The Soul Purchasing Pirate – บทที่ 423: พูดคุย
S.P.P: บทที่ 423: พูดคุย
“ช่วยบอกฉันที่ได้ไหมว่าพวกคุณมีธุระอะไรที่อลาบสตางั้นหรอ?”
คอบร้านั้นรู้ดีถึงพลังอํานาจของกลุ่มโจรสลัดโซลดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะกล่าวถามอีกฝ่ายด้วยความสุภาพ
“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกแต่ฉันนั้นอยากให้คุณคุยกับฉันเพียงลําพัง”
โรแกนได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
แต่นั้นไม่ใช่กับไลก้าเมื่อเขาได้ยินคําพูดของโรแกนสีหน้าของเขาก็ได้เปลี่ยนไปในทันทีก่อนที่จะร้องคํารามออกมาด้วยความเดือดดาล
“ไม่มีทาง!”
การปล่อยคอบร้าให้อยู่เพียงลําพังกับโรแกนนั้นอันตรายเกินไป ด้วยพลังอํานาจของโรแกนถ้าเขาคิดที่จะลงมือคอบร้าไม่มีทางต่อต้านได้อย่างแน่นอน
เสียงร้องตะโกนของไลก้าได้ดึงดูดสายตาของเหล่าลูกเรือกลุ่มโจรสลัดโซลให้จ้องมองไปที่ เขาเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสายตาที่เปี่ยมล้นไปด้วยแรงกดดันทั้ง 14 คู่หัวใจของไลก้าก็ถึงกับสันเครือขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“ไลก้าอย่าเสียมารยาท”
คอบร้าได้กล่าวเตือนพร้อมกับส่ายหัวไปมา
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณโรแกนต้องการพูดคุยอะไรกับฉัน”
ในฐานะราชาคอบร้านั้นนับว่าเป็นคนที่ฉลาดเขาได้จ้องมองมาที่โรแกนและกล่าวถามออกมา
เมื่อเห็นสายตาของคอบร้าโรแกนก็ได้ยกยิ้มขึ้นมา
“ฮ่าๆ ๆ ๆ ฉันคิดว่าคุณต้องไม่อยากให้ฉันพูดมันตรงนี้แน่นอน”
โรแกนได้หัวเราะและกล่าวออกมา
แต่ในตอนนั้นเองใบหน้าของคอบร้ากลับเปลี่ยนสีพร้อมกับปรากฏเม็ดเหงื่อขึ้นมา
ไลก้าที่ยืนอยู่ข้างๆเองก็สังเกตเห็นถึงสีหน้าที่เปลี่ยนไปของคอบร้าแต่เขาก็ไม่ได้กล่าวถามอะไรออกมา
“ถ้างั้นได้โปรดตามฉันมา”
คอบร้าได้สูดหายใจเข้าและกล่าวออกมาด้วยน้ําเสียงที่แผ่วเบา
ท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของคอบร้าทําให้ไลก้ารู้สึกประหลาดใจ
“ฝ่าบาท”
เขาพยายามที่จะรั้งคอบร้าเอาไว้
แต่คอบร้านั้นกลับส่ายหัวและก้าวเดินลงมาหาโรแกน
“ไปกันเถอะคุณโรแกนฉันเชื่อว่าคุณจะไม่ทําอะไรอาณาจักรอลาบัสต้าแห่งนี้”
โรแกนได้ยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยก่อนที่จะเดินตามอีกฝ่ายไป
ในท้องพระโรงตอนนี้มีเพียงแค่เหล่าลูกเรือกลุ่มโจรสลัดโซลและเหล่าทหารของอลาบัสต้าเท่านั้น
ทันใดนั้นคล็อกโคไดล์ก็ได้กล่าวขึ้นมาว่า
“พวกนายไม่ต้องจริงจังไปหรอก ถ้าพวกเราต้องการลงมือจริงๆอาณาจักรนี้ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะต่อต้านหรอก!”
เมื่อได้ยินคําพูดของคล็อกโคไดล์ใบหน้าของไลก้าก็ได้เปลี่ยนไปสีแดงในทันที อีกฝ่ายนั้นกําลังดูถูกอาณาจักรอลาบัสต้าที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขา!
“โปรดระวังคําพูดของนายด้วย!”
ไลก้าได้กล่าวออกมาพร้อมกับชักดาบยาวที่แขวนอยู่บนเอวออกมา ในขณะเดียวกันเหล่าทหารคนอื่นเองก็ได้จ้องมองมาที่คล็อกโคไดล์ด้วยสายตาเย็นชา
พวกเขาคือทหารของราชาแห่งอาณาจักรอลาบัสต้าอันยิ่งใหญ่พวกเขาจะสามารถทนให้คนอนมาดุถูกพวกเขาได้อย่างไร
“พวกกบในกะลา!”
ดาซได้กล่าวออกมาด้วยน้ําเสียงที่เย็นชา
“ฮี!”
คล็อกโคไดล์นั้นทําเพียงแค่หัวเราะกับท่าทีของพวกเขา
“คล็อกโคไดล์พวกเราไม่ได้มาที่นี้เพื่อสู้กับใคร”
เจสันได้กล่าวเตือนออกมา
“คนอลาบัสต้าไร้มารยาทแบบนี้ทุกคนไหม? พวกนายจะปล่อยให้พวกฉันยื่นแบบนี้อีกนานแค่ไหน?”
ชาร์โปลอสได้กล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ
ไลก้านั้นรู้สึกหัวเสียมากเขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าเขาจะถูกโจรสลัดตําหนิเรื่องมารยาท ในตอนนั้นเองเขาก็ได้ทําการเชิญพวกเขานั่ง
“ผลไม้ล่ะ? พวกนายไม่รู้วิธีต้อนรับแขกกันงั้นหรอ?”
ชาร์โปลอสได้ร้องโวยวายขึ้นมาอีกครั้ง
ไลก้าได้ทําการสั่งให้ทหารไปเอาผลไม้มาด้วยใบหน้าที่บูดบึง
“เอเนลลองเมล่อนนี่ดูสิมันอร่อยสุดๆไปเลย!”
ชาร์โปลอสได้กล่าวแนะนําออกมา
เอเนลได้พยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว เขานั้นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับทะเลสีฟ้าเลยดังนั้นเขาจึงมีความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับทุกสิ่งและเมื่อเขากัดลงไปที่แคนตาลูปใบหน้าของเขาก็ได้ปรากฏความประหลาดใจขึ้นมา
“อร่อยจริงๆด้วย!”
“เมล่อนของอลาบัสต้าหนะเป็นของที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในแกรนด์ไลน์แห่งนี้”
ไลก้าได้กล่าวออกมาด้วยความภาคภูมิใจ
“อีม,มันอร่อยมากจริงๆ!”
เอเนลได้พยักหน้าพร้อมกับกัดลงไปที่เมล่อน
เอเนลนั้นกําลังเพลิดเพลินกับเมล่อนของอาณาจักรอลาบัสต้า
ในตอนนั้นเองท่าทางที่เคร่งเครียดของไลก้าก็ได้ผ่อนลง ในตอนนี้เขารู้สึกภูมิใจมากที่เมล่อนของอาณาจักรเขาสามารถจัดการกับคนกลุ่มนี้ได้
ในเวลาเดียวกันนั้นเองราชาคอบร้าและโรแกนก็ได้เดินทางมาถึงสวนที่ห่างไกลแห่งหนึ่ง
“ที่นี่ไม่มีใครแล้วล่ะคุณโรแกน”
คอบร้าได้นั่งลงบนม้านั่งและกล่าวออกมา
“ดอกไม้งาม, ใบหญ้าสีเขียว,และกลิ่นหอมกับบรรยากาศที่เงียบสงบคุณนี่โชคดีจังเลยนะ”
โรแกนได้กล่าวชมออกมา
“ฉันคิดว่าเรื่องที่คุณอยากจะคุยกับฉันคงจะไม่ใช่เรื่องนี้หรอกนะ? ฉันอยากรู้แล้วว่าคุณต้องการคุยอะไรกับฉัน?”
คอบร้าได้กล่าวออกมาด้วยท่าที่จริงจัง
ในตอนนั้นเองโรแกนก็ได้ยกยิ้มขึ้นมาก่อนที่จะนั่งลงข้างๆคอบร้า
“ราชาคอบร้าคุณไม่รู้จริงๆงั้นหรอ?”
ใบหน้าของคอบร้าได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย
“เรื่องอะไรคุณโรแกน?”
โรแกนได้ยกยิ้มและกล่าวออกมาว่า
“ก่อนที่ฉันจะมาที่อลาบัสต้านั้นฉันได้ไปที่เกาะแห่งท้องฟ้ามา”
“เกาะแห่งท้องฟ้า?! เกาะแห่งท้องฟ้ามันมีอยู่จริงงั้นหรอ?”
คอบร้าได้กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจแต่เขาก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าอีกฝ่ายต้องการที่จะคุยเรื่องอะไรกันแน่
“ที่เกาะแห่งท้องฟ้านั้นมีซากปรักหักพังของเมืองโบราณที่ชื่อว่าแชนโดร่าอยู่ในที่แห่งนั้นพวกฉันได้พบกับก้อนหินสีดําก่อนหนึ่ง”
เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้โรแกนก็ได้ยกยิ้มและจ้องมองไปที่คอบร้า
“ราชาคอบร้าคุณรู้ใช่ไหมว่าหินสีดําก้อนนั้นคืออะไร?”
เมื่อเจอกับคําถามของโรแกนคอบร้าก็ถึงกับสับสน
“หินสีดําอะไร? คุณโรแกนอย่าล้อเล่นส์ฉันจะไปรู้เรื่องบนเกาะแห่งท้องฟ้าได้ยังไง?”
“ฮ่าๆ ๆ ๆ, ในตอนนี้คุณอาจจะยังไม่รู้จริงๆถ้างั้นคุณช่วยฟังฉันพูดให้จบก็แล้วกันนะ”
“บางทีถ้าเป็นโจรสลัดโดยทั่วไปเมื่อเจอหินสีดําก้อนนั้นพวกเขาก็คงจะไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร แต่โชคดีที่บนเรือของฉันนั้นมีคนที่สามารถอ่านค่าที่สลักอยู่บนหินนั้นได้”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ก็จะสามารถสังเกตได้ว่าใบหน้าของคอบร้านั้นได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ในตอนนั้นเองโรแกนก็ได้กล่าวต่อ
“บุคคลที่ทิ้งหินสีดําเอาไว้นั้นเขาเรียกหินสีดําก้อนนี้ว่าโพเนกลีฟซึ่งมันเป็นสิ่งที่บันทึกเกี่ยวกับความจริงเกี่ยวกับโลกใบนี้เอาไว้”
ใบหน้าของคอบร้าได้เปลี่ยนไปอีกครั้งแต่เขาก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา
“โพเนกลีฟอันนั้นได้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธอันทรงพลังในอดีตกาลเอาไว้มันเป็นอาวุธที่สามารถทําลายเกาะๆหนึ่งได้ภายในการโจมตีเดียว”
“แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่เรามาที่อลาบัสต้า..”
“แต่ถึงอย่างงั้นมันก็ยังเกี่ยวกันอยู่ดี!”
โรแกนได้จ้องมองมาที่คอบร้าด้วยรอยยิ้ม
“ฉันได้ยินมาว่าที่พระราชวังแห่งนี้มีโพเนกลีฟอยู่”
“และมันก็ได้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธโบราณที่มีชื่อว่าพลูตัน!”
คอบร้านั้นได้ลุกยืนขึ้นมาด้วยอาการตกตะลึง
คอมเม้นต์