The Soul Purchasing Pirate – บทที่ 379: ชายหนุ่ม?
S.PP: บทที่ 379: ชายหนุ่ม?
เมื่อเห็นโรแกนและพรรคพวก กลุ่มอัศวินก็ได้เดินเข้ามาหาพวกโรแกนในทันที
ด้วยบรรยากาศรอบตัวที่น่าหวาดกลัวและไร้ปรานีที่พวกเขาแผ่ออกมา มันทําให้เหล่าผู้คนบนเกาะแห่งท้องฟ้าถึงกับถอยหนีไปในทันที
“ยินดีที่ได้รู้จัก, ฉันการริโด”
ชายที่เป็นผู้นําของกลุ่มได้กล่าวแนะนําตัวออกมาด้วยท่าทางที่มั่นคง
“ยินดีที่ได้รู้จักการ์ริโด”
โรแกนได้กล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม
“ท่านเทพนั้นอนุญาตให้นายไปเข้าเฝ้าพระองค์ได้ และหวังว่านายจะมาเยี่ยมชมวังของเขา”
ในตอนนั้นเองการ์ริโดก็ได้ถอดหมวกอัศวินของเขาออก ก่อนที่จะเผยให้เห็นถึงเส้นผมสีบลอนด์เงางามที่ประดับอยู่บนศีรษะ
“ฝากบอกท่านเทพของนายด้วยว่าฉันจะไปหาเขาอย่างแน่นอน”
โรแกนได้กล่าวตอบออกมาด้วยรอยยิ้ม
“อย่าพึ่งรีบสกัปตัน,ฉันยังเที่ยวเล่นไม่หนําใจเลย”
ทันใดนั้นเองเสียงของชาร์โปลอสก็ได้ดังแทรกขึ้นมา
เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่ไม่ค่อยเต็มใจของเหล่าลูกเรือ โรแกนก็รู้สึกจนปัญญา และในตอนนั้นเองโรแกนก็ได้ตัดสินใจที่จะบอกปัดการ์ริโด
“ดูเหมือนว่าพรรคพวกของฉันยังอยากที่จะเที่ยวเล่นอยู่ที่นี่อีกสักพัก,หลังจากที่พรรคพวกของฉันเที่ยวเล่นจนพอใจแล้ว ฉันค่อยไปพบท่านเทพของนายได้ไหม?”
แม้ว่าจะถูกปฏิเสธแต่การ์ริโดก็ยังคงยิ้มอยู่
“ไม่มีปัญหา,ดีซะอีกที่พวกนายชอบเกาะแองเจิ้ล”
“พวกเราจะรออยู่ที่ท่าเรือของเกาะแองเจิ้ล เมื่อไหร่ที่พวกนายพร้อมก็สามารถเดินทางมาหา พวกเราได้ในทันที”
“ขอโทษจริงๆที่ทําให้พวกนายต้องลําบาก!”
” ไม่ต้องคิดมากหรอก”
เมื่อกล่าวจบการ์ริโดก็ได้หมุนกายและเดินจากไปในทันที
“คนบนเกาะแองเจิ้ลนี่ใจดีและสุภาพจังเลยนะ”
เทรนซุได้จ้องมองไปที่การ์ริโด และกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“เห็นด้วย, ฉันคิดว่าฉันหลงรักที่นี่เข้าซะแล้วสิ!”
ในตอนนั้นเองชาร์โปลอสก็ได้กล่าวแทรกขึ้นมา ในเวลานี้รอบๆตัวของชาร์โปลอสนั้นถูกรายล้อมไปด้วยร่างของหญิงสาวชาวท้องฟ้าสี่หรือห้าคน ฟังจากน้ําเสียงของเขาแล้วดูเหมือนว่าเขาจะมีความสุขมากจริงๆ
“พวกนายมีเวลาว่างเหลืออยู่สามวัน,เพราะว่าอีกสามวันข้างหน้าพวกเราจะไปเข้าพบเทพเจ้าของที่แห่งนี้”
ในตอนนั้นเองโรแกนก็ได้ทําการป่าวประกาศข่าวสารให้กับเหล่าลูกเรือของเขา
เมื่อได้ยินดังนั้นพวกเขาแต่ละคนก็ได้แยกย้ายไปกันคนละทิศละทาง
โรแกนได้จ้องมองไปที่เหล่าลูกเรือของเขาก่อนที่จะส่ายหัวไปมา
เขาเองก็มีเรื่องที่สนใจอยู่เหมือนกัน ดังนั้นเขาจึงได้ก้าวเดินไปบนท้องถนน
“นี่คือบรีธไดอัลที่มีสายลมกักเก็บอยู่ภายในเมื่อเปิดการใช้งานมันก็จะปลดปล่อยสายลมออกมา”
เมื่อเห็นว่าโรแกนสนใจชายเจ้าของร้านก็ได้กล่าวแนะนําออกมาด้วยความกระตือรือร้น
“เป็นสิ่งของที่สุดยอดจริงๆ”
โรแกนได้กล่าวชื่นชมออกมาจากใจจริง
เมื่อได้ยินคําพูดของโรแกนเจ้าของร้านก็ดูจะมีความสุขมาก
“สิ่งนี้นะมีเพียงแค่บนเกาะแห่งท้องฟ้าเท่านั้น!”
เจ้าของร้านได้กล่าวออกมาด้วยความภาคภูมิใจ
โรแกนได้พยักหน้าเห็นด้วยก่อนที่จะเดินไปดูไดอัลอันอื่นๆ
ไดอัลแต่ละอันนั้นต่างก็มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง หลังจากเลือกอยู่นานในที่สุดโรแกนก็ได้ตัดสินใจซื้อโทนไดอัลมาอันหนึ่ง เพราะเสียงเพลงที่ถูกบันทึกอยู่ข้างในโทนไดอัลอันนี้นั้นเพราะเป็นอย่างมาก
“นั้นเป็นเสียงของลูกสาวฉันเองล่ะ,เพราะดีใช่ไหมล่ะ?”
เจ้าของร้านได้กล่าวออกมาด้วยความภูมิใจ
“ใช่,มันเพราะมาก”
โรแกนได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
แม้ว่าบทเพลงนี้จะไม่มีเสียงของเครื่องดนตรี แต่เพียงแค่เสียงของหญิงสาวที่ขับร้องออกมา มันก็เกินพอแล้ว
หลังจากที่ได้รับโทนไดอัลมาโรแกน ก็ได้เดินไปตามท้องถนนเพียงลําพัง
เมื่อเดินมาถึงชายขอบของเกาะแองเจิ้ลพระอาทิตย์ก็กําลังตกดินพอดี
“ที่นี่สินะที่ที่เมืองขุมทองแชนโดร่าสถิตอยู่”
เมื่อเห็นผืนดินและต้นไม้ที่คุ้นเคยโรแกนก็ยิ่งมั่นใจ
ด้วยระดับความสูงที่แตกต่าง ทําให้เขาได้พบกับฉากที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ในตอนที่อยู่บนท้องทะเล บวกกับสายรุ้งที่พาดผ่านเมฆขาว มันยิ่งทําให้ฉากตะวันตกดินในที่แห่งนี้งดงามยิ่งขึ้นไปอีก
โรแกนนั้นกําลังรู้สึกผ่อนคลายอย่างประหลาด และในตอนนั้นเองเขาก็ได้เอาโทนไดอัลที่พึ่งซื้อออกมา
เสียงร้องของหญิงสาวได้ดังก้องเข้ามาในหูของเขาซ้ําแล้วซ้ําเล่า และในตอนนั้นเองเขาก็ได้หลับตาลงไปโดยไม่รู้ตัว
เมื่อได้มาฟังเสียงขับร้องอันไพเราะท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบแบบนี้มันช่างเป็นอะไรที่น่าเพลิดเพลินใจจริงๆ
ในตอนนั้นเองจู่ๆก็ได้มีร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งปรากฏขึ้นมาที่ด้านหลังของโรแกน ชายหนุ่มคนนั้นน่าจะอายุประมาณ 15 ใบหน้าของเขานั้นมอมแมมเป็นอย่างมาก เขากําลังจ้องมองมาที่โรแกนด้วยความอยากรู้อยากเห็น พร้อมกับฟังเสียงขับร้องอันไพเราะไปในเวลาเดียวกัน
“เพราะไหม?”
ทันใดนั้นเองเสียงของโรแกนก็ได้ดังขึ้นมา
เขานั้นยังคงหลับตาอยู่ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถสัมผัสถึงร่างที่อยู่ด้านหลังได้
“เพราะ”
ชายหนุ่มได้กล่าวออกมาด้วยความลังเล
“ลงมานั่งฟังด้วยกันสิ”
โรแกนได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“นายพูดว่าไงนะ?”
เมื่อได้ยินคําพูดของโรแกนชายหนุ่มคนนั้นก็ดูจะตกใจมาก
“ลงมานั่งฟังด้วยกัน”
โรแกนได้กล่าวย้ําออกมาอีกครั้ง
ในตอนนั้นเองดวงตาของชายหนุ่มคนนั้นก็ได้ปรากฏอารมณ์ที่ซับซ้อนขึ้นมา เขาลังเลอยู่ประมาณสิบวิก่อนที่จะตัดสินใจนั่งลงข้างๆโรแกน
พวกเขาทั้งสองไม่ได้พูดคุยกันต่อแต่อย่างใด พวกเขาทําเพียงแค่หลับตาและฟังเสียงขับร้องอันไพเราะต่อไปอย่างช้าๆ
หลังจากนั้นสามนาที บทเพลงก็ได้จบลง
ชายหนุ่มได้ลืมตาขึ้นมาและจ้องมองมาที่โรแกน
“นายไม่มีปีก,นายไม่ได้เป็นคนของเกาะแห่งท้องฟ้าใช่ไหม?”
ชายหนุ่มได้กล่าวถามออกมาด้วยความสงสัย
“ใช่สําหรับพวกเขาฉันคงจะเป็นชาวทะเลสีฟ้า”
โรแกนได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ทะเลสีฟ้าอยู่ที่ไหน?”
ชายหนุ่มได้กล่าวถามออกมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ทะเลสีฟ้าคือท้องทะเลที่กว้างใหญ่ยิ่งกว่าเกาะแห่งท้องฟ้านับหมื่นเท่า ผู้คนที่อยู่ในที่แห่งนั้นต่างก็ไม่มีปีกและก็มีจํานวนมากกว่าผู้คนบนเกาะแห่งท้องฟ้ามากมายมหาศาล ถ้าเทียบกับเกาะแห่งท้องฟ้าแล้วละก็ที่แห่งนั้นมันคือโลกแห่งความจริง!”
โรแกนได้กล่าวตอบออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ใหญ่กว่าเกาะแห่งท้องฟ้า? ไม่มีปีก?”
ในเวลานี้ดวงตาของชายหนุ่มนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความประหลาดใจ และไม่อยากที่จะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“นายเห็นเกาะอัปเปอร์ยาร์ดที่อยู่ตรงหน้านี้ไหม?”
ในตอนนั้นเองโรแกนก็ได้ลืมตาขึ้นมา พร้อมกับชี้นิ้วไปยังเกาะที่อยู่ตรงหน้า
ชายหนุ่มได้พยักหน้า
“เกาะแห่งนี้เป็นเกาะที่เคยอยู่บนทะเลสีฟ้า และที่ทะเลสีฟ้าก็ยังมีเกาะแบบนี้อยู่อีกเป็นจํานว นมาก!”
“อะไรนะ?”
ชายหนุ่มได้อุทานออกมาด้วยความตกใจ
ในขณะที่เขากําลังจะกล่าวถามโรแกนเพิ่มเติม ในตอนนั้นเองโรแกนก็ได้เก็บโทนไดอัลกลับ และยืนขึ้นมา
“นายยังอยากที่จะฟังเพลงอยู่ไหม?”
ชายหนุ่มได้พยักหน้า
“ถ้างั้นก็ไว้เจอกันใหม่พรุ่งนี้”
เมื่อพูดจบโรแกนก็ได้หมุนตัวและเดินจากไป
หลังจากนั้นไม่นานร่างของเขาก็ได้จางหายไปจากสายตาของชายหนุ่ม
คอมเม้นต์