The Soul Purchasing Pirate – บทที่70:อับอาย!
S.P.P บทที่ 70: อับอาย!
ชายลึกลับคนนั้นเป็นใครกันแน่? ถึงแม้ว่าเขาจะแข็งแกร่ง,แต่กัปตันเลนส์ของพวกเขาก็แข็งแกร่งเหมือนกัน แม้ว่าชายคนนั้นจะแข็งแกร่งกว่าเขาแต่ว่าช่องว่างระหว่างพวกเขาก็ไม่น่าจะต่างกันมากนัก
แต่อย่างไรก็ตามชายคนนั้นสามารถเอาชนะเลนส์ได้อย่างง่ายดายในเวลาอันสั้น
ในตอนที่พวกเขาได้ยินเสียงปืนนั้นมันพึ่งจะผ่านมาไม่กี่นาทีก่อนหน้าที่พวกเขาจะมาถึงที่เกิดเหตุเพียงเท่านั้นมันทำให้พวกเขาตกใจมาก
“ ชายคนนี้สามารถเอาชนะเลนส์และกลุ่มของเขาได้ในเวลาแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น!”
นาวาเอกได้หันไปมองรอบๆที่เกิดเหตุ การแสดงออกของเขานั้นดูหนักใจมาก
“ เลนส์กับชายคนนั้นปะทะกันแค่กระบวนท่าเดียว,แต่หลังจากนั้นเลนส์ก็ล่วงลงไปกองบนพื้น”
ทหารเรืออีกคนหนึ่งก็ได้กล่าวออกมาว่า
“ เราไม่พบเลือดของผู้ชายคนนั้นบนพื้นเลยครับ มีแต่รอยลากยาวตรงผนังฝั่งตรงข้ามกับเลนส์ซึ่งเกิดจากเท้าวายุเท่านั้นครับ”
“ อีกนัยหนึ่งก็คือชายคนนั้นไม่ได้รับเจ็บปวดอะไรเลยงั้นสินะ”
“ เขาเป็นผู้ใช้ดาบที่รวดเร็วและทรงพลังมาก”
ทหารเรือคนนั้นได้ก้มมองดูบาดแผลของทหารเรือคนดังกล่าว
หลังจากที่คุยกันอีกสองสามประโยค,ทหารเรือคนนั้นก็ได้ทำการเก็บกวาดสถานที่ซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพของเขา
หลังจากที่ทำการเก็บกวาดสถานที่เกิดเหตุจนเสร็จแล้วนั้นเขาก็ได้รีบออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อไปรายงานต่อหัวหน้าของเขา
ที่ฐานทัพ,พลเรือตรีได้แสดงอารมณ์โกรธออกมาแม้แต่นาวาเอก,นาวาโทก็เช่นกัน
“ นายกำลังจะบอกว่ามีโจรสลัดที่แข็งแกร่งแอบย่องเข้ามาบนเกาะบราเทอริลล่างั้นหรอ? และมาเล่นงานพวกเรางั้นหรอ?”
พลเรือโทโมยะได้เลิกคิ้วขึ้นแล้วถาม
“ ครับ,พลเรือโทโมยะ!”
นาวาเอกได้สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดออกไป
“ แค่โจรสลัดคนเดียว,นายแก้ปัญหาไม่ได้งั้นหรอ?”
โมยะได้เคาะโต๊ะและมองไปที่เหล่าทหารเรือที่อยู่ตรงหน้าเขา
เหล่าทหารเรือต่างมองหน้ากันครู่หนึ่งแล้วก้มศีรษะลงอย่างเงียบๆ
เมื่อมองไปที่เหล่าทหารเรือที่เอาแต่เงียบ,โมยะก็ได้ส่ายหัวไปมาอย่างจนปัญญา
“ นายทำให้ฉันสงสัยในคุณภาพของพวกทหารเรือฝึกหัด”
เมื่อได้ยินอย่างงั้น,ทุกคนต่างก็กัดฟันของพวกเขาแต่ถึงยังงั้นเขาก็ไม่สามารถโต้แย้งใดๆได้
“ ชายลึกลับคนนั้นเขาแข็งแกร่งจริงๆ!”
ที่สำคัญเขาไม่สามารถปกป้องใครได้เลย
ดวงตาของโมยะได้หดแคบลง,จากนั้นเขาก็ได้เอนตัวไปข้างหน้าแล้วพูดออกมาว่า
“นายรู้อะไรไหม!”
ทหารเรือคนนั้นได้มองมาที่โมยะโดยไม่เกรงกลัวใดๆ
“ บางทีการที่นายเพิ่งออกมาจากโรงเรียนเตรียมทหารมันทำให้นายไม่รู้ว่ากองทัพเรือเขาทำงานกันยังไง!”
โมยะโกรธมากในเวลานี้และดูเหมือนว่าทหารเรือเหล่านั้นก็ดูจะกดดันมากในตอนนี้
ในความเป็นจริงดูเหมือนว่าพวกเขาจะกลัวพลเรือโทตรงหน้าของพวกเขามาก
“ ดี,ฉันจะพูดอะไรให้ฟัง!”
เสียงของเขาราวกับเสียงฟ้าร้อง,ทหารเรือเหล่านั้นไม่สามารถต้านทานแรงกดดันที่เขาแผ่ออกมาได้อีกต่อไป มันทำให้เขาได้ล้มลงไปนั่งบนพื้นจนเกิดเสียง“ ปัง” ดังขึ้นมาพวกเขาได้หอบหายใจอย่างหนักและใบหน้าก็ดูซีดเซียว
“สิ่งที่กองทัพเรือต้องการนั่นคือผลลัพธ์!”
เสียงของพลเรือโทได้ดังขึ้น
“ และผลลัพธ์ของภารกิจแรกของพวกนายมันคืออะไร,ผลลัพธ์ของพวกนายคืออะไร!”
“ล้มเหลว”
“ล้มเหลว”
คำพูดเหล่านี้นั้นมันมาพร้อมกับแรงกดดันมหาศาลที่ได้กระแทกเข้าไปในจิตใจของทหารเรือทุกคนในที่แห่งนี้
“ ฝ่ายตรงข้ามอาจจะแข็งแกร่งก็จริง!” โมยะได้พูดออกมาอีกครั้งด้วยรอยยิ้มที่เย้ยหยันบนใบหน้าของเขา “ เขาสามารถจัดการกับคนของเราแล้วสามารถหนีไปได้อย่างง่ายดาย”
“ แน่นอนว่าเขาแข็งแกร่ง!”
เหล่าทหารเรือได้โค้งศีรษะของพวกเขาลงในตอนนี้ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความอับอายขายหน้าในความล้มเหลวของพวกเขา
“ ตอนนี้ฉันยุ่งเกินกว่าที่จะมาสั่งสอนพวกนาย”
“ ในตอนนี้ก็จัดการกับความคิดของพวกนายซะใหม่!”
“มองตาฉัน! ดูแลเพื่อนที่บาดเจ็บและตัวของพวกนายให้ดี!”
“ ไม่ว่าพวกนายจะได้รับข้อมูลอะไรมา,ให้เอาข้อมูลนั้นมาให้ฉันแล้วก็ตามหาตัวเขาให้ได้โดยเร็วที่สุด!”
โมยะได้มองไปที่ทุกคนตรงหน้าเขาอย่างเย็นชาแล้วพูดออกมาอีกครั้งว่า
“ ทหารเรือนั้นยุ่งอยู่เสมอและตัวฉันเองก็ไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องเล็กน้อยๆของพวกนายหรอก”
หลังจากที่เขาพูดอย่างนั้นในที่สุดโมยะก็ได้จ้องมองไปที่นาวาเอก,จากนั้นเขาก็ได้ลุกขึ้นและเดินจากไป
นาวาเอกได้แตะที่ไปที่หัวของเขาและยิ้มออกมาช้าๆ แล้วหันกลับไปมองเหล่าทหารใหม่
“ ตอนนี้ฉันคิดว่าพวกนายน่าจะรู้แล้วนะว่าต้องทำอะไรต่อ”
สายตาของเหล่าทหารใหม่ในเวลานี้เต็มไปด้วยจิตวิญญาณของการต่อสู้,ความโกรธและความอับอายที่อยู่ลึกลงไปในจิตใจของพวกเขา
เมื่อเห็นอย่างงั้นนาวาเอกก็ได้ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ เมื่อคืนเขายังเห็นความกลัวที่สะท้อนออกมาจากในสายตาของพวกเขาอยู่เลย
แล้วตอนนี้เป็นยังไง?
ทหารเรือเหล่านี้นั้นเป็นอนาคตของกองทัพเรือแล้วพวกเขาจะมากลัวโจรสลัดได้ยังไงกัน?
“ เจ้านั่น! ฉันจะไม่ปล่อยมันไปแน่!”
“หึ! เลนส์ควรจะตื่นได้แล้ว,ฉันจะได้ถามข้อมูลที่มีประโยชน์จากเขา,ฉันจะจับมันให้ได้!”
“ฉันจะล้างความอัปยศออกไปให้ได้,กองทัพเรือไม่เคยพ่ายแพ้!”
เสียงที่ดังและทรงพลังได้ดังขึ้นมาซึ่งมันทำให้ใบหน้าของนาวาเอกได้ยิ้มออกมา
ในตอนนี้พวกเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นและสปิริตที่แรงกล้า พวกเขายังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปกองกำลังของทหารเรือนั้นได้เริ่มเคลื่อนไหวไปตามถนนทางตอนเหนือกันเป็นจำนวนมาก
ในมุมถนนที่ห่างไกล,ชายสวมหน้ากากได้ซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด,เมื่อเขาเห็นทหารเรือเริ่มเคลื่อนไหวมันทำให้เขามีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมา
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาก็ได้ชักสีหน้าของเขาให้กลับมาเป็นปกติและพึมพำออกมาว่า
“ ไม่ยังไม่พอ,มันยังไม่พอ”
ในวันที่สาม,ทหารเรือนั้นยังคงเสริมกำลังเพิ่มไปอีก,วันนี้เป็นวันที่เงียบสงบมาก
ค่ำคืนได้ผ่านพ้นไปอีกคืน,ไม่มีการซุ่มโจมตีใดๆเกิดขึ้นแต่พวกเขานั้นกลัวว่าผู้โจมตีนั้นจะหนีไปแล้ว
หากเขาหนีไปแล้ว,แล้วพวกเขาจะล้างความอัปยศนี้ได้อย่างไร?
ในวันที่ 4 ชายคนนั้นก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง แต่คราวนี้เขากลับมาปรากฏตัวในตอนกลางวัน
แสงอาทิตย์เที่ยงตรง,ชายผู้สวมเสื้อคลุมสีดำปิดบังในด้วยหน้ากากพร้อมกับดาบที่อยู่บนเอวของเขา
จากนั้นเขาก็ได้จัดการกับทหารเรือไปอีกสองกลุ่ม
อย่างไรก็ตาม,ทหารเรือกับไม่ได้เกรงกลัวใดๆ,พวกเขากลับยิ่งกระหายเลือดมากขึ้นไปอีก พวกเขาจะทำให้แน่ใจว่าชายคนนี้จะไม่มีทางรอดไปได้ เขานั้นจะต้องเผชิญกับทหารเรือที่บ้าคลั่งเหล่านี้ทั้งหมด
หลังจากนั้นในวันที่ 5
ชายลึกลับได้ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งและเขาได้จัดการไปอีกสามกลุ่ม,ความเสียหายของพวกทหารเรือเริ่มหนักขึ้น,และเขาก็ได้จากไปอีกครั้ง
ในวันที่ 6 เขาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
ทหารเรือห้ากลุ่มได้มาพบเขาในตรอกแคบๆ พวกเขาได้โจมตีเขาด้วยความโกรธในทันที
สามนาทีต่อมา,ชายสวมหน้ากากก็ได้จากไปอย่างปลอดภัยทิ้งเอาไว้เพียงสระเลือดเอาไว้ข้างหลังของเขาพร้อมกับร่างของเหล่าทหารเรือที่ไดรับบาดเจ็บสาหัส
ในวันที่ 7 ทหารเรือได้เรียกกำลังเสริมมาเพิ่ม
ในวันนี้เจสันที่กำลังปกป้องรูจอยู่นั้นอยู่ๆร่างของเขาก็ได้สั่นสะท้านในทันที
ติดตามข่าวสารได้ที่เพจThe Soul Purchasing Pirate แปลไทย
คอมเม้นต์