The Soul Purchasing Pirate – บทที่7:อนาคต
S.P.Pบทที่7:อนาคต
“รองกัปตัน!!!”
มีร่องรอยของความเศร้าบนใบหน้าของชายหนุ่มที่มีจมูกสีแดงที่กำลังพูดอยู่ เขาอยู่ด้านหลังดึงมือของเขาแล้วส่ายหัว
“อืมโรแกนหนีได้อย่างปลอดภัยแล้วเราควรไปกันได้แล้ว” ชายวัยกลางคนที่สวมแว่นพูดขณะที่เขายิ้มดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“ไปกันเถอะเราทุกคนต่างมีธุระของตัวเองฉันควรไปหาคนที่ฉันไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมเขา”
ทุกคนบนเรือมองหน้ากัน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
การจัดตั้งกลุ่มโจรสลัดนั้นเต็มไปด้วยความหวัง แต่จุดสิ้นสุดนั้นคือการแยกจากกัน พวกเขาอาจจะไม่ได้เป็นเพื่อนและคู่หูที่ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันอีกแล้ว แต่มิตรภาพระหว่างพวกเขาจะยังคงอยู่
เรือไม้ลำเล็ก ๆ จอดบนฝั่งอย่างช้าๆ จากนั้นคนห้าหรือหกคนที่สวมเสื้อคลุมสีดำกว้างก็ลงจากเรือพวกเขาได้ปกปิดใบหน้าของเขาเอาไว้
“ดูแลตัวเองด้วยหละ!”
“ ฉันหวังว่าอนาคตของพวกนายทุกคนจะราบรื่น”
“แชง,บาร์กี้พยายามเข้าหละอนาคตมันอยู่ในมือของพวกนาย”
เด็กหนุ่มทั้งสองก็ได้พยักหน้ารับ
ในช่วงเวลาแห่งการจากลานี้ทุกคนดูเหมือนจะจริงจังเป็นอย่างมากสายตาของแชงและบาร์กี้นั้นมีประกายระยิบระยับเหมือนคริสตัลในแสงไฟ
ประมาณห้านาทีต่อมาคนอื่น ๆ ที่เหลือได้เข้ามากอดกันและดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยการแสดงออกที่ซับซ้อนจากนั้นพวกเขาก็พยักหน้าแล้วหันหลังเดินจากไป
พวกเขาเดินไปในเส้นทางที่แตกต่างกันและจะเป็นเส้นทางของพวกเขาเลือกมันด้วยตัวของพวกเขาเอง
พวกเขาต้องแยกจากกันในวันนี้ลูกเรือทั้งหมดบนเรือลำนี้มาถึงจุดที่พวกเขาต้องเลือกอนาคตด้วยตัวของพวกเขาเอง
“ไปสิพวกนายสองคนมัวรออะไรอยู่?”เรย์ลี่ถามกับแชงและบาร์กี้ด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
“รองกัปตัน!” แชงและบาร์กี้ร้องออกมาพวกเขาไม่สามารถลืมวันวานที่พวกเขาหัวเราะและร้องไห้ด้วยกันได้
เรย์ลี่ส่ายหัวแล้วเขาก็ได้เดินจากไป หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หายตัวไปจากสายตาของพวกเขาทั้งสองคน
“บาร์กี้ไปด้วยกันกับฉันและร่วมมือกันพวกเราจะตั้งกลุ่มโจรสลัดที่สุดยอดไปด้วยกัน” แชงเช็ดน้ำตาและพูดกับบาร์กี้อย่างจริงจังและเคร่งขรึม
ในตอนนี้แชงได้ตัดสินใจที่จะเป็นโจรสลัดตามรอยความยิ่งใหญ่ของชายที่ชื่อโรเจอร์และเขาที่เป็นหนึ่งในลูกเรือของเขาเขาจะนำพาความยิ่งใหญ่นั้นกลับมาอีกครั้ง
“ ใครจะไปกับแก?”บาร์กี้จับมือของเขา: “อย่าลืมแกยังเป็นหนี้แผนที่ขุมทรัพย์ของฉันอยู่!”
“ฮืม!”
หลังจากพูดจบบาร์กี้ก็หันหลังเดินจากไป
แชงมองที่บาร์กี้ที่เดินจากไปและส่ายหัวอย่างจนปัญญา จากนั้นเขาก็มองไปที่ท้องทะเลที่อยู่ตรงหน้าของเขา
ทะเลเป็นเหมือนสัตว์ร้ายคลื่นยักษ์ที่ซัดอยู่ข้างหน้าเขานั้นเสียงของมันราวกับระเบิด
“ ทะเลอันร้ายกาจนี้ใครกันนะที่จะสามารถเอาชนะมันได้!”
“ได้เวลาแล้ว,ไม่มีใครสามารถมาหยุดไม่ให้ฉันก้าวไปข้างหน้าได้?”
แชงพึมพำคำเหล่านั้นแล้วเขาก็หายตัวไปจากที่แห่งนั้น
ในเวลาเดียวกันนั้นมีนกกำลังดิ้นรนอยู่เหนือท้องทะเล
“กูซซซซ!”
นกนั้นกรีดร้องผ่านอากาศ โรแกนหยุดพักให้นกฟีนิกซ์เพลิงขาวเขาได้เอามือไปจับบนไหล่ที่มีเลือดไหลออกมาของเขา เขาไม่สามารถห้ามเลือดที่กำลังไหลอยู่ได้
เหงื่อที่หน้าผากเขาไหลออกมาจนมันหยดลงไปในทะเล
“ค่ำคืนใกล้มาถึงแล้วฉันต้องหาที่พักให้เร็วที่สุด”
โรแกนคิดด้วยใบหน้าที่เย็นชาและอาการบาดเจ็บของเขาเขาตบลงไปที่นกฟีนิกซ์เพลิงขาวใต้ตัวเขาซึ่งทำให้เกิดเสียงหึ่งขึ้นอีกครั้งมันได้สะบัดปีกอย่างรวดเร็วและเร่งความเร็วอีกครั้งและมุ่งตรงไปข้างหน้า
ระบบการครอบครองสามารถทำให้เขาใช้พลังได้ประมาณหนึ่งชั่วโมง แต่โรแกนรู้สึกว่าเขาไม่สามารถควบคุมพลังของนกฟีนิกซ์เพลิงขาวได้อย่างสมบรูณ์
เขาเข้าใจดีว่าระบบนี้เกี่ยวข้องกับความสามารถทางกายภาพของเขา
เหงื่อเขาเริ่มออกมามากขึ้นพลังของนกฟินิกซ์เพลิงขาวเริ่มหายไปอย่างช้าๆจากร่างกายของเขา
“เร็วกว่านี้ฉันต้องรีบแล้ว!”
ในทะเลใหญ่อันแสนสงบในขณะนี้ด้วยแสงแดดอันอบอุ่นได้สาดส่องลงมาทุกอย่างดูสงบแต่ โรแกนรู้ชะตากรรมของตัวเขาเองดี
ในทะเลอันไร้สิ้นสุดนี้หากเขาไม่สามารถหาที่พักได้แม้ว่าเขาจะมีพลังอันแข็งแกร่งเขาก็ไม่สามารถหนีจากความตายได้
เรือไม้ของเขาถูกทำลายโดยทหารเรือและจมลงสู่ก้นทะเล
ในตอนนี้เขามีแค่เงินจากเพื่อนของเขาไอซาว่าเท่านั้น
“ถ้าฉันไม่ได้ที่พักหรือพลังของฟีนิกซ์เพลิงขาวหายไปฉันต้องตายแน่ๆ!”
โรแกนกำลังเผชิญวิกฤติชีวิตและความตายซึ่งทำให้หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นและเร็วขึ้น
“เร็วเข้าเร็วกว่านี้อีก!”
เขารีดเค้นกำลังภายในร่างกายของเขาและนกฟินิกซ์เพลิงขาวก็ส่งเสียงร้องแหลมออกมาแล้วก็กางปีกของมันบินไปข้างหน้าด้วยความเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ
สามนาทีต่อมาโรแกนก็รู้สึกว่าเขาอ่อนแอลงและความแข็งแกร่งของนกฟีนิกซ์เพลิงขาวก็ลดลงกว่า 50% เขารู้สึกหมดแรงและความเจ็บปวดทำให้เขาสูญเสียพลังงานมากขึ้น
“เร็วเข้า,ฉันไม่สามารถมาตายที่นี่ได้!”
โรแกนยังคงกระตุ้นให้ฟีนิกซ์บินต่อไป
ห้านาทีต่อมาทะเลเบื้องล่างที่มีคลื่นอยู่เล็กน้อยปลากำลังกระโดดขึ้นลงและนกนางนวลกำลังบินเป็นกลุ่ม
บรรยากาศตอนนี้นั้นยอดเยี่ยมมาก แต่หัวใจของโรแกนตอนนี้นั้นกำลังรู้สึกห่อเหี่ยว
เขายังไม่พบสถานที่ใด ๆ ที่จะลงจอดและในตอนเวลาในการครอบครองก็กำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว มากสุดไม่เกินห้านาทีและนกฟีนิกซ์เพลิงขาวก็จะหายไปและทิ้งเขาไว้ตามลำพัง
แผลบนไหล่ของเขายังคงไม่ได้รับการดูแลและเขารู้สึกเวียนหัวในขณะเดียวกันมือขวาของเขาในตอนนี้มันไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว
“เร็วๆเข้า,บินต่อไปฉันไม่สามารถตายอย่างนี้ได้!”
เหงื่อได้ออกจากมาร่างกายของเขามากขึ้น แต่เขาก็ยังไม่อาจยอมแพ้ได้
นกฟินิกซ์เพลิงขาวกำลังบินอยู่บนทะเลอย่างรวดเร็วความเร็วของมันค่อยๆลดลงเรื่อย ๆ
นกตัวใหญ่ตัวนี้ซึ่งเขาใช้บินมาตลอดทางนี้ได้มาถึงขีดจำกัดแล้วและจะไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเขาได้อีกต่อไป
สามนาทีต่อมาเสียงของโรแกนก็เต็มไปด้วยความกระจ่างขึ้นทันที
บนเส้นขอบฟ้ามีจุดสีดำเล็ก ๆ ปรากฏในดวงตาของเขา
“เรือ! มันเป็นเรือ!”
นกฟินิกซ์เพลิงขาวก็เปล่งเสียงร่าเริงเร่งการบินและมุ่งหน้าไปที่เรือ
หนึ่งนาทีต่อมานกฟีนิกซ์เพลิงขาวได้ครวญครางและตกลงไปในเรือที่เคลื่อนตัวลงอย่างช้าๆ
โรแกนได้มาถึงขีดจำกัดของเขาแล้ว ในขณะนั้นพลังของนกฟีนิกซ์เพลิงขาวก็ได้จางหายไปและเขาก็ได้หลับตาลง
คอมเม้นต์