เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ – ตอนที่ 453-454

อ่านนิยายจีนเรื่อง เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ ตอนที่ 453-454 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 453 เข้าร่วมงานเลี้ยง 1

หยูซอดไม่ได้ที่จะพึมพํากับตัวเอง “แต่เธอกลับไม่ติดต่อฉันเลยในช่วงเวลานั้น”

ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้มีความสําคัญต่อเทพหลิงเท่ากับฉันชวน

พวกเขาเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมกันนะ เพื่อนร่วมทีมที่ “บุกน้ําลุยไฟ” มาด้วยกัน พวกเขาต่อสู้ร่วมกันไม่ว่าเล็กหรือใหญ่

ขณะที่หยูซีกําลังขับรถ เจียนอีหลิงก็ไม่ได้อยู่นิ่งในที่นั่งของผู้โดยสารเช่นกัน

เธอหยิบแล็ปท็อปขนาดเล็กออกมาวางบนตัก

จากนั้นเธอก็เริ่มพิมพ์บนแป้นพิมพ์

ระหว่างที่รอไฟแดง หยูซีก็เหลือบมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเจียนอีหลิง และเขาก็เห็นสัญลักษณ์ทางเคมีมากมายที่เขาไม่เข้าใจ

อาาา… สมกับเป็นนักศึกษาแพทย์จากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง

“โอ เธอกําลังเรียนมหาวิทยาลัยปีที่สามใช่ไหม”

“ไม่ ฉันข้ามขั้นตอน ตอนนี้ฉันเป็นนักศึกษาปริญญาโท” เงี่ยนอีหลิงตอบตามความจริง

หยูซี “…”

อา… เขาควรจะคิดแบบนั้น เธอไม่จบมัธยมปลายแบบปกติด้วยซ้ํา แล้วเขาจะคาดหวังให้เธอจบมหาวิทยาลัยด้วยวิธีที่ปกติอย่างงั้นเหรอ?

เงี่ยนอีหลิงกําลังเรียนแพทย์ นั่นเป็นหลักสูตรที่โดยทั่วไปจะใช้เวลาอย่างน้อยแปดปี

เจียนอีหลิงได้ศึกษาส่วนที่เป็นระดับปริญญาโทในสาขาของเธอแล้ว แต่ถึงกระนั้น เขาเพิ่งเริ่มเรียนในระดับปริญญาโทเท่านั้น

“โอ นายท่านเพิ่งก็เรียนจบเร็วเหมือนกัน” หยูชีพูดอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเขากําลังพยายามที่จะพูดถึงจํายหวินเชิงอย่าง บังเอิญ

แม้ว่าจํายหวินเชิงปกติจะดูเหมือนว่าเขาเสียเวลาไปกับการไม่ทําอะไรเลย แต่เขาก็ยังมีความสามารถในการทําคะแนนได้ดี

แม้ว่าเขาจะพักการเรียนจากมหาวิทยาลัยไปสักสองสามเดือน เขาก็ยังกลับมาและได้คะแนนสอบที่น่าทึ่ง

นี่เป็นครั้งที่สองของวันนี้ที่หยูซีตั้งใจพูดถึงจํายหวินเชิง หยูซีต้องการดูว่าเจียนอีหลิงมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อชื่อของจํายหวินเชิง

“อือ” เงี่ยนอีหลิงตอบกลับ การตอบสนองของเธอนั้นไม่แยแสเหมือนเคย

หยูซีไม่เห็นสิ่งที่น่าสงสัยกับการตอบสนองของเธอ

อาา ลืมไปเลย ทั้งสองคนทิ้งเขาไปเมื่อสามปีที่แล้วนี่นา เขาไม่จําเป็นต้องสนใจเรื่องของพวกเขามากนัก

จากนั้นหยุซีก็เริ่มถามเงี่ยนอีหลิงเกี่ยวกับอย่างอื่น “โอ้ ว่าแต่พี่ชายเธอไม่กลับมาด้วยเหรอ เขา เขาอาการดีขึ้นไหม”

เจียนอีหลิงหายไปนานเกินไป มีหลายสิ่งที่เขาไม่รู้เกี่ยวกับเธอมากเกินไป

“อาการเขาดีขึ้น เพียงแค่เขามีเรื่องอื่นที่ต้องจัดการช่วงนี้”

“นั่นเป็นข่าวดี” หยูซีตอบกลับ

ขณะที่พวกเขาพูดคุยกันสัพเพเหระ หยูซีก็ได้ขับรถไปถึงที่ตั้งงานเลี้ยงตระกูลฉินแล้ว

แต่ทว่า มีปัญหาตามมา

ทั้งหยูซีและเจียนอีหลิงไม่ได้รับบัตรเชิญเข้าสู่งานเลี้ยง

แม้ว่าตระกูลหยูจะเป็นหนึ่งในตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเหิงหยวน แต่ภูมิหลังของตระกูลเขาก็ยังถือว่าธรรมดามากในเปยจิง

หยูซีเป็นเพื่อนสนิทกับจํายหวินเฉิ่ง นี่หมายความว่าเขาสามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงหรืองานสังสรรที่จัดโดยตระกูลจํายได้

แต่ว่านี่คือตระกูลฉิน ตระกูลหยูไม่ได้มีความหมายอะไรต่อหน้าตระกูลฉิน

ซึ่งหมายความว่าตระกูลฉินไม่จําเป็นต้องส่งบัตรเชิญไปให้หยูซี

หยูซีหันกลับมามองเจียนอีหลิง “เทพหลิงมีบัตรเชิญไหม”

เงี่ยนอีหลิงส่ายหน้า เธอไม่ได้รับบัตรเชิญเหมือนกัน วันนี้เธอมาเพื่อคุยกับฉินชวนด้วยความตั้งใจ

ในช่วงเวลาที่เธอกําลังตัดสินใจ เงี่ยนอีหลิงได้อยู่ในห้องโถงรอของสนามบิน

ดังนั้นจึงสายเกินไปที่ฉันชวนจะส่งคําเชิญถึงเธอ

“แล้วเราจะทํายังไง” หยูซีถาม

“ฉันจะขอให้เขาออกมาข้างนอกสักเล็กน้อย” เจียนอีหลิงตอบกลับ เธอไม่ได้ต้องการเข้าร่วมงานเลี้ยงตั้งแต่แรกแล้ว

พนักงานในชุดสูทที่ประตูเมื่อได้ยินการสนทนาระหว่างหยุซีและเงี่ยนอีหลิง ต่างก็มีแววตาแปลกๆในดวงตาพวกเขา อย่างไรก็ตามเพื่อความสุภาพ พวกเขาจึงไม่ได้พูดอะไร

เงี่ยนอีหลิงแต่งตัวสบายๆ เสื้อผ้าที่เธอสวมไม่มีแบรนด์และดูราคาถูก

กระทั่งเสื้อผ้าของพนักงานที่ยืนอยู่หน้าประตูเพื่อตรวจบัตรเชิญก็ดูแพงกว่าของเธอเสียอีก

แขกหญิงที่ยืนอยู่ข้างหลังเงี่ยนอีหลิงและหนูชีส่ายหน้า และพูดด้วยน้ําเสียงจริงจัง “สาวน้อยเธอควรจะตั้งใจเรียนนะ อย่าคิดที่จะมาที่แบบนี้ ที่นี่ไม่ใช่ที่สําหรับเธอ”

บทที่ 454 เข้าร่วมงานเลี้ยง 2

ถ้าทั้งสองคนเป็นแขกของนายน้อยฉินจริงๆ เขาคงจะส่งบัตรเชิญไปนานแล้ว

พวกเขาคงไม่ได้รับบัตรเชิญ และก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น ดูเหมือนว่าพวกเขาสองคนนี้เพีย งแค่มาที่นี่ เพียงเพื่อหวังจะได้เข้าไปในงานเลี้ยง

มีคนที่หน้าหนาเป็นพิเศษ บุคคลเหล่านั้นจะพยายามหาโอกาสเหล่านี้เพื่อได้พบปะผู้คนจากสังคมชนชั้นสูง

เจ้าหน้าที่ยังแนะนําเจียนอีหลิงและหยุซีว่า “คุณสุภาพบุรุษและคุณสุภาพสตรีสองท่านนี้ โอกาสเช่นนี้ไม่เหมาะสําหรับเด็กหญิงที่จะเข้าร่วมจริงๆ”

ทันทีที่พนักงานพูดจบ พวกเขาเห็นฉันชวนรีบออกมาจากห้องจัดเลี้ยง ฉินชวนถือได้ว่าเป็นเจ้าภาพในงานเลี้ยงวันนี้ เขาตรงไปที่เงี่ยนอีหลิง

“ขออภัยกับความสับสน นี่คือเพื่อนของฉัน” ฉินชวนพูดกับเจ้าหน้าที่บริเวณประตู

พนักงานและแขกที่อยู่รอบๆต่างตกตะลึง

กลับกลายเป็นว่า เธอเป็นเพื่อนของนายน้อยฉินจริงๆเหรอ

อันที่จริง ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นเพื่อนที่นายน้อยฉินถึงกับต้องออกมาทักทายด้วยตัวเองกด้วย

เมื่อตระหนักถึงสถานะพิเศษของเงี่ยนอีหลิงแล้ว พนักงานจึงรีบขอโทษเจียนอีหลิงและหยุซี “ผมขอโทษที่”

จากนั้นเจี้ยนอีหลิงก็พูดกับฉันชวนว่า “ฉันไม่เข้าไป ฉันแค่จะมาให้ของนายก่อนจะจากไป”

หลังจากที่เธอพูดแบบนี้แล้ว เงี่ยนอีหลิงก็หยิบกล่องพลาสติกปิดผนึกจากกระ เป่าและส่งให้ฉันชวน

กล่องพลาสติกบรรจุยาที่พัฒนาขึ้นสําหรับแม่ของฉันชวน ยาได้รับการพัฒนาขึ้นมาเมื่อเร็วๆนี้

อาการของแม่ฉินชวนได้รับการศึกษาโดยเจียนอีหลิงและเฉิงอี้มาเป็นเวลานาน แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถรักษาเธอได้อย่างสมบูรณ์ แต่ทั้งสองคนก็ยังสามารถพัฒนายาที่สามารถยืดอายุเธอได้

ตราบใดที่รับประทานยาเป็นประจํา แม่ของฉันชวนก็จะสามารถทําอะไรได้เหมือนคนปกติ

ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เจียนอีหลิงได้ทําการปรับปรุงยา

“ขอบคุณ” ฉันชวนพูดอีกครั้ง

หากไม่มีเงี่ยนอีหลิง แม่ของเขาคงไม่ผ่านพ้นช่วงเวลาสามปีที่ผ่านมาได้

ยิ่งเป็นไปไม่ได้มากกว่านั้นที่เธอจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้เหมือนคนปกติอย่างเช่นตอนนี้

แม้ว่าเจียนอีหลิงจะอยู่ต่างประเทศมาสามปีแล้ว แต่เธอก็ไม่เคยลืมแม่เขาเลย

“ไม่เป็นไร” เงี่ยนอีหลิงกล่าว จากนั้นเธอก็เสริมว่า “จําสิ่งที่นายสัญญากับฉันไว้ได้ไหม”

มีข้อตกลงระหว่างพวกเขา

ฉันชวนยิ้มอย่างสดใสและสายตาของเขาก็ดูนุ่มนวลและอ่อนโยนในขณะที่เขาตอบ “แน่นอน ฉันจําได้ ฉันจะไม่มีวันลืมมันไปตลอดชีวิต”

สัญญาหนึ่งเดียวนั้นไม่มีอะไรเลย ฉันชวนเต็มใจให้สัญญาสิบอย่างกับเงี่ยนอีหลิง เขายอมทําทุกอย่าง

หยูซีไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเจี้ยนอีหลิงและฉินชวน เขายืนอยู่ข้างๆและฟังการสนทนาของพวกเขา หัวใจเขารู้สึกแปลกๆ เมื่อได้ยิน

สถานการณ์นี้คืออะไรกัน

ทําไมรู้สึกเหมือนเทพหลิงมีความสัมพันธ์พิเศษกับฉันชวน?

ฉันจะไม่ลืมมันไปตลอดชีวิตงั้นเหรอ?

ทั้งสองคนมาถึงจุดที่พวกเขาสามารถพูดว่า “ตราบชั่วชีวิตของฉัน แล้วอย่างงั้นเหรอ?

จากนั้นฉันชวนก็พูดกับเจี้ยนอีหลิงว่า“เข้าไปหาอะไรกินก่อนเดินทาง เธออยู่บนเครื่องบินมานานแล้ว ตอนนี้เธอก็คงจะหิวแล้ว ไม่ต้องห่วง ฉันแค่ชวนเธอเข้าไปกิน ฉันจะไม่ให้ใครมารบกวนเธอ”

ฉันชวนมีเหตุผลที่ดีที่จะเชิญเจี้ยนอีหลิงเข้าไป คําเชิญเขามีความจริงใจมากมายเช่นกัน

เมื่อเขาเห็นว่าเจียนอีหลิงไม่ตอบฉินชวนก็เสริมว่า “ฉันก็เพิ่งมาถึงเปยจิงเหมือนกัน แม้ว่ามันจะเป็นงานเลี้ยงต้อนรับฉัน แต่ฉันก็ไม่รู้จักคนส่วนใหญ่ในห้องจัดเลี้ยง พวกเธอคือคนที่ฉันรู้จักได้ โปรดถือว่าเธอกําลังอยู่เป็นเพื่อนกับฉัน วันนี้แม่ฉันก็มาด้วยเช่นกันแม่อยากเจอเธอจริงๆ”

แม่ฉันชวนชอบเจียนอีหลิงมาก แม้ว่าเธอจะไม่ได้เห็นเงี่ยนอีหลิงด้วยตนเองในช่วงสามปีที่ผ่า นมา แต่เธอก็ได้รับยาที่เขียนอีหลิงได้ขอให้คนจากต่างประเทศนํากลับมาให้เธอเสมอ

ทุกครั้งที่เธอได้รับยา เธอก็จะคุยกับฉันชวนเกี่ยวกับเจียนอีหลิงอยู่เสมอ

ในใจแม่ของฉันชวน เงี่ยนอีหลิงเป็นนางฟ้าของครอบครัวพวกเขา

หยูชียิ่งตกใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้

เทพหลิงรู้จักแม่ฉินชวนแล้วด้วยงั้นเหรอ

ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด