The Soul Purchasing Pirate – บทที่ 398: ถึงเวลาเอาคืนแล้ว!

อ่านนิยายจีนเรื่อง The Soul Purchasing Pirate ระบบวิญญาณครอบครอง ตอนที่ บทที่ 398: ถึงเวลาเอาคืนแล้ว! อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

S.PP: บทที่ 398: ถึงเวลาเอาคืนแล้ว!

ท่ามกลางค่ําคืนที่เงียบสงบบนเกาะอัปเปอร์ยาร์ดนั้นเต็มไปด้วยเสียงร้องของสิ่งมีชีวิตนานาชนิด ยกตัวอย่างเช่นนก, แมลง,หนู,และอีกมากมายซึ่งมันแตกต่างจากเกาะแองเจิ้ลโดยสิ้นเชิง และมันก็เป็นเหตุผลที่ผู้คนบนเกาะแห่งท้องฟ้าหลงใหลมันมากนัก

ตํานานได้กล่าวเอาไว้ว่าบรรพบุรุษของเกาะแห่งท้องฟ้านั้นมาจากดวงจันทร์พวกเขานั้นคือชนพื้นเมืองของดวงจันทร์ หรือก็คือพวกเขาเป็นมนุษย์ต่างดาวนั้นเองและที่พวกเขาต้องมาอาศัยอยู่ที่นี้ ก็เพราะว่าพลังงานบนเรือของพวกเขาหมดในระหว่างที่เดินทางมาเที่ยวชมทะเลสีฟ้าแห่งนี้

แน่นอนว่ามันเป็นเพียงแค่ตํานาน,ไม่มีใครในโลกนี้ที่รู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่มันก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่

แต่ไม่ว่ามันจะเป็นจริงหรือไม่ก็ตามในเวลานี้พวกเขาคือชาวท้องฟ้าของเกาะแห่งท้องฟ้า

ณ ฐานที่มั่นของเผ่าแชนเดียร์

ภายในกระท่อมที่เรียบง่ายนั้นได้มีร่างของนักสู้ที่น่าเกรงขามประจําการอยู่ พวกเขาทุกคนต่างก็มีรอยสักหลากสีอยู่บนใบหน้าและอาวุธคู่กายประทับอยู่ข้างกาย แม้ว่าจะเป็นกลางคืน แต่พวกเขาก็ยังคงระมัดระวังและตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบอยู่ตลอด

สงครามของชาวท้องฟ้าและเผ่าแชนเดียร์นั้นกินเวลาถึงสี่ร้อยปีดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถที่จะผ่อนปรนได้เพราะจากประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นมันได้สอนให้พวกเขารู้ว่า ความประมาทนั้นคือศัตรูที่น่ากลัวที่สุด!

ทันใดนั้นเองท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบก็ได้ปรากฏร่างของใครบางคนขึ้นมา

ร่างนั้นสวมเสื้อคลุมสีด่าที่มีลายเมฆสีแดง

“ริ้วววว มีใครบางคนบุกเข้ามาในเผ่าของเรา!”

ทันใดนั้นเองกลุ่มคนที่กําลังลาดตระเวนอยู่ก็ได้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว พวกเขาได้ทําการคว้าอาวุธคู่กายของพวกเขาขึ้นมา และจ้องมองไปที่ชายที่อยู่ตรงหน้าประตูด้วยท่าทางเคร่งเครียด

“แกเป็นใคร?”

ชาวแชนเดียร์ที่อยู่บนหอคอยได้กล่าวถามออกมาเสียงดัง

“ชาวแชนเดียร์มันถึงเวลาที่พวกนายต้องทําตามคําขอของฉันแล้ว!

เมื่อแสงไฟจากคบเพลิงได้ตกกระทบลงมาที่ชายคนนั้นมันก็ได้เผยให้เห็นถึงใบหน้าที่สุดแสนจะเย็นชา

ใบหน้าที่เย็นชาและแรงกดดันที่แผ่ออกมา ทําให้เหล่านักรบแห่งแชนเดียร์รู้สึกหนาวสั่น

ไม่มีใครสักคนในเผ่าแชนเดียร์ที่กล่าวตอบชายคนนั้น

ชายคนนั้นเองก็ไม่ได้ลงมือหรือกล่าวอะไรออกมา เขาทําเพียงแค่ยืนรอคําตอบของอีกฝ่ายอย่างเงียบๆ

ในตอนนั้นเองที่หอคอยก็ได้ปรากฏร่างของหัวหน้าเผ่าและรากิ

“รากิเขางั้นหรอ?”

หัวหน้าเผ่าได้กล่าวถามออกมา

เมื่อได้ยินดังนั้นรากิก็ได้กล่าวตอบออกมาในทันที

“ดูจากหน้าแล้วมันไม่ใช่เขาอย่างแน่นอน!”

“เจ้าแน่ใจแล้วใช่ไหม?”

หัวหน้าเผ่าได้กล่าวถามออกมาอีกครั้ง

“ข้าแน่ใจ,ชายคนนั้นเด็กกว่านี้มาก และกลิ่นอายของพวกเขาก็แตกต่างกันมาก”

รากได้กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ

เธอไม่มีทางลืมใบหน้าของชายคนนั้นอย่างแน่นอน และอีกอย่าง รูปลักษณ์ของพวกเขาทั้งสองมันก็แตกต่างกันมาก

“ข้าว่าเจ้ามาผิดที่แล้วละอีกอย่างข้าก็จําได้ว่าพวกเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน!”

หัวหน้าเผ่าได้จ้องมองไปที่ชายคนนั้นและตะโกนออกมาเสียงดัง

“ชาวแชนเดียร์พวกนายเป็นหนี้ฉัน ดังนั้นพวกนายต้องทําตามคําขอของฉัน!”

ชายคนนั้นได้กล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่เย็นชา

และชายคนนี้ก็คือวิถีสวรรค์ที่ถูกโรแกนอัญเชิญออกมานั้นเอง

ทันใดนั้นเองร่างของวิถีสวรรค์ก็ได้กระพริบหายไป

ในเวลาต่อมาร่างของวิถีสวรรค์ก็ได้มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของหัวหน้าเผ่าและราก

“ถึงเวลาที่ต้องทําตามคําขอของฉันแล้ว!”

การปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหันของวิถีสวรรค์ทําให้บรรยากาศเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด

“กลับไปซะ!”

นักรบแห่งแชนเดียร์คนหนึ่งได้ตะโกนออกมาเสียงดัง

“เธอคือผู้หญิงในวันนั้นฉันจําเธอได้”

วิถีสวรรค์ได้เป็นเสียงตะโกนของนักรบคนนั้นและหันไปหารากิแทน

ค่าพูดของวิถีสวรรค์ทําให้ราก็รู้สึกประหลาดใจ

“คุณคือคุณกัปตันงั้นหรอ?”

“ทั้งใช่และไม่ใช่!”

วิถีสวรรค์ได้กล่าวตอบออกมาด้วยความเฉยชา

“ทําไมใบหน้าของคุณถึงได้เปลี่ยนไป?”

ราก็ได้สูดหายใจและกล่าวถามออกมา

“ร่างหลักกําลังทําธุระอย่างอื่นอยู่ฉันก็เลยมาที่นี่แทน”

วิถีสวรรค์ได้กล่าวออกมาด้วยความเฉยชา

หัวหน้าเผ่า,ราก,และเหล่านักรบแห่งแชนเดียร์ ต่างก็ไม่มีใครที่เข้าใจในสิ่งที่วิถีสวรรค์กล่าว

ออกมา

“เธอยังจําข้อตกลงของเราได้ไหม?”

วิถีสวรรค์ได้กล่าวถามออกมาอีกครั้ง

ด้วยความที่ว่าเคยตายไปแล้ว ทําให้บรรยากาศรอบๆตัวของวิถีสวรรค์นั้นถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย ซึ่งมันสามารถทําให้ผู้คนที่พบเห็นรู้สึกสิ้นหวังและหวาดกลัวได้อย่างง่ายดาย

“จําได้”

หัวหน้าเผ่าได้กล่าวตอบออกมาอย่างรวดเร็ว

“ไม่ว่าเจ้าจะต้องการอะไร ได้โปรดกล่าวมันออกมาพวกข้าจะทํามันอย่างสุดความสามารถ!”

“อม”

วิถีสวรรค์ได้พยักหน้าและจ้องมองไปที่อีกฝ่ายด้วยดวงตาที่เย็นชา

“ฉันอยากรู้ที่ตั้งของดินแดนขุมทรัพย์แห่งแชนโดร่า!”

เมื่อได้ยินคําพูดของวิถีสวรรค์เหล่านักรบแห่งแชนเดียร์ ก็ได้หันหน้ามามองกันในทันที

ในเวลาเดียวกันนั้นเองบนเกาะบิก้าที่อยู่ไม่ไกลจากเกาะแองเจิ้ล

“เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!”

ท่ามกลางค่ําคืนที่เงียบสงบจู่ๆก็ได้ปรากฏเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าขึ้นมา

“ฝนกําลังจะตกงั้นหรอ?”

เสียงฟ้าร้องได้ดังขึ้นมาประมาณสิบครั้งก่อนที่จู่ๆมันก็หยุดไปเฉยๆ

ในตอนนั้นเองที่หน้าประตูของหมู่บ้านบนเกาะบิก้า ก็ได้ปรากฏร่างของชายหนุ่มที่สวมเสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนส์ปรากฏขึ้นมา

“เปรี้ย! เปรี้ย! เปรี้ย!”

สิ่งที่แปลกก็คือร่างของชายหนุ่มคนนี้นั้นกําลังถูกปกคลุมไปด้วยสายฟ้า
“ก๊อก! ก๊อก!”

ชายหนุ่มได้ยกมือขึ้นและเคาะลงไปที่ประตู

ในขณะที่เขาเคาะ สายฟ้าก็ได้ไหลผ่านเข้าไปที่ประตูจนเกิดควันขึ้นมา

ดูเหมือนว่าเขานั้นจะยังไม่สามารถควบคุมพลังสายฟ้าของตนเองได้

แม้ว่าเขาจะเคาะประตู แต่มันก็ยังไม่มีใครมาเปิดประตูให้เขา

“ก๊อก! ก๊อก!”

ชายหนุ่มยังคงไม่ยอมแพ้และเริ่มเคาะประตูใหม่อีกครั้ง

“ทึก!”

ในตอนนั้นเองประตูก็ได้ถูกเปิดออก เมื่อคนที่เดินมาเปิดประตูเห็นร่างของชายหนุ่มเขาก็ได้อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง

“นาย!?”

ในตอนนั้นเองดวงตาของเขาก็ได้ปรากฏความหวาดกลัวขึ้นมา

“อะ..เอเนล!”

“ดูเหมือนว่าแกจะยังจําฉันได้อยู่!”

“ความเจ็บปวดที่พวกแกเคยทํามันไว้กับฉันในวันนี้มันถึงเวลาแล้ว..”

“ที่ฉันจะคืนมันให้กับพวกแก!”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด