The Soul Purchasing Pirate – บทที่ 417: หนทางสู่การพัฒนา!
S.P.P: บทที่ 417: หนทางสู่การพัฒนา!
พวกเขาสองคนกําลังเล่นเกมปริศนาอยู่หรือไงกัน?
“คล็อกโคไดล์”
โรแกนไม่ได้กล่าวตอบแต่กลับเรียกชื่อของคล็อกโคไดล์แทน
บนดาดฟ้าเรือเนลีน,เจ้านายตัวน้อย,เอเนล,และคนอื่นต่างก็รอฟังอย่างใจจดใจจ่อ
แม้ว่าคล็อกโคไดล์จะถูกกักบริเวณอยู่แต่เขาก็ยังสามารถพูดคุยกับคนอื่นได้ด้วยการสร้างทรายให้กลายเป็นหน้าของเขาลอยไปมาอยู่กลางอากาศ
แต่ในเวลานั้นเองดาซก็ได้ก้าวเดินออกมาข้างหน้า
“บอสเขาไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ เพราะเรื่องนี้นั้นเป็นความรับผิดชอบของฉันในการสืบค้นข้อมูล!”
“และจากข้อมูลที่ฉันได้รับมาสิ่งที่กัปตันพูดถึงน่าจะเป็น…”
หลังจากหยุดไปชั่วขณะดาซก็ได้กล่าวออกมาว่า
“โพเนกลีฟ!”
ดวงตาของทุกคนต่างก็หดแคบลงในทันที
ด้วยความที่ว่าพวกเขาพึ่งลงมาจากเกาะแห่งท้องฟ้าทําให้พวกเขารู้ดีว่าโพเนกลีฟที่ดาซพูดถึงคืออะไร มันคือสิ่งที่บันทึกเกี่ยวกับเรื่องราวของ 100 ปีแห่งความว่างเปล่าที่เกิดขึ้นเมื่อ 800 ปีก่อน เชื่อเหลือเกินว่าถ้าสิ่งที่ถูกบันทึกอยู่บนโพเนกลีฟถูกป่าวประกาศออกไปโลกใบนี้จะต้องสั่นสะเทือนอย่างแน่นอน
แต่ก็ดูเหมือนจะมีอยู่คนหนึ่งที่ไม่เข้าใจในสิ่งที่ดาซกล่าวออกมาและคนๆนั้นก็คือเอเนล แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ไม่ได้กล่าวถามออกมาแต่อย่างใดเขาทําเพียงแค่ฟังอยู่อย่างเงียบๆ
“ข่าวนี้นั้นมีเพียงแค่ในตลาดมืดเท่านั้นและหากต้องการข้อมูลมากกว่านี้ก็ต้องสืบหาเอาเอง”
ในตอนนั้นเองเสียงของคล็อกโคไดล์ก็ได้ดังขึ้นมา
“ครั้งแรกที่ฉันได้ยินเกี่ยวกับข่าวนี้ก็คือเมื่อปีที่แล้ว และเมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันพยายามจะสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับมันฉันก็มักจะถูกขัดขวางอยู่เสมอ”
“ในตอนนั้นฉันก็เริ่มรู้แล้วว่ามันจะต้องมีความลับบางอย่างถูกซ่อนอยู่อย่างแน่นอน แม้ว่าในตอนนั้นฉันจะยังไม่รู้ว่าอาวุธโบราณมีอยู่จริงหรือไม่ก็ตาม”
หลังจากหยุดไปชั่วขณะดาซก็ได้กล่าวออกมาอีกครั้ง
“จนกระทั่งในตอนที่ฉันได้ไปที่เกาะแห่งท้องฟ้าและได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของโพไซดอน ฉันเลยมั่นใจว่าที่อลาบัสต้าจะต้องมีข้อมูลของอาวุธโบราณบันทึกอยู่อย่างแน่นอนเพียงแต่..!”
“ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร”
ในเวลานั้นเองหน้าของคล็อกโคไดล์ที่ลอยอยู่กลางอากาศก็ได้พังทลายลงมาก่อนที่จะก่อตัวขึ้นมาเป็นร่างของเขา
“ดังนั้นฉันจึงมั่นใจมากว่าสมบัติที่กัปตันพูดถึงจะต้องเป็นข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธโบราณที่ถูกบัน ทึกอยู่ในโพเนกลีฟอย่างแน่นอน!”
ทุกสิ่งที่ดาซกล่าวออกมานั้นทําให้พวกเขารู้สึกประหลาดใจ พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าอลาบัสต้าจะมีโพเนกลีฟ และสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือโพเนกลีฟอันนี้มันบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธโบราณเอาไว้
“ในเมื่อที่อาณาจักรแห่งนั้นมีข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธโบราณบันทึกอยู่ทําไมพวกเราจะไม่ไปที่นั้น?”
ในเวลานั้นเองโรแกนก็ได้กระโดดขึ้นไปนั่งบนหัวเรือ
“เตรียมตัวให้พร้อมพวกเราจะไปที่อลาบัสต้า”
ในเวลานี้พวกเขาได้เป้าหมายต่อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อได้ยินดังนั้นเจสันก็ได้ทําการบังคับรูทดราก้อนมุ่งตรงไปที่อลาบัสต้าอย่างรวดเร็ว
คาดว่าพวกเขาน่าจะถึงอลาบัสต้าในตอนเที่ยงของวันพรุ่งนี้
ในช่วงบ่ายเอเนลก็ได้เดินเข้าไปในห้องของโรแกนพร้อมกับมองหาหนังสือที่โรแกนพูดถึง
“แม่เหล็กไฟฟ้า!”
เอเนลได้หยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เขาตัดสินใจที่จะทําตามค่าแนะนําของโรแกนเพื่อยกระดับพลังผลปีศาจของเขา
เอนเนลได้นําหนังสือเล่มนั้นกลับไปที่ห้องของเขาโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น
เนื้อหาที่อยู่ภายในนั้นไม่ใช่การพิมพ์แต่เป็นการเขียนโดยใครบางคน
“พี่คงจะเป็นคนเขียนเองงั้นสินะ”
เขาได้หยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาอ่านอย่างระมัดระวัง
“แม่เหล็กไฟฟ้าเป็นคําเรียกโดยรวมของคุณสมบัติทางไฟฟ้า,แม่เหล็กไฟฟ้านั้นเกิดขึ้นมาจากความผันผวนของประจุไฟฟ้าก่อนที่จะก่อตัวเป็นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าดังนั้นไม่ว่าไฟฟ้าจะอยู่ที่ใดที่นั้นย่อมมีแม่เหล็กไฟฟ้า
เพียงแค่ประโยคแรกเอเนลก็ถึงกับไปไม่เป็น
แม่เหล็กไฟฟ้า? สนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่เกิดจากการผันผวนของประจุไฟฟ้า? ที่ไหนมีไฟฟ้าที่นั้นย่อมมีแม่เหล็กไฟฟ้า? พวกนี้มันคืออะไรกัน?
แต่เมื่ออ่านต่อไปเรื่อยๆดวงตาของเอเนลก็ได้เปล่งประกายขึ้นมา การตีความเกี่ยวกับแม่เหล็กไฟฟ้าในหนังสือเล่มนี้นั้นชัดเจนและระเอียดเป็นอย่างมาก
“ด้วยพลังอํานาจของแม่เหล็กไฟฟ้าทําให้สามารถดึงดูดโลหะทั้งมวลได้ หากสามารถควบคุม แม่เหล็กไฟฟ้าได้ก็จะสามารถจัดการกับโลหะเหล่านั้นได้อย่างใจนึก!”
ประโยคนี้ทําให้เอเนลรู้สึกตกตะลึง
เมื่อได้รับพลังของผลโกโร โกโรมามันทําให้เขาสามารถควบคุมสายฟ้าได้อย่างใจนึกและเขาก็เอาแต่มุ่งเน้นในการใช้งานและควบคุมสายฟ้าแต่เพียงเท่านั้น อย่างไรก็ตามถ้าสิ่งที่หนังสือเล่มนี้บอกเป็นความจริงมันไม่ได้หมายความว่าเขาจะมีพลังอานาจเพิ่มมาอีกหนึ่งงั้นหรอ?
แม้ว่ามันจะดูซับซ้อนแต่การที่มีพลังอํานาจเพิ่มมาอีกหนึ่งมันก็ไม่ใช่สิ่งที่สามารถล้อเล่นได้
“ถ้าสามารถบีบอัดแม่เหล็กไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็วก็จะสามารถสร้างการโจมตีอย่างลําแสงนี้มาได้ และด้วยพลังอํานาจในการจัดการโลหะหากควบรวมกับพลังของแม่เหล็กไฟฟ้าด้วยแล้วก็จะสามารถสร้างระเบิดสายฟ้าที่น่าสะพรึงกลัวขึ้นมาได้อีกด้วย!”
สิ่งที่บันทึกอยู่ภายในหนังสือเล่มนี้นั้นระเอียดเป็นอย่างมาก
“นี่มันจะน่าทิ้งเกินไปแล้ว!”
ยิ่งอ่านมันมากเท่าไหร่เอเนลก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจ
เอเนลไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าพลังอานาจของผลโกโร โกโรจะสามารถนํามาประยุกต์ใช้ได้มากขนาดนี้
“แม่เหล็กไฟฟ้า,ฉันจะต้องเชี่ยวชาญมันให้ได้!”
เอเนลได้กําหมัดและกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้นและหนักแน่น
ในเวลาเดียวกันนั้นเองเขาก็ได้ค้นพบว่าสนามแม่เหล็กไฟฟ้านั้นสามารถพัฒนามันโทร่าของเขาได้เป็นสิบเท่า!
อาณาเขตมันโทร่าในปัจจุบันของเขานั้นครอบคลุมระยะประมาณ 1,000 เมตรหากขยายขึ้นสิบเท่าก็จะกลายเป็น 10,000 เมตร
นี่มันเป็นอาณาเขตที่กว้างใหญ่สุดๆไปเลยไม่ใช่หรือไง!
คอมเม้นต์