The Soul Purchasing Pirate – บทที่ 424: วีวี่
S.P.P: บทที่ 424: วีวี่
“มันเป็นไปไม่ได้!”
คอบร้าได้ตบลงไปที่โต๊ะหินและตะโกนออกมาเสียงดัง
โรแกนทําเพียงแค่จ้องมองไปที่คอบร้าด้วยรอยยิ้ม
หลังจากนั้นไม่นานก็ดูเหมือนว่าคอบร้าจะตระหนักว่าเขานั้นหลุดไป
“ที่อลาบัสต้าไม่มีโพเนกลีฟหรอก, โรแกนคุณน่าจะเข้าใจผิดแล้วล่ะ”
“ฉันไม่สนใจอาวุธโบราณพวกนั้นหรอกด้วยพลังอานาจของฉันการจะทําลายเกาะนั้นไม่ใช่เรื่องยากอะไรแม้ว่ามันจะยังมีช่องว่างอยู่แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างไร”
โรแกนได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“สิ่งที่ฉันสนใจคือเรื่องของประวัติศาสตร์ 100 ปีแห่งความว่างเปล่า”
“ฉันอยากรู้ว่าโพเนกลีฟที่อลาบัสต้านั้นได้พูดถึงเรื่องนี้เอาไว้หรือเปล่า”
คําพูดของโรแกนนั้นทําให้คอบร้าถึงกับกําหมัดแน่นแต่สุดท้ายเขาก็ได้คลายหมัดออกและยกยิ้มให้กับโรแกน
“ทําไมคุณถึงมั่นใจว่าที่อาณาจักรอลาบัสต้ามีโพเนกลีฟอยู่?”
นี่คือสิ่งที่เขาอยากรู้เป็นอย่างมาก เพราะถ้าเรื่องที่เขาครอบครองโพเนกลีฟหลุดออกไปละก็ไม่ว่าจะโจรสลัดหรือรัฐบาลโลกก็จะต้องมุ่งตรงมาที่อาณาจักรอลาบัสต้าของเขาอย่างแน่นอน
“ฉันก็แค่มั่นใจว่าที่นี่ต้องมีฉันก็เลยมา”
โรแกนได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงเจตนาร้ายออกมาแต่คอบร้าก็ควรจะรู้ว่าเขาต้องทํายังไง
กลุ่มโจรสลัดโซลของเขานั้นไม่ใช่คล็อกโคไดล์ที่เป็นเจ็ดเทพโจรสลัดในอนาคต เขานั้นไม่จําเป็นต้องพึ่งอุบายหรือเล่ห์เหลี่ยมในการบังคับขู่เข็ญอีกฝ่ายเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ตราบใดที่เขายังนั่งอยู่ตรงนี้อีกฝ่ายไม่มีทางปฏิเสธเขาอย่างแน่นอน
ยกตัวอย่างพวกโจรสลัดในโลกใหม่อย่างหนวดขาว,ไคโดเพียงแค่ชื่อของพวกเขาก็สามารถทําให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวได้แล้ว
และกับคอบร้าที่ต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันของโรแกนตรงๆจะเป็นยังไง? แน่นอนว่าเขาไม่มีทางต่อต้านมันได้แม้แต่น้อย
แม้ว่าเหล่าทหารของเขาจะไม่รู้เรื่องราวเกี่ยวกับโรแกนแต่เขานั้นรู้ดี
เมื่อไม่นานมานี้ที่งานประชุมโลกร์เวอรรี่เขานั้นได้รับรู้ถึงข้อมูลเกี่ยวกับกองกําลังที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของโลก และถ้ากลุ่มโจรสลัดโซลต้องการทําลายอาณาจักรแห่งนี้เขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะต่อต้านมันแต่อย่างใด
“ฉันใช้ชีวิตของฉันเพื่อให้คุณล้มเลิกความต้องการของคุณได้ไหม?”
คอบร้าได้กล่าวออกมาอย่างจนปัญญา
“ฮ่าๆ ๆ ๆ”
เมื่อได้ยินคําพูดของคอบร้าโรแกนก็ถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ฉันเป็นโจรสลัดและฉันก็จะทําตามกฎของโจรสลัดเท่านั้น”
ค่าตอบของโรแกนทําให้คอบร้าถึงกับหน้าซีด
“ฉันเต็มใจที่จะเสียสละตัวเองเพื่อแลกกับการจากไปของคุณ!”
“ฉันไม่ได้ต้องการชีวิตของคุณแต่ฉันต้องการข้อความที่บันทึกอยู่บนโพเนกลีฟ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของโรแกนได้จางหายไปก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วยสายตาที่เย็นชา
“คอบร้าโพเนกลีฟของอาณาจักรอลาบัสต้านั้นเป็นสิ่งที่มีความสําคัญและฉันก็เชื่อว่าฉันชัดเจนพอแล้ว”
แม้ว่าปากจะสั่นแต่คอบร้าก็ยังต้องการที่จะสู้ต่อแต่ในตอนนั้นเองโรแกนก็ได้ลุกขึ้นมา
“ตอนนี้มันถึงเวลาอาหารของคุณแล้ว, ฉันหวังว่าฉันจะได้คําตอบที่น่าพอใจเพราะไม่งั้น..”
หลังจากหยุดไปชั่วครู่โรแกนก็ได้ยกยิ้มขึ้นมา
“พรุ่งนี้จะไม่มีอาณาจักรที่ชื่อว่าอลาบัสต้าอยู่บนโลกนี้อีกต่อไป!”
นี่คือคําเตือน! มันไม่ใช่ค่าข่แต่มันคือคําเตือน! และเมื่อนึกถึงพลังอานาจของโรแกนใบหน้าของคอบร้าก็ซีดไปในทันที
โรแกนได้หมุนตัวแล้วเดินจากไปโดยที่ไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอีก
เขาค่อนข้างมั่นใจว่าอีกฝ่ายจะเลือกคําตอบที่เขาต้องการ แม้ว่าคอบร้าจะไม่พอใจแต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจของเขานั้นมันไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถแบกรับได้
อย่างที่โรแกนพูดเขาเป็นโจรสลัดดังนั้นเขาก็ต้องใช้กฎของโจรสลัดในการจัดการปัญหาต่างๆ
แม้ว่าหัวใจของเขาจะโหยหาแสงสว่างและความยุติธรรมแต่ตัวเขานั้นคือโจรสลัดมันไม่สามารถเปลี่ยนความจริงข้อนี้ได้
ความยุติธรรมที่สมบรูณ์แบบงั้นหรอ?,ฮี,ของพรรค์นั้นมันไม่มีอยู่จริงหรอก!
หลังจากที่เดินกลับมาถึงที่ท้องพระโรงสิ่งที่โรแกนเห็นก็คือเหล่าลูกเรือของเขาที่กาลังเพลิดเพลินอยู่กับผลไม้
“พี่ผลไม้ของที่นี่อร่อยมากเลยนะแถมมันยังหวานมากด้วย!”
เอเนลได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ถ้ามันอร่อยนายก็ควรที่จะกินมันให้เยอะๆ”
โรแกนได้ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“อื้ม!”
เอเนลได้พยักหน้าอย่างว่าง่าย
คอบร้านั้นตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว สิ่งไหนคือสิ่งสําคัญสําหรับเขาและอลาบัสต้า?
“ฉันขอโทษทุกคนบนเกาะแห่งนี้ด้วยแต่ฉันไม่สามารถปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้จริงๆ!”
ดวงตาของคอบร้าได้สั่นเทาเล็กน้อย
โพเนกลีฟนั้นคือสิ่งที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน เขาไม่สามารถปล่อยให้อาวุธโบราณอย่างพลูตันไปตกอยู่ในมือของโจรสลัดอย่างเด็ดขาด!
แต่ทันใดนั้นเองจู่ๆมันก็ได้ปรากฏร่างของใครบางคนขึ้นมาบนหลังคาภายในสวนที่เขาอยู่
“คอบร้าฉันมีอะไรจะให้คุณ”
ในขณะที่คอบร้ากําลังตกใจอยู่นั้นบนโต๊ะหินก็ได้ปรากฏแผนที่ขึ้นมา
หลังจากนั้นร่างดังกล่าวก็ได้กระโดดหายไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อมองลงไปที่แผนที่รูม่านตาของคอบร้าก็หดแคบลงพร้อมกับกําหมัดแน่นก่อนที่จะทุบลงไปที่โต๊ะหิน
“ให้ตายเถอะ!”
บนแผนที่ดังกล่าวนั้นมีจุดที่ถูกวงกลมด้วยเส้นสีแดงเอาไว้และเขานั้นก็คุ้นเคยกับแผนที่อันนี้ เป็นอย่างมากเพราะว่ามันคือแผนที่ของพระราชวังแห่งนี้ และสถานที่ที่ถูกวงกลมสีแดงเอาไว้นั้น มันก็คือที่ตั้งของโพเนกลีฟ
“ในเมื่อรู้อยู่แล้วจะถามหาฉันทําไม”
ในเวลานี้คอบร้ากําลังรู้สึกโกรธตัวเองที่ไร้พลัง
แล้วแบบนี้เขาจะขัดขืนอีกฝ่ายได้ยังไง?
นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าโจรสลัดกลุ่มนี้น่าหวาดกลัว
ห้านาทีต่อมา.คอบร้าก็ได้มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของโรแกนและคนอื่นๆ
เมื่อเห็นใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวของอีกฝ่ายคล็อกโคไดล์ก็อดขําไม่ได้
“ดูเหมือนว่าคุณจะเลือกได้แล้วสินะ”
ชายชุดดํานั้นเป็นคนที่คล็อกโคไดล์ส่งไปเอง หลังจากที่ได้รับข้อมูลจากโรแกนมันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะตามหาที่ตั้งของโพเนกลีฟ
“ตามฉันมา”
น้ําเสียงของเขานั้นเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ําใจ
เมื่อได้ยินดังนั้นพวกเขาก็ได้ลุกขึ้นมาพร้อมกับเดินตามคอบร้าไป
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็ได้เดินทางมาถึงชั้นใต้ดินที่มีโพเนกลีฟซ่อนอยู่ แม้ว่าที่นี่จะเป็นห้องที่ว่างเปล่าแต่มันกลับมีทหารคุ้มกันอยู่อย่างแน่นหนา
“ท่านพ่อ”
ทันใดนั้นเองจู่ๆก็ได้ปรากฏเสียงเรียกที่มีความสุขของเด็กสาวคนหนึ่งดังขึ้นมา
ที่ข้างหลังของเด็กสาวคนนี้นั้นมีร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่น่าจะอายุประมาณ 20 ปียืนยิ้มมาทางคอบร้าอยู่
เสียงเรียกที่ดังขึ้นมาอย่างกะทันหันนั้นสามารถดึงดูดความสนใจของพวกโรแกนได้เป็นอย่าง
อย่างไรก็ตามสีหน้าของคอบร้ากับแย่ลง
“ท่านพ่อ”
สาวน้อยได้ร้องเรียกออกมาอีกครั้งพร้อมกับวิ่งเข้ามากอดขาของคอบร้า
“คอบร้านี่คือลูกสาวของคุณงั้นหรอ? เธอน่ารักดีนะชื่อวีใช่ไหม?”
โรแกนได้กล่าวถามออกมาด้วยรอยยิ้ม
เมื่อคอบร้าได้ยินคําถามของโรแกนใบหน้าของเขาก็ได้เปลี่ยนไปเป็นน่าเกลียดในทันที
คอมเม้นต์