไปกว่านั้นจากจดหมายเหล่านั้นแสดงให้เห็นว่า ผู้หญิงคนนี้จะต้องเป็นคนที่สวยสง่า แม้ว่าเธอจะแก่แล้วก็ตามแต่เธอก็ยังคงมีความสง่างามเหล่านั้นอยู่!

 

จากการสรุปของพ่อของเขา หวังลิ่งเคยเห็นหน้าอาจารย์ทุกคนในโรงเรียนหมดแล้ว ‘ถ้าหากพ่อพูดถึงคนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ และดูน่าดึงดูด…’

 

หวังลิ่งรู้สึกว่าอาจารย์คังก็น่าจะเข้าข่ายอยู่…

 

เขารีบสะบัดหัวไล่ความคิดสยองเหล่านั้นออกไปและไม่กล้าที่จะคิดต่ออีก

 

แต่ไม่ว่าเขาคิดยังไงก็คิดไม่ออกและทำให้เขายิ่งหงุดหงิดเพิ่มขึ้นไปอีก

 

……………………………

 

 

ขณะนี้ก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว ภายใต้ความมืดมิด หวังลิ่งเทเลพอร์ตไปยังโรงเรียนอันดับที่60พร้อมกับสองสี ตามการนำของมัน เขาเดินมาจนถึงหน้าประตูห้องพักอาจารย์ ซึ่งเป็นของเหล่าอาจารย์ที่สอนในห้องพิเศษ หวังลิ่งเคยเห็นอาจารย์เหล่านั้นมาหมดแล้ว และมีอาจารย์ผู้หญิงจำนวนค่อนข้างเยอะ แต่คนที่ดูเป็นผู้ใหญ่และน่าดึงดูด…เขานึกไม่ออกจริงๆว่าเป็นใคร

 

จากนั้นเขาจึงเทเลพอร์ตเข้าไปยังข้างในห้องพร้อมกับสองสี มันเชิดหน้าขึ้นและเริ่มดมกลื่น…

 

‘มันอยู่ทางนี้…’

 

สองสีนำทางหวังลิ่งไปยังโต๊ะทำงานโต๊ะหนึ่ง

 

หลังจากนั้นหวังลิ่งก็รู้สึกราวกับว่าพบเจอสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตตั้งแต่เขาเกิดมา

 

เพราะว่าโต๊ะทำงานตัวนั้น…มันเป็นของอาจารย์ป่าน!!!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด