The Soul Purchasing Pirate – บทที่ 353: ไปสู่แกรนด์ไลน์!
S.P.P: บทที่ 353: ไปสู่แกรนด์ไลน์!
คร็อกคัสไม่เข้าใจในสิ่งที่โรแกนพูดออกมาแม้ แต่น้อยเขายังคงไม่เชื่อในสิ่งที่อีกฝ่ายกล่าวออกมา
แต่เมื่อเขามองไปที่ดวงตาของอีกฝ่ายเขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงความจริงใจ
หมอนี้พูดจริงงั้นหรอ!? ในสายตาของเขานั้น มันไม่มีการหลอกลวงหรือโกหกอยู่เลยแม้แต่น้อย
“ดาซไปเอาของขึ้นชื่อของทะเลอีสต์บลูมา มอบให้กับคุณคร็อกคัสหน่อย พวกเราจะออกเดินทางกันแล้ว”
โรแกนไม่สนว่าคร็อกคัสจะเชื่อในสิ่งที่เขาพูดหรือไม่
เขารู้แค่ว่าเขานั้นเคยเจอบรุ๊คจริงๆแต่เขาแค่เคยเห็นในอนิเมะก็เท่านั้นเอง
ในอนาคตเมื่อไหร่ที่กลุ่มหมวกฟางมาถึงที่ท้องทะเลแห่งนี้เมื่อนั้นบ็คก็จะได้กลับมาที่ท้องทะเลแห่งนี้อีกครั้งหนึ่ง
เมื่อได้ยินดังนั้นดาซก็ได้กลับไปที่รูทดราก้อนพร้อมกับขนย้ายพวกอาหารและไวน์ที่เป็นของขึ้นชื่อของทะเลอีสต์บลูเข้าไปในบ้านของคร็อกคัส
“นายจะไปแล้วงั้นหรอ”
คร็อกคัสได้กล่าวถามและถอนหายใจออกมา
เขาอยู่ที่นี่คนเดียวมาก็นานหลายปีแล้วบางครั้งเขาก็อยากจะมีเพื่อนคุยบ้าง
“พวกเราต้องไปกันแล้วในเมื่อตอนนี้แชงคูสไปถึงโลกใหม่แล้ว ผมก็ไม่สามารถช้าไปมากกว่านี้ได้แล้ว!”
โรแกนได้กล่าวออกมา
“นายอยากได้คําแนะนําหน่อยไหม? เกี่ยวกับเส้นทางของนายหน่ะ!”
“โอ้?”
เหล่าลูกเรือของโรแกนได้จ้องมองไปที่คร็อกคัสด้วยแววตาจริงจัง ประสบการณ์ของคนที่เคยแล่นเรืออยู่ในแกรนด์ไลน์นั้นนับว่าเป็นสิ่งที่มีค่า เป็นอย่างมาก
“คุณมีคําแนะนําอะไรงั้นหรอ?”
โรแกนได้กล่าวถามออกมา
“ว่าแต่ใครเป็นต้นหนของพวกนาย?”
ไม่ว่าจะมองหายังไงคร็อกคัสก็ยังไม่สามารถหาคนที่น่าจะเป็นต้นหนของเรือลํานี้เจอเลย
“เรือของพวกเรายังไม่มีต้นหน”
โรแกนได้กล่าวออกมาด้วยความลําบากใจ
แม้ว่าเขาจะมีลูกเรืออยู่เยอะ แต่ก็ไม่มีใครที่มีตําแหน่งที่ชัดเจนเลยสักคนแต่ส่วนใหญ่แล้วก็น่าจะเป็นพวกที่เกี่ยวกับการต่อสู้
แม้เขาจะเป็นพ่อครัวและกัปตันในเวลาเดียวกันแต่สําหรับการเป็นต้นหนนั้นมันคงจะเป็นไปไม่ได้
“ไม่มีแม้แต่ต้นหนแต่พวกนายกลับกล้าที่จะแล่นเรือเข้ามาในแกรนด์ไลน์เนี่ยนะ!?”
คร็อกคัสดูจะตกใจไม่น้อยเลย
พวกเขาไปเอาความกล้ามาจากไหนกัน? ถามว่าแกรนด์ไลน์นั้นน่าสะพรึงกลัวขนาดไหนมันคือสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้แม้แต่คนที่มีประสบการณ์ในแกรด์ไลน์ก็ยังต้องพยายามหลีกเลี่ยงเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยอย่างระมัดระวัง เพราะไม่งั้นละก็พวกเขาจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน
“ผมคิดว่ามันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร และยิ่งไปกว่านั้นตัวผมเองก็พอที่จะมีความรู้เกี่ยวกับการแล่นเรืออยู่บ้าง”
โรแกนได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
คร็อกคัสรู้สึกพูดไม่ออกก่อนที่จะจ้องมองไปที่ดวงตาที่มั่นใจของโรแกน
“ลืมมันไปเถอะ,นายยังคงสามารถใช้วิธีเดียวกันกับโรเจอร์ได้อยู่!”
คําพูดของเขาทําให้ทุกคนสับสน
แต่โรแกนนั้นดูจะไม่ตื่นตระหนกแม้แต่น้อยเขาทําเพียงแค่รับฟังด้วยรอยยิ้ม
“อย่างที่รู้กันดีว่าภายในแกรนด์ไลน์นั้นมีสนาม แม่เหล็กที่แปรปรวน และด้วยอุปกรณ์ต่างๆในทะเลทั้งสี่ก็ไม่น่าเชื่อถือทําให้การที่จะไปยังเกาะต่างๆในแกรนด์ไลน์ได้นั้นจําเป็นที่จะต้องมีล็อกโพสต์!”
“จากจุดเริ่มต้นที่รีเวิร์สเมาน์เทนแห่งนี้สนามแม่เหล็กนั้นถูกแบ่งออกเป็นเจ็ดเส้นทําให้เกิดเส้นทางการเดินเรือที่แตกต่างกันขึ้นมาเจ็ดสาย และเส้น ทางทั้งเจ็ดก็คือเส้นทางที่จะพาพวกนายมุ่งหน้าสู่ราฟเทล!”
“แต่..”
ในตอนนั้นเองน้ําเสียงของคร็อกคัสได้เปลี่ยนไปเป็นหนักแน่น
“ฉันไม่รู้ว่าโรเจอร์บอกนายเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วหรือยัง?”
“ฉันเลยไม่รู้ว่านายรู้ไหม!” เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากที่เขาสามารถรับรู้ เรื่องราวเหล่านี้ได้ตั้งแต่ในครั้งแรกที่ออกเรือ ข้อเท็จจริงเรื่องที่ว่าเส้นทางทั้งเจ็ดบนแกรนด์ไลน์ สามารถมุ่งหน้าไปยังราฟเทลได้นั้นเป็นเรื่องที่น่า ตกใจเป็นอย่างมาก
“เมื่อไหร่ที่นายไปถึงโลกใหม่นายก็จะได้รู้ว่า มันมีเพียงแค่เส้นทางเดียวเท่านั้นที่เป็นเส้นทางมุ่งหน้าไปสู่ราฟเทล!”
คําพูดของคร็อกคัสทําให้ดวงตาของพวกเขาทุกคนหดแคบลงในทันที
“ที่ตั้งที่แท้จริงของราฟเทลนั้นเป็นอะไรที่ลึกลับเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งหนวดขาวก็ยังไม่รู้เลยว่ามันอยู่ที่ไหน”
“เพราะเหตุนี้เองโรเจอร์ถึงได้ถูกเรียกว่าราชาโจรสลัด!”
ในตอนนั้นเองดวงตาของโรแกนก็ได้เปล่งประกายขึ้นมา
“ต้องมีโร้ดโพเนกรีฟทั้งสี่ก่อนงั้นสินะถึงจะสามารถรับรู้ถึงที่ตั้งของราฟเทลได้?”
โรแกนได้กล่าวออกมาอย่างช้าๆ
เมื่อได้ยินคําพูดของโรแกนดวงตาของคร็อกคัสก็ได้เบิกกว้างขึ้นมาในทันที
“นายรู้ได้ยังไง?”
“โรเจอร์ไม่ได้บอกผมหรอก แต่เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้รับข้อความที่อยู่ในโร้ดโพเนกรีฟมาหนึ่งอัน”
โรแกนได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“นายนจะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!”
คร็อกคัสได้กล่าวออกมาด้วยอาการตกตะลึง
ไม่รู้ว่ามีคนที่ต้องมาทิ้งชีวิตเพราะโร้ดโพเนกรีฟเพียงอันเดียวมากมายขนาดไหน แต่ชายหนุ่มคนนี้กลับหามันเจอทั้งๆที่ยังไม่ได้เข้ามาใน แกรนด์ไลน์ด้วยซ้ํา!
“ในเมื่อนายรับรู้ถึงมันแล้วนายก็ควรที่จะรู้ถึงเหตุผลในการเดินทางของโรเจอร์ด้วยงั้นสินะ!”
คร็อกคัสได้สูดหายใจและกล่าวออกมา
“แน่นอน”
“ถ้างั้นนายก็คงมีเป้าหมายที่จะไปแล้วงั้นสินะ”
“ที่ไหนงั้นหรอ?”
เจสันได้กล่าวถามออกมาอย่างรวดเร็ว
ครั้งหนึ่งตัวเขาเองก็เคยแล่นเรืออยู่บนแกรนด์ ไลน์และคิดว่าตัวเขาเองมีความเข้าใจเกี่ยวกับมันไม่น้อย แต่เมื่อได้ฟังเรื่องที่คร็อกคัสเล่ามันทําให้ มุมมองของเขาเกี่ยวกับท้องทะเลแห่งนี้กว้างไกลขึ้น
มันยังมีหลายสิ่งมากมายที่เขายังไม่เคยรู้มาก่อน
ในทํานองเดียวกันลูกเรือคนอื่นๆเองก็มีความคิดที่ไม่ต่างกัน
แม้แต่เทรนซุและคล็อกโคไดล์ที่เคยเข้าไปในโลกใหม่ก็ยังตั้งใจฟัง
“เกาะแห่งท้องฟ้า!”
คร็อกคัสได้กล่าวออกมาด้วยความคิดถึง
“เกาะแห่งท้องฟ้า?!”
การแสดงออกของพวกลูกเรือได้เปลี่ยนไปในทันที
“เกาะแห่งท้องฟ้าในตํานานมันมีอยู่จริงงั้นหรอ?”
เทรนซุได้จ้องมองไปที่ท้องฟ้าโดยไม่รู้ตัวด้วย สภาพอากาศที่แปรปรวนในท้องทะเลแห่งนี้มันจะเป็นไปได้ยังไงที่จะมีใครรอดไปได้
“มันมีอยู่จริง!”
โรแกนได้กล่าวตอบออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ที่จริงแล้วเป้าหมายหลักของฉันในครั้งนี้ก็คือเกาะแห่งท้องฟ้า”
“ในตอนที่ฉันไปที่นั้นมันก็ไม่ได้มีอะไรที่พิเศษมากมายนักหรอกนะ”
“งั้นหรอ?”
คร็อกคัสรู้สึกว่าไม่ว่าเขาจะพูดอะไรออกมาก็ดูเหมือนว่าชายหนุ่มคนนี้จะรู้มันทั้งหมดแล้ว!
“แต่ดูเหมือนว่าโรเจอร์จะทิ้งอะไรเอาไว้ที่นั้นด้วย”
ในที่สุดคร็อกคัสก็ได้กล่าวเรื่องสําคัญออกมา
ต่อให้คร็อกคัสไม่บอกโรแกนก็รู้มันอยู่แล้ว
เส้นทางทั้งเจ็ดสายนั้นดูเหมือนจะคล้ายกัน แต่เขากล้าการันตีได้เลยว่าเส้นทางเหล่านั้นแตกต่างกันอย่างแน่นอนไม่ว่าจะประสบการณ์ที่ได้รับหรี อสิ่งที่ต้องเผชิญ
“พวกเราเองก็ไปกันได้แล้ว!”
“ไปสู่แกรนด์ไลน์!”
เมื่อโรแกนก้าวเดินไปข้างหน้าทุกคนก็ได้เดินตามมาในทันที
คอมเม้นต์