大姐大 บทที่ 231 ไม่รู้ว่าหลูซานสูงใหญ่แค่ไหน

เจี่ยนอีหลิงต้องการไปที่โต๊ะทำงานของเธอมากกว่าที่จะอยู่เฉยๆในหอผู้ป่วย

เจี่ยนชูฉิงทักทายเฉิงอี้อย่างสุภาพ และขอซักถามเรื่องเกี่ยวกับ Dr.FS ที่พวกเขายังมีความสงสัยอยู่

“ด็อกเตอร์เฉิง ผมอยากถามว่า Dr.FS อยู่ที่ไหน การผ่าตัดก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว พวกเราอยากจะขอบคุณเขาด้วยตัวเอง”

เจี่ยนชูฉิงถาม ทุกคนในห้องต่างก็รอคอยคำตอบของเฉิงอี้

รวมไปถึงเจี่ยนหยุ่นน่าวที่นอนอยู่บนเตียงพยาบาลด้วย

“ด็อกเตอร์ฟู่ฉีค่อนข้างยุ่งเมื่อเร็วๆนี้ เธอต้องแบ่งเวลาไปทำการผ่าตัดคุณเจี่ยนหยุ่นน่าวด้วย” เฉิงอี้ยิ้มอย่างสุภาพและตอบตามสูตรสำเร็จ

ฟู่ฉี นี่เป็นครั้งแรกที่ครอบครัวเจี่ยนได้ยินชื่อภาษาจีนของ Dr.FS

ปรากฎว่าชื่อของศัลยแพทย์ผู้ลึกลับและทรงพลังคนนี้ก็คือ ฟู่ฉี

“ถ้าอย่างนั้นด็อกเตอร์ฟู่ฉีจะว่างอีกเมื่อไหร่ พวกเราใช้เวลาไม่นานนัก จะไม่ถ่วงเวลาเขามากเกินไป” เจี่ยนชูฉิงกล่าวอีกครั้ง

เฉิงอี้ยิ้มอย่างจริงใจ ทั้งยังมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ซุกซ่อนอยู่ในดวงตาหลังแว่นตากรอบทองอีกด้วย

“แล้วด็อกเตอร์เฉิงรู้ไหมครับว่า ดร.ฟู่ฉีมีความต้องการอะไรหรือสนใจอะไรเป็นพิเศษบ้าง”

เจี่ยนชูฉิงยังคงถามต่อ

พวกเขารู้สึกว่าควรทำอะไรบางอย่างเพื่อแสดงความขอบคุณต่อด็อกเตอร์ฟู่ฉี

“ผมไม่รู้เกี่ยวกับในเรื่องความสนใจของเธอ” เฉิงอี้มองดูเจี่ยนอีหลิงที่ตรงหน้าด้วยหางตา

หัวเล็กผมฟู หน้าขาวเล็กๆนั่น เธอดูเหมือนคนนอก ไม่มีใครคาดคิดอย่างสิ้นเชิงว่าเธอเป็นคนที่พวกเขาคุยถึงกันอยู่

“ยังไงก็ต้องขอบคุณด็อกเตอร์เฉิง” ไม่ว่าอย่างไร เจี่ยนชูฉิงก็ต้องขอบคุณเฉิงอี้

ตอนนี้ เจี่ยนชูฉิงและพวกไม่รู้ว่าจะไปหาด็อกเตอร์ที่ทำการผ่าตัดลูกชายได้อย่างไร

###

เจี่ยนชูฉิงและเจี่ยนหยุ่นเฉิงทำการไปพบศาสตราจารย์ฉื่ออีกครั้ง และแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของพวกเขา

พวกเขาต้องการขอบคุณ Dr.FS ด้วยตนเองที่ช่วยชีวิตลูกชาย และมอบชีวิตใหม่ให้กับพวกเขา

ศาสตราจารย์ฉื่อยิ้ม และตอบว่า “ไม่มีประโยชน์ที่คุณจะถามผมเกี่ยวกับศาสตราจารย์ฟู่ฉี ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเรานั้นเป็นเหมือนเพื่อนร่วมงานไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบหัวหน้ากับลูกน้อง”

สิ่งนี้ทำให้ความคาดหวังของเจี่ยนชูฉิงและเจี่ยนหยุ่นเฉิงต้องผิดหวังไปอีกครั้ง

“ถ้าอย่างนั้นเราพอให้ค่าตอบแทนด็อกเตอร์ฟู่ฉีมากกว่าเดิมได้ไหม”

หากคุณไม่สามารถขอบคุณด้วยตนเอง คุณสามารถจ่ายเพิ่มอีกได้

“ทำได้แน่นอน” ศาสตราจารย์ฉื่อตอบด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง อาจเป็นเรื่องยากอยู่บ้างที่จะให้ทางสถาบันเรียกเก็บเงินน้อยลง แต่ถ้าพวกเขาต้องการให้สถาบันเรียกเก็บเงินเพิ่มขึ้นนั้น คำขอนี้เป็นไปได้

ศาสตราจารย์ฉื่อเรียกผู้ช่วยมา และขอให้เธอพาเจี่ยนชูฉิง เจี่ยนหยุ่นเฉิง พ่อลูกไปดำเนินการ

หลังจากครอบครัวเจี่ยนจากไปแล้ว ศาสตราจารย์ฉื่อก็หยิบคอมพิวเตอร์ขึ้นมาพร้อมกับใบหน้าพึงพอใจ

การผ่าตัดประสบความสำเร็จ และเจี่ยนอีหลิงก็ได้รับมากกว่าค่าตอบแทนจากครอบครัวเจี่ยนสองพ่อลูก

ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ การผ่าตัดนี้ได้ล้างข้อกังขาในชื่อของเจี่ยนอีหลิง

ชื่อของ Dr.FS ได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวงการนี้

แน่นอนว่าสถาบันวิจัยของพวกเขาก็ได้รับอานิสงส์จาก Dr. FS ด้วยเช่นกัน

ศาสตราจารย์ฉื่อจะไม่มีความสุขใจได้อย่างไร

เฉิงอี้กำลังเรียกดูแอปพลิเคชันบนเว็บไซต์ทางการของพวกเขา “อาจารย์ทันทีที่มีข่าวการผ่าตัดประสบความสำเร็จออกมา ใบสมัครขอรับการรักษาบนเว็บไซต์ของสถาบันของเราก็เพิ่มมากเป็นสองเท่า และส่วนใหญ่ก็ขอให้อีหลิงดำเนินการ”

“ใช่ คนเหล่านี้ไม่ได้อยู่ที่เมืองเหิงเหย่วนของเราเลย ทั้งยังมีแม้กระทั่งคนจากต่างประเทศ อีหลิงพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวเองในครั้งนี้ได้จริงๆ แต่ก็อย่ารับใบสมัครเหล่านี้ในเวลานี้ ให้น้องสาวอีหลิงกับคุณจบงานเกี่ยวกับโรคเลือดหายากก่อน”

ศาสตราจารย์ฉื่อรู้สึกภาคภูมิใจ แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็ไม่ลืมที่จะดูแลสภาพร่างกายของเจี่ยนอีหลิงด้วย

การผ่าตัดนั้นทำให้ตัวเธอเองนั้นอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด ร่างกายของอัจฉริยะน้อยนั้นอ่อนแอเกินไปและเธอจำเป็นต้องพักผ่อนให้เพียงพอ

ทยานแห่งชาติหลูซาน ซึ่งองค์การยูเนสโก จัดให้เป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี 2539 และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่น โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่อากาศบนภูเขาจะเย็นกว่าที่อื่น (ในเรื่องนี้เป็นการเปรียบเทียบถึงการที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางภายในสถาบัน)