The Daily Life of the Immortal King – ตอนที่ 119

อ่านนิยายจีนเรื่อง The Daily Life of the Immortal King ตอนที่ 119 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 119 ท่านนักบุญลำดับสอง ท่านโอเคไหมครับ?!

 

 

ตามตำราของผู้ฝึกตน มันมีอาการบาดเจ็บจากการสะท้อนกลับอยู่หลายประเภทโดยถูกแบ่งเป็นระดับอยู่ทั้งสิ้น 5 ระดับ

 

สำหรับสองคิงชู ที่เห็นอาการบาดเจ็บจากการสะท้อนของเซียนเฒ่าเขาคิดว่าคงเป็นอาการบาดเจ็บระดับ 4 ซึ่งเกิดจากพลังวิญญาณที่สะท้อนกลับเข้าตัวของชายแก่และไม่สามารถกำจัดมันออกไปได้มันจึงประทุอยู่ภายในร่างกายของชายแก่ เนื่องจากว่าเขาไม่ยอมปล่อยมันออกมาและพยายามหมุนเวียนพลังวิญญาณ ซึ่งผลที่ได้กลับตรงกันข้ามพลังวิญญาณไหลขึ้นไปกองที่หัวและทำให้หัวของชายแก่บวมใหญ่ขึ้น

 

ถ้าหากยังปล่อยไว้แบบนี้ มันอาจจะส่งผลให้เส้นเลือดในสมองแตกนอนกลายเป็นผักได้

 

ด้วยวุฒิภาวะและประสบการณ์ของสองคิงชู เขาอยู่มีระดับแค่เพียงวิญญาณก่อกำเนิด คงไม่บังอาจลำเส้นผู้ฝึกตนระดับแก่นแท้วิญญาณจึงขอไม่ออกความเห็นใดทั้งสิ้น แต่เขาก็ยังคงมั่นใจว่าอาการเหล่านี้เป็นอาการบาดเจ็บจากผลของการโดนสะท้อนพลังวิญญาณกลับมา! โดยคนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจะเป็นเพียงผู้ที่เป็นแกนกลางในการใช้วิชารับรู้สวรรค์เท่านั้น

 

สองคิงชูรู้สึกตื่นตระหนกเพราะถ้าหากมันถูกสะท้อนกลับมาได้จริง เด็กคนที่อยู่ในบ้านหลังนั้นเป็นใครกันแน่?

 

และในระหว่างนั้นเอง เซียนเฒ่าเคราแพะที่อยู่หลังรถก็หมดสติน้ำลายฟูมปากไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

“แย่แล้ว! นี่มันผลกระทบจากการสะท้อนของพลังวิญญาณ! เร็วเข้า…ความรุนแรงระดับไหนกัน?”

 

เหล่านักบุญคนอื่นๆที่อยู่รอบตัวชายแก่รู้สึกถึงความผิดปกติของชายแก่ พวกเขาจึงหยุดการใช้วิชารับรู้สวรรค์

 

นักบุญลำดับที่สองใช้พลังวิญญาณตรวจอาการของชายแก่หลังจากนั้นเขาจึงแสดงท่าทางตกใจออกมา “ไม่ดีแล้ว! นี่มันความรุนแรงระดับสี่!”

 

เมื่อได้ยินดังนั้น เหล่านักบุญคนอื่นต่างแสดงอาการหมดหวังและรู้สึกเสียใจออกมาผ่านทางสีหน้า

 

พวกเขารู้ว่าระดับสี่นั้นหมายถึงอะไร

 

แม้ว่าจะไม่ถึงขั้นเสียชีวิต แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ชายแก่จะกลายเป็นอัมพาตนอนเป็นผักกว่า 90% และถึงแม้ว่าชายแก่จะสามารถต่อสู้กลับมาได้ พลังของเขาจะลดลงอย่างมาก! หรือขั้นรุนแรงที่สุดก็คือสูญเสียพลังและไม่สามารถกลับมาเป็นผู้ฝึกตนได้อีกเลยตลอดชีวิต!

 

สำหรับผู้ฝึกตนที่เคยชินกับพลังของตน การที่ไม่สามารถใช้พลังได้อีกถือเป็นอะไรที่หนักหนาเกินที่จะรับไหว

 

ภายในรถลีมูซีน ทุกคนต่างเงียบกริบไม่มีใครปริปากออกมาเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมง ใครจะไปคาดคิดว่าเพียงแค่งานง่ายๆ จะทำให้ชื่อเสียงของ10นักบุญพังป่นปี้ขนาดนี้?

 

เหล่าพี่น้อง10นักบุญต่างกอดขาเซียนเฒ่าไว้และร่ำไห้กับการสูญเสียในครั้งนี้ “ศิษย์พี่! ศิษย์พี่! ลืมตาขึ้นมาสิ!”

 

“ศิษย์พี่ พี่เหลืออีกแค่เพียงไม่กี่ก้าวก็จะเป็นราชาแห่งคิงออฟกลอรี่(King of Glory)*แล้ว!”
*King of Glory เกม Mobile MOBA อันดับต้นๆของจีน

 

นักบุญลำดับที่สองกอดไหล่ของเซียนเฒ่าไว้แน่นและปาดน้ำตาตนเอง “ศิษย์พี่! พวกเราจะไม่ทอดทิ้งกัน! พี่ต้องอดทนให้ได้! ได้โปรดเข้มแข็งเข้าไว้!”

 

ทันใดนั้นเองเซียนเฒ่าก็ขยับตาและยกมือของเขาขึ้นด้วยพลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ “ฉะ…ฉันยังไม่ตาย…ถ้าหากพวกนาย…ถ่ายพลังวิญญาณมาให้ฉัน…ฉันคิดว่ามันคงช่วยให้ฉันรอดได้…”

 

ทางด้านที่นั่งเบาะหน้า สองคิงชูและลูกน้องของเขากำลังตกใจกับภาพที่เห็น

 

มันเป็นฉากที่เหล่าพี่น้อง10นักบุญกำลังวุ่นวายกับการช่วยเหลือเซียนเฒ่า

 

สองคิงชูเป็นคนที่อ่อนไหวกับเรื่องอะไรพวกนี้

 

และเมื่อน้ำตาของเขากำลังจะหลั่งออกมา นักบูญลำดับสองที่กำลังกอดเซียนเฒ่าอยู่ได้ยื่นมือออกไป…และค่อยๆวางมือลงบนคอของชายแก่…

 

และทันใดนั้นเอง…นักบูญลำดับสองก็ได้ปลิดชีวิตของชายแก่ลง

 

“!!!”

 

สองคิงชูและลูกน้องของเขาตกใจกับภาพตรงหน้า

 

“ท่านนักบุญลำดับที่สอง ทำไม…”

 

นักบุญลำดับสองส่ายหัวอย่างช้าๆ “ฉันช่วยให้ศิษย์พี่รอดพ้นจากชะตากรรมอันแสนเลวร้าย แม้ว่าพวกเราช่วยเขาได้…แต่อนาคตยังไงเขาก็จะต้องกลายเป็นคนพิการอยู่ดี”

 

“แต่ท่านเซียนเฒ่าบอกไว้ว่าถ้าหากพวกท่านถ่ายพลังวิญญาณสักส่วนหนึ่งไปให้…”

 

“หัวหน้าสอง นายจะเชื่อลมปากของคนแก่ที่ใกล้จะตายหรือ?”

 

สองคิงชูมองผ่านหน้าจอ ก่อนที่เซียนเฒ่าจะสิ้นลมหายใจ เขาได้เบิกตากว้างใส่ศิษย์น้องของเขา เพราะเขาไม่คิดเลยว่าศิษย์น้องของเขาจะเป็นคนที่ปลิดชีพเขาเสียเอง

 

สองคิงชูไม่แสดงความคิดเห็นใดออกไปเป็นเวลานาน ‘เห็นได้ชัดว่าชายแก่คงตายด้วยความเสียใจอย่างที่สุด’

 

มันควรจะเป็นฉากการช่วยเหลือกันระหว่างพี่น้อง แต่กลับกลายเป็นฉากที่พี่น้องห้ำหั่นกันเองเสียงั้น

 

สมองของเขามึนไปหมดเขาไม่รู้แล้วว่าจะเขียนรายงานยังไงดี

 

“ท่านศิษย์พี่ หลับให้สงบนะครับ…”

 

นักบุญลำดับสองยื่นมือไปปิดตาของชายแก่ “ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวผมจะแก้แค้นให้ศิษย์พี่เอง!”

 

“…” ‘แกพึ่งจะฆ่าเขาเองกับมือนะเฮ่ย!’

 

ทางฝั่ง10นักบุญที่เหลือยังคงร่ำไห้ให้กับการจากไปของเซียนเฒ่าอยู่ “รุ่นพี่ลำดับที่สองไม่ต้องโทษตัวเองหรอก ถ้าหากศิษย์พี่ใหญ่กำลังมองพวกเราอยู่จากบนสวรรค์ เขาจะต้องเข้าใจ!”

 

มือของนักบุญลำดับสองกำแน่นและลุกขึ้นยืน ผ้าคลุมสีฟ้าของเขาสะบัดออกพร้อมกับพลังวิญญาณที่ระเบิดออกมา “เหล่าพี่น้องทั้งหลาย! ศิษย์พี่ใหญ่ของเราได้จากไปแล้ว แต่พวกเราจะไม่หยุดยั้งการแก้แค้นในครั้งนี้เด็ดขาด!”

 

เมื่อสิ้นเสียงของนักบุญลำดับสอง เหล่า10นักบุญที่เหลือก็ปรบมือให้และบางคนก็กลับไปร้องไห้ต่อ

 

ท้ายที่สุด นักบุญลำดับสามก็ดึงสติกลับมาได้และพูดขึ้น “ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกลุ่ม10นักบุญขึ้นมา พวกเราก็ไม่เคยแตกแยกเลย ตอนนี้ศิษย์พี่ใหญ่ได้จากไปแล้ว พวกเราก็ควรจะเชื่อฟังคำสั่งของศิษย์พี่ลำดับสอง!”

 

“รับทราบครับ!”

 

นักบุญลำดับสองพยักหน้า จากนั้นเขาจึงท่องคาถาจนเกิดแสงสีม่วงขึ้นที่มือของเขา

 

ไม่นานนักกระเป๋าของชายแก่ก็สั่นไหว ไม้คทาอันทรงพลังก็ลอยออกมาจากกระเป๋าบินเข้าสู่มือของนักบุญลำดับสอง เมื่อเขากระแทกมันลงกับพื้นพลังกดดันวิญญาณก็แผ่ขยายออกไป

 

พลังวิญญาณด้านมืดได้ครอบคลุมพื้นที่บริเวณนี้เอาไว้และทำให้ทุกคนหายใจลำบาก

 

นักบุญที่เหลืออีกแปดคนรู้สึกตกใจและร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกัน “นั่นมันปีศาจราตรี!”

 

สองคิงชูเหลือบมองไปยังจอภาพ และเขาก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็นอีกครั้ง…เพราะว่าปีศาจราตรีเป็นอาวุธที่ถูกสร้างขึ้นโดยจอมมารชีผี! แต่มันมีพลังที่ชั่วร้ายเกินไปจอมมารชีผีจึงต้องผนึกมันไว้!

 

อาวุธชิ้นนี้ถือว่าอยู่ในระดับจอมราชันย์ มันไม่ใช่แค่เพียงมีพลังอำนาจแต่มาพร้อมกับความสามารถพิเศษ – เมื่อครั้งใดที่ผู้ใช้ของมันตาย มันจะดูดเอาพลังวิญญาณของผู้ใช้มา และสามารถเพิ่มพลังด้านมืด! ความสามารถนี้สามารถซ้อนทับกันได้มากที่สุดถึง 10 ครั้ง และนี่แหละที่ทำให้มันแข็งแกร่งกว่าอาวุธระดับราชันย์ด้วยกัน

 

“เมื่อตอนนั้น มีพระรูปหนึ่งได้พบอาวุธปีศาจราชีชิ้นนี้ เขาได้มอบมันให้แก่ศิษย์พี่เมื่อตอนที่เขาสิ้นใจ! และตอนที่ศิษย์พี่สิ้นใจ ดวงวิญญาณของเขาได้ถูกอาวุธชิ้นนี้ดูดซับไว้! ตอนนี้ฉันเป็นผู้ใช้คนที่สามของมัน และฉันจะแก้แค้นให้ศิษย์พี่ให้ได้ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม! ไม่รู้ว่าไอเด็กคนนั้นมันเป็นใคร แต่วันนี้ฉันจะต้องตัดหัวมันและละเลงเลือดของมันบนหลุมศพศิษย์พี่ให้ได้!”

 

เมื่อเขาพูดจบเขาก็ชูคทาขึ้นและตะโกนออกไป “ผีร้ายจงมา!”

 

เขากระแทกคทาอันนั้นลงบนพื้นครั้งแล้วครั้งเล่า วิญญาณสีฟ้าซึ่งปกติแล้วคนธรรมดาจะไม่สามารถของเห็นได้ก็ได้ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นในอากาศ วิญญาณตนนั้นมีเขี้ยวใหญ่เหมือนงาช้างสองข้าง และเมื่อมันยืนขึ้นพบว่ามันมีความสูงถึง 4 เมตร!

 

ทางด้านข้างหน้าของรถลีมูซีน สองคิงชูและลูกสมุนของเขา ตั้งแต่หัวจรดเท้าของพวกเขากลับไม่มีความรู้สึกใดๆเพราะได้ถูกกดทับไว้ด้วยพลังวิญญาณของปีศาจ

 

นักบุญลำดับสองก็ได้ชี้ไม้คทาไปทางด้านบ้านหลังที่หวังลิ่งอยู่

 

วิญญาณสีฟ้าตนนั้นจึงเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วไปยังเป้าหมายที่ไม้คทาได้เล็งไว้

 

ถึงแม้ว่าร่างกายของมันจะสูงใหญ่ แต่มันกลับเคลื่อนที่ได้รวดเร็วมาก!

 

พื้นดินยุบตัวลง ดอกไม้และใบหญ้าร่วงโรยตามเส้นทางที่วิญญาณตนนั้นวิ่งผ่าน

 

ภายในรถลีมูซีน สองคิงชูและเหล่า9นักบุญที่เหลือจับตามองไปยังภาพตรงหน้า

 

และทันใดนั้นเองเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง…

 

วิญญาณตนนั้นที่กำลังมุ่งหน้าเข้าไปใกล้บ้านของเทพมือระเบิด ได้ถอยกลับมาถึงครึ่งทางแล้ว…

 

สีหน้าของมันแสดงออกถึงความหวาดกลัวแตกต่างจากตอนแรกอย่างสิ้นเชิง!

 

ราวกับว่ามันพบเจอปีศาจยุคดึกดำบรรพ์ มันกลัวถึงขนาดรีบวิ่งกลับมาและมุดกลับเข้าปีศาจราตรีไปโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ

 

ไม่มีใครคาดคิดว่าวิญญาณจากปีศาจราตรีจะหนีกลับมาก่อนที่จะทันได้แสดงพลังของมัน

 

พลังอันมหาศาลที่อยู่ภายในปีศาจราตรีได้ปะทุขึ้นและนักบุญลำดับสองก็สะดุ้งราวกับว่าถูกไฟฟ้าช็อต

 

เขากัดฟันแน่นแสดงถึงความเจ็บปวดออกมา

 

ในตอนนั้นเองก่อนที่ทุกคนจะตั้งสติได้ พวกเขาก็เห็นว่านิ้วมือขวาของศิษย์พี่ลำดับสองของพวกเขาที่กำลังจับไม้คทาอยู่ ได้แตกออกเป็นชิ้นๆ เลือดพุ่งออกมาจากมืออย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

 

เมื่อไม้คทาด้ามนั้นตกลงบนพื้น ทุกๆคนก็เห็นว่าหัวของนักบุญลำดับสองเริ่มบวมใหญ่ขึ้น…

 

สองคิงชูตกใจและรีบตะโกนถาม “ท่านนักบุญลำดับสอง ท่านโอเคไหมครับ?”

 

ทางด้านนักบุญลำดับสองยกมือข้างที่ไม่มีนิ้วขึ้นมา “ฉันกำลังคอสเพลย์เป็นโดเรม่อน! นายคงไม่เข้าใจหรอก!”

 

เมื่อเขาพูดจบเขาก็ไอออกมาเป็นเลือด

 

นักบุญลำดับสองกำลังรับมือกับพลังวิญญาณด้านมือที่หมุนเวียนอยู่ในตัวเขา แต่กว่าที่เขาจะทันได้ปรับสภาพพลังวิญญาณในตัวได้สำเร็จ หัวของเขาก็โตกว่าเดิมถึง 4 เท่าไปเสียแล้ว “…ก่อนหน้านี้ วิชาคำสาปเลือดของศิษย์พี่ยังไม่ทันได้โชว์ เดี๋ยวฉันจะแสดงให้นายดูเป็นบุญตาเอง!”

 

“…”

 

‘ใครจะไปเชื่อแกวะ!’

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด