เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ – ตอนที่ 42
เหอเยี่ยนกัดฟันอยู่ในใจ ย่าเจี่ยนพูดง่ายเกินไป ในเมื่ออีกฝ่ายสามารถพึ่งพาลูกชายของเจี่ยนชูฉิงกับเจี่ยนชูเผิงซึ่งสามารถสืบทอดธุรกิจของตระกูลได้ ดังนั้นอีกฝ่ายจึงไม่ต้องกังวลใจแต่อย่างใด
แล้วเธอ เหอเยี่ยน ล่ะ เธอจะอาศัยหลานของเธอเลี้ยงดูตัวเธอได้ในอนาคตหรือเปล่า
เหอเยี่ยนเก็บซ่อนความไม่พอใจไว้ในใจ และทักทายอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มว่า “ทางที่ดีให้ชะลอไว้ก่อน และรอจนกว่าการสอบเข้าเรียนวิทยาลัยของหยู่เจี๋ยจบลงแล้ว
รอยยิ้มบนใบหน้าของเจี่ยนหยู่เจี๋ยหายไปเกือบหมด และแทนที่ด้วยสีหน้าผิดหวังโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
แต่ไม่นานนักเขาก็ฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว เขาเป็นแมลงสาปที่ทนทายาด ไม่เช่นนั้นเขาก็คงเชื่อฟังความต้องการของแม่ของเขาตั้งแต่หลายปีก่อนภายใต้ทัศนคติที่แข็งกร้าวและไม่ยอมใครของแม่เขา
และในตอนนี้ ตระกูลเจี่ยนก็ได้ต้อนรับแขกที่ไม่มีใครได้คาดคิด จ๋ายหวินเชิ่ง
การปรากฏตัวของเขาครั้งนี้ สร้างความประหลาดใจและงงงันให้กับปู่เจี่ยนเป็นอย่างมาก
ความจริงที่ว่าจ๋ายหวินเชิ่งได้ย้ายเข้าบ้านติดกันนั้น ปู่เจี่ยนได้รู้มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่เขาไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะมาเยี่ยมเขา
ไม่ว่าอย่างไรตระกูลทั้งสองไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแต่อย่างใด และจากความเป็นตัวตนของอีกฝ่าย จ๋ายหวินเชิ่งไม่มีเหตุผลที่จะมาเยี่ยมเขา
มีคนมากมายที่ต้องการไปพบจ๋ายหวินเชิ่งในวันเวลาที่ผ่านมานี้ แต่ทุกคนล้วนถูกขัดขวางโดยหยูซื่อเหมี่ยว
ปู่เจี่ยนไม่ต้องการที่จะไปเยี่ยมอีกฝ่าย เขาไม่ต้องการที่จะบังคับให้เกิดความเกี่ยวข้องกับตระกูลจ๋ายและกลุ่มเทียนซิง
ดังนั้นแม้ว่าอีกฝ่ายจะอาศัยอยู่ติดกัน แต่พวกเขาก็ไม่ได้พบปะพูดคุยกัน
เหอเยี่ยนก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน เธอเคยได้ยินเรื่องนายท่านเชิ่ง
คนในแวดวงสังคมโดยปกติแล้วจะรู้ถึงการมายังเมืองเหิงเหย่วนของนายท่านเชิ่ง เป็นไปไม่ได้สำหรับเหอเยี่ยนที่จะไม่รู้
เหอเยี่ยนก็มีความคิดริเริ่มที่จะไปเยี่ยมนายท่านเชิ่งเช่นกัน แต่ถูกหว่านล้อมจากสามีของเธอ
สามีของเธอคิดว่าครอบครัวของพวกเขาไม่ได้มีการติดต่อพบปะกับตระกูลจ๋ายโดยตรงมาก่อน และก็ไม่มีประโยชน์ที่จะต้องบีบให้เกิดความสัมพันธ์นี้ขึ้นมา และอาจจะทำให้ตัวเองกลายเป็นเหมือนคนโง่
เหอเยี่ยนจึงหยุดที่จะไปเยี่ยมนายท่านเชิ่ง
แต่เธอไม่คิดว่าเธอจะได้เห็นนายท่านเชิ่งในบ้านเก่าตระกูลเจี่ยนอย่างแท้จริง
เหอเยี่ยนตั้งคำถามอยู่ในใจว่า ขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ดร้อน ชายชราคนนี้มีไพ่ซ่อนในมืออยู่จริงๆ นายท่านเชิ่งอยู่ในเมืองเหิงเหย่วนมาตั้งนาน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาไปเยี่ยมคนอื่น และคนที่เขาไปเยี่ยมนั้นก็คือปู่เจี่ยนของพวกเขา
ปู่เจี่ยนออกไปต้อนรับแขกด้วยตนเอง ในขณะที่คนอื่นยังคงนั่งอยู่ในสวนดื่มชาเป็นเพื่อนกับย่าเจี่ยน
เจี่ยนอีหลิงถือถ้วยชา และจิบชาอยู่อย่างเงียบๆ
เจี่ยนหยู่เจี๋ยที่อยู่ติดกับเจี่ยนอีหลิงแนะนำกลที่เขาเพิ่งเรียนรู้ ส่วนใหญ่แล้วเขาเรียนรู้เป็นความลับซุกซ่อนจากแม่ของเขา จากบทเรียนในหนังสือหรืออินเตอร์เน็ต หรือไม่ก็คิดค้นขึ้นมาด้วยตนเอง
แม้ว่าเจี่ยนอีหลิงไม่เข้าใจมายากล เธอก็ยังรับรู้ได้ถึงความหลงไหลของเจี่ยนหยู่เจี๋ยในเรื่องมายากลรวมไปถึงพรสวรรค์ทางด้านนี้ของเขา
ในทางกลับกัน เหอเยี่ยนกลับอดรนทนรอไม่ไหว เธอไม่มีจิตใจที่จดจ่ออยู่กับการดื่มชาเลยแม้แต่น้อย
ย่าเจี่ยนถอนใจกับการที่เห็นอีกฝ่ายอยู่อย่างกระสับกระส่าย
ในทางกลับกัน หลานสาวที่ประพฤติตัวดีกับหลานชายที่ฉลาดเฉลียวสร้างความพึงพอใจให้กับเธอเป็นอย่างมาก
ไม่นานนักชายชราก็กลับเข้ามาพร้อมกับคนหนุ่มอีกสองคน
หนึ่งในนั้น ทุกคนรู้จัก เขาก็คือ หยูซี คุณชายของกลุ่มฉีเยว่
หน้าตาของหยูซีนั้นโดดเด่นมาก รูปร่างหน้าตาเขาดี
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถที่จะเทียบได้กับชายที่ยืนอยู่ข้างเขา
ชายคนนี้ก็คือคนที่เจี่ยนอีหลิงเพิ่งเห็นมาก่อนหน้านี้ ที่รถสปอร์ตสีเขียวด้านนอก
“คุณจ๋าย เชิญนั่ง” ปู่เจี่ยนมีทัศนคติที่เป็นกลาง เขาไม่ได้ทำตัวประจบประแจง เขาปฏิบัติต่อจ๋ายหวินเชิ่งเช่นเดียวกับที่เขาปฏิบัติต่อแขกทั่วไปของเขา
จ๋ายหวินเชิ่งนั่งตรงกันข้ามกับเจี่ยนอีหลิงอย่างไม่ได้ใส่ใจ ในเวลาเดียวกันสายตาของเขาก็จับจ้องไปยังเจี่ยนอีหลิง
จ๋ายหวินเชิ่งยิ้มที่มุมปากเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ทำให้ผู้คนรู้สึกเหมือนถูกล่วงล้ำ
คอมเม้นต์