The Soul Purchasing Pirate – บทที่346:อาณาจักรบารุต!
บทที่346:อาณาจักรบารุต!
S.PP: บทที่ 346: อาณาจักรบารุต!
ซาโลหาได้ใส่ใจสายตาที่มองมาแม้แต่น้อย
ในขณะนี้คําพูดของโรแกนก่อนที่จะออกเรือนั้นกําลังดังก้องอยู่ในจิตใจของเขา
“ในงานประชุมโลกรีเวอรี่ไม่ว่าจะต้องไปขัดขาใครนายก็จะต้องแสดงพลังอํานาจของพวกเรา ออกมา!”
“และใครก็ตามที่ต้องการจะลองดีก็เพียงแค่บดขยี้มัน!”
“เหยียบย่ามันลงไปบนพื้นจนกว่ามันจะยอมเชื่อฟัง!”
“หลังจากที่ยอมศิโรราบก็ลากมันกลับขึ้นมาคุยอีกครั้ง!”
อาณาจักรที่อ่อนแอไม่มีสิทธิ์ออกสิทธิ์ออกเสียงซาโลนั้นรู้เรื่องนี้ดี
ดังนั้นในตอนนั้นเองซาโลจึงได้ปลดปล่อยเวทย์มนตร์ออกมาผ่านดวงตาของเขา
ในตอนนั้นเองชายคนนั้นก็ได้กรีดร้องออกมาพร้อมกับหงายหลังลงไปนั่งบนพื้นพร้อมกับมีน้ําไหลออกมาจากตรงหว่างขา
ชายคนนั้นได้จ้องมองมาที่ซาโลด้วยความหวาดกลัว
ซาโลได้จ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยใบหน้าที่เฉยชา
“อาณาจักรบารุตเห็นด้วยที่ผู้คนบนเกาะเงือกสมควรได้รับสิทธิที่พวกเขาสมควรจะได้รับ”
เสียงของเขาได้ดังก้องไปทั่วทั้งห้องประชุมในตอนนี้ไม่มีใครคิดที่จะทําให้เขาขุ่นเคืองอีกต่อไปพวกเขาทําเพียงแค่จ้องมองเท่านั้น
“คุณซาโลที่ห้องประชุมแห่งนี้ไม่อนุญาตให้ ใครก็ตามลงมือกับผู้อื่น”
คนของรัฐบาลโลกได้กล่าวเตือนซาโลออกมา
นี่คือการประชุมที่รัฐบาลโลกเป็นผู้จัดขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อนุญาตให้การกระทําที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นการกระทําของซาโลทําให้การ์ดที่คอยรักษาความปลอดภัยตื่นตัวขึ้นมาในทันทีพร้อมกับจ้องมองมาที่ซาโลด้วยสายตาจริงจังของเพียงแค่สั่งเท่านั้นพวกเขาจะพุ่งเข้าไปจับตัวซาโลในทันที
“ลงมืองั้นหรอ? นายเห็นมันงั้นหรอ?”
ซาโลได้ยกยิ้มขึ้นมา
“ฉันแค่มองเขาเท่านั้น หรือว่ากรมองคือการกระทําที่ไม่สามารถทําได้งั้นหรอ?”
คนของรัฐบาลโลกคนนั้นถึงกับพูดไม่ออก
สิ่งที่ซาโลพูดมานั่นคือเรื่องจริงเพราะตั้งแต่ต้นแม้แต่นิ้วซาโลก็ยังไม่ได้ขยับมันด้วยซ้ํา
ฉากนี้ทําให้ตัวแทนจากประเทศอื่นๆถึงกับร้องมองมาด้วยความอิจฉา
“ตามตํานานเวทมนตร์ของอาณาจักรบารุตนั่นมีความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาดกับผลปีศาจและดูเหมือนว่าสิ่งที่ตํานานบอกล่าวจะเป็นความจริง!”
คนที่สามารถมานั่งในที่แห่งนี้ได้ไม่มีทางเป็นคนธรรมดาอย่างแน่นอนก่อนที่พวกเขาจะเดินทางมาที่นี่พวกเขาย่อมทําการค้นหาข้อมูลของประเทศอื่นมาแล้วไม่มากก็น้อยและแน่นอนว่าพวกเขาย่อมรับรู้ถึงความมหัศจรรย์ของอาณาจักรบารูตแต่แม้ว่าจะรู้อยู่แล้วพวกเขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
“อย่าบอกนะว่าตาแก่นั้นจะมีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับเดียวกันกับพลเรือเอกจริงๆ?”
เหล่าตัวแทนของประเทศที่ไม่เห็นด้วยต่างก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตากับซาโล
โลกใบนี้นั้นคือโลกที่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก!
“มีคนกล่าวเอาไว้ว่าอาณาจักรบารุตนั้นมีสุดยอดจอมเวทย์อยู่ด้วยกันห้าคน พวกเขาแต่ละคนต่างก็มีความแข็งแกร่งในระดับเดียวกันกับพลเรือเอกของกองทัพเรือแถมพวกเขาแต่ละคนต่างก็เป็นผู้นําของสภาเวทมนตร์ไม่ทราบว่าคุณซาโลเป็นผู้นําของสภาเวทมนตร์ไหนงั้นหรอ?”
คนของรัฐบาลโลกได้ปรับอารมณ์ให้กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็วก่อนที่จะแสดงรอยยิ้มที่อ่อนโยนและกล่าวถามออกมาด้วยรอยยิ้ม
อาณาจักรบารูตนั้นได้ห่างหายไปจากสายตาของผู้คนบนโลกใบนี้นานถึง 50 ปี และในช่วง 50 ปีที่ผ่านมานี่พวกเขาก็เปลี่ยนไปมากมันทําให้ทุกคนอยากรู้เกี่ยวกับข้อมูลของพวกเขามากเพราะว่าในบันทึกเกี่ยวกับ
อาณาจักรบารุตนั้นมันแทบจะ ไม่มีข้อมูลอะไรเลยอาณาจักรของพวกเขาเป็นอาณาจักรที่ลึกลับเป็นอย่างมากพวกเขาเข้าร่วมงานประชุมโลกน้อยครั้งมากและสิ่งที่เหลืออยู่ก็มีเพียงแค่ชื่อของพวกเขาเท่านั้น
“ฉันเป็นผู้นําของจอมเวทย์สายพลังธาตุ”
ซาโลได้กล่าวตอบออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบา
“ดูเหมือนว่าผู้นําทั้งห้าของสภาเวทมนตร์จะแข็งแกร่งมากเลยนะครับ”
คนของรัฐบาลโลกได้พยักหน้าและกล่าวชมออกมา
“นายพูดผิดไปนิดนึ่ง”
ซาโลได้กล่าวสวนขึ้นมาในทันที
“ฮีม? ถ้างั้นคุณซาโลช่วยแก้ไขข้อผิดพลาดของผมหน่อยได้ไหมครับ?”
“ขุมพลังของพวกเราอาณาจักรบารุตนั้นไม่ได้มีเพียงแค่ผู้นําสภาทั้งห้าเท่านั้น..”
เสียงของซาโลได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งห้องประชุมในตอนนั้นเองดวงตาของผู้คนในห้องประชุมก็หดแคบลงในทันที
“แต่ยังมีราชาของพวกเราอยู่อีกหนึ่งแถมพลังอํานาจของเขาก็เหนือล้ํากว่าพวกเราทั้งห้ามาก!”
“และที่อาณาจักรบารุตเข้ามาเป็นสมาชิกของรัฐบาลโลกและมาที่งานประชุมโลกในครั้งนี้ก็เพราะว่ามันเป็นประสงค์ของพระองค์!”
แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อแต่ด้วยน้ําเสียงที่ราบเรียบของซาโลพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมรับความจริงในข้อนี้
“เป็นเกียรติจริงๆที่ได้พวกคุณอาณาจักรบารุตมาเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิก”
คนของรัฐบาลได้ยิ้มออกมาอย่างแผ่วเบา
แค่พวกเขามีขุมพลังระดับพลเรือเอกถึงห้าคนพวกเขาก็รู้สึกลําบากมากแล้ว แต่นี่พวกเขากลับ บอกว่ายังมีคนที่เหนือกว่าพวกเขาอยู่อีกหนึ่งคน นั้นไม่ได้หมายความว่าพวกเขามีคนที่แข็งแกร่งในระดับเดียวกับพลเรือเอกถึงหกคนเลยไม่ใช่หรือไงกัน!
อาณาจักรแห่งนี้จะแข็งแกร่งมากเกินไปแล้ว!
ในตอนนี้เหล่าตัวแทนจากประเทศอื่นนั้นตกตะลิงยิ่งกว่าเดิมซะอีก
พวกเขาต่างก็เคยอ่านประวัติศาสตร์เกี่ยวกับดินแดนมหัศจรรย์ทั้งหลายในโลกใบนี้แม้ว่าส่วนใหญ่จะมีอยู่เพียงแค่ในบันทึกแต่มันก็ยังมีบางแห่งที่ยังหลงเหลืออยู่มาจนถึงปัจจุบัน
ยกตัวอย่างเช่นตระกูลวินสโมค จนกระทั่งในตอนนี้พวกเขาก็ยังคงเป็นผู้ปกครองทะเลนอร์ธบลอยู่และตามประวัติศาสตร์ของอาณาจักรบา รุตในอดีตนั้นเคยเป็นถึงอาณาจักรชั้นนําของยุคก่อนที่ชื่อของพวกเขาจะจางหายไป
และด้วยขุมกําลังระดับพลเรือเอกถึงหกคนจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งที่บันทึกเอาไว้นั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่
แน่นอนว่าซาโลรู้อยู่แล้วว่าพวกเขากําลังคิดอะไรอยู่แต่ซาโลก็ไม่ได้สนใจมันแต่อย่างใด
เพราะเหตุผลที่เขามาเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ก็เพื่อแสดงพลังอํานาจของพวกเขาอาณาจัก รบารุตให้โลกใบนี้ได้ประจักษ์
หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้กลับมาหารือปัญหากันต่อหลังจากที่ได้ทําการลงคะแนนเสียงกันบทสรุปก็คือเสมอดังนั้นจึงจําเป็นต้องมีการหารือกันอีกครั้งหนึ่ง
ซาโลนั้นไม่ได้ใส่ใจการประชุมแต่อย่างใดเขาแสดงความคิดเห็นเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น
การพูดคุยกันในที่แห่งนี้นั้นต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากเพราะในทุกประโยคนั่นมันคือเจตจํานงของประเทศหนึ่งๆ การแสดงความคิด เห็นออกมานั้นมันคือความคิดเห็นของคนนับล้านคน
จนกระทั่งการประชุมในวันนี้ได้สิ้นสุดลงทุกคนที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ต่างก็ประจักษ์ถึงพลังอํานาจของอาณาจักรบารุตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในตอนนี้พลังอํานาจของจอมเวทย์ได้สลักลึกลงไปในจิตใจของพวกเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เวสบดูนั่นคือดินแดนของอาณาจักรบารุด!”
เชื่อเหลือเกินว่าหลังจากนี้ประโยคนี้จะต้องแพร่กระจายไปทั่วทั้งโลกใบนี้
ในตอนนี้เหล่าตัวแทนจากประเทศอื่นต่างก็กําลังจ้องมองมาที่ซาโลและเหล่าจอมเวทย์ทั้ง 36 และเหล่านักรบทั้ง 72 คนที่นําโดยซาโลด้วยความสนใจ
แรงกดดันของพวกเขาทั้ง 108 คนนั้นน่าตกตะถึงเป็นอย่างมาก
“ความแข็งแกร่งระดับนี้ฉันกลัวว่ามันคงจะมีแต่พวกโจรสลัดที่แข็งแกร่งในโลกใหม่เท่านั้นล่ะที่จะมีได้!”
“อาณาจักรบารุตนี่น่าหวาดกลัวจริงๆ!”
“ได้มาเห็นความแข็งแกร่งของพวกเขาแบบนี้ฉันชักอยากจะรู้ซะแล้วสิว่าราชาของพวกเขาจะเป็นยังไง!”
ผู้คนต่างก็จดจําชื่อของอาณาจักรบารุตเข้าไปในจิตใจของพวกเขา
คอมเม้นต์