The Soul Purchasing Pirate – บทที่ 404: ม้วนหนังสัตว์?
S.P.P: บทที่ 404: ม้วนหนังสัตว์?
แต่ถึงแม้จะพูดแบบนั้นแต่เขาก็คิดว่าสมบัติส่วนใหญ่ที่อยู่ในหีบก็คงจะยังเป็นทองคําอยู่ดี
แต่พวกเขาก็คิดว่าพวกมันน่าจะมีความสําคัญมากกว่าสมบัติต่างๆที่ผ่านมาทั้งหมดไม่งั้นผู้คนของเผ่าแชนเดียร์ไม่ซ่อนมันเอาไว้ที่ใต้ดินลึกแบบนี้หรอก
รากนั้นได้จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างเงียบๆ ในตอนนี้ภารกิจของเธอสําเร็จแล้ว
“ขอบคุณมากรากิ”
โรแกนได้กล่าวขอบคุณออกมาจากใจจริง
“นี่คือสิ่งที่เผ่าแชนเดียร์ของเราได้สัญญาเอาไว้ดังนั้นเราจึงต้องทําตามสัญญาที่ให้ไว้”
รากิได้กล่าวออกมาด้วยความภาคภูมิใจ
“อื้ม!”
โรแกนได้ยกยิ้มและพยักหน้าด้วยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
จากที่ราก็ได้บอกกับเขานั้นที่โบราณสถานแซนโดร่าแห่งนี้นั้นมีขุมทรัพย์อยู่ด้วยกันทั้งหมดแปดแห่ง แต่ตัวของโรแกนเองก็ไม่มั่นใจว่าอีกสี่แห่งที่เหลือมันจะยังมีสมบัติเหลืออยู่หรือเปล่า และอีกอย่างในตอนนี้เขาก็ได้รับสมบัติมามากเกินพอแล้วเพียงแค่สมบัติที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ก็มีมูลค่าโดยรวมถึง 13,500 ล้านเบรีแล้วแถมเขาเองก็ยังไม่ได้นับรวมหีบสมบัตินับสิบที่กองอยู่เบื้องล่างในเวลานี้ด้วย
ซึ่งมันนับว่าเป็นจํานวนเงินที่มากมายมหาศาลเป็นอย่างมาก
ภายใต้การทํางานของชาร์โปลอส,ดาซ,และคนอื่นๆที่เหลือทําให้หีบสมบัตินับสิบได้ถูกขนย้ายขึ้นมาข้างบนอย่างรวดเร็ว
“มีหีบสมบัติทั้งหมดอยู่สิบสามหีบแถมมันยังถูกสร้างขึ้นมาจากแร่เหล็กที่มีความแข็งทนทานสูงด้วย”
เทรนซุได้กล่าวอธิบายออกมา
“นายเปิดมันได้ไหม?”
โรแกนได้กล่าวถามออกมา
“ดูจากล็อคบนหีบสมบัติแต่ละอันแล้วพวกมันน่าจะต้องใช้กุญแจในการเปิด
เทรนซุนั้นได้กล่าวตอบออกมาอย่างรวดเร็ว
การทําลายหีบสมบัติพวกนี้นั้นไม่ใช่ปัญหาแม้แต่น้อยแต่ปัญหาจริงๆก็คือสมบัติที่อยู่ภายในอาจจะถูกทําลายหรือเสียหายได้
“กัปตันขอฉันลองได้ไหม?”
ทันใดนั้นเองเสียงของดาซก็ได้ดังแทรกขึ้นมา
ในตอนนั้นเองโรแกนก็นึกขึ้นมาได้ว่าพลังผลปีศาจของอีกฝ่ายนั้นเกี่ยวข้องกับเหล็ก
“เอาสิ!”
เมื่อได้ยินดังนั้นดาซก็ได้ก้าวเดินไปข้างหน้าในทันที
ในตอนนั้นเองเขาก็ได้นํามือขวาแตะลงไปที่หีบสมบัติ
“ของกล้วยๆ”
ดาซได้ยกยิ้มขึ้นมาพร้อมกับใช้งานพลังผลปีศาจของเขา ทันใดนั้นเองนิ้วของเขาก็ได้เปลี่ยนเป็นเหล็กยาวสอดเข้าไปในรูกุญแจบนหีบสมบัติ
หลังจากนั้นเขาก็ได้ทําการหมุนนิ้วมือเล็กน้อย
“กึก!”
เมื่อเสียงนี้ดังขึ้นดวงตาของทุกคนก็ได้เปล่งประกายขึ้นมาในทันที
“ฮ่าๆๆ,ดาซ,ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าพลังของนายจะสามารถใช้ในการปลดล็อคได้ด้วย!”
ชาร์โปลอสได้วิ่งเข้าไปหาดาซด้วยความตื่นเต้นก่อนที่จะเดินไปเปิดหีบสมบัติ
เมื่อจัดการหีบแรกเสร็จดาซก็ได้ทําการจัดการหีบที่เหลือต่อในทันที
ด้วยพลังของดาซหีบสมบัติทั้งสิบสามอันก็ได้ถูกปลดล็อคออกมาอย่างง่ายดาย
ในเวลาต่อมาพวกเขาก็ได้ยลโฉมสมบัติที่อยู่ภายในทีละชิ้นๆ
อย่างที่พวกเขาคิดสมบัติส่วนใหญ่ที่อยู่ภายในหีบนั้นคือทองค่า แต่มันก็ยังมีบางชิ้นที่เป็นพวกเครื่องประดับและนอกเหนือจากพวกเครื่องประดับแล้วก็ยังมีม้วนหนังสัตว์ที่มีภาพและข้อความอะไรบางอย่างสลักเอาไว้รวมอยู่ด้วย
“โรแกน!”
ในตอนนั้นเองเจ้านายตัวน้อยก็ได้วิ่งเข้ามาหาเขาพร้อมกับม้วนหนังสัตว์อะไรบางอย่าง
” นี่คืออะไร?”
โรแกนได้เหลือบมองไปที่ตัวอักษรบนม้วนหนังสัตว์ด้วยความสงสัย
แต่เมื่อดูจากสีหน้าของเจ้านายตัวน้อยแล้วดูเหมือนว่าม้วนหนังสัตว์อันนี้จะมีความสําคัญมาก
“นี่คือข้อความทางประวัติศาสตร์!”
คําพูดเพียงประโยคเดียวของเจ้านายตัวน้อยได้เปลี่ยนสีหน้าของโรแกนให้กลายเป็นจริงจังในทันที
เขาได้พาเจ้านายตัวน้อยแยกไปอีกด้านหนึ่งแล้วเริ่มบทสนทนา
“สิ่งนี้บันทึกอะไรเอาไว้?”
ในเวลาต่อมาโรแกนก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่เขาได้ยิน
“เราคือกลุ่มคนที่มาจากนอกโลก,เรามีปีกสีขาวบริสุทธิ์ที่งดงาม,เรามีมันสมองที่เหนือล้ํา,และ เราก็มีความแข็งแกร่ง”
“ดินแดนแห่งดวงจันทร์หรือแฟรี่ วาซนั้นคือดินแดนของเราแต่ในตอนนี้มันไม่ใช่ของเราอีกต่อไปแล้ว!”
“ในตอนที่พวกเรามุ่งหน้าลงมายังโลกสีฟ้านั้นได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นมาทําให้พวกเราถูกแยกออกจากกันพวกเรานั้นได้มาถึงยังพื้นผิวของโลกสีฟ้า แต่คนอื่นๆที่เหลือนั้นได้ไปอยู่ยังทวีปแห่งท้องฟ้า!”
“แต่เราเชื่อว่าการแยกจากกันนั้นจะอยู่เพียงแค่ชั่วคราวและในสักวันพวกเราจะได้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้งหนึ่ง”
นี่คือสิ่งที่บันทึกอยู่ในม้วนหนังสัตว์
“บนแผ่นดินนี้ที่เราอยู่นั้นเราได้ทําการสร้างอารยธรรมของตนเองขึ้นมาด้วยการใช้แร่โลหะที่มีค่าที่สุดบนโลกสีฟ้าอย่างทองในการสร้างเมืองและระฆังทองยักษ์ขึ้นมาเพื่อทําให้อารยธรรมของเราเป็นอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่! เมื่อใดก็ตามที่เสียงของระฆังทองดังขึ้นมาผู้คนบนโลกสีฟ้าต่างก็ต้องหมอบกราบด้วยความเคารพ!”
“เราได้สร้างประวัติศาสตร์ของเราเองขึ้นมาในดินแดนแห่งนี้”
“นักรบที่น่าเกรงขามและเมืองทองคํานั้นคือสิ่งที่พวกเราภาคภูมิใจ!”
“แต่ในเวลานั้นเองจ่ๆสงครามก็ได้ปะทุขึ้นมา สงครามในครั้งนี้นั้นทําให้อารยธรรมมากมายต้องสูญหายไปพร้อมกับผู้คนที่ล้มตายเป็นจํานวนมาก”
“โลกนั้นเงียบเหงานานนับร้อยปี”
“ในวันนี้จู่ๆก็มีคนที่อ้างตัวว่าเป็นคนตระกูลดีมาที่เมืองของเรา พวกเขาได้มอบก้อนหินสีดําทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสให้กับเราด้วยร่างกายที่บาดเจ็บสาหัส
“เขากล่าวว่าหินก้อนนี้คือความหวังของโลก,มันได้บันทึกความจริงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และความหวังเอาไว้
“ดูเหมือนว่าชายคนนั้นจะรู้ดีว่าพวกเรานั้นให้ความเคารพเหล่าผู้คนที่มีจิตใจแน่วแน่และในท้ายที่สุดพวกเราก็ได้ตอบรับคําขอของเขาไป!”
“เมื่อได้รับมันมาพวกเราก็ได้นํามันไปวางไว้ในบริเวณเดียวกันกับระฆังทองและปกป้องมันสืบต่อกันมาตามกาลเวลา”
“บางทีสิ่งที่ชายคนนั้นพูดอาจจะเป็นความจริงมันคือความหวัง,แม้ว่าในตอนนี้มันจะเป็นสิ่งที่ไม่สามารถกล่าวออกไปได้แต่เราเชื่อว่าในสักวันมันจะต้องถูกแพร่กระจายไปทั่วทั้งโลกใบนี้!”
มีข้อความมากมายที่ถูกบันทึกอยู่บนม้วนหนังสัตว์แผ่นนี้ แต่มันก็ได้ถูกทําลายไปหลายส่วน ทําให้คําพูดของเจ้านายตัวน้อยหยุดลงเท่านี้
“ดินแดนแห่งดวงจันทร์,คนของตระกูลดี”
ในตอนนั้นเองบนใบหน้าของโรแกนก็ได้ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา
“โลกนี้มันชักจะน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆซะแล้วสิ!”
คอมเม้นต์