The Daily Life of the Immortal King – ตอนที่ 100

อ่านนิยายจีนเรื่อง The Daily Life of the Immortal King ตอนที่ 100 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 100 วิชาดวงตาสั่งตายของหวังเจียว

 

หวังลิ่งไม่ค่อยที่จะมีเพื่อนสักเท่าไหร่ เทพมือระเบิดนับได้ว่าเป็นเพื่อนจากจำนวนเพื่อนอันน้อยนิดตลอดช่วงสิบหกปีตั้งแต่เกิดมาของเขา

 

ความประทับใจที่เขามีต่อเทพมือระเบิดก็คือ เทพมือระเบิดเป็นคนที่ชอบความยุติธรรม เขาต่อกรกับความชั่วร้ายด้วยความไม่เกรงกลัวพร้อมกับมีดคู่ใจของเขา และอย่างที่สองหวังลิ่งรู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้พวกเขาได้มาพบกัน อย่างกับโชคชะตาของเหล่าผู้ฝึกตนที่คนเฒ่าคนแก่ชอบพูดถึง

 

เขาเคยใช้วิชาตรวจสอบเส้นทางแห่งโชคชะตาของเทพมือระเบิดและตัวของเขาเอง ซึ่งผลที่ออกมามีความคล้ายคลึงกันสูงถึงเจ็ดสิบเปอร์เซนต์ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมหวังลิ่งถึงยอมรับในตัวของเทพมือระเบิด

 

แต่แต่ถึงแม้โชคชะตาของเขากับเทพมือระเบิดจะมีความคล้ายคลึงกัน แต่เขาก็มักจะโดนเทพมือระเบิดหลอกใช้งานอยู่บ่อยครั้ง

 

มันอาจพูดได้ว่าเพื่อนที่ดีมักจะขี้โกงและพี่ชายที่ดีก็มักจะหักหลัง…หวังลิ่งคิดว่าคำพูดเหล่านั้นถูกต้องเกือบร้อยเปอร์เซนต์

 

เขาเริ่มติดต่อกับเทพมือระเบิดน้อยลงหลังจากที่เขาถูกหลอกให้ไปเป็นที่ปรึกษาให้กับตาเฒ่าลีเมื่อสามปีก่อน หวังลิ่งคิดไม่ถึงว่าเขายังคงต้องมาพบเจอกับเทพมือระเบิดอีกครั้งด้วยเรื่องของหน้ากากผีดิบใบนี้

 

นี่มันอาจจะเป็นเพราะโชคชะตาของพวกเขาเอง

 

หรือเทพปีศาจตนใดดลใจให้เกิดเรื่องแบบนี้ขี้นกันแน่…

 

………………………………………

 

 

หลังจากตกลงกับเทพมือระเบิดเสร็จแล้ว กริ่งหน้าบ้านของเขาก็ดังขึ้นมา

 

เขาใช้พลังวิญญาณตรวจสอบ หวังลิ่งพบว่าเป็นผู้ชายในชุดสูทสวมแว่นดำสองคนยืนอยู่หน้าบ้านซึ่งเป็นคนคนเดียวกันกับที่มาเมื่อคราวก่อน…

 

และยิ่งไปกว่านั้น “คำขอโทษ” ที่ชายในชุดสูทนำมาด้วยนั้นไม่ใช่กระเป๋าหนังใบเล็กๆอีกแล้ว แต่กลับเป็นกระเป๋าลากใบใหญ่ใบหนึ่งซึ่งสามารถบรรจุคนลงไปได้

 

หลังจากที่พ่อของหวังลิ่งไปเปิดประตูให้ ชายในชุดสูททั้งสองคนก็เปลี่ยนท่าทาง หันมาก้มหัวเคารพพ่อของเขา “สวัสดีครับ มิสเตอร์หวัง!”

 

พ่อของหวังลิ่งกำลังยืนอึ้งในกระเป๋าลากใบใหญ่ตรงหน้าเขา “…”

 

จากการประเมิณคร่าวๆ ถ้าหากกระเป๋าใบนี้เต็มไปด้วยเงินสด อย่างน้อยมันก็น่าจะมีถึงสามสิบล้านหยวน!

 

“หลังจากการเจรจากันคราวก่อน เจ้านายของคฤหาสถ์ตำหนิพวกเราหลายต่อหลายอย่าง ดังนั้นครั้งนี้พวกเราจึงได้นำของแสดงความเสียใจซึ่งมากกว่าคราวก่อน และอยากจะเริ่มเจรจาใหม่อีกครั้งกับมิสเตอร์หวัง” ชายในชุดสูททั้งสองพูดอย่างเป็นมืออาชีพและรอยยิ้มส่วนใหญ่แสดงถึงความไม่จริงใจ นั่นทำให้พ่อของหวังลิ่งขนลุกเล็กน้อย

 

ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกถึงปัญหาเพราะชายทั้งสองคนนี้มาพร้อมกับอาวุธ ซึ่งนั่นทำให้พ่อของหวังรู้สึกหวั่นใจ

 

เขามองไปยังทางห้องนอนของหวังลิ่ง พวกเขาต่างสื่อสารและเข้าใจผ่านทางความคิด เขารู้ดีว่าหวังลิ่งนั้นจะต้องรู้เกี่ยวกับสองคนนี้และเขาไม่ได้กังวลที่คนติดอาวุธพวกนี้จะสามารถทำอะไรเขาได้

 

“มิสเตอร์หวัง เราเข้าไปคุยกันข้างในดีไหม?”

 

“อืม…เข้ามาสิ” พ่อของหวังลิ่งแสดงท่าทางเชื้อเชิญให้เข้ามา

 

หลังจากการพบกันคราวก่อน ชายทั้งสองก็คุ้นเคยกับผังบ้านหลังนี้แล้ว พวกเขาลากกระเป๋าวางไว้ข้างๆโซฟาในห้องนั่งเล่น หลังจากนั้นก็เก็บหูลากและวางกระเป๋าลงบนพื้น

 

เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังจะเปิดกระเป๋าพ่อของหวังลิ่งก็หันไปส่งสายตาให้ภรรยาของเขา ว่าให้พาคุณปู่ออกไปและขึ้นไปอยู่บนชั้นสอง เพราะเขากลัวว่าสติของตาแก่จะกระเจิดกระเจิง ขนาดตัวเขาเองยังรู้สึกตื่นเต้นเวลาได้เห็นเงินจำนวนมาก แล้วพ่อของเขาที่เป็นโรคทางจิตอยู่หล่ะ เขากลัวว่าถ้าเกิดตาแก่เห็นเงินจำนวนมากขนาดนี้ตาแก่อาจจะเกิดอาการหัวใจวายขึ้นมา

 

ผู้ชายในชุดสูททั้งสองก็ตระหนักได้ถึงเรื่องนั้นจึงยังไม่เปิดกระเป๋าออกมา จนเห็นว่าคุณแม่ของหวังลิ่งพาชายแก่ขึ้นไปยังชั้นสองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

เมื่อพวกเขาเปิดมันออกมา ปึกเงินจำนวนหมื่นหยวนก็เด้งออกมาพร้อมกับเสียงพรึ่บ

 

เมื่อพ่อของหวังลิ่งเห็นเงินจำนวนมากขนาดนี้มันทำให้ตาของเขาพล่ามัวไปชั่วขณะ พูดกันตามตรงนอกจากในละครทีวีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเงินจำนวนมากขนาดนี้

 

“นี่เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้นสี่สิบล้าน” หนึ่งในชายใส่ชุดสูทพูดขึ้นมา “คำขอโทษของเราในครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง มิสเตอร์หวัง?”

 

เขาเม้มปาก จริงๆแล้วข้างในหัวใจของเขาอยากจะขายหน้ากากใบนั้นให้รู้แล้วรู้รอด แต่เขาก็เข้าใจว่าหวังลิ่งว่าลูกของเขาคงมีความจำเป็นที่ต้องเก็บหน้ากากใบนั้นไว้ไม่ยอมขายเช่นกัน

 

นั่นเป็นสิ่งที่แม้แต่ลูกของเขายังกังวล…

 

พ่อของหวังลิ่งเอนหลังพิงลงไปบนโซฟาและนั่งไขว่ห้าง เขาจุดบุหรี่และค่อยๆสูบเข้าไปก่อนจะพ่นควันออกมา “นั่นเป็นหน้ากากของลูกชายของฉัน และเขากำลังหลับอยู่ฉันไม่สามารถตัดสินใจได้”

 

ชายในชุดสูททั้งสองพยักหน้าอย่างเข้าใจ

 

ความหมายของคำพูดนั้นก็คือ เขาใช้หวังลิ่งเป็นข้ออ้างในการปฏิเสธ หรือจะพูดตรงๆก็คือเขาไม่ขาย!

 

ชายทั้งสองกำหมัดแน่น จากนั้นคนตัวสูงก็ท้าวมือลงบนโต๊ะมองหน้าพ่อของหวังลิ่ง “มิสเตอร์หวัง เราหวังว่าคุณจะคิดทบทวนดูใหม่ พวกคุณก็เป็นแค่ครอบครัวธรรมดา ภรรยาของคุณก็เป็นแค่แม่บ้านไม่มีรายได้ พ่อของคุณก็เป็นโรคทางสมอง และก็ไม่มีอะไรมาการันตีว่าบั้นปลายของชีวิตของเขาจะเป็นเช่นไร บวกกับลูกของคุณอยู่แค่ระดับแรกเริ่มลมปราณ…และคุณ แม้ว่าคุณจะเป็นนักเขียนนิยายที่โด่งดัง แน่นอนว่าคุณก็ไม่มีทางหาเงินจำนวนมากขนาดนี้ได้ต่อให้ต้องทำงานทั้งชีวิตก็ตาม”

 

คำพูดของชายคนนั้นเต็มไปด้วยการคำขู่

 

หวังลิ่งซึ่งยืนอยู่ภายในห้องของเขาได้ยินคำพูดทุกคำอย่างชัดเจน

 

ด้วยอำนาจของแลนด์สเคปเมเนอร์ซึ่งมีอำนาจเทียบเท่ากับม่านน้ำฮวงโห มันก็ไม่เป็นการยากที่จะสืบค้นประวัติของพวกเขา แต่ทั้งพ่อของหวังลิ่งและตัวของเขาเองได้เตรียมใจกับคำพูดเหล่านี้มาแล้ว

 

พ่อของหวังลิ่งดันกรอบแว่นของเขาขึ้น “หรือนี่จะเรียกว่าการข่มขู่?”

 

“หน้ากากผีดิบใบนั้นเป็นของที่เจ้านายของพวกเราต้องการ ดังนั้นเราหวังว่ามิสเตอร์หวังจะเข้าใจ เราเชื่อว่านอกเหนือไปจากแลนด์สเคปเมเนอร์แล้ว ก็ไม่มีใครที่จะยอมยื่นข้อเสนอราคาแพงขนาดนี้ให้กับคุณหรอก” ชายตัวสูงตอบกลับ

 

จากนั้นเขาเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาพร้อมกับเอื้อมมือไปจับด้ามกระบี่ที่เอวของเขา “แน่นอนว่า ถ้าหากมิสเตอร์หวังยังดื้อดึง พวกเราคงต้องใช้วิธีอื่น…”

 

ในขณะที่ชายคนนั้นจับด้ามกระบี่ พ่อของหวังลิ่งก็รับรู้ได้ถึงแรงกดดันวิญญาณบนบ่าของเขา และมันหายไปอย่างรวดเร็ว นั่นก็เพราะว่าในจังหวะที่ชายคนนั้นปล่อยคลื่นพลังวิญญาณออกมา หวังลิ่งก็ได้ส่งพลังวิญญาณของเขาออกมาจากภายในห้องนอนเพื่อช่วยเหลือพ่อของเขา…

 

จากนั้นกลับกลายเป็นว่าชายทั้งสองเหงื่อตกด้วยความตกใจ!

 

พวกเขารู้ว่าชายวัยกลางคนมีระดับเพียงแค่ระดับรับรู้ลมปราณ ดังนั้นชายในชุดสูททั้งสองก็ไม่ได้คิดว่าพลังวิญญาณของชายวัยกลางคนคนนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างกระทันหัน และสามารถโต้กลับพลังวิญญาณของพวกตนได้

 

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?!

 

หลังจากนั้นชายทั้งสองก็เหมือนถูกบังคับให้คุกเข่าและไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้

 

…นี่มัน! มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?!

 

ตามข้อมูลที่ได้รับจากหน่วยข่าวของพวกเขา หวังเจียวคนนี้อยู่ขั้นรับรู้ลมปราณไม่ใช่หรือ! แล้วเขาจะสามารถใช้พลังวิญญาณโต้กลับมาได้ยังไง พวกเขาอยู่ระดับแก่นแท้ปราณทองคำนะ! ระดับพลังขนาดนี้…นี่มันระดับวิญญาณก่อกำเนิดแล้วไม่ใช่รึยังไงกัน!

 

ชายทั้งสองรับรู้ถึงพลังกดดันวิญญาณที่ถูกส่งออกมาจากพ่อของหวังลิ่งซึ่งพวกเขาไม่เคยเจอมันมาก่อน!

 

ภายใต้แว่นตากรอบสีดำ พ่อของหวังลิ่งจ้องไปยังชายทั้งสองราวกับวิชาดวงตาสั่งตาย ตาของเขาส่องแสงประหลาดออกมา ส่งผลให้ขาทั้งสองของชายในชุดสูทอ่อนแรง ค่อยๆทรุดลงกับพื้นราวกับว่าพวกเขาถูกบังคับให้นอนคว่ำลงบนพื้น และแม้แต่แว่นตาดำของพวกเขาก็แตกไม่มีชิ้นดี

 

หลังจากนั้นสิบวินาที ผู้ชายตัวสูงที่พูดจาข่มขู่ก่อนหน้านี้พูดขึ้นมาด้วยความยากลำบาก “…ท่านผู้อาวุโส กระผมผิดไปแล้ว! ถ้าหากท่านยังจ้องกระผมอยู่แบบนี้ กระผมจะฉี่ราดรดกางเกงแล้ว!”

 

ผู้ชายซึ่งนอนอยู่ข้างๆ ร้องขึ้นมาว่า “ฉันฉี่ราดไปแล้ว แล้วฉันจะทำยังไงหล่ะทีนี้?!”

 

พ่อของหวังลิ่ง: “…”

 

หวังลิ่ง: “…”

 

 

 

 

 

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด