The Daily Life of the Immortal King – ตอนที่ 75

อ่านนิยายจีนเรื่อง The Daily Life of the Immortal King ตอนที่ 75 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 75 วันหยุดก็ต้องอ่านหนังสือ

 

 

การสตรีมมิ่งพึ่งจะได้รับความนิยมเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งเหล่าแคสเตอร์จะใช้หน้าตาหรือความสามารถในการดึงดูดเหล่าผู้ชม สามารถทำเงินได้ถึงแสนหยวนต่อเดือน

 

แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จ ยิ่งในยุคที่ทุกคนชอบคนหน้าตาดีแบบนี้การนัดบอดกลายเป็นอะไรที่ตกยุคไปเสียแล้ว เพราะบางทีหน้าตาจริงกับรูปถ่ายที่ใช้เป็นรูปโปรไฟล์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ถ้าหากใครอยากจะโด่งดังในโลกออนไลน์อย่างน้อยพวกเขาต้องหน้าตาดีในระดับหนึ่ง

 

ชุนน้อยได้แนะนำธีมเกี่ยวกับการไลฟ์สตรีมมิ่ง ซึ่งถือว่าเป็นธีมที่น่าสนใจมากพ่อของหวังลิ่งจึงเริ่มคิดพล็อตในหัว

 

หลังจากได้คำแนะนำจากชุนน้อยแล้ว เขาก็ขอบคุณเหล่าบรรดาผู้ชมในขณะนั้นและล็อกออฟทันที

 

เมื่อไอค่อนของเจียวเม่ยเปลี่ยนสีเป็นสีเทา ทุกคนก็ทราบทันทีว่า…เขากำลังจะเขย่าวงการนักเขียนอีกครั้ง!

 

พ่อของหวังลิ่งเป็นคนที่มีศักยภาพคนหนึ่งซึ่งสะท้อนออกมาในหลายๆทาง ยกตัวอย่างเช่น ในขณะเขากำลังเข้าห้องน้ำ เขาสามารถกิน อ่านหนังสือพิมพ์และทะเลาะกับเหล่าแอนตี้แฟนคลับของเขา (Anti Fanclub พวกที่ไม่ชอบดาราหรือคนดังแล้วตั้งกระทู้ด่าหรือคอมเมนต์หยาบๆ) ด้วยไอดีไก่ที่เขาสมัครไว้ได้ในเวลาเดียวกัน

 

พ่อของเขาใช้เวลาทั้งคืนในการเขียนบทนำและตอนที่หนึ่งของนิยายเรื่องใหม่

 

ชื่อเรื่องว่า : ชีวิตสตรีมมิ่งของจอมราชันย์

 

เรื่องย่อ : เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของผู้ฝึกตนคนหนึ่งที่ไม่สามารถควบคุมพลังตัวเองได้และขายเรื่องราวตัวเองด้วยการสตรีมมิ่ง

 

“…”

 

หวังลิ่งได้แอบดูหน้าจอของคุณพ่อเขาด้วยความสงสัย

 

ด้วยสกิลขั้นเทพในการเขียนนิยายของพ่อเขา เขาสามารถเขียนบทนำได้อย่างง่ายดาย หลังจากเช็คคำผิดอะไรเสร็จหมดแล้ว พ่อของเขาก็ส่งต้นฉบับตัวนี้ให้หัวหน้าบรรณาธิการ(บก.ของเขา

 

บก.ของหวังลิ่งชื่อว่าซ่งซิไก่ผู้มีฉายาว่าลี่โฉว คนในวงการได้ตั้งชื่อเล่นให้แก่เขาว่า ลี่เหมงเหมง ซึ่งเขาเคยมาเยี่ยมบ้านของหวังลิ่งด้วย หวังลิ่งได้ใช้พลังของเขาเพื่อแอบดูนามบัตร คนคนนี้เป็นเพียงคนเดียวในโลกจริงๆที่คุณพ่อของเขาเคยพบเมื่อสิบปีที่แล้ว ดูจากลักษณะท่าทางและบุคลิกแล้วคาดว่าน่าจะเป็นเกย์สายรับอย่างไม่ต้องสงสัย

 

ในขณะที่คอมพิวเตอร์กำลังเปิดอยู่ พ่อของหวังลิ่งก็ไปชงชามานั่งดื่มเพื่อรอการตอบรับจากบก.ของเขา จากนั้นไม่นานเขาก็ได้ยินเสียง *ติ๊ง!* จากคอมพิวเตอร์

 

หวังลิ่งรีบแอบดูอีเมลฉบับนั้น [ธีมของเรื่องดูน่าสนใจและการเขียนของนายก็โอเค แต่เมื่อเปรียบเทียบกับงานเขียนแรกของนายแล้ว ฉันคิดว่านายควรจะเขียนตอนต่อไปอีกหน่อย เมื่อมันมีตัวหนังสือรวมกันถึงสองหมื่นคำแล้วฉันจะอัพโหลดลงเว็บไซต์นั่นเพื่อเช็คเรตติ้ง(Rating)]

 

หวังลิ่งเคยได้ยินเกี่ยวกับเว็บไซต์นั่นมาก่อน มันเป็นเว็บไซต์ที่แยกออกมาต่างหากจากเว็บไซต์ทั่วไปสำหรับนักอ่านระดับVIPเท่านั้น โดยเว็บไซต์นี้อนุญาตให้พวกเขาได้มีโอกาสอ่านต้นฉบับนิยายของนักเขียนก่อนคนอื่นและแสดงความคิดเห็นติชมต้นฉบับนั้นได้

 

พ่อของหวังลิ่งนั่งจ้องอีเมลฉบับนั้นอยู่นานแต่ท้ายที่สุดเขาก็พยักหน้ายอมรับข้อตกลงนั้น หวังสิถูนามปากกานี้เขาใช้เวลาหลายปีกว่าจะสร้างชื่อเสียงขึ้นมาได้ หนังสือเล่มที่สองของเขามันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าหากเขาไม่ผ่านบททดสอบนั่นชื่อเสียงที่เขาอุตส่าห์สั่งสมมาก็จะสูญเปล่า

 

หวังลิ่งไม่มีคำพูดใดๆต่ออุตสาหกรรมนักเขียน นามปากกานั้นสามารถดึงผู้ชมสามแสนคนบนสตรีมมิ่งได้ แต่มันแทบจะไม่มีค่าอะไรเลยเมื่ออยู่ในโลกนักเขียนที่แท้จริง!

 

…………………………….

 

 

ในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น แม่ของหวังลิ่งเตรียมอาหารเช้าเสร็จ ซึ่งเมนูของวันนี้ก็คือขนมปังแท่งอบกรอบ นมถั่วเหลืองและบะหมี่สูตรพิเศษของเธอ แม่ของเขาถอดผ้ากันเปื้อนออกและตะโกนไปยังชั้นสอง “นี่ทั้งสองคน! ลงมาได้แล้วได้เวลากินอาหารเช้า!”

 

หวังลิ่งลงมาถึงห้องอาหารเขาเห็นโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารปกติทำให้เขาถึงกับน้ำตาไหล เพราะเมื่อวันก่อนเขาพึ่งจะมีโอกาสได้กินอาหารจากครัวมืดของคุณแม่จวน เขารู้สึกว่ามีเพียงแค่อาหารของคุณแม่เขานี่แหละที่จะรักษาความทรงจำอันแสนเลวร้ายนั่นได้

 

ในขณะที่พวกเขากำลังกินอาหารเช้า คุณพ่อของหวังลิ่งก็ดันแว่นขึ้นและมองไปทางหวังลิ่งก่อนจะถอนหายใจออกมา “รู้สึกว่าลูกจะอ้วนขึ้นไหม?”

 

หวังลิ่งยกมือขึ้นจับแก้มตัวเอง ดูเหมือนว่าเขาจะอ้วนขึ้นจริงๆด้วยสงสัยอาจจะเป็นเพราะพิษจากอาหารของคุณแม่จวน

 

หวังลิ่งไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเขาสามารถกำจัดมันได้ง่ายๆ…

 

หวังลิ่งถูแก้มของเขาอย่างแรงไม่นานนักแก้มของเขาก็กลับมาเป็นปกติ

 

“…” ‘มันได้ผลด้วยแห๊ะ’

 

และนี่เป็นครั้งแรกที่พ่อและแม่ของเขาได้เห็นความสามารถพิเศษในตัวของหวังลิ่ง

 

“เมื่อสี่วันที่ผ่านมา การอยู่ร่วมกับคนอื่นเป็นยังไงบ้าง?” พ่อของหวังลิ่งหันมาถามในขณะที่ปากยังคงเคี้ยวบะหมี่

 

หวังลิ่งนึกย้อนกลับไปแต่เขาก็ส่ายหัวตอบ

 

“แม่ได้ยินมาว่าหมิงหมิงเอายันต์ผนึกไปให้ลูก และเกิดเรื่องหลายอย่างขึ้น?”

 

หวังลิ่งพยักหน้า

 

พ่อของเขาถอนหายใจ “พ่อคิดว่าลูกน่าจะกังวลใจกับมันมากเกินไป บางทีลูกควรจะทำตัวให้ปกติแล้วใช้เวลาอยู่กับเพื่อนให้มากขึ้น เข้าใจไหม?”

 

หวังลิ่งยังคงพยักหน้าต่อ

 

“พอได้แล้ว! ทำไมคุณถึงเอาเรื่องแบบนี้มาพูดในขณะที่รับประทานอาหาร!”

 

แม่ของเขาขึ้นเสียงเพื่อหยุดพ่อของเขา “แต่หลิงหลิงก็ ลูกอย่าลืมทำการบ้านด้วยนะ แม้ว่าลูกจะไม่ควรทำมันออกมาดีแต่ลูกก็ไม่ควรอยู่อันดับท้ายๆของห้อง อย่างน้อยการเรียนก็ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญ แม่ได้ถามทางโรงเรียนแล้วว่าเขาเรียนอะไรกันบ้าง และแม่ได้ไปขอโน้ตมาจากที่โรงเรียน กินข้าวเสร็จแล้วเดี๋ยวลูกค่อยไปดูมันนะ”

 

“โอเคครับแม่”

 

จริงๆแล้ววิชายันต์เต๋าหรือวิชาคาถาอาคมเขาแทบไม่จำเป็นต้องอ่านโน้ตเลย แต่สำหรับวิชาอย่างประวัติศาสตร์และรัฐศาสตร์เขายังคงจำเป็นต้องใช้เวลาในการจำ ต่อให้เป็นนักเรียนที่เก่งที่สุดในห้องอย่างซุนหรงและหลินเสี่ยวหยูพวกเขายังต้องใช้เวลาถึงหนึ่งวันเต็มในการทำความเข้าใจมัน

 

สำหรับหวังลิ่งที่มีความขี้โกงกว่า เขาสามารถอ่านและจดจำสิ่งพวกนั้นได้อย่างรวดเร็ว ‘แม่ไม่ต้องห่วงเรื่องการเรียนของผมหรอก’

 

แต่หวังลิ่งไม่อยากให้มีใครมารบกวนเขาในระหว่างการอ่านหนังสือในวันหยุดของเขา ยิ่งตอนที่เขาใช้สมาธิในการจำถ้าหากมีใครมาก่อกวนเขาอาจจะจำอะไรบางอย่างอย่างผิดๆได้

 

หวังลิ่งหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเครื่องเขียน…

 

สิ่งที่เขาหยิบออกมามันคือปากกาและยางลบปีศาจก็อบลินซึ่งมันจะช่วยทำให้การบ้านของเขาเสร็จไวขึ้น!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด