The Soul Purchasing Pirate – บทที่ 403: หมดปัญหาเรื่องเงิน!
S.P.P: บทที่ 403: หมดปัญหาเรื่องเงิน!
โรแกนได้ยกยิ้มและเดินเข้าไปหากองทองอย่างช้าๆ
“ระบบประเมินมูลค่าของกองทองตรงหน้าให้ฉันที”
ด้วยจํานวนที่มากมายมหาศาลของมันทําให้ระบบต้องใช้เวลาในการประเมินถึง 5 วินาที
“ทองทั้งหมดตรงหน้านี้มีมูลค่า 12,000 ล้านเบรี”
“ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ด้วยที่สามารถหลุดพ้นจากความยากจนและก้าวเข้าสู่หนทางที่ดีขึ้น”
หลังจากที่ได้ยินรายงานของระบบมันก็ทําให้โรแกนรู้สึกประหลาดใจ
“12,000 ล้านเบรีในสายตาของระบบเป็นเพียงการก้าวสู่หนทางที่ดีขึ้นเองงั้นหรอ?”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ของระบบโรแกนก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก
หลังจากคิดทบทวนอยู่พักหนึ่งโรแกนก็ได้ทําการสั่งการระบบ
“แปลงทองเข้ามาในระบบแค่ 10,000 ล้านเบรีพอ”
ระบบนั้นปฏิบัติตามคําสั่งของโรแกนอย่างเคร่งครัด ในตอนนั้นเองก็ได้มีสายลมพัดผ่านเข้ามาในห้องและเมื่อสายลมพัดผ่านไปกองทองที่เคยสูงราวกับภูเขาก็ได้หดหายลงไปอย่างรวดเร็ว
ฉากที่เกิดขึ้นทําให้เหล่าลูกเรือกลุ่มโจรสลัดโซลรู้สึกตกตะลึง
เพียงแค่สายลมพัดผ่านกองทองที่มีมูลค่ากว่า 12,000 ล้านเบรีก็เหลือเพียงแค่ 2,000 ล้านเบรี
“อย่าลืมขนทองพวกนี้ออกไปด้วยละ!”
โรแกนได้มองไปที่กองทองตรงหน้าและกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
กลุ่มโจรสลัดของเขานั้นยังคงต้องการความมั่งคั่ง ในเมื่อพวกเขาคือพรรคพวกของเขาเขาจึงไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาอยู่อย่างอดๆอยากๆได้
ด้วยทองคํามูลค่ากว่า 2 พันล้านกองนี้พวกเขาไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความเป็นอยู่ในอนาคตอีกต่อไปแล้ว
คําพูดของโรแกนทําให้เหล่าลูกเรือยกยิ้มขึ้นมาในทันที แม้ว่าคําพูดของเจสัน,คล็อกโคไดล์, และเทรนซุจะคลุมเครือและไม่ชัดเจนแต่พวกเขาก็รู้ดีว่าทองคําที่พวกเขาพบนั้นสําคัญต่อโรแกนเป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างงั้นโรแกนก็ยังนึกถึงพวกเขามันทําให้พวกเขารู้สึกได้ถึงความอบอุ่น
“แต่มันก็ยังน้อยอยู่ดีนั้นละ!”
ชาร์โปลอสได้บ่นพึมพําออกมา
“อย่าไร้สาระชาร์โปลอส! นี่คือสิ่งที่กัปตันตั้งใจมอบมันให้กับพวกเราในตอนนี้ในหัวของฉันมีแต่ภาพเนื้อแล้วก็เหล้า”
ดาซได้กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น
“ฉันคิดว่าพวกเราน่าจะสามารถใช้ทองคําพวกนี้ในการซื้ออาณาจักรเล็กๆได้เลย!”
เทรนซุเองก็ได้กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น
“ทองคําพวกนี้น่าจะมีมูลค่าประมาณ 2 พันล้านเบรี”
โรแกนได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“2,000,000,000?!”
เหล่าลูกเรือนั้นถึงกับหอบหายใจถี่และจ้องมองมาที่กองทองตรงหน้าด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย
ในตอนนั้นเองชาร์โปลอส,ดาซ,และพวกมังกรคชสารก็ได้ทําการแบ่งกองทองออกเป็นแปดส่วนและแบกออกมาจากห้องใต้ดิน
พวกเขาได้เดินออกมาจากห้องใต้ดินด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข
จะไม่ให้พวกเขามีความสุขได้ยังไงกันในเมื่อพวกเขาพึ่งจะได้รับสมบัติที่สามารถทําให้พวกเขาสุขสบายไปทั้งชีวิตมาหมาดๆ
“ขุมทรัพย์นั้นยังมีเหลืออีกสามแห่งตามฉันมา”
เมื่อกล่าวจบรากิก็ได้ก้าวเดินไปข้างหน้าในทันที
“แต่ฉันคิดว่าอีกสามแห่งที่เหลืออาจจะไม่ได้มีสมบัติมากเท่ากับที่ห้องใต้ดิน”
โรแกนได้พยักหน้าอย่างเข้าใจ ถ้าขุมทรัพย์ทุกที่ของโบราณสถานแซนโดร่ามีทองคํามูลค่า 10,000 ล้านอยู่ทุกที่มันก็คงจะเกินจริงไปหน่อย
ภายใต้การนําของรากในที่สุดพวกเขาก็ได้มาหยุดอยู่ข้างในป่า
” นี้มัน!?”
เหล่าลูกเรือกลุ่มโจรสลัดโซลได้จ้องมองไปเสาทองคําด้วยความตกตะลึง พวกเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าภายในป่าที่พวกเขามองข้ามจะมีอะไรแบบนี้แอบซ่อนอยู่
“ดูเหมือนว่าเมืองแชนโดร่าจะถูกสร้างขึ้นมาจากทองจริงๆ”
เสาทองคําที่สูงตระหง่านนี้นั้นมีความยาวถึงสามสิบหรือสี่สิบเมตรมันดูราวกับมังกรที่กําลังพุ่งทะยานขึ้นไปบนฟากฟ้า เห็นได้ชัดว่าเสาทองเหล่านี้มีไว้เพื่อยึดเกาะอะไรบ้างอย่างเอาไว้ แต่ด้วยเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ทําให้สิ่งที่มันยึดเกาะเอาไว้หายไป
แม้ว่าเสาทองคําสองอันนี้จะตระการตาและน่าดึงดูดใจแต่มูลค่าของมันก็ไม่ได้สูงนัก
เสาทองคำทั้งสองนั้นมีมูลค่าโดยรวมอยู่ที่ 1.5 พันล้านเบรี
ทําให้ในตอนนี้โรแกนมียอดเงินในระบบอยู่ 14,700 ล้านเบรี!
เมื่อจัดการเสร็จรากิก็ได้นําทางพวกเขาไปยังขุมทรัพย์แห่งที่สาม
ระยะทางของขุมทรัพย์ขุมที่สองกับขุมที่สามนั้นห่างไกลกันเป็นอย่างมากทําให้พวกเขาต้องใช้เวลาถึงสามชั่วโมงกว่าพวกเขาจะมาถึงยังที่หมาย
“มันอยู่หลังกําแพง
รากิได้ชี้ไปที่กําแพงที่อยู่ตรงหน้าด้วยความมั่นใจ
เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากที่ขุมทรัพย์แห่งที่สามมาอยู่ด้านหลังกําแพงแบบนี้
ในเวลานั้นเองเจสันก็ได้ก้าวไปข้างหน้าและกระแทกหมัดลงไปที่ก่าแพง กําแพงได้ระเบิดออกมาพร้อมกับฝุ่นควันที่ฟุ้งกระจายไปทั่ว
“ว่างเปล่า?”
เมื่อฝุ่นควันจางลงเหล่าลูกเรือกลุ่มโจรสลัดโซลก็ได้จ้องมองไปที่หลังกําแพงด้วยความผิดหวัง
ในขุมทรัพย์แห่งที่สามนั้นว่างเปล่า
“ดูเหมือนว่าที่นี้จะไม่มีสมบัติ”
รากิได้กล่าวออกมาและมุ่งหน้าไปยังขุมทรัพย์แห่งที่สี่ในทันที
“บางที่ในระหว่างการหลบหนีผู้คนของเผ่าแชนเดียร์น่าจะขนย้ายสมบัติจากจุดที่สามไปยังจุดที่สี่”
นับว่าเป็นคําอธิบายที่สมเหตุสมผล
แม้ว่าจะรู้สึกผิดหวังแต่พวกเขาก็ได้สลัดมันทิ้งไปในทันทีและจากไปอย่างรวดเร็ว
กว่าจะมาถึงยังขุมทรัพย์แห่งที่สี่ก็บ่ายแล้ว
“มันอยู่ใต้ดิน”
รากิได้ยกแผนที่ของเธอขึ้นมาตรวจสอบและชี้ไปยังพื้นหญ้าที่อยู่ใต้เท้าของเธอด้วยความมั่นใจ
“ใต้ดิน?”
โรแกนและเหล่าลูกเรือต่างก็กําลังรู้สึกสับสน
ขุมทรัพย์แห่งที่หนึ่งอยู่ในห้องใต้ดิน,ขุมแห่งที่สองอยู่ในป่า,ขุมทรัพย์แห่งที่สามอยู่หลังกำแพง,และดูเหมือนว่าในครั้งนี้สมบัติจะถูกฝังอยู่ใต้ดิน
ในตอนนั้นเองพวกเขาก็ได้เดินออกมาจากบริเวณนั้นในทันทีและปล่อยให้คล็อกโคไดล์เป็นคนจัดการ
“กราวด์ เซคโค่!” (แยกพสุธา)
หลังจากกล่าวจบพื้นหญ้าก็ได้ปรากฏรอยแยกขึ้นมาพร้อมกับเหล่าพันธุ์พืชในบริเวณที่เที่ยวเฉาอย่างรวดเร็วและในเวลาเดียวกันนั้นเองเม็ดทรายก็ได้ลอยขึ้นไปบนท้องนภาก่อนที่จะหมุนวันราวกับพายุทราย
แม้ว่าพื้นดินจะยุบลงไปถึงห้าเมตรแล้วแต่สมบัติก็ยังไม่ปรากฏขึ้นมาอยู่ดี
“มากกว่านี้!”
เสียงตะโกนของราก็ได้ดังลั่นขึ้นมา
เมื่อได้ยินคําพูดของรากิคล็อกโคไดล์ก็ได้จัดการอัดพลังอานาจในการควบคุมเข้าไปอีก
“บูม!”
ในตอนนั้นเองพื้นดินก็ถึงกับสั่นไหวพร้อมกับเม็ดทรายที่ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ในเวลานี้พื้นดินนั้นยุบลงไปเกือบยี่สิบเมตรแล้ว
ในตอนนั้นเองดวงตาของคล็อกโคไดล์ก็ได้หดแคบลงพร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า
“ฉันเจอมันแล้ว!”
คราวนี้สมบัตินั้นถูกซ่อนลึกอยู่ใต้ดินถึง 18 เมตรแถมมันยังไม่ใช่ทองคําแต่เป็นหีบสมบัติ
ในเวลานั้นเองคล็อกโคไดล์ก็ได้ทําการบีบอัดทรายที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าให้กลายเป็นหินก่อนโตและวางมันเอาไว้ในบริเวณนั้นก่อนที่จะลุกขึ้น
เหล่าลูกเรือได้วิ่งมารวมตัวกันรอบๆหลุมและจ้องมองไปที่หีบสมบัตินับสิบที่อยู่เบื้องล่างด้วยรอยยิ้ม
“เจอแล้วจริงๆด้วย!”
“ดูเหมือนว่าในครั้งนี้พวกเราจะมาไม่เสียเที่ยว!”
“น่าสนใจ,ดูเหมือนว่าสมบัติในครั้งนี้จะไม่ได้มีแค่ทองคําเหมือนทุกที่!”
คอมเม้นต์