The Daily Life of the Immortal King – ตอนที่ 102

อ่านนิยายจีนเรื่อง The Daily Life of the Immortal King ตอนที่ 102 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 102 แบบนี้ก็ได้หรอ?!

 

 

วันนี้เป็นวันพุธที่ 20 ของสัปดาห์ที่สี่ในปีการศึกษาแรก

 

บรรยากาศในห้องเรียนยามเช้าเต็มไปด้วยความตึงเครียดเล็กน้อย เมื่ออาจารย์ป่านเดินเข้ามายังภายในห้องเรียนอย่างปกติพร้อมกับกระดาษปึกใหญ่ในมือของอาจารย์ ทำให้นักเรียนในห้องต่างตกอยู่ในอาการหวาดกลัว เห็นได้ชัดว่าหลังจากคาบโฮมรูมในตอนเช้า คาบถัดไปคงไม่พ้นเป็นการสอบแน่ๆ

 

การสอบที่จัดขึ้นโดยที่ไม่ให้นักเรียนได้ทันตั้งตัวเป็นส่วนหนึ่งในการสอนของอาจารย์ป่านมาหลายปี สิ่งที่น่ากลัวของมันก็คือจะไม่มีการประกาศใดๆทั้งสิ้นก่อนหน้า เป็นการวัดความตั้งใจเรียนของนักเรียน ณ ขณะนั้นๆ

 

สำหรับนักเรียนห้องพิเศษในโรงเรียนอันดับที่ 60 ถ้าหากมันเป็นแค่ข้อสอบทั่วๆไป พวกเขาคงไม่โกง แต่สำหรับข้อสอบของอาจารย์ป่านมันมักจะไม่ธรรมดา มีเพียง 20% เท่านั้นที่เป็นคำถามเชิงพื้นฐาน แต่ที่เหลืออีก 80% นั้น มีทั้งคำถามยากๆ คำถามที่ให้ขยายความต่อจากพื้นฐาน คำถามที่มาจากการแข่งขัน และคำถามที่ไม่ได้มีอยู่ในหลักสูตร

 

ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้พวกเขาจึงต้องใช้ไหวพริบและความกล้าหาญของตนในการแก้ปัญหา

 

สำหรับนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งห้องสามการสอบครั้งนี้ไม่ใช่แค่ควิซธรรมดา แต่เป็นการต่อสู้!

 

แต่อาจารย์ป่านก็รู้ทันความคิดของเหล่านักเรียนเนื่องจากเธอเป็นอาจารย์ชั้นแนวหน้าของโรงเรียนแห่งนี้ ทันทีที่เธอก้าวเท้าเข้ามายังภายในห้องเรียน เธอก็อัญเชิญวิญญาณจำนวนหนึ่งออกมาและวางพวกมันไว้ในแต่ละจุดของห้องเรียนเพื่อช่วยเธอตรวจสอบพฤติกรรมของนักเรียน

 

อาจารย์ป่านคำนวณจำนวนวิญญาณอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้มุมใดของห้องเรียนเล็ดลอดสายตาของเธอไปได้

 

“อาจารย์มีประชุมตอนเช้าพอดี พวกเธอมีเวลาทำข้อสอบทั้งหมดหนึ่งชั่วโมงครึ่ง” อาจารย์ป่านยิ้มอย่างอ่อนโอนแล้วพูดขึ้นว่า “พวกเธอไม่ต้องกลัว อาจารย์ฝึกวิญญาณพวกนี้มากับมือ ถ้าหากพวกมันพบว่ามีใครโกงข้อสอบ พวกมันจะเผากระดาษข้อสอบทันที พวกเธอจะได้กระดาษข้อสอบแค่เพียงคนละใบเท่านั้น ถ้าหากมันถูกเผาคะแนนของพวกเธอก็จะเป็นศูนย์ อาจารย์หวังว่าพวกเธอจะซื่อสัตย์กับการสอบครั้งนี้นะ!”

 

หลังจากที่ชี้แจ้งกฏระเบียบของการสอบในครั้งนี้เสร็จ อาจารย์ป่านก็ หันหลังปิดประตูห้องเรียนและเดินจากไป

 

ทันทีที่เสี่ยวหัวเฉงเริ่มแจกกระดาษข้อสอบ ก็มีเพื่อนร่วมชั้นบางคนบ่นออกมา “คำถามพวกนี้มันยากเกินไปแล้ว! สูตรการผสมของ”ดอกบัวไฟแห่งความโกรธ” และผลของไฟในแต่ละสี! มันไม่ใช่ว่าเป็นเนื้อหาที่จะสอนในเทอมถัดไปหรอกเรอะ?!”

ในขณะที่ทุกคนกำลังโอดครวญ ทางด้านหวังลิ่งก็กำลังร่ำร้องในใจเช่นกัน
ถ้าหากเป็นการสอบอย่างปกติ มันก็คงจะไม่เป็นอะไร แต่การสอบนี้มันทำให้หวังลิ่งคาดเดาไม่ได้ว่าคะแนนเฉลี่ยของทั้งห้องจะอยู่ในช่วงใด!

 

ถ้าในสถานการณ์แบบนี้ หวังลิ่งคงต้องรอจนกว่าซุนหรง เสี่ยวหัวเฉิง และหลินเสี่ยวหยูทำจนเสร็จ ด้วยคำตอบของพวกเขา เขาจึงจะสามารถคาดเดาช่วงคะแนนได้

 

สิ่งที่เขาทำได้ในตอนนี้มีแค่เพียงจับปากกาและรอ…

 

เวลาผ่านไปแล้วกว่าสิบนาทีนับตั้งแต่กระดาษข้อสอบถูกแจก ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบงัน

 

ท่ามกลางความเงียบงัน หวังลิ่งสามารถรับรู้ถึงการกระทำบางอย่างของเพื่อนๆเขาได้

 

อาจารย์ป่านมักจะมีควิซหรือข้อสอบแบบไม่เป็นเวลา แต่แน่นอนว่านักเรียนหลายๆคนเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์เช่นนี้มาบ้างแล้ว…

 

เช็นเฉาซ่อนโพยข้อสอบไว้ในถุงเท้าของเขา เขาทำทีว่าก้มลงไปเกาข้อเท้า และหยิบโพยข้อสอบออกมา แต่ทันทีที่มือของเขาแตะข้อเท้า วิญญาณที่ลอยอยู่รอบๆก็ลอยมาเหนือโต๊ะเขา…

 

‘มันจบแล้วหล่ะเช็นเฉา!’ เพื่อนร่วมชั้นของเขาหลายๆคนต่างคิดแบบนี้

 

เมื่อทุกคนเห็นเช็นเฉาที่กำลังจะถูกจับได้ พวกเขาต่างถอนหายใจออกมา

 

ด้วยลักษณะนิสัยของอาจารย์ป่าน เธอคงต้องรายงานให้ผู้ปกครองทราบในวันประชุมผู้ปกครองที่จะถึงในวันจันทร์หน้าเป็นแน่

 

แต่ทุกคนก็รู้สึกแปลกใจที่กระดาษข้อสอบของเช็นเฉาไม่ถูกเผาด้วยไฟจากวิญญาณอัญเชิญ

 

เช็นเฉาค่อยๆหยิบโพยข้อสอบออกมาจากถุงเท้าและกางมันออก…

 

ในตอนนั้นเองหวังลิ่งได้กลิ่น อะไรบางอย่างโชยออกมาจากฝ่ามือของเช็นเฉา…หลังจากนั้นเหล่าวิญญาณก็ต่างพากันเอามือปิดจมูกและบินหนีไป

 

ทุกคนในห้องต่างพูดไม่ออกและพากันตั้งคำถามภายในใจว่า ‘พวกวิญญาณถอยออกไปเพราะกลิ่น?’

 

กระดาษแผ่นนั้นมันเหม็นแค่ไหนเนี่ย?!

 

กลื่นเท้าไล่วิญญาณ?!

 

หวังลิ่งรู้สึกช็อคกับภาพเหตุการณ์ตรงหน้า

 

แต่ถึงอย่างนั้น นี่ก็ยังไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด…

 

เพราะตั้งแต่เริ่มสอบ เขาเริ่มสังเกตุเด็กนักเรียนร่างอ้วนคนหนึ่งกำลังเกาหัวตลอดเวลา เพื่อทำให้รังแคร่วงลงมากองเต็มโต๊ะ

 

แต่รังแคปกติจะเป็นสีขาวแต่รังแคที่หลุดออกมาจากหัวของกัวหาวกลับเป็นสีดำ…

 

หวังลิ่งเพ่งสายตาและใช้วิชาตาสวรรค์ และสิ่งที่เขารับรู้นั้นทำให้เขาถึงกับตัวแข็งทื่อ!

 

เพราะว่ากัวหาว…นั้นซ่อนโพยข้อสอบไว้ในเศษรังแคพวกนั้น!

 

เดี๋ยวนะ อย่างงี้ก็ได้หรอ?!

 

เขาจ้องมองกัวหาวที่เริ่มต่อรังแคเข้าด้วยกันทีละชิ้นจนกลายเป็นโพยข้อสอบ นั่นทำให้หวังลิ่งหมดคำบรรยายใดๆกับเพื่อนรักทั้งสองคน

 

……………………………

 

 

มันเป็นเวลาช่วงเที่ยงแก่ๆ มีชายคนหนึ่งประกฎตัวอยู่ใกล้บ้านชนบทของครอบครัวหวัง เขามองไปยังพื้นที่รอบๆซึ่งไม่มีอะไรเลย ผู้ชายคนนั้นเป็นคนตัวสูงดูเข้ากับรูปลักษณ์ของเขา

 

เขาสวมใส่ชุดสีขาว สะพายกระบี่ยาว และมีเส้นผมที่สวยงาม… นี่คือเทพมือระเบิดซึ่งเขามีชื่อจริงว่า ”เล่ย”

 

พ่อและแม่ของหวังลิ่งรู้แล้วว่าเทพมือระเบิดจะมาหาในวันนี้ เพราะว่าเขาเป็นเพื่อนคนหนึ่งของหวังลิ่งในโลกผู้ฝึกตน รวมไปถึงความประทับใจครั้งแรกแบบผิดๆที่มีต่อครอบครัวหวัง พ่อและแม่ของหวังลิ่งคิดว่าเขาเป็นคนที่มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย

 

ครั้งก่อนที่เขามาหาก็เมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว เมื่อวานหวังลิ่งบอกว่าเทพมือระเบิดจะมาหาวันนี้ แม่ของหวังลิ่งจึงรีบออกไปจ่ายตลาดเพื่อเตรียมสำหรับการทำอาหาร

 

เมื่อเธอกลับมาถึงบ้านด้วยรถโชเล่สามล้อซึ่งได้รับการร่ายวิชาบางอย่างโดยหวังลิ่งไว้ แม่ของหวังลิ่งก็เห็นผู้ชายในชุดสีขาวยืนอยู่ที่หน้าทางเข้าบ้านและถือกระเป๋าอยู่หลายใบทั้งใบเล็กและใหญ่ เธอตกใจในทีแรกเธอจึงไล่สายตามองทั้งแต่หัวจรดเท้าและเอ่ยถามขึ้น “ใช่น้องเล่ยหรือเปล่า?”

 

ตั้งแต่การมายังบ้านของหวังลิ่งครั้งก่อนมันก็นานมาแล้ว แม่ของหวังลิ่งที่เรียกชื่อของเขาทำให้เขารู้สึกประหม่าและตกใจเล็กน้อย “สะ…สวัสดีครับรุ่นพี่!”

 

แม่ของหวังลิ่งมองไปยังเทพมือระเบิดอย่างสงสัย ‘ทำไมเขาถึงพูดตะกุตะกักกัน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้มาหานานแล้วก็เถอะ’

 

แต่อย่างไรก็ตามการที่เขาเรียกเธอว่ารุ่นพี่ก็เป็นการยืนยันสถานะตัวตนของคนผู้นี้แล้ว

 

แม้ว่าแม่ของหวังลิ่งจะไม่เคยถูกเรียกเช่นนั้นมาก่อน เป็นเพราะว่าหวังลิ่ง ตัวเธอและสามีถึงได้มีโอกาสพบเจอผู้ฝึกตนที่มีชื่อเสียงหลายต่อหลายคน

 

ทุกวันนี้มันเป็นเรื่องยากที่จะพบใครที่ทั้งเก่งกาจและมีคุณธรรมในโลกของผู้ฝึกตน

 

นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ว่าทำไมตัวเธอและสามีของเธอถึงยอมรับในคนผู้นี้

 

ชายคนนั้นยกกระเป๋าขึ้น “ขอโทษด้วยที่รุ่นน้องผู้นี้ไม่ได้เยี่ยมรุ่นพี่ทั้งสองเป็นเวลานาน ผมนำไวน์ชั้นดีมาฝากด้วยหลายขวด ผมหวังว่ารุ่นพี่ทั้งสองคงจะชอบมันนะครับ”

 

แม่ของหวังลิ่งรับกระเป๋าใบนั้นมาและหน้าของเธอก็แดงขึ้นด้วยความร้อนของแสงแดด “ถ้าเธอจะมาเธอก็มาได้ทุกเมื่อ ไม่ต้องหอบอะไรมาด้วยหรอก มันจะลำบากเธอเสียเปล่าๆ”

 

ชายคนนั้นลูบหัวและยิ้มแหยๆ “รุ่นพี่ครับ นี่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยครับ”

 

“เธอไม่ต้องสุภาพขนาดนี้ก็ได้นะ ฉันเตรียมอาหารไว้เยอะเลยหล่ะวันนี้ พวกเรากำลังรอเธออยู่พอดี ลุงหวังและคุณปู่อยู่ข้างในบ้าน วันนี้พวกเธอคงมีอะไรคุยกันเยอะแยะแน่ๆเลย”

 

เมื่อได้ยินแม่ของหวังลิ่งพูดดังนั้น เทพมือระเบิดก็ช็อคตัวแข็งทื่อไปเสียอย่างนั้น…

 

‘โอ้วพระเจ้า!’

 

‘คุณปู่หวังก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ? ปู่ของน้องลิ่ง… นี่ฉันกำลังจะได้เจอสุดยอดปรมาจารย์ในวันนี้หรือนี่?!’

 

เทพมือระเบิดเริ่มรู้สึกประหม่ามากขึ้นไปอีกทันทีที่ได้ยินว่าคุณปู่ของหวังลิ่งก็อยู่ด้วยในวันนี้…

 

 

 

 

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด