The Daily Life of the Immortal King – ตอนที่ 110
ตอนที่ 110 ฝันร้ายของเหล่านักเรียนก็คือการเยี่ยมบ้าน
อาจารย์ป่านได้เข้ามายังห้องเรียนอีกครั้ง ในขณะที่โรงเรียนใกล้จะเลิกเรียน
หวังลิ่งรู้สึกได้ทันทีถึงเรื่องราวไม่ดีที่จะเกิดขึ้น
อาจารย์ป่านประกาศว่าเธอนั้นจะไปเยี่ยมบ้านนักเรียนในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้!
และบ้านที่เธอจะไปเยี่ยมในวันหยุดนี้ก็คือบ้านของหวังลิ่ง!
“อืม พวกเธอคงจะได้อ่านประกาศว่าจะมีการเยี่ยมบ้านกันแล้วใช่ไหม ดังนั้นก็ไม่ต้องตกใจไปหรอกนะ มันเป็นธรรมเนียมของทางโรงเรียนอยู่แล้ว” อาจารย์ป่านยิ้มให้นักเรียนทุกคนก่อนที่จะหอบสมุดการบ้านของเหล่านักเรียนเดินออกจากห้องไป
เธอทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้ในห้องเรียนก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป ไม่นานหลังจากนั้นก็เกิดระเบิดเสียงสนทนาขึ้นภายในห้องเรียน “อะไรนะเยี่ยมบ้านนักเรียน?! แค่บ้านของนักเรียนชายด้วยเนี่ยนะ!”
กัวหาวเอามือวางบนไหล่หวังลิ่งแล้วพูดขึ้นว่า “น้องชายระวังตัวด้วยหล่ะ แล้วอย่าลืมอาบน้ำให้สะอาดๆด้วย…”
หลินเสี่ยวหยู “ทำไมถึงต้องอาบน้ำให้สะอาด?”
กัวหาวถอนหายใจออกมา “ถ้าหากก้นของนายสะอาดปราศจากร่องรอย เมื่อนายโดนตีจากการเยี่ยมบ้านคราวนี้นายก็จะมีหลักฐานในการโพสลงใน Weibo เพื่อฟ้องร้องเรื่องการทำร้ายร่างกายในครอบครัว! เชื่อเถอะแค่เพียงรอยมือไม่กี่รอยมันจะทำให้นายกลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืน”
หวังลิ่ง “…”
……………………………………….
หวังลิ่งเตรียมตัวเตรียมใจเรื่องการมาเยี่ยมบ้านของอาจารย์ป่านเรียบร้อยแล้ว เขาไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีในทีแรก แต่ตอนนี้เขากลับคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่จะให้อาจารย์ป่านมาพบปู่ของเขา
การพบเจอกันแบบธรรมชาติน่าจะเป็นอะไรที่ดีกว่าการพบเจอกันแบบวางแผนเอาไว้
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือสถานที่พบเจอเป็นบ้านของเขาเอง ชายแก่จะได้ไม่ต้องประหม่าและมันทำให้พ่อและแม่ของเขาสบายใจ
เมื่อหวังลิ่งกลับมาถึงบ้านเขาพบว่าแม่ของเขากำลังทำอาหารอยู่ในครัวซึ่งมันเป็นอะไรที่หาดูได้ยากมาก ในช่วงที่ผ่านมาปกติแล้วปู่ของเขาจะเตรียมอาหารเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว แม่ของหวังลิ่งแค่ทำหน้าที่เป็นลูกมือคอยล้างผักและเตรียมวัตถุดิบให้ แต่รอบนี้ชายแก่ไม่ได้ทำอะไรเลย
บรรยากาศรอบบ้านวันนี้ก็ดูแปลกไปจากทุกที
หวังลิ่งมองไปยังนาฬิกาซึ่งมันแสดงเวลาหกโมงครึ่ง
ละครน้ำเน่าเรื่อง “สองหญิงหนึ่งชาย” เป็นละครโปรดของปู่ของเขาซึ่งกำลังฉายอยู่ขณะนี้ เนื้อเรื่องประมาณว่า สงครามระหว่างลูกสะใภ้และแม่ของพระเอก
แต่วันนี้ชายแก่ไม่ได้เปิดทีวีรอดูดั่งเช่นทุกวัน
เมื่อหวังลิ่งเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นเขาพบว่าปู่ของเขากำลังนั่งขมวดคิ้วจ้องอะไรบางอย่างอยู่บนโซฟา
พ่อของเขาก็นั่งอยู่ข้างๆ เมื่อเขาเห็นหวังลิ่ง เขาก็อธิบายผ่านทางความคิดว่าอะไรเกิดขึ้น
ชายแก่รู้สึกเบื่อๆเมื่อตอนกลางวันและไปขอหนังสือพิมพ์เก่าๆจากห้องทำงานของลูก พ่อของหวังลิ่งซึ่งมีงานอดิเรกชอบสะสมหนังสือพิมพ์เก่า และงานอดิเรกของปู่ของเขาคือการไล่อ่านตำราอาหารในหมวกการทำอาหารบนหนังสือพิมพ์ เขาชอบที่จะนำแนวคิดวิธีทำอาหารหลายๆแบบมาผสมและคิดค้นเมนูใหม่ๆจากหนังสือพิมพ์พวกนี้
แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นพ่อครัว แต่เขาก็ไม่สามารถเลิกงานอดิเรกนี้ได้ ทุกๆสองสัปดาห์เขาจะส่งสูตรอาหารใหม่ๆให้แก่ร้านอาหารที่เขาเคยทำงานให้
และวันนี้เองดูเหมือนว่าจะมีอะไรบางอย่างผิดปกติ เมื่อชายแก่พลิกหน้ากระดาษหนังสือพิมพ์…
เมื่อไม่กี่วันก่อนหวังลิ่งได้วาดใบหน้าของอาจารย์ป่านและส่งมันให้แก่พ่อของเขา พ่อของเขานั้นได้เอามันไปทิ้งแต่กลับกลายเป็นว่ารูปใบนั้นมันไปติดอยู่ระหว่างหน้าหนังสือพิมพ์ ผลสุดท้ายมันจึงกลายมาเป็นแบบนี้
ชายแก่ใช้เวลาช่วงบ่ายทั้งหมดไปกับการจ้องรูปวาดใบนี้ไม่กินไม่ดื่มอะไรเลย
“หลิงหลิง ลูกคิดว่าอาการของปู่แย่ลงหนักกว่าเก่าไหม? ลูกพอจะช่วยอะไรได้ไหม? พ่อคิดว่าปู่เขาคงใช้สมองมากไปแล้วในวันนี้… “
“…”
อาการทางสมองของคุณปู่ถือว่าเป็นปัญหาที่ซับซ้อนสำหรับหวังลิ่ง ถ้าหากเขาใช้พลังบังคับให้ปู่ของเขากลับสู่ภาวะปกติ ผลอาจจะได้ออกมามีด้วยกันสามอย่าง
หนึ่ง สมองของคุณปู่อาจจะระเบิด
สอง คุณปู่อาจจะตัวไหม้เกรียม
สาม อาการทางสมองของคุณปู่ถูกรักษา…
แน่นอนว่าโอกาสที่จะออกมาเป็นแบบที่หนึ่งมีมากกว่าถึง 80 เปอเซ็น
อีกฝ่ายเป็นถึงปู่ของเขา หวังลิ่งไม่อยากที่จะให้คุณปู่เป็นหนูทดลองวิธีรักษาของเขา
ในขณะที่สองพ่อลูกกำลังมองชายแก่อย่างไม่รู้จะช่วยยังไง หวังลิ่งก็ได้ยินเสียงเครื่องดูดควันถูกปิดจากในห้องครัว แม่ของหวังลิ่งถอดผ้ากันเปื้อนออกและประตูห้องครัวก็ถูกเปิดออกมา
เธอมองไปยังรอบๆห้องนั่งเล่นและนำอาหารกลับไปวางไว้ในห้องครัว สุดท้ายเธอจึงถอนหายใจและเข้ามานั่งข้างๆชายแก่จ้องมองรูปวาดใบนั้นด้วยกัน
“…”
หวังลิ่งถอนหายใจและบอกเรื่องที่อาจารย์ป่านจะมาเยี่ยมบ้านในวันพรุ่งนี้แก่พ่อและแม่ของเขา
ทันใดนั้นเองคนทั้งสามคนที่นั่งอยู่บนโซฟาก็หันมามองหน้าหวังลิ่งด้วยความตกใจ “เยี่ยมบ้าน?! ทำไมลูกไม่บอกให้เร็วกว่านี้?!”
หวังลิ่ง “…”
พ่อของหวังลิ่งกอดคอพ่อของเขา “พ่อในที่สุดความปรารถนาของพ่อก็เป็นจริง”
ราวกับว่าความกดดันทั้งหมดได้ถูกคลายออก ชายแก่กลับเข้าสู่ภาวะปกติและมองไปยังรูปวาดใบนั้นด้วยความรู้สึกดีใจ “ป่านน้อย…ฉันไม่คาดคิดเลยว่าจะมีโอกาสได้เจอป่านน้อยอีกครั้ง!”
ปู่ของหวังลิ่งดีใจเสียคนแทบจะคุมอาการตัวเองไม่อยู่ ตาของเขาเริ่มแดง และมีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาคู่นั้น นานมากแล้วที่หวังลิ่งไม่เคยเห็นอาการแบบนี้จากปู่ของเขา ตั้งแต่เขาจำความได้ก็มีแค่ตอนที่คุณปู่พาเขาไปเยี่ยมหลุมศพคุณย่า
ในขณะนั้นชายแก่ร้องไห้ด้วยความโศกเศร้า แต่ในครั้งนี้เขาร้องไห้ด้วยความดีใจ
พ่อและแม่ของหวังลิ่งรู้สึกโล่งอก ดูเหมือนว่าอาการของชายแก่จะถูกรักษาให้หายขาดได้เสียที
หลังจากนั้นสองสามาภรรยาก็ใช้เวลาทั้งคืนในการสอนคุณปู่ว่าควรจะพูดยังไงเมื่อพบหน้าอาจารย์ป่านในวันพรุ่งนี้
ท้ายที่สุดพวกเขาตัดสินใจว่าจะปล่อยให้ หวังลิ่งและคุณปู่พบปะกับอาจารย์ป่านเพียงแค่ 2 คน
ถือว่าเป็นการช่วยเหลือชายแก่ทางอ้อมเพื่อที่จะให้ชายแก่และอาจารย์ป่านได้มีโอกาสพูดคุยกันมากขึ้น ถึงแม้ว่าหวังลิ่งจะอยู่ด้วยแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงเปรียบเสมือนโคมไฟประดับห้องดีๆนี่เอง…
……………………….
วันรุ่งขึ้นเป็นวันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม เวลาประมาณ 9 โมงเช้า กระดิ่งหน้าบ้านครอบครัวหวังก็ดังขึ้น
เมื่อหวังลิ่งเปิดประตูออกมา เขาก็พบกับหญิงสาวแต่งตัวสวยคนหนึ่งยืนอยู่หน้าบ้านของเขา เธอแต่งตัวด้วยชุดเสือคลุมปักลายสีเขียวอ่อนรับกับผมทรงหางม้าของเธอ
จากนั้นเสียงที่คุ้นเคยก็ดังออกมาจากปากผู้หญิงคนนั้น “สวัสดี นักเรียนหวังลิ่ง บ้านของเธออยู่ไกลจังเลยนะอาจารย์ใช้เวลาสักพักกว่าจะเดินทางมาถึง”
หวังลิ่งรู้สึกเหมือนกับโดนไฟช็อต “…” ‘วอททท! ผู้หญิงหน้าตาสะสวยคนนี้เป็นใคร?! ทำไมเสียงคุ้นๆเหมือนกับอาจารย์ป่าน?!”
คอมเม้นต์