The Daily Life of the Immortal King – ตอนที่ 111
ในตอนที่ 110 ผมได้เขียนไว้ว่าผู้หญิงวัยกลางคน ขอเปลี่ยนแปลงเป็นหญิงสาวนะครับ
ได้ทำการแก้ไขแล้วในตอนที่ 110 เรียบร้อยแล้ว
ตอนที่ 111 อย่าแพ้ให้กับความรักครั้งแรก!
เป็นครั้งแรกที่หวังลิ่งรู้สึกกลัวอะไรบางอย่างในชีวิตเมื่อเขาเห็นผู้หญิงสวยๆแบบนี้อยู่ตรงหน้า ไม่มีทางเลยที่นักเรียนคนไหนจะจำได้ว่าผู้หญิงหน้าตาสวยๆไร้ตีนกาคนนี้จะเป็นคนคนเดียวกันกับอาจารย์ป่านของพวกเขา!
อาจารย์ป่านซึ่งปกติแล้วจะมีหุ่นเหมือนโอ่งน้ำและผมหางม้าสีขาวของเธอ ของเหล่านั้นได้จากไปเพราะประจำเดือนของเธอกลับคืนมาหรือ?
เขารู้สึกตะลึงและไม่อยากจะเชื่อในความสวยของอาจารย์ป่าน มันเหมือนกับการดูหนังผีแล้วยังคงมีภาพผีติดตาอยู่
แม้แต่เครื่องสำอางราคาแพงที่สุดในโลกยังไงก็ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนรูปร่างได้ขนาดนี้ อาจารย์ทำได้ยังไงกัน?
หวังลิ่งที่กำลังครุ่นคิดถึงวิธีของอาจารย์ป่านอยู่นั้น เขาก็ถึงบางอ้อว่า เป็นไปได้ที่อาจารย์จะใช้วิชาขั้นสูงอย่าง วิชาศัลยกรรมพลาสติก โฟโต้ช็อบ และเสริมสวยขั้นสูง…
“ทำไมเธอทำหน้าอย่างนั้นหล่ะนักเรียนหวังลิ่ง?” เมื่ออาจารย์ป่านเห็นใบหน้าของหวังลิ่งที่กำลังแสดงท่าทางเอ๋อๆปนตกใจ ทำให้เธอหลุดขำออกมา “กฎของโรงเรียนเขาห้ามไม่ให้อาจารย์แต่งหน้าหนาๆหรือใช้ยาวิเศษ อย่างเช่น ยาคืนความสาวอันนี้ แต่ตอนนี้อาจารย์ไม่ได้อยู่ในโรงเรียนแล้ว อาจารย์จึงกินยาคืนความสาวก่อนที่จะออกจากบ้านมา เรื่องนี้ขอให้เป็นความลับนะนักเรียนหวังลิ่งห้ามบอกนักเรียนคนอื่นเป็นอันขาด!”
เมื่อหวังลิ่งได้ยินคำอธิบายของอาจารย์ป่านเขาก็เข้าใจทุกอย่างขึ้นมาทันที
ยาคืนความสาวชนิดนี้ได้ถูกวางขายอยู่ในตลาดทั่วไปและมันจะมีผลเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น หลังจากกินยาชนิดนี้เข้าไปจะทำให้ผิวหนังที่เหี่ยวย่นกลับมาเต่งตึงเหมือนเด็กสาวอายุ18 อีกครั้ง
สรุปว่าอาจารย์ป่านที่ยืนอยู่เบื้องหน้าของเขาตอนนี้คืออาจารย์ป่านตอนอายุ 18 ปี
หวังลิ่งไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าสมัยก่อนอาจารย์ป่านจะสวยขนาดนี้!
อาจารย์ป่านเข้ามาภายในบ้านของหวังลิ่งและเปลี่ยนมาสวมรองเท้าใส่เดินในบ้าน และก้าวเท้าเข้ามายังตัวบ้านของหวังลิ่ง เธอตระหนักได้ว่าภายในบ้านของหวังลิ่งนั้นไม่มีตัวเครื่องผลิตพลังวิญญาณหรืออะไรทำนองนั้นอยู่เลย ซึ่งโดยปกติแล้วบ้านทุกหลังควรจะมีเจ้าเครื่องนี่อยู่เพื่อเป็นการเสริมสร้างพลังวิญญาณของเด็ก
อาจารย์ป่านเคยคิดว่าที่บ้านของหวังลิ่งอาจจะมีเครื่องผลิตพลังวิญญาณขนาดจิ๋วหรืออะไรทำนองนั้นแต่กลับกลายเป็นว่า ครอบครัวของหวังลิ่งยากจนมากขนาดเครื่องผลิตพลังวิญญาณยังไม่มีเลยสักเครื่องเดียว แล้วหวังลิ่งที่ไม่มีเจ้าสิ่งของพวกนี้เลยฝึกตนจนถึงขั้นแรกเรื่องลมปราณได้ยังไง?
ในการฝึกฝนจนถึงขั้นแรกเริ่มลมปราณด้วยสภาพแวดล้อมแบบนี้เป็นอะไรที่ค่อนข้างยาก
อาจารย์ป่านมองไปยังหวังลิ่งด้วยความรู้สึกสงสารในความยากจนของเขา
หวังลิ่ง “…”
เมื่อเธอเดินเข้ามาถึงห้องนั่งเล่น คุณปู่ของหวังลิ่งก็ลุกขึ้นยืนจากโซฟาทันทีและเมื่อตาของทั้งคู่สบกันพวกเขาก็ยืนนิ่งไป
คุณปู่ของเขาตกใจในความสวยของอาจารย์ป่านซึ่งเขาไม่คาดคิดว่าเธอจะยังคงสวยเหมือนเดิมแม้เวลาจะล่วงเลยไปหลายปีแล้วก็ตาม
ส่วนอาจารย์ป่านเธอรู้สึกคุ้นหน้าชายแก่ที่อยู่เบื้องหน้าเธอแต่เธอก็นึกไม่ออกว่าเขาเป็นใคร
ทางด้านหวังลิ่งซึ่งได้แอบอ่านความคิดของอาจารย์ป่านก็ทราบทันทีว่าอาจารย์ป่านจำเรื่องราวของคุณปู่ของเขาไม่ได้แล้ว
‘คงไม่แปลกเพราะมันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว’
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือความรักของคุณปู่ของเขายังคงไม่มีเสื่อมคลาย หวังลิ่งไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องความรักมาก่อน ตอนนี้คงมีแค่ชายแก่เท่านั้นที่รู้ซึ้งถึงความรู้สึกเหล่านี้
ทั้งคู่มองหน้ากันอยู่นานพอสมควรและดูเหมือนอาจารย์ป่านยังคงจำชายแก่ยังไม่ได้ คุณปู่ของหวังลิ่งจึงรู้สึกเศร้า ‘ฉันคงไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วสินะ’
หวังลิ่งเข้าใจขึ้นมาทันทีถึงความต่างของคนธรรมดาและผู้ฝึกตน
ผู้ฝึกตนสามารถคงความอ่อนเยาว์ของตนเองได้โดยกินยาวิเศษกลไกลภายในร่างกายจะใช้พลังวิญญาณปรับสภาพเซลล์ผิวให้กลับไปดูอ่อนเยาว์ได้ แต่ในทางกลับกันถ้าหากคนธรรมดากินยาวิเศษเข้าไปแล้วผลที่ได้คงไม่ต่างกับการกินน้ำเปล่าเพราะว่าไม่มีพลังวิญญาณนั่นเอง
โศกเศร้า?
อาจจะนิดหน่อย
แต่นี่แหละคือความจริง
ปู่ของหวังลิ่งซึ่งปกติแล้วจะเป็นคนร่าเริงและเคยแสดงสีหน้าแบบนี้มาก่อน เขาโบกมือเชิญให้อาจารย์ป่านนั่งลงพร้อมกับเสิร์ฟชานมให้ถ้วยหนึ่ง “โปรดนั่งลงก่อน ดื่มชาสักหน่อยนะอาจารย์ป่าน”
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าคุณคือ…” อาจารย์ป่านขมวดคิ้ว
“โอ้ ผมเป็นปู่ของหวังลิ่ง พ่อแม่ของหลิงหลิงมีธุระด่วน ผมจึงอาสารับหน้าทีพบกับอาจารย์แทน”
“อ๋อ ค่ะ”
อาจารย์ป่านเข้าใจสถานการณ์และยิ้มให้ “ไม่มีปัญหาอยู่แล้วค่ะ เพราะการมาเยี่ยมนักเรียนกะทันหันในครั้งนี้ก็เป็นการตัดสินใจของตัวอาจารย์เองด้วย”
หวังลิ่งรู้สึกว่า ไม่เพียงแต่รูปลักษณ์ภายนอกที่กลับไปเป็นสาวอีกครั้งแต่ยังรวมไปถึงลักษณะการพูดท่าทางและอื่นๆ ซึ่งดูแตกต่างไปยากสิ้นเชิงกับอาจารย์ป่านภายในโรงเรียน
“ไม่เป็นไรหรอก อาจารย์ป่าน” ชายแก่ยิ้มให้
“แล้วจะให้ฉันเรียกคุณว่ายังไงดีคะ? คุณหวังหรือคุณปู่หวัง?”
หวังลิ่งและคุณปู่ของหวังลิ่ง “…”
การที่จะให้รักแรกของเขาเรียกตัวเองว่า “คุณปู่” มันเป็นอะไรที่น่าเจ็บปวด
ชายแก่จึงรีบตอบกลับไปทันที “เรียกผมว่าคุณหวังก็แล้วกัน…”
อาจารย์ป่านหัวเราะกับคำตอบของชายแก่ในขณะที่ในมือถือแก้วใส่ชานมอยู่ ซึ่งเป็นภาพที่น่ามองราวกับดารากำลังถ่ายแบบลงนิตยสาร
หวังลิ่งนั่งอยู่ตรงข้ามพวกเขาและนั่งฟังการพูดคุยหยอกล้อเล็กๆน้อยๆของทั้งคู่ ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มพูดถึงเขา
“หวังลิ่งเป็นเด็กที่ค่อนข้างเงียบที่โรงเรียน ฉันจึงคิดว่าอาจจะเป็นเพราะสภาพแวดล้อมภายในบ้าน แต่พอฉันมาเยี่ยมบ้านครั้งนี้ฉันพบว่าคุณหวังมีทัศนะคติที่ดีมาก”
ชายแก่ลูบหัวโล้นของเขาด้วยความเขินอาย “เด็กคนนี้จริงๆแล้วเป็นคนที่จิตใจดีเหมือนพ่อแม่ของเขาแหละ เดี๋ยวพอคุณรู้จักกับเขามากขึ้นคุณก็จะพบเองว่าเขามีศักยภาพบางอย่างซ่อนอยู่ แต่หน้าตายของเขานี่ยังไงก็แก้ไม่หายเพราะเขาทำหน้าแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ได้โปรดอย่าถือสาเขาในเรื่องนี้เลย”
หวังลิ่ง “…”
อาจารย์ป่านยกมือขึ้นป้องปากและหัวเราะ “คุณหวัง คุณนี่พูดจาตลกดีเนอะ ฉันมีคำถามบางอย่างอยากจะถามคุณหน่อย”
“อะไรรึ?”
“คุณหวังรู้ไหมว่านักเรียนหวังลิ่งเกิดวันไหนเดือนอะไร?”
ชายแก่นึกอยู่ครู่นึงและตอบกลับไป “วันที่ 26 ธันวาคม”
อาจารย์ป่านจ้องไปยังหวังลิ่งและพยักหน้าราวกับนึกอะไรออกบางอย่าง “ไม่แปลกใจเลย…”
“มีอะไรรึอาจารย์ป่าน?”
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่นึกได้ว่านักเรียนหวังลิ่งนั้นเกินราศีมังกร”
“…”
คอมเม้นต์