The Daily Life of the Immortal King – ตอนที่ 89

อ่านนิยายจีนเรื่อง The Daily Life of the Immortal King ตอนที่ 89 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 89 เป้าหมาย

 

 

พ่อของหวังลิ่งรู้เรื่องที่หวังลิ่งจะพาสองสีมาบ้านแล้วจากWeChat ตอนเปิดเทอมทางโรงเรียนได้สร้างกรุ๊ปของผู้ปกครองขึ้น และอาจารย์ป่านจะเป็นคนรายงานเรื่องทุกอย่างในโรงเรียนให้ผู้ปกครองทราบ เธอเป็นคนส่งข้อความส่วนตัวมาหาพ่อของหวังลิ่งโดยตรง เธอยังถามด้วยว่าต้องการอาหารสุนัขไหมซึ่งพ่อของหวังลิ่งก็รู้สึกละอายใจ

 

แน่นอนว่าทุกวันนี้อาหารแมวหรืออาหารสุนัขมีราคาแพงมาก เผลอๆยังแพงกว่าอาหารมนุษย์เสียอีก มันไม่ใช่ความลับอะไรที่ทุกคนในโรงเรียนรู้ว่าครอบครัวของหวังลิ่งมาฐานะยากจน ตอนที่เธอถามเรื่องอาหารสุนัขเธอว่าจะถือโอกาสนั้นมาเยี่ยมบ้านหวังลิ่งเสียเลย

 

แม้ว่าภายนอกอาจารย์ป่านจะเป็นคนเย็นชาเข็มงวดและดูไม่เป็นมิตร แต่จริงๆแล้วเธอเป็นคนที่ใจดีคนหนึ่ง เธอคอยคำนึงถึงเรื่องเรียนและเรื่องปัญหาทางบ้านของเด็กนักเรียนเสมอ

 

เธอรู้สึกว่าสำหรับเด็กที่โตมาในครอบครัวยากจนอาจจะมีอะไรบางอย่างในใจ บวกกับบุคลิกของหวังลิ่ง ทำให้เธอคิดว่าหวังลิ่งนั้นอาจจะมีปมที่ซับซ้อนในจิตใจ…ดังนั้นเธอจึงระมัดระวังเรื่องการพูดถึงครอบครัวภายในห้องเรียนเพราะกลัวมันจะไปกระทบจิตใจของหวังลิ่ง และเธอก็คอยย้ำเตือนเหล่านักเรียนของเธอว่าไม่ให้เปรียบเทียบเรื่องอื่นนอกจากเรื่องเรียน

 

แต่ความจริงแล้ว…

 

หวังลิ่งรู้สึกว่าการเข้าใจผิดของอาจารย์ป่านหรือทุกคนนั้นมันเกินกว่าจะแก้ไขอะไรได้แล้ว

 

จะปมปัญหาทางจิตใจอะไรก็ตามแต่…เขาไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น

 

ตลอดชีวิตของเขา เขาไม่เคยเข้าห้องน้ำพร้อมกับนักเรียนชายคนอื่น เพราะเขาไม่อยากให้คนอื่นเห็นขนาดเจ้าช้างน้อยของเขา

 

เพราะเขาไม่อยากทำร้ายจิตใจนักเรียนชายคนอื่น

 

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเขาจึงมักที่จะเข้าห้องน้ำคนเดียวตอนที่ไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ…

 

…………………………….

 

 

หวังลิ่งเปลี่ยนไปใส่รองเท้าแตะและวางสองสีลงบนพื้น แต่กลับกลายเป็นว่าเจ้าสองสีมันตัวแข็งทื่ออย่างกับก้อนหิน เนื่องจากไม่มีคำสั่งมาจากหวังลิ่ง อดีตราชาปีศาจจึงไม่กล้าขยับไปไหน ทันทีที่เขาเอาเท้าไปสะกิดก้นมัน มันรู้สึกตัวและรีบหมอบลงแทบเท้าเขา

 

พ่อของหวังลิ่งได้ยินจากหวังลิ่งมาว่าเจ้าสองสีจริงๆแล้วเคยเป็นราชาปีศาจมาก่อน เขาคิดว่ามันจะดูดุร้ายมากกว่านี้เสียอีก คาดไม่ถึงว่าเมื่อมันอยู่ต่อหน้าหวังลิ่งจะเชื่องขนาดนี้

 

‘ดูเหมือนว่ามันจะถูกฝึกมาดีสินะ’

 

พ่อของหวังลิ่งพยักหน้าอย่างพึ่งพอใจและลูบขนของมัน ตอนที่มันอยู่ในโรงเรียนนักเรียนมักจะใช้ยันต์ทำความสะอาดแก่มัน ดังนั้นขนของเจ้าสองสีจึงนุ่มเป็นพิเศษ ที่ติดใจอยู่อย่างเดียวก็คือทำไมสีขนของมันถึงแปลก

 

“ทำไมสีขนมันถึงเป็นสีเขียว?”

 

หวังลิ่งไม่ได้ตอบอะไรพ่อของเขา

 

พ่อของหวังลิ่งเริ่มที่จะสร้างเรื่องราวขึ้นมาในหัวของเขา การมโนถือเป็นโรคอย่างหนึ่งสำหรับเหล่านักเขียนนิยาย

 

เขาถอนหายใจออกมา เนื่องจากสีขนของมันบอกได้ยากว่าสุนัขตัวนี้ผ่านอะไรมาบ้าง มันอาจจะต้องผ่านอะไรต่างๆมาอย่างมากมายใช่ไหม? ขนาดคนยังเป็นเรื่องยากเลยที่จะเป็นคน นับภาษาอะไรกับสุนัขมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเป็นสุนัข!

 

“…”

 

ขณะนี้ แม่ของหวังลิ่งและคุณปู่ของเขากำลังวุ่นกับการทำอาหารในครัว โดยปกติแล้วปู่ของเขาจะไม่อนุญาตให้ใครเข้ามายุ่มย่ามในขณะที่เขากำลังทำอาหาร แต่เนื่องจากปัญหาทางสมองเขากลัวที่จะลืมใส่เกลืออีกเขาจึงให้แม่ของหวังลิ่งเข้าไปช่วยตรวจสอบอาหาร

 

โดยปกติแล้วเวลาก่อนอาหารเย็นจะเป็นเวลาเดียวที่หวังลิ่งและพ่อของเขาอยู่ด้วยกันตามลำพัง แต่การสนทนาของทั้งคู่ค่อนข้างจะแปลกประหลาดนิดหน่อย เนื่องจากหวังลิ่งไม่เคยที่จะปริปากออกมา เขามักจะพูดคุยกับพ่อของเขาผ่านความคิดมากกว่า

 

ดังนั้นบรรยากาศภายในห้องค่อนข้างที่จะแปลกสักนิด

 

แต่ครั้งนี้พ่อของหวังลิ่งอยากจะคุยกับหวังลิ่งเรื่องผู้ชายสองคนก่อนหน้านี้

 

แลนด์สเคปเมเนอร์ เป็นบริษัทใหญ่ระดับเดียวกันกับม่านน้ำฮวงโหกรุ๊ป ด้วยชื่อเสียงในเรื่องการค้าขายกว่าร้อยปี และทีวีทุกช่องก็มีโฆษณาไวน์ของพวกเขา หวังลิ่งจำได้ว่าในขณะที่เขาเดินผ่านชั้นขายของในห้างสรรพสินค้าเขามักจะได้ยินเสียงโฆษณาจนหูแทบดับ แต่อย่างไรก็ตามการขายไวน์ถือเป็นเพียงรายได้20%ของพวกเขาส่วนที่เหลืออีก80%เป็นธุรกิจเกี่ยวกับของโบราณ

 

แน่นอนว่าคนทั่วไปจะไม่รู้เรื่องการขายของโบราณของบริษัทแลนด์สเคปเมเนอร์ พ่อของหวังลิ่งรู้เกี่ยวกับมันเพราะอาชีพของเขาด้วย นักเขียนนิยายออนไลน์เป็นพวกลึกลับที่ชอบเก็บตัวอยู่บ้านและไม่ชอบเข้าร่วมงานออฟไลน์ แต่พ่อของหวังลิ่งก็ไม่เคยพลาดงานออนไลน์ต่างๆ นั่นทำให้เขาพบเจอบุคคลมากมายหลายประเภท

 

เนื่องจากบรรดานักเขียนนิยายออนไลน์ก็ไม่ใช่นักเขียนฟูลไทม์ พวกเขาทำงานอย่างอื่นอีก พ่อของหวังลิ่งจึงมีโอกาสที่จะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิด และรวมไปถึงข่าวลือต่างๆ…

 

ธุรกิจเบื้องหลังของแลนด์สเคปเมเนอร์ พ่อของหวังลิ่งได้ยินมาจากนักเขียนที่ทำงานอยู่ร้านขายของโบราณ บางส่วนอาจจะดูเว่อไปนิด แต่เขาก็รู้สึกว่าประมาณ70%ยังพอสามารถเชื่อถือได้

 

ดั่งที่เขามักจะย้ำคติของตระกูลหวังสม่ำเสมอว่าอย่าทำตัวเด่นเพราะเขาคิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญ มันไม่ใช่เรื่องดีนักหรอกที่ตัวเองจะกลายเป็นจุดสนใจจากบรรดาผู้มีอำนาจ

 

“พ่อคงไม่ต้องบอกลูกหรอกนะว่าเรื่องมันร้ายแรงแค่ไหน”

 

หวังลิ่งพยักหน้าและยกมือขึ้นมาจับคางอย่างครุ่นคิด แต่ก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไรพ่อของหวังลิ่งก็พูดตัดบทขึ้นมาก่อน “ลูกแน่ใจนะว่ามันไม่มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับหน้ากากนั่น? อย่าบอกว่าลูกไม่เคยคิดผิด ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าบางครั้งลูกก็ไม่สามารถตรวจความพิเศษของหน้ากากใบนั้นผ่านวิธีธรรมดา?”

 

คำถามของพ่อเขาทำให้เขาถึงกับชะงักไป ก็จริงอย่างที่พ่อเขาว่า เพราะก่อนหน้านี้เขาทำแค่ลองสวมหน้ากาก ไม่ได้ทดสอบอะไรเพิ่มเติม มันอาจจะยังเร็วไปที่จะบอกว่าหน้ากากนั่นไม่มีอะไรผิดปกติ

 

เจ้าสองสีซึ่งนอนอยู่บนพื้นจ้องมองการพูดคุยของสองพ่อลูกอย่างสงสัย

 

นี่อาจจะเป็นการพูดคุยที่เย็นชาที่สุดระหว่างพ่อและลูกในประวัติศาสตร์ เพราะมันได้ยินเพียงแค่เสียงของพ่อหวังลิ่งฝ่ายเดียว

 

“มองจากสถานการณ์แล้ว พ่อว่ามันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับหน้ากากนั่น ไม่อย่างนั้นคงไม่มีใครที่ไหนบ้าเสนอเงินจำนวน2ล้านหยวนเพื่อซื้อหน้ากากนั่น ซึ่งลูกซื้อมาจากอินเทอเน็ตแค่5หยวน ลูกไม่คิดว่ามันแปลกบ้างรึ”

 

หวังลิ่งไม่ได้ตอบอะไรกลับเขากำลังจมดิ่งสู่ห้วงความคิดของตัวเอง…

 

 

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด