The Soul Purchasing Pirate – บทที่ 342: ได้โปรดร้องขอมาเถอะ!
S.P.P: บทที่ 342: ได้โปรดร้องขอมาเถอะ!
ในตอนนี้ตรงบริเวณจัตุรัสหน้าฐานทัพนั้นเนื่องแน่นไปด้วยฝูงชน ประเมินจากสายตาแล้วจํานวนของพวกเขานั้นต้องมากกว่า 30,000 คนอย่างแน่นอน
จํานวนที่มากมายมหาศาลของอีกฝ่ายนั้นทําให้หนังศีรษะของพวกเขาด้านชา
มนุษย์นั้นนับว่าสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน ในตอนแรกเกิดนั้นพวกเขาอ่อนแอราวกับหนอนแมลง แต่เมื่อพวกเขาโตขึ้นพวกเขากลับแข็งแกร่งจนสามารถฉีกกระชากร่างของสัตว์ที่ดุร้ายอย่างสิงโตหรือเสือได้ และเหล่ามนุษย์ที่เป็นผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง ถึงขนาดสามารถทําลายเกาะลามไปถึงโลกทั้งใบได้เลยทีเดียว
แม้ผู้คนตรงหน้าพวกเขาจะอ่อนแอแต่มันก็ทดแทนได้ด้วยจํานวนที่มากมายมหาศาล
ถึงแม้พวกเขาจะแข็งแกร่งมากกว่าคนธรรมดาทั่วไปมากแต่ในท้ายที่สุดพวกเขาก็ยังคงเป็นมนุษย์อยู่ดี
การเผชิญหน้ากับสายธารมนุษย์ที่มากมายมหาศาลขนาดนี้แม้แต่ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งในอดีตกาลก็ยังสามารถตายได้
มนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนไม่ว่าจะเป็นมิตรหรือเกลียดชังหรืออิจฉาริษยา มนุษย์นั้นคือสิ่งที่ซับซ้อนและเข้าใจยากที่สุด
แต่อย่างไรก็ตามในตอนนี้พวกเขากลับได้เห็นด้านที่ต่างไปของมนุษย์ที่พวกเขาไม่เคยรู้จักมาก่อน
มันคือความกตัญญ!
สายธารมนุษย์ที่มากกว่า 30,000 คนเบื้องหน้าของพวกเขานั้นทอดยาวไปหลายกิโล
ผู้คนเหล่านั้นต่างก็กําลังร่ําไห้ออกมาเสียงดัง
สิ่งที่ปรากฏอยู่ในตอนนี้มันไม่ใช่สิ่งที่สามารถอธิบายออกมาเป็นคําพูดได้ แต่ภายในจิตใจของพวกเขากลับสามารถเข้าใจความหมายมันได้อย่างแปลกประหลาด!
อะไรคือสิ่งที่คนกลุ่มนี้ต้องการจะสื่อ? พวกเขาสามารถรับรู้ได้ถึงมันอย่างชัดเจน!
ผู้คนกว่า 30,000 คนต่างก็กําลังแสดงความเคารพสูงสุดต่อพวกโรแกน!
ช่างเป็นอารมณ์ที่ซับซ้อนเหลือเกิน แต่ดูเหมือนว่าจํานวนของพวกเขานั้นจะไม่ได้ หยุดอยู่แค่ 30,000 มันยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และอีกไม่นานจํานวนของมันก็คงจะถึง 50,000
ในตอนนี้เหล่าผู้คนที่เหลือรอดอยู่บนเกาะแห่งนี้ต่างก็กําลังมุ่งหน้ามาที่ฐานทัพ
ไม่ว่าจะคนที่ขาหัก ถือไม้เท้า,หรือแขนหักต่างก็กําลังมุ่งหน้ามาที่นี้ราวกับว่าพวกเขายังปกติดีอยู่ ในตอนนี้แม้แต่คนพิการก็ยังต้องการที่จะมาขอบคุณพวกโรแกนด้วยความจริงใจ!
บรรยากาศที่เคยเงียบเหงาได้เปลี่ยนไปเป็นหนักแน่น
ในตอนนี้นับตั้งแต่จัตุรัสจนไปถึงบนท้องถนน ผู้คนต่างก็กําลังหมอบกราบพวกโรแกน
สิ่งที่พวกเขาแสดงออกมามันไม่ใช่การยอมศิโรราบต่อพวกโรแกน แต่มันคือความรู้สึกขอบคุณที่ออกมาจากใจ!
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นโจรสลัดแต่เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้พวกเขาก็ยังอดที่จะสับสนไม่ได้
พวกเขาทุกคนต่างก็เคยสังหารผู้คนมามา กมายในแกรนด์ไลน์และข้ามผ่านความตายมาก็หลายครั้ง แต่เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้พวกเขากับทําอะไรไม่ถูก
“ฉันควรทํายังไงดี?”
เจสันนั้นกําลังรู้สึกประหม่า
แม้แต่คล็อกโคไดล์เองก็ยังรู้สึกไม่มั่นคงในจิตใจ
ทุกคนต่างจ้องมองมาที่โรแกนและรอคําตอบจากกัปตันของพวกเขา
“ฟูวว!”
โรแกนได้ถอนหายใจออกมาพร้อมกับท่าทางที่เปลี่ยนไปเป็นจริงจัง
นี่แสดงให้เห็นว่าแม้แต่ตัวของโรแกนเองก็ยังไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้อย่างสมบรูณ์กับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยเข้าใจเกี่ยวกับอารมณ์ของผู้คนมากนัก แต่เขาก็ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวแบบลูฟี่ที่จะไม่สามารถรับรู้ได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้หมายถึงอะไร
แม้ว่านี่จะเป็นสิ่งที่โรแกนต้องการ แต่มันก็ยังทําให้เขารู้สึกสับสนและลําบากใจอยู่ดี
“พวกเราชาวเมืองเกาะอาบิลิสขอแสดงความขอบคุณอย่างสูง!”
ในตอนนั้นเองท่ามกลางฝูงชนที่เงียบสงบชายชราผิวขาวอายุประมาณ 60 ได้คุกเข่าลงและกล่าวออกมาด้วยเสียงที่หนักแน่น
ด้วยความที่อายุมากแล้วทําให้เขาทําได้เพียงแค่นั่งยองๆเท่านั้น แม้ว่าจะรู้สึกเจ็บปวดแต่เขาก็ยังยืนยันที่จะทํามันต่อไป
“ไม่ว่าพวกคุณต้องการสิ่งใดตราบใดที่เกาะอา บิลิสสามารถทําได้ ได้โปรดบอกกล่าวกับพวกเรา มา!”
“พวกเรายินดีที่จะทําตามทุกอย่างที่พวกคุณต้องการ!”
เสียงที่หนักแน่นของเขาทําให้ดวงตาของทุกคนในกลุ่มโจรสลัดโซลหดเบิกกว้าง แต่สิ่งที่ทําให้พวกเขาประหลาดใจ ยิ่งกว่านั้นก็คือการที่ไม่มีใครออกมาคัดค้านคําพูดของชายชราคนนั้นเลยสักคนเดียว
นี่คือการแสดงจุดยืนของพวกเขา!
“กัปตัน!”
พวกเขาได้จ้องมองมาที่โรแกน
ไม่ว่าพวกคุณจะต้องการอะไรพวกเราจะทํามัน! ซึ่งนั่นหมายความว่าแม้ว่าโรแกนต้องการเป็นราชาคนที่นี่ก็พร้อมที่จะให้โรแกนเป็นโดยไม่มีความลังเลใดๆ
ไม่มีใครสามารถเข้าใจอารมณ์ของผู้คนบนเกาะอาบิลิส ภายใต้การปกครองอันเผด็จการและการกดขี่อย่างโหดเหี้ยมของอานุกิมันได้ทําร้ายทั้งร่างกายและจิตใจของพวกเขาจนไม่เหลือชิ้นดี
“ลุกขึ้นมาได้แล้ว!”
ในตอนนั้นเองโรแกนก็ได้กล่าวออกมาด้วยน้ําเสียงที่สงบ แต่มันกลับดังก้องอยู่ในหูของทุกคนในที่แห่งนี้
ก่อนหน้านี้โรแกนนั้นได้ยินเสียงความคิดของทุกผู้คนในที่แห่งนี้แม้แต่เสียงของหินหรือต้นไม้ เสียงของทุกสิ่งได้ดังก้องเข้ามาในจิตใจของเขา
“เสียงของทุกสรรพสิ่งงั้นหรอ?”
โรแกนได้ส่ายหัวในทันที เขารู้ดีว่าพลังที่ปรากฏขึ้นมานั้นเป็นพลังที่แทบจะไม่สามารถควบคุมได้เลยหรือต่อให้ควบคุมได้มันก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ดี
“ได้โปรดบอกสิ่งที่คุณต้องการ ไม่อย่างงั้นพวกเราก็จะไม่ยอมลุกขึ้น!”
ชายชราได้กล่าวออกมาด้วยความดื้อรั้น
จะให้พวกเขายอมรับการช่วยเหลือโดยที่ไม่ได้ตอบแทนอะไรเลยงั้นหรอ? พวกเขาไม่สามารถยอมรับมันได้!
อย่างไรก็ตามในตอนนั้นเองโรแกนก็ได้กล่าวออกมาด้วยน้ําเสียงที่อบอุ่นว่า
“ลุกขึ้น นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการจากพวกนาย!”
ในตอนนั้นเองผู้คนได้เงยหน้าขึ้นมาและนิ่งเงียบไปในทันที
คอมเม้นต์