The Soul Purchasing Pirate – บทที่ 405: ได้เวลากลับแล้ว!
S.PP: บทที่ 405: ได้เวลากลับแล้ว!
ทุกสิ่งที่บันทึกอยู่ในม้วนหนังสัตว์นั้นดูเหมือนจะเป็นเพียงแค่เรื่องราวของคนๆหนึ่ง แต่ถึงอย่างงั้นมันก็ยังเป็นอะไรที่น่าตกตะลึงอยู่ดี
ต้นกําเนิดที่แท้จริงของชาวท้องฟ้า,เหตุการณ์ล่มสลายของแชนโดร่าเมื่อหลายร้อยปีก่อน ทุกสิ่งได้ถูกคลี่คลายจนหมดสิ้น แต่ถึงอย่างงั้นมันก็ยังมีอยู่เรื่องหนึ่งที่เขายังคงรู้สึกคาใจ
เมื่อ 800 ปีก่อนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
โรแกนทําได้เพียงแค่คาดเดาแต่มันก็มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เขามั่นใจ
เรื่องนี้มันจะต้องเกี่ยวข้องกับตระกูลดี.อย่างแน่นอน!
“ม้วนหนังสัตว์นี้มีค่ามากเพราะฉะนั้นเราไม่สามารถทิ้งมันไว้ที่นี้ได้”
ในเวลาต่อมาโรแกนก็ได้เดินไปที่หีบสมบัติ
ในเวลานี้เหล่าลูกเรือกลุ่มโจรสลัดโซลต่างก็กําลังตื่นเต้น
“ฉันคิดไม่ถึงเลยเมืองแชนโดร่าในอดีตจะมีอาวุธแบบนี้ด้วย!”
เทรนซุนั้นได้จ้องมองไปที่ดาบทองคําในมือและกล่าวชื่นชมออกมา
“มันก็แค่ดาบไม่ใช่หรือไง?”
โรแกนได้กล่าวออกมาด้วยความสงสัย
“ไม่,กัปตัน,แม้ว่ามันจะดูเหมือนดาบแต่จริงๆแล้วมันคือปืน!”
เทรนซุได้กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ
จากนั้นเขาก็ได้กดลงไปที่ปุ่มบนด้ามดาบและในเวลานั้นเองดาบบนมือของเทรนซุก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลง และในตอนนั้นเองมันก็ได้กลายเป็นปืนไรเฟิลทองค่า
“ไม่เลวเลยนะเนี่ย”
เทรนซุได้กล่าวออกมาด้วยความพึงพอใจ
โรแกนนั้นได้จ้องมองไปที่ปืนบนมือของเทรนซุด้วยความตกตะลึง
“นี่มันเป็นปืนจริงๆงั้นหรอเนี่ย?”
ในตอนนั้นเองเสียงกรีดร้องด้วยความตื่นเต้นของชาร์โปลอสก็ได้ดังลั่นขึ้นมา
“กัปตัน,ดูถุงมือนี้สิ”
เมื่อได้ยินคําพูดของชาร์โปลอสโรแกนก็ได้มองลงไปที่มือของเขา
“มันคืออะไร?”
“ถุงมือนี้เป็นของที่สุดยอดที่สุดในโลกเลยละกัปตัน,มันมีชื่อเรียกว่าถุงมือแห่งความปรารถนา,มันสามารถที่จะปลุกความปรารถนาที่อยู่ภายในส่วนลึกจิตใจของผู้คนได้!”
ชาร์โปลอสได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ถ้าฉันเอามือไปสัมผัสกับสาวๆละก็…ฮ่า ๆ ๆ ๆ !”
ชาร์โปลอสได้กล่าวและหัวเราะออกมาด้วยความตื่นกระหาย
“ถุงมือนี้ถูกยึด!”
โรแกนได้กล่าวออกมาด้วยใบหน้าเอือมระอา
ในตอนนั้นเองสายตาของเขาก็ได้เหลือบไปเห็นเจสันที่ถือหนังสือเล่มหนาอยู่ในมือ และกําลังตั้งใจอ่านมันอย่างระมัดระวัง
“ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้มาเห็นภาพแบบนี้จากนาย”
เมื่อได้ยินเสียงของโรแกนเจสันก็ได้เงยหน้าขึ้นมาและหันไปกล่าวกับโรแกนด้วยท่าที่จริงจัง
“กัปตัน,หนังสือเล่มนี้นั้นได้บันทึกเกี่ยวกับวิธีการฝึกฝนของเหล่านักรบที่ยิ่งใหญ่แห่งแชนเดียร์ในอดีตเอาไว้ ซึ่งมันเป็นอะไรที่น่าทึ่งมาก!”
“แถมมันยังได้บันทึกเกี่ยวกับวิชาการต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์เอาไว้อีกหลายวิชา!”
คําพูดของเจสันทําให้โรแกนรู้สึกประหลาดใจ
ในขณะที่เขากําลังจะกล่าวถามออกมาเจสันก็ได้หันกลับไปอ่านหนังสือเล่มนั้นต่อแล้ว
โรแกนได้ส่ายหัวไปมาก่อนที่จะหันไปมองโดยรอบ ในเวลานี้เหล่าลูกเรือของเขาแต่ละคนต่างก็กําลังถือสิ่งประดิษฐ์อยู่ในมือด้วยความตื่นเต้น
“สิ่งประดิษฐ์ของผู้คนในอดีตนี้ไม่สามารถดูถูกได้เลยจริงๆ!”
ในตอนนั้นเองโรแกนก็ได้ทําการนั่งสมาธิเพื่อรอพวกเขาเลือกสิ่งที่ต้องการ
ถ้าถามว่าการมาล่าสมบัติในครั้งนี้ใครได้รับผลประโยชน์มากที่สุดก็คงจะเป็นตัวของโรแกนเอง ด้วยยอดเงินภายในระบบที่มากถึง 14,700 ล้านเบรีทําให้เขาไม่คิดที่จะเข้าไปร่วมวงหยิบจับสิ่งประดิษฐ์เหล่านั้นด้วย
ครึ่งชั่วโมงต่อมาทุกคนต่างก็ได้ในสิ่งที่ต้องการเป็นที่เรียบร้อย
ในหมู่พวกเขาทั้งหมดคนที่โรแกนให้ความสนใจที่สุดก็คือคล็อกโคไดล์
“ดาบนี้มีชื่อว่าดาบทราย”
เมื่อบอกกล่าวชื่อของมันออกมาเขาก็หันกลับไปตรวจสอบดาบของเขาต่อในทันที
โรแกนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
“นี่เขาจะเปลี่ยนไปเดินบนเส้นทางแห่งดาบงั้นหรอ?”
เมื่อถุงมือถูกยึดชาร์โปลอสจึงต้องหันกลับไปเลือกอย่างอื่นแทน และสิ่งที่ชาร์โปลอสได้กลับมาก็คือพลองที่สามารถยืดหดได้ เพียงแค่ความสามารถนี้อย่างเดียวมันก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการกับเหล่าผู้มีพลังของผลปีศาจ
หลังจากเคลียร์สิ่งของต่างๆเสร็จในเวลานี้ภายในหีบก็เหลือเพียงแค่เครื่องประดับและทอง เท่านั้น
ในตอนนั้นเองโรแกนก็ได้จัดการแปลงทองคําและเครื่องประดับทั้งหมดให้กลายเป็นเงิน ซึ่งทองคําและเครื่องประดับเหล่านั้นมีมูลค่าโดยรวมอยู่ที่ 300 ล้านเบรี ทําให้ในตอนนี้โรแกนมียอดเงินภายในระบบอยู่ 15,000 ล้านเบรี
การเดินทางมายังเกาะแห่งท้องฟ้าในครั้งนี้คุ้มมาก
พวกเขาล่าสมบัติจนพระอาทิตย์ตกดิน
เมื่อมาถึงเวลานี้พวกเขาก็ได้ทําการออกล่าสัตว์ป่าโดยรอบและเริ่มตั้งแคมป์บาร์บีคิว
ค่ําคืนได้ผ่านพ้นไปอย่างเงียบสงบ และหลังจากนั้นไม่นานดวงอาทิตย์ก็ได้ลอยเด่นขึ้นมาบนท้องนภา
สมบัติที่ได้รับมาเมื่อวานทําให้พวกเขาตื่นกันขึ้นมาตั้งแต่เช้าตรู่
หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ออกเดินทางกลับไปที่เกาะแองเจิ้ล
เมื่อเดินทางมาถึงที่ปากทางเข้าป่ารากก็ได้ทําการแยกตัวออกมาจากกลุ่มของโรแกน
ในตอนเที่ยงพวกเขาทุกคนก็ได้กลับมาถึงเกาะแองเจิ้ล
“ฮ่าๆๆๆ,ไปร้านอาหารกันฉันอยากจะจัดหนักสักหน่อย”
เจสันได้หัวเราะออกมาดังลั่น
ด้วยวิธีการฝึกฝนที่ได้รับมาเขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอน
คนอื่นเองก็เห็นด้วยกับความคิดของเจสัน เพราะหลายวันที่ผ่านมาพวกเขาก็ไม่ได้กินอาหารอย่างอื่นเลยนอกจากบาร์บีคิว
โรแกนเองก็ได้ทําการสนองนี้ดของทุกคนในทันที
หลังจากที่เลือกร้านได้พวกเขาก็ยิงยาวจนตะวันลับฟ้าท้องนภามืดมัว
“กัปตัน, พวกเราจะออกจากเกาะแห่งท้องฟ้ากันตอนไหนงั้นหรอ?”
ระหว่างทางกลับไปที่เรือเทรนซุก็ได้กล่าวถามออกมา
“พรุ่งนี้ พวกเราจะพักผ่อนกันก่อนในคืนนี้และกลับไปที่ทะเลสีฟ้าในวันพรุ่งนี้”
“ฮ่าๆๆ, ฉันคงจะคิดถึงเกาะแห่งท้องฟ้าไปอีกนาน”
เจสันได้หัวเราะออกมา
โรแกนได้ยกยิ้มขึ้นมาเขานั้นเข้าใจความรู้สึกของพวกเขาดี การได้ขึ้นมายืนอยู่บนท้องฟ้าเหนือพื้นดินนับ 10,000 เมตรมันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะสามารถทํามันได้ตลอดเวลา
ลมทะเลของทะเลสีขาวนั้นแตกต่างจากที่ทะเลสีฟ้ามันไม่มีรสเค็มมีเพียงความอ่อนนุ่มที่พัดผ่านมา
พวกเขาใช่เวลาถึงครึ่งชั่วโมงกว่าจะเดินทางกลับมาถึงชายฝั่ง
รูทดราก้อนยังคงรอคอยการกลับมาของพวกเขาอยู่อย่างเงียบๆ
“ในที่สุดพวกเราก็กลับมาถึงบ้านสักที,คืนนี้ฉันต้องนอนหลับฝันดีแน่ๆ!”
ชาร์โปลอสได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
บนใบหน้าของลูกเรือคนอื่นเองก็ได้ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา สําหรับพวกเขาแล้วรูทดราก้อนนั้นคือบ้าน!
ในเวลาเดียวกันนั้นเองเอเนลที่กําลังนอนอยู่บนดาดฟ้าเรือก็ได้ตื่นขึ้นมาเช่นกัน
เมื่อตื่นขึ้นมาเขาก็ได้ทําการปลดปล่อยมันโทร่าออกมาในทันทีก่อนที่จะสัมผัสได้ถึงโรแกนและคนอื่นๆ
“เป็นพี่นี่เอง!”
“ในที่สุดเขาก็กลับมาสักที!”
ใบหน้าของเอเนลได้ปรากฏความดีใจขึ้นมา
“ถ้างั้นคนพวกนั้นก็คือพรรคพวกของเขางั้นสินะ?”
ในเวลานั้นเองใบหน้าดีใจของเอเนลก็ได้ปรากฏความคาดหวังขึ้นมา
คอมเม้นต์