The Soul Purchasing Pirate – บทที่ 370: บิน?
S.PP: บทที่ 370: บิน?
ในขณะที่พูดรัศมีดาบก็ได้แพร่กระจายออกมาจากร่างของโรแกน
ในตอนนี้ทั่วทั้งร่างของโรแกนนั้นถูกปกคลุมไปด้วยรัศมีดาบอันเป็นเอกลักษณ์บรรยากาศรอบๆตัวของเขาในตอนนี้นั้นแสดงออกถึงจิตวิญญาณที่อยู่ภายในจิตใจของเขาได้เป็นอย่างดี
ทุกย่างก้าวของโรแกนนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและความน่าเกรงขามที่ไม่มีใครเสมอเหมือน
“กัปตันออกไปสู่เองเลยงั้นหรอเนี่ย!”
“นี่มันจะน่าตื่นเต้นเกินไปแล้ว! ไม่รู้ว่าตอนนี้กัปตันแข็งแกร่งขนาดไหนแล้ว”
“ฉันว่าพวกเราทุกคนควรจะออกไปให้ไกลจากบริเวณนี้ เพราะฉันมีลางสังหรณ์ว่าการต่อสู้ในครั้งนี้จะต้องรุนแรงยิ่งกว่าที่ผ่านมาอย่างแน่นอน”
เหล่าลูกเรือกลุ่มโจรสลัดโซลนั้นรู้สึกตื่นเต้นจนตัวสั่น
นักดาบอันดับหนึ่งของโลกตาเหยี่ยว มีฮอร์คปะทะกับโจรสลัดผู้ยิ่งใหญ่กัปตันของกลุ่มโจรสลัดโซลโกล ดี, โรแกน!
ใครกันที่จะเป็นผู้กุมชัยในศึกครั้งนี้?
แม้ว่าการต่อสู้ในครั้งนี้จะเป็นเพียงแค่การสู้กันระหว่างวิถีดาบและไม่ใช่พลังอํานาจที่แท้จริงของกัปตันของพวกเขาแต่มันก็ยังเป็นสิ่งที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นอยู่ดี
“ในที่สุดนายก็มาซักทีนะ..”
“ฉันเองก็อยากที่จะลองสู้กับนายมานานแล้ว!”
มิฮอร์คได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
ในตอนนั้นเองร่างที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสของออกัสสันก็ได้บิดหายไปในมือของโรแกน
“แต่ก่อนอื่นนายตัดสินใจดีแล้วนะที่จะสู้กับฉันด้วยวิถีดาบ?”
“คนที่แข็งแกร่งไม่ได้หมายความว่าจะไม่อ่อนแอ!”
มิฮอร์คได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
จากค่าพูดของออกัสสันและสถานการณ์ในตอนนี้ทําให้เขาคิดว่าออกัสสันนั้นน่าจะเป็นพลังพิเศษอะไรบางอย่างของโรแกน
“ฉันก็แค่สนใจในวิถีดาบของนาย”
โรแกนได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มพร้อมกับดาบเจ็ดดาวที่สั่นไหวขึ้นมา
“งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า”
“ได้,ถ้างั้นฉันก็ขอเสียมารยาทเอาไว้ก่อนเลยก็แล้วกัน!”
รอยยิ้มบนใบหน้าของมิฮอร์คได้เลือนหายไปพร้อมกับน้ําเสียงที่เปลี่ยนไปเป็นเย็นชา
แสงจันทร์และสายลมได้สาดซัดเข้ามาที่พวกเขาทั้งสองราวกับเป็นสักขีพยานให้กับการต่อสู้ของพวกเขาทั้งสอง
“ฟื้วววว”
ทันใดนั้นเองร่างของโรแกนก็ได้กระพริบหายไป เมื่อเห็นดังนั้นดวงตาของมิฮอร์คก็ได้หดแคบลงมาในทันที
“ทางขวา!”
ในตอนนั้นเองมิฮอร์คก็ได้ฟาดฟันดาบของเขาไปทางขวา
“เครั้ง!”
ในวินาทีต่อมาเสียงปะทะกันของดาบก็ได้ดังขึ้นมา แต่ในเวลาต่อมาร่างของพวกเขาทั้งสองก็ได้กระพริบหายไป
“เครั้ง!”
ในเวลานี้ร่างของพวกเขาทั้งสองได้อยู่ห่างไปประมาณ 10 เมตรพวกเขาทั้งสองนั้นกําลังดวลดาบกันอยู่อย่างดุเดือด
“ฟื้วววว!”
เพียงพริบตาเดียวร่างของพวกเขาก็ได้เลือนหายไปอีกครั้ง
การปะทะกันของพวกเขานั้นดูเรียบง่ายเป็นอย่างมาก มันเทียบไม่ได้กับในตอนที่ออกัสมันส์กับมิฮอร์คเลยสักนิด
แต่แรงกดดันที่พวกเขาทั้งสองปลดปล่อยออกมานั้นมันกลับน่าหวาดกลัวยิ่งกว่าในตอนที่ออกสสันสู้เป็นอย่างมาก
เหล่าลูกเรือกลุ่มโจรสลัดโซลนั้นสามารถสัมผัสได้ถึงความน่าหวาดกลัวที่ซ่อนเร้นอยู่ในคมดาบที่เรียบง่ายพวกนั้นได้อย่างชัดเจน
“นั่นคือตาเหยี่ยวเลยนะ, นี่กัปตันสามารถสู้กับอีกฝ่ายได้จริงๆงั้นหรอ!?”
ดาซได้พึมพําออกมาด้วยความตกตะลึง
“นั่นหนะหรอกัปตันของพวกเรา!?”
นอกจากดาซแล้วก็ยังมีพวกมังกรคชสารที่ได้พึมพําออกมาด้วยความตกตะลึง
“อยู่ไปอีกสักพักเดี๋ยวพวกนายก็จะเข้าใจความน่าสะพรึงกลัวของกัปตันเอง”
“ไม่ว่าศัตรจะแข็งแกร่งสักแค่ไหนพวกเราก็ไม่เคยหวาดกลัว..”
“เพราะว่าพวกเรามีกัปตันอยู่ด้วยยังไงละ!”
ดาซได้จ้องมองไปที่โรแกนที่กําลังสู้อยู่กับมิฮอร์คด้วยอารมณ์และความรู้สึกที่ซับซ้อน
ตั้งแต่เข้าร่วมกับกลุ่มโจรสลัดโซลมาเขาไม่เคยได้สัมผัสกับความแข็งแกร่งของโรแกนเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ในตอนนี้ในที่สุดเขาก็ได้สัมผัสกับมันสักที
ถ้าให้เปรียบเทียบละก็การต่อสู้ของออกัสสันกับมิฮอร์คนั่นคือการต่อสู้ของสัตว์ป่าแต่การต่อสู้ของโรแกนกับมิฮอร์คในตอนนี้นั้นคือการต่อสู้ด้วยทักษะและประสบการณ์
การต่อสู้ของพวกเขานั้นดูเรียบง่ายแต่อันตรายจนน่าหวาดกลัว
ทุกๆการเคลื่อนไหวของพวกเขาทั้งสองนั้นผ่านการคิดวิเคราะห์มาเป็นอย่างดี
หลังจากสู้กันมาประมาณสามนาที่ทั้งสองก็ได้หยุดมือลงพร้อมกับจ้องมองมาที่กันและกัน
ลมหายใจของพวกเขานั้นมั่นคงเป็นอย่างมาก ถามว่ามันแสดงให้เห็นถึงสิ่งใดการควบคุมลมหายใจพวกนี้นั้นแสดงให้เห็นถึงสมาธิและจิตใจที่มั่นคงของพวกเขาทั้งสอง
ในตอนนั้นเองใบหน้าของโรแกนก็ได้ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมามฮอร์คนั้นไม่ทําให้เขาผิดหวังจริงๆ
ในเวลาสามนาทีที่พวกเขาปะทะกันนั้นมันไม่ใช่การแข่งขันเพียงแค่เรื่องของวิถีดาบเท่านั้นแต่มันยังรวมไปถึงประสบการณ์และสติปัญญาของพวกเขาด้วย
การดวลกันในครั้งนี้เป็นอะไรที่ค่อนข้างจะสูสี!
“โกล ดี. โรแกน,ฉันจะจํานายเอาไว้!”
“ถ้านี่คือวิถีดาบที่นายบอกว่าไม่ค่อยเชี่ยวชาญเฉันก็ต้องขอบอกเลยว่านายทําให้ฉันประหลาดใจ!”
มีฮอร์คได้กล่าวออกมาด้วยท่าที่จริงจัง
ผู้เชี่ยวชาญทุกคนนั้นต่างก็รู้จักกันผ่านการต่อสู้ แม้จะสู้กันเพียงแค่ครู่เดียวแต่เขามั่นใจว่าอีกฝ่ายจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในวิถีดาบอย่างแน่นอน
แต่ว่านักดาบที่แท้จริงนั้นจะไม่ละทิ้งซึ่งวิถีดาบของตน แม้ว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งแต่เขาก็ได้ละทิ้งซึ่งวิถีดาบไปแล้ว
“มิฮอร์ควิถีดาบของฉันมันไม่ได้มีแค่นี้หรอกนะ”
เมื่อได้ยินคําพูดของโรแกนมฮอร์คก็ดูจะแปลกใจมาก
“อื้ม?”
ในตอนแรกเขาตัดสินใจที่จะวางดาบแล้ว แต่เมื่อได้ยินคําพูดของอีกฝ่ายเขาก็ได้หยุดชะงักไปในทันที
“ถ้างั้นก็ขอให้ฉันได้สัมผัสกับมันหน่อยก็แล้วกัน!”
ดวงตาของมิฮอร์คได้เปลี่ยนไปเป็นจริงจัง
ในเมื่ออีกฝ่ายกล้าที่จะพูดแบบนั้นออกมาแน่นอนว่ามันจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
“วูมมม!”
เสียงร้องที่คมชัดได้ดังลั่นออกมาจากดาบเจ็ดดาวที่อยู่ในมือของโรแกน แต่ในวินาทีต่อมามฮอร์คก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าโรแกนได้ปล่อยดาบเจ็ดดาวออกมาจากมือ
“นั่นมันอะไรกัน!?”
มิฮอร์คได้ปรากฏความสงสัยขึ้นมาในใจ
นักดาบที่แข็งแกร่งทุกคนนั้นต่างก็เหน็บดาบเอาไว้ข้างกายเสมอและไม่เคยปล่อยให้มันออกห่างจากตัว
เขาไม่เคยเห็นใครปล่อยดาบของตัวเองออกมาจากมืออย่างโรแกนมาก่อน
แต่ในตอนนั้นเองดาบของโรแกนก็ได้กรีดร้องขึ้นมาและลอยอยู่กลางอากาศ
“ฉันเรียกวิชานี้ว่าดาบราชัน,ระวังตัวเอาไว้ให้ดีๆละมิฮอร์ค!”
โรแกนได้กล่าวเตือนออกมาด้วยรอยยิ้ม
ในตอนนั้นเองเขาก็ได้สะบัดมือขวาออกไปข้างหน้า
“ไป!”
หลังจากนั้นไม่นานดาบเจ็ดดาวก็ได้ฉีกกระชากอากาศพุ่งตรงเข้าไปหามีฮอร์คราวกับดาวหาง
เมื่อเห็นดังนั้นจิตใจของมิฮอร์คก็ได้สั่นสะท้านขึ้นมาในทันที
“ดาบนั้นกําลังบินเข้ามาหาฉันงั้นหรอ!?”
มันกําลังบินเขามาหาเขาจริงๆด้วย!,เขาไม่ได้คิดไปเอง
มันบินได้จริงๆ!
แถมมันยังรวดเร็วราวกับอัสนีบาต!
คอมเม้นต์