The Soul Purchasing Pirate – บทที่ 429: โรเจอร์!
S.PP: บทที่ 429: โรเจอร์!
“ตาย!”
คําๆนี้ทําให้หัวใจของพวกเขารู้สึกหนาวสั่น
พวกเขาได้มองไปที่ดวงตาของเด็กชายผู้ที่อ้างว่าตนมีอายุแปดสิบปีด้วยรูปลักษณ์ของเด็กแปดขวบ
อีกฝ่ายนั้นไม่ได้สาปแช่งหรือต้องการสร้างความหวาดกลัวให้กับพวกเขา แต่สายตาของเขานั้นมันกําลังบอกว่าเขาพูดความจริง
“แกคิดว่าแกเป็นใคร?”
ชาร์โปลอสได้กล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ
“ไม่เชื่อ?”
เด็กน้อยได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ไอ้เด็กโง่ฉันขี้เกียจที่จะพูดกับแกแล้ว พวกที่มาถึงเมื่อวานนี้ฉลาดกว่าแกเยอะเลย”
เมื่อพูดจบเด็กน้อยก็ได้เดินจากไปและไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอีก
เมื่อมองไปที่แผ่นหลังของเด็กน้อยพวกโรแกนก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่แปลกประหลาด
ถ้าสิ่งที่เด็กนั้นพูดเป็นความจริงที่ว่าเกาะนี้เชื่อมต่อกับทุกช่วงเวลา มันก็หมายความว่าสิ่งที่ถูกเขียนอยู่บนกระดานข่าวก็เป็นความจริงงั้นหรอ?
“กัปตัน!”
ในตอนนั้นเองเสียงของเจสันก็ได้ดังลั่นขึ้น
โรแกนได้สูดหายใจเข้าพร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกาย
ถ้าทุกสิ่งที่อยู่บนกระดานข่าวเป็นความจริงโรเจอร์ก็..
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ทุกคนต่างก็รู้สึกตกตะลึง
“นี่พวกเรามีสิทธิ์ที่จะได้เจอกับราชาโจรสลัดในตํานานจริงๆงั้นหรอเนี่ย?”
ดาซได้กล่าวออกมาด้วยร่างกายที่สั่นสะท้าน
เด็กนั้นพูดว่าเมื่อวานมีคนมาที่นี่และเมื่อพวกเขานึกถึงตัวหนังสือสีแดงที่ถูกเขียนอยู่หน้าเมือง พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกตะลึง
ราชาโจรสลัดโรเจอร์อยู่ที่นี่!
“ไม่ว่ามันจะจริงหรือไม่ก็ตามเดี๋ยวพอได้เข้าไปในเมืองก็รู้เอง!”
โรแกนได้กล่าวออกมาอย่างช้าๆ
หัวใจของพวกเขาทุกคนนั้นต่างก็กําลังเต้นรัว ตั้งแต่ที่พวกเขาได้สัมผัสกับหมอกเจ็ดสีพวกเขาก็พบเจอแต่สิ่งที่ผิดปกติ
ภายใต้การนําของโรแกนพวกเขาทุกคนก็ได้เดินเข้าไปในเมือง
ทิมทาวน์แห่งนี้นั้นมีเนื้อที่กว้างขวางไม่น้อย โรแกนได้กวาดตามองไปรอบๆและพบว่าเนื้อที่ของมันนั้นไม่ได้ต่างกับเมืองในชีวิตก่อนของเขามากนัก แต่ทิมทาวน์นั้นกลับมีประชากรเบาบางเป็นอย่างมาก บนท้องถนนนั้นมีคนเดินอยู่เพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น
ถนนของพวกเขานั้นถูกปูด้วยหินกรวดทําให้รู้สึกสบายเท้ามากในเวลาเดิน
แต่ด้วยคําพูดของเด็กนั้นทําให้บรรยากาศในการเดินของพวกเขาตรึงเครียดเป็นอย่างมาก
“มีคนเข้ามาใหม่งั้นหรอ? ฮ่า ๆ ฉันไม่คิดว่าวันนี้จะมีคนมาเพิ่มนะเนี่ย”
ในขณะที่พวกเขากําลังเดินอยู่นั้นก็ได้มีชายหนุ่มอายุประมาณ 20 เดินเข้ามาหาพวกเขา
ถ้าอิงตามที่เด็กคนนั้นบอกชายหนุ่มคนนี้ก็จะมีอายุประมาณ 200 ปี
เมื่อนึกถึงตรงนี้พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ
“พวกนายเป็นอะไรไป?”
ชายหนุ่มได้กล่าวออกมาด้วยความงุนงง
“นายอายุ 200 ปีใช่ไหม?”
ชาร์โปลอสได้ถามออกมาอย่างระมัดระวัง
“ปีนี้ฉันอายุครบ 230 ปีแล้ว ฮ่าๆ ๆ ๆ”
ชายหนุ่มได้กล่าวและหัวเราะออกมา
“เมื่อกี้พวกนายคงพึ่งเจอกับจิรอสมาแน่ๆเลยใช่ไหม? หมอนั้นมักจะชอบทําตัวน่ากลัวเหมือนตัวเองไม่ใช่มนุษย์ แต่จริงๆแล้วพวกเราเองก็เป็นมนุษย์เหมือนพวกนายนั้นล่ะ”
“แนะนําตัวนะฉันชื่อเอนเดอร์,แล้วก็ยินดีต้อนรับสู่ทิมทาวน์!”
เอนเดอร์ได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ยินดีที่ได้รู้จักเอนเดอร์, คือเรื่องที่จรอสพูดมันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าเรื่องที่เกาะนี้เชื่อมต่อกับมิติเวลาอื่นน่ะ?”
ดาซได้กล่าวถามออกมาด้วยความสงสัย
พวกเขามั่นใจว่าพวกเขาได้หลงเข้ามาในดินแดนที่ไม่รู้จักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะว่าในดินแดนแห่งนี้นั้นไม่มีดวงอาทิตย์
“แม้ว่าจิรอสมักจะชอบทําตัวน่ากลัวแต่สิ่งที่เขาพูดนั้นไม่ใช่เรื่องโกหก,เพราะมันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของตระกูลทิมของเรา”
เอนเดอร์ได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“พระเจ้า!”
ทุกคนต่างก็กําลังรู้สึกประหลาดใจ
“ไม่ต้องตกใจไปหรอก,ฉันได้ยินมาว่าผู้คนที่มาจากโลกภายนอกชอบเดินทาง ที่ใจกลางเกาะนั้นมีสถานที่แปลกๆอยู่ไม่น้อยฉันว่าพวกนายน่าจะชอบมัน”
เอนเดอร์ได้กล่าวปลอบออกมา
“งั้นพวกเราจะออกไปจากที่นี่ได้ยังไง?”
เทรนซุได้กล่าวถามตําถามที่สําคัญที่สุดออกมา
“ฮ่าๆ ๆ ๆ,ถ้ามันไม่มีปาฏิหาริย์อะไรเกิดขึ้นพวกนายก็ไม่น่าจะออกไปได้”
“ทิมทาวน์นั้นเป็นเรือที่ล่องอยู่ในน่านน้ํามาอย่างช้านาน และมันก็มีความผันผวนแปรปรวนอยู่ตลอดเวลาดังนั้นมันไม่เคยอยู่กับที่หรอก”
เอนเดอร์ได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
“พวกนายเห็นเรือที่อยู่บนชายฝั่งของเกาะไหม? พวกมันคือเรือของเหล่าคนนอกในตลอดหลายปีที่ผ่านมา”
เมื่อเห็นใบหน้าที่น่าเกลียดของพวกโรแกนเอนเดอร์ก็ได้กล่าวปลอบออกมาว่า
“อย่ากังวลไปเลยการอยู่ที่นี่มันก็ไม่แย่นักหรอก”
สําหรับพวกเขามันเป็นเรื่องที่แย่มาก ทั้งๆที่พวกเขากําลังจะไปที่โลกใหม่ พวกเขากลับต้องมาติดแหง็กอยู่ที่นี่
“แล้วอีกอย่างพวกนายก็ไม่ได้อยู่ที่นี่เพียงลําพัง มันยังมีพวกกลุ่มเมื่อวานนี้อยู่ด้วยอีกกลุ่มหนึ่ง”
เอนเดอร์ได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
ในตอนนั้นเองเขาก็ได้จ้องมองมาที่โรแกนด้วยความประหลาดใจ
“นายหน้าเหมือนเขานิดหน่อยนะ”
เมื่อได้ยินดังนั้นดวงตาของโรแกนก็ได้เปล่งประกายขึ้นมาในทันที
“เขาอยู่ที่ไหน? เขาชื่อโรเจอร์ใช่ไหม?”
เทรนได้กล่าวถามออกมาเสียงดัง
“ใช่ผู้ชายคนนั้นชื่อโรเจอร์เขาเป็นเด็กที่ร่าเริงและก็ยิ้มกว้างอยู่ตลอดเวลา หลังจากได้ยินว่าไม่สามารถออกไปจากที่นี้ได้เขาก็หัวเราะออกมาเสียงดังและหันไปเพลิดเพลินกับสถานที่แห่งนี้แทน”
ราชาโจรสลัดโรเจอร์นั้นเป็นเพียงแค่เด็กสําหรับเอนเดอร์
“เขาอยู่ที่ไหน?”
ในที่สุดโรแกนก็ได้กล่าวถามออกมา
“ไม่รู้สิ แต่ถ้านายเดินไปตามถนนเส้นนี้นายจะเจอบาร์ที่เราเอาไว้ใช้ต้อนรับพวกโจรสลัดอยู่ บางทีถ้านายโชคดีนายอาจจะเจอเขาที่นั้นก็ได้”
เอนเดอร์นั้นได้ชี้ไปถึงปลายสุดของถนนเส้นนี้และในตอนนั้นเองสายตาของพวกเขาก็ได้ สังเกตเห็นป้ายไม้ที่เขียนว่า “บาร์โจรสลัด”
“ขอบคุณนายมากเอนเดอร์
โรแกนได้กล่าวขอบคุณออกมา
“ยินดี,หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกในอนาคต”
เอนเดอร์ได้โบกมือลาและในตอนนั้นเองเขาก็ได้กล่าวเตือนพวกโรแกนว่า
“แล้วก็ทางที่ดีพวกนายอย่าไปทําให้ตาแก่ที่บาร์โจรสลัดโมโหล่ะ อารมณ์ของเขามันไม่ค่อยจะปกติสักเท่าไหร่”
ในเวลาต่อมาเอนเดอร์ก็ได้หมุนตัวและเดินจากไป
เมื่อเห็นพวกโรแกนเหล่าชาวเมืองทิมทาวน์นั้นก็ได้ทําการต้อนรับพวกเขาเป็นอย่างดี
“ถ้าไม่นับเรื่องที่ว่าพวกเราออกไปจากที่นี่ไม่ได้ที่นี่ก็นับว่าเป็นสถานที่ที่ดีจริงๆ”
ชาร์โปลอสได้กล่าวออกมาด้วยความหนักใจ
ทุกคนต่างก็เห็นด้วยกับคําพูดของชาร์โปลอส
ในเวลานี้พวกเขานั้นเชื่อในสิ่งที่จิลอสและเอนเดอร์กล่าวออกมาแล้ว
เมื่อเข้ามาภายในเมืองพวกเขาก็เชื่อแล้วว่าเกาะแห่งนี้ เป็นเรือที่ลอยล่องอยู่บนทะเลจริงๆ
บนถนนนั้นมีแม้กระทั่งเด็กและผู้สูงอายุเดินขวักไขว่ไปมา
โรแกนไม่รู้ว่าเขาควรที่จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
ถ้าพวกนักวิทยาศาสตร์จากชีวิตก่อนของเขามาเจอเรื่องราวพวกนี้พวกเขาคงจะช็อคจนพูดอะไรไม่ออก
คอมเม้นต์