The Soul Purchasing Pirate – บทที่110:นกอะไรวะเนี่ย!?
S.P.P บทที่ 110: นกอะไรวะเนี่ย!?
เจสันนั้นตื่นเต้นมาก,แต่โรแกนนั้นกลับรู้สึกจนปัญญานอกจากนี้เขาก็ขี้เกียจที่จะพูดต่อด้วย
“ นายหมายความว่าไงที่ว่าฉันมีสายเลือดของเขา?,อีกอย่างนะฉันเป็นน้องชายเขาไม่ใช่ลูกชายของเขา!”
“ สายเลือดของเขามันก็อยู่ในร่างกายของเขาไม่ได้อยู่ข้างในตัวฉัน!”
เขาไม่ต้องการพูดต่อไป
“ ไปกันได้แล้ว,ฟีนิกซ์ทมิฬ!”
เมื่อเห็นทุกคนได้ขึ้นมานั่งอยู่บนหลังของฟีนิกซ์ทมิฬแล้ว,โรแกนก็ได้ตะโกนสั่งให้มันบินในทันที
“ว้ากกกก!”
กรงเล็บที่แหลมคมและทรงพลังก็ได้โผล่ขึ้นมา,และก็ได้เกิดหลุมยักษ์สองหลุมขึ้นมาบนพื้นดิน,ภายใต้พลังอันมหาศาลของฟีนิกซ์ทมิฬนั้นพื้นดินจึงไม่สามารถทนต่อพลังของมันได้,ในเวลาเดียวกันนั้นเอง,ปีกทั้งสองข้างของฟีนิกซ์ทมิฬนั้นได้กระพือขึ้นมา,ขนของฟีนิกซ์ทมิฬนั้นมันเหมือนกับดาบน้ำแข็งที่มีอยู่นับไม่ถ้วน
“ว้ากกกก!”
เสียงกรีดร้องของมันนั้นทำให้อากาศนั้นถึงกับสั่นสะเทือน
เพียงพริบตาเดียว,ฟีนิกซ์ทมิฬนั้นก็ได้พุ่งสูงขึ้นไปบนฟ้าอย่างรวดเร็วเพียงชั่วครู่เดียวมันก็ได้บินขึ้นไปสูงกว่า 100 เมตร
“ อ่าาาา,ลมแรงเกินไปแล้ว!”
เจสันได้ตะโกนออกมาเสียงดังพร้อมกับลมแรงที่ตีเข้ามาในปากของเขา
“ เจสันดูแลรูจ!” โรแกนได้ตะโกนออกมา
เจ้านายตัวน้อยนั้นได้พุ่งเข้าไปกอดแขนของเจสัน
ในเวลาเดียวกัน,โรแกนก็ได้ตะโกนสั่งฟีนิกซ์ทมิฬออกมาเสียงดัง
“ ฟีนิกซ์ทมิฬช้าลงอีก!”
เมื่อได้ยินคำพูดของโรแกน,ฟีนิกซ์ทมิฬก็ได้ชะลอความเร็วของมันลง,มันทำให้ทุกคนรู้สึกโล่งใจ
“ โรแกน,ข้างล่างนั้น,มีคนอยู่ตรงนั้น!”
ทันใดนั้น,รูจก็ได้ชี้ไปที่ต้นไม้ที่อยู่ด้านล่างของฟีนิกซ์ทมิฬ
เมื่อโรแกนและเจสันได้ยินอย่างนั้น,ใบหน้าของพวกเขาก็ได้เปลี่ยนไปเล็กน้อยพร้อมกับที่พวกเขาได้จ้องมองลงไปในทันที
ในขณะนั้นเองพวกเขาก็ได้เห็นชายคนหนึ่งที่สวมชุดสูทสีดำและหมวกยืนอยู่บนต้นไม้สูงกว่าห้าสิบเมตร,ในขณะนั้นเองเขาก็ได้เงยหน้าขึ้นมามองพวกเขาด้วยใบหน้าที่ดูโง่งม,เขาไม่คิดว่าพวกเขาจะจากไปทั้งๆแบบนี้
“ ดูเมหือนว่าเขาจะแอบตามเรามาจริงๆ!”
โรแกนได้พยักหน้า
จากนั้นเขาก็ได้ยิ้มออกมา
“ กองทัพเรือ,พวกเขาแข็งแกร่งจริงๆนั้นล่ะนะ,ดูเหมือนพวกเขาจะรักฉันมากจริงๆ!”
เจสันได้หัวเราะออกมา,พวกเขานั้นอยู่บนตัวของฟีนิกซ์ทมิฬมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่กองทัพเรือจะตามหาตัวพวกเขาเจอได้อีกครั้ง
แต่พวกเขาก็ไม่ได้สังเกตเห็นอารมณ์บนใบหน้าของแมว,ใบหน้าของมันนั้นได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย,เธอดูกังวลและกระวนกระวายดูเหมือนว่าเธอจะรู้จักชายคนนั้น
ใช้เวลาไม่นาน,ฟีนิกซ์ทมิฬก็ได้มาถึงชายฝั่งที่พวกเขาทอดสมอรูทดราก้อนไว้
หลังจากนั้น,พวกเขาก็ได้กระโดดลงมาจากฟีนิกซ์ทมิฬลงไปบนเรือและเริ่มเก็บข้าวของบนเรือทั้งหมดเข้าไปในโกดัง,จากนั้นเจสันก็ได้เริ่มแล่นเรือออกไปด้วยความเร็วสูง
“ได้เวลาไปยังเป้าหมายต่อไปของเราแล้ว!”
ดวงตาของโรแกนนั้นดูลึกลับและเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“ แกรนด์ไลน์!”
ถูกต้องแล้ว,คราวนี้พวกเขาจะไปแกรนด์ไลน์
พวกเขาทั้งหมดมองหน้ากันแล้วหัวเราะออกมา
“ ฮ่าฮ่าฮ่า,กัปตันฉันอยู่บนท้องทะเลนี้มาห้าหรือหกปีแล้วแต่ฉันยังไม่เคยเข้าไปในแกรนด์ไลน์เลย!”
เจสันนั้นตื่นเต้นและดูเหมือนว่าเขารอคอยมันมาตลอด
“ สถานที่ที่โรเจอร์เคยไปนั้น,ฉันไม่เคยคิดเลยว่า,ฉันจะมีโอกาสได้ไปเห็นพวกมันได้ด้วยตาของตัวเอง!”
รูจได้ยิ้มออกมา
“จริงๆแล้วฉันไม่ได้อยากจะเข้าไปในแกรนด์ไลน์ในตอนนี้หรอกนะ”
การแสดงออกของโรแกนนั้นดูเคร่งเครียดมาก
ในช่วงเวลาแห่งยุคใหม่นี้ที่เพิ่งจะเริ่มขึ้นนั้น,เหล่าโจรสลัดนั้นล้วนแล้วแต่ก็บ้าคลั่งพวกมันนั้นมีมากเหมือนกับฝูงตั๊กแตน,และกองทัพเรือนั้นก็ถูกจัดการอย่างไร้ความปราณี,ยุคสมัยนี้นั้นมันมีรุนแรงยิ่งกว่าในยุคไหนๆ,อันตรายนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
โจรสลัดและกองทัพเรือนั้นต่างก็บ้าคลั่งไม่ต่างกัน,นับเป็นช่วงเวลาที่อันตรายเป็นอย่างยิ่ง
แต่…
เด็กที่อยู่ในท้องของรูจนั้นกำลังจะเกิดในเร็วๆนี้,เขาไม่ต้องการความล่าช้าที่จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่อาจจินตนาการได้,โรแกนจะไม่ยอมปล่อยให้โศกนาฏกรรมอย่างในอนิเมะเกิดขึ้นมา
เขาไม่สามารถควบคุมสิ่งที่คนอื่นกระทำได้,แต่ถ้าเป็นอะไรที่เกี่ยวกับเขาเขาจะทำมันสุดความสามารถ
แต่ในตอนนี้การเข้าไปสู่แกรนด์ไลน์เป็นวิธีที่ปลอดภัยและรวดเร็วที่สุด
รูจและเอสนั้นจะต้องไม่ตาย
“ ตาแก่หลังจากนายจากไป,งานที่นายทิ้งเอาไว้ให้ฉันนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ!”
โรแกนได้ส่ายหัวพร้อมกับหัวใจที่หนักอึ้ง
ในเวลานี้,สี่จักรพรรดินั้นยังไม่ได้จัดตั้งขึ้นมาและกองทัพเรือนั้นก็กำลังจะสู้กับโจรสลัดอย่างดุเดือด,โรแกนนั้นต้องการอยู่รอดซึ่งมันทำให้นั้นมีความรับผิดชอบที่หนักอึ้งอยู่บนบ่าของเขา
หากไม่ใช่กลุ่มโจรสลัดขนาดใหญ่,ด้วยความแข็งแกร่งของเขานั้นมันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย,เพราะฉะนั้นในตอนนี้เขาต้องพัฒนาตัวเองไม่อย่างงั้นเขาก็จะถูกบังคับให้ต้องไปจากทางสายนี้
รูทดราก้อนได้แล่นไปอย่างช้าๆ,บนหมู่เมฆด้านบนนั้นมีนกสีดำตัวใหญ่ตัวหนึ่งกำลังบินตามเรืออยู่ตลอด
เมื่อโรแกนและคนอื่นๆได้แล่นรูทดราก้อนออกไปจากเกาะนั้น,ชายชุดดำก็ได้เดินมาที่ชายฝั่งด้วยใบหน้าที่เย็นชา
เขาได้เงยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้า
สิบวินาทีต่อมา,ชายในชุดสูทสีดำก็ได้หยิบก้อนหินออกจากแขนเสื้อของเขาจากนั้นเขาก็ได้วางมันลงบนพื้นอย่างระมัดระวัง
ในตอนนั้นเองก้อนหินนั้นก็ได้กลายเป็นนก
นกนี้ดูน่าเกลียดมาก,มันไม่มีจมูก,ไม่มีหู,มันไม่ควรเรียกว่านกด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม,ชายที่สวมสูทสีดำนั้นได้วางมือลงบนนกตัวนั้นและในไม่ช้ามันก็เริ่มบิน
“กวิ้กก”
เสียงได้ดังออกมาจากนกนั้นและดูเหมือนว่ามันกำลังร้องเพลงอยู่
เขามองดูนกนั้นบินขึ้นไปในอากาศโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา
นกนั้นดูเปราะบางและเหมือนจะแตกหักได้ในทันทีถ้าถูกสัมผัส,แต่มันบินเร็วกว่านกจริงๆเป็นสิบเท่า
เพียงพริบตา,นกนั้นก็ได้มาถึงตรงโรแกนและกลุ่มของเขา
“ เป้าหมายได้ถูกติดตามแล้ว,พร้อมที่จะโจมตีได้ตลอดเวลา!”
เขาได้พูดกับหอยทากสื่อสารอย่างแวเบาแล้วเขาก็หายตัวไป
สามนาทีต่อมา,ก็ได้มีเรือลำเล็กออกไปจากชายฝั่งของเกาะแล้วแล่นออกไปช้าๆในท้องทะเล
บนรูทดราก้อนโรแกนได้หลับตาลงแล้วนั่งสมาธิอยู่บนดาดฟ้าเรือ,เขาต้องการที่จะทำความเข้าใจกำลังภายในของเขา
การไม่มีเงินมันทำให้เขารู้สึกไม่ปลอดภัย,ในท้องทะเลอันกว้างใหญ่นี้นั้นมันไม่ง่ายนักที่เขาจะเจอกับโจรสลัดและจัดการพวกเขาลงในนามของท้องทะเล
ตอนนี้วิธีเดียวที่เขาจะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาได้ก็คือการทำความเข้าใจกับความสามารถของเขาที่เขามีอยู่อย่างถ่องแท้
ลมปราณภูติอุดร,เก้าหยินหยาง,และอื่นๆ,โรแกนนั้นค้นพบหลายวิธีในการเสริมสร้างร่างกายของเขาด้วยการใช้ชี่ให้ไหลเวียนไปในร่างกายของเขาผ่านจุดลมปราณเหล่านั้นที่ส่องสว่างราวกับดวงดาว
หลังจากไหลเวียนพลังอย่างระมัดระวัง,เวลาก็ได้ไหลผ่านไปอย่างช้าๆความคิดของโรแกนนั้นเริ่มชัดเจนขึ้น
คอมเม้นต์