The Soul Purchasing Pirate – บทที่ 347: เราอยากพบราชาของท่าน?
S.P.P: บทที่ 347: เราอยากพบราชาของท่าน?
การกระทําของซาโลในงานประชุมนั้นเหนือความคาดหมายของทุกประเทศไปมาก ด้วยความเย็นชาและความเด็ดเดี่ยวของเขา ประกอบกับความแข็งแกร่งที่น่าเกรงขามของเขาทําให้ตัวแทนจากประเทศอื่นๆต่างก็ตกตะลึง
ไม่ใช่ว่าประเทศของพวกเขาอ่อนแอ เพราะแม้ว่าประเทศของพวกเขาจะแข็งแกร่งแต่ตัวแทนที่พวกเขาส่งไปก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น และถ้าพวกเขาไปท้าทายจอมเวทย์พวกนั้นเข้าแน่นอนว่ารังแต่จะทําให้ตัวเองขายหน้าซะเปล่าๆ
นับตั้งแต่วันที่อาณาจักรบารุตเข้าร่วมงานประชุมโลก ชื่อของพวกเขาก็ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งโลกใบนี้อย่างรวดเร็ว
การกระทําของซาโลในที่ประชุมนั้นทั้งสร้าง มิตรและก็ศัตรูในเวลาเดียวกัน และในตอนนั้นเอง
ซาโลก็ได้ทําการติดต่อประเทศที่คาดว่าน่าจะเป็นมิตรไปอย่างลับๆ
อาจกล่าวได้ว่างานประชุมโลกรีเวอรี่ นั้นคือโอกาสในการที่ประเทศต่างๆจะได้ทําการเจริญสัมพันธ์กันรัหว่างประเทศ
โลกใบนี้นั้นกว้างใหญ่เป็นอย่างมาก ดังนั้นการสื่อสารกันจึงเป็นเรื่องที่ยากลําบากและในบางครั้งก็แทบไม่รู้ด้วยซ้ําว่ามีประเทศแบบนี้อยู่
“จอมเวทย์ซาโล พอดีว่าฉันได้พาคนสําคัญคนหนึ่งมาหาคุณ
ในวันที่สามของงานประชุมโลกในตอนนั้นเองก็ได้มีมนุษย์กลายพันธุ์คนหนึ่งเดินเข้ามาพูดคุยกับซาโลด้วยรอยยิ้ม
มนุษย์กลายพันธุ์นั้นไม่ได้ต่างจากมนุษย์มากนัก พวกเขาเพียงแค่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่แตกต่างจากมนุษย์ทั่วไปทําให้ร่างกายของพวกเขาเกิดการกลายพันธุ์ขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่นชาวท้องฟ้าบนเกาะแห่งท้องฟ้าสกายเปียร์หรือเผ่ามิงค์บนเกาะโซพวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นมนุษย์กลายพันธุ์ทั้งสิ้น
“อืม! ใคร?”
ซาโลได้กล่าวถามออกมาด้วยความสงสัย
หากอาณาจักรบารุตต้องการเปิดประเทศพวกเขาก็จําเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์กับประเทศอื่นให้มากๆ
“คุณต้องคิดไม่ถึงอย่างแน่นอน!”
มนุษย์กลายพันธ์คนนี้แตกต่างจากมนุษย์ธรรมดาอย่างชัดเจน แขนทั้งสองข้างของเขานั้นถูกปกคลุมด้วยเกล็ดราวกับเกราะ เขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าไหร่พวกเขาเรียกตัวเองว่าสเกล(เกล็ด)
“งั้นหรอ? ด้วยความสัมพันธ์ของพวกเราฉันคงจะปฏิเสธนายไม่ได้ด้วยงั้นสินะ? โอเบี้ยน
ซาโลได้กล่าวออกมาพร้อมกับส่ายหัว
เมื่อได้ยินดังนั้นดวงตาของโอเบี้ยนก็ได้เปล่งปiะกายขึ้นมาในทันที
“คนที่ฉันจะพาคุณไปเจอนั้นเป็นคนที่ไม่สามารถเผยตัวต่อสาธารณะได้ ดังนั้นฉันจึงได้จัดเตรียมสถานที่ที่เหมาะสมเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
“แล้วเมื่อไหร่พวกเราจะไปกันสักที”
ซาโลได้กล่าวเร่งขึ้นมาในทันที
“โอเค! ถ้างั้นพวกเราไปกันเลย!”
โอเบี้ยนนั้นดูจะเคารพซาโลมาก
“โอเค!”
เมื่อซาโลลุกขึ้นมาโอเบี้ยนก็ได้ทําการนําทางในทันที “ฉันเชื่อว่าในขณะที่ฉันกําลังพาคุณไปเขาก็คงจะรออยู่ที่นั้นแล้ว”
“อม”
ระหว่างทางนั้นซาโลกได้กล่าวถามถึงตัวตนของคนที่โอเบี้ยนกําลังจะพาไปเจอ แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้กล่าวตอบอะไรออกมาเขาทําเพียงแค่ยิ้มเท่านั้น
ในตอนนี้ซาโลรู้สึกสงสัยมากว่าคนที่เขากําลังจะไปเจอนั้นเป็นใคร
ในตอนนั้นเองพวกเขาทั้งสองก็ได้เดินมาหยุดอยู่ที่บ้านธรรมดาๆหลังหนึ่ง
“เชิญคุณเข้าไปข้างในได้เลยเขากําลังรอคุณอยู่ข้างในนั้น”
โอเบี้ยนได้ยกยิ้มขึ้นมาพร้อมกับเดินไปเคาะประตู
“โอเค!”
ดวงตาของซาโลได้เปล่งประกายขึ้นมาก่อนที่ เขาจะเดินไปเปิดประตู
เมื่อเข้าไปข้างในประตูปากของซาโลก็ได้เปิดขึ้นมาราวกับว่าเขากําลังประหลาดใจ
“มนุษย์เงือกงั้นหรอ?”
ชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นั้นต้องเป็นมนุษย์เงือกอย่างแน่นอน ชายคนนั้นมีร่างกายที่ใหญ่โตและใบหน้าที่เผยให้เห็นถึงความสง่าผ่าเผย
“สวัสดี,เราคือราชาเนปจูนแห่งเกาะเงือก!”
ราชาเนปจูนนั้นมีร่างกายที่สูงใหญ่เป็นอย่างมากสูงใหญ่ยิ่งกว่าเขาซะอีก
“สวัสดี,ท่านราชาเนปจูน!”
ซาโลนั้นรู้สึกประหลาดใจแต่ก็เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
และเหตุผลที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่า ด้วยการกระทําของเขาในที่ประชุมมัน จึงไม่ใช่เรื่องยากนักที่พวกเขาทั้งสองฝ่ายจะมีโอกาสได้พัฒนาความสัมพันธ์กัน
“ถ้ามันเป็นการรบกวนเราต้องขออภัยท่านด้วย”
ราชาเนปจูนได้กล่าวขอโทษออกมาด้วยความสุภาพและหนักแน่น
“ท่านสุภาพเกินไปแล้ว,ข้าว่าท่านนั่งลงก่อนเถอะ พวกเราจะได้สามารถพูดคุยกันได้อย่างสะดวก
ซาโลได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
แม้ว่าเขาจะมีร่างกายที่สูงใหญ่แต่มันก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับราชาเนปจูนดังนั้นมันจึงกลายเป็นเรื่องที่ยากลําบากถ้าพวกเขาจะยังยืนคุยกันอยู่แบบนี้
“โอเค,ท่านซาโลงั้นเราขอเข้าประเด็นเลยก็แล้วกัน!”
ราชาเนปจูนได้กล่าวออกมาพร้อมกับนั่งลงไปบนเก้าอี้
“ขอบคุณท่านมากสําหรับการสนับสนุนเกาะเงือกของเราในงานประชุมรีเวอรี่ แม้ว่าท่านจะพูดเพียงแค่ไม่กี่คําก็ตาม แต่มันนับว่าเป็นพระคุณที่ยิ่งใหญ่มากสําหรับเกาะเงือกและเผ่าพันธุ์มนุษย์เงือกของเรา!”
“แม้ว่าตัวเราจะไม่เชื่อว่ามนุษย์และมนุษย์เงือกจะสามารถอยู่ร่วมกันได้ แต่ความคิดนี้เป็นความปรารถนาของภรรยาอันเป็นที่รักของเรา ดังนั้นเราจึงทํางานอย่างหนักเพื่อมัน!”
เมื่อฉันได้ยินคําพูดของราชาเนปจูนซาโลก็รู้สึกประหลาดใจมาก
“ท่านไม่เชื่องั้นหรอว่ามนุษย์กับมนุษย์เงือกจะ สามารถอยู่ร่วมกันได้?”
“ใช่แล้ว! เราคิดเสมอว่ามันเป็นเพียงความฝันที่ บรรพบุรุษของเราทิ้งเอาไว้ก็เท่านั้น ซึ่งสามารถพิ สูจน์ได้จากการกระทําอันเลวร้ายที่ผ่านมาของม นุษย์ต่อมนุษย์เงือก”
ใบหน้าของราชาเนปจูนได้เปลี่ยนไปเป็นเย็น ชาแต่เพียงพริบตาเดียวมันก็ได้กลับมาอ่อนโยน ดังเดิม
“แต่เพราะว่าภรรยาของเราทํางานอย่างหนักเพื่อความฝันนี้ เพราะฉะนั้นในฐานะสามีของนาง และในฐานะราชาแห่งเกาะเงือกเราจึงต้องตอบแทนความเชื่อใจของผู้คนบนเกาะ!”
“ในตอนที่เราได้ยินคําพูดของท่านในที่ประชุม มันทําให้เรารู้สึกประทับใจมาก”
เมื่อได้ยินดังนั้นซาโลกได้ถอนหายใจออกมา
“ท่านเป็นสามีที่ดีและราชาที่ดี ข้าเชื่อว่าอีกไม่นานเหล่ามนุษย์เงือกจะได้พบกับความสงบสุข และสามารถอยู่ร่วมกันกับมนุษย์ได้”
“ใช่แล้ว! โอโตฮิเมะเองก็คิดเช่นนั้นและเธอก็ทํางานหนักเพื่อมัน”
ราชาเนปจูนได้กล่าวออกมาอย่างเห็นด้วย
“ราชาเนปจูนว่าแต่ท่านตามหาข้าทําไมงั้นหรอ? ในการประชุมครั้งนี้ปัญหาของเกาะมนุษย์เงือกนั้นสิ้นสุดแล้วและข้าก็ยังไม่สามารถเคลียร์มันได้”
ซาโลได้กล่าวถามออกมาด้วยความสงสัย
การที่เขาสามารถสั่งให้ราชาของประเทศหนึ่งมาตามหาตัวเขาได้นั้น อํานาจของเขาเองก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน
“เราได้ยินมาว่าราชาของอาณาจักรท่านนั้นก็สนับสนุนแนวคิดนี้เหมือนกันไม่ใช่หรือ?”
ราชาเนปจูนได้กล่าวถามออกมา
“นั้นเป็นเรื่องจริงที่ราชาของเราสนับสนุนในแนวคิดนี้!”
ซาโลได้กล่าวออกมาพร้อมกับพยักหน้า
ราชาเนปจูนได้สูดลมหายใจเข้า พร้อมกับใบหน้าที่เปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึม
“เราหวังว่าเราจะได้พบกับราชาของท่านและsารือเกี่ยวกับบางสิ่ง เราไม่รู้ว่ามันจะเป็นไปได้ไหม?”
“ราชาเนปจูนต้องการพูดคุยกับราชาของเขางั้นหรอ?
สิ่งที่ราชาเนปจูนกล่าวออกมานั้นนับว่าเป็นเรื่องใหญ่ แน่นอนว่าการพูดคุยกันของพวกเขาจะต้องไม่ใช่เรื่องเล็กๆอย่างแน่นอน
“เรื่องนี้ข้าต้องทําการติดต่อไปยังราชาของข้าก่อน ข้าถึงจะสามารถให้คําตอบกับท่านได้”
ต้องเข้าใจก่อนว่าในตอนนี้โรแกนไม่ได้อยู่ที่อาณาจักรบารุตดังนั้นซาโลจึงระมัดระวังเป็นพิเศษ
“เรารอได้”
ราชาเนปจูนได้กล่าวออกมาด้วยความสุภาพ
“ถ้างั้นได้โปรดท่านรอข้าครู่หนึ่ง”
ซาโลได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มพร้อมกับหมุนตัวเดินออกไปจากที่แห่งนี้
ซาโลหาได้สนใจสายตาประหลาดใจของโอเบี้ยนแม้แต่น้อย เขาได้เดินไปหาที่เงียบๆพร้อมกับหยิบหอยทากสื่อสารออกมา
“เปแอบ! เปแอบ! เปแดบ!”
“องค์ราชา,ข้ามีเรื่องสําคัญที่ต้องรายงานให้ท่านฟัง”
หอยทากสื่อสารนั้นยังคงไม่มีเสียงตอบรับกลับมาแต่อย่างใด ราวกับว่าอีกฝ่ายกําลังครุ่นคิดอยู่
แต่หลังจากนั้นไม่นานเสียงของโรแกนกได้ดังขึ้นมา
“พูดมา”
คอมเม้นต์