The Soul Purchasing Pirate – บทที่ 439: ฉันจะก้าวข้ามนาย!
S.PP: บทที่ 439: ฉันจะก้าวข้ามนาย!
“อนาคตของฉัน? มันไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงหรอก”
“นายก็เห็นมันไม่ใช่หรือไง, ไม่ว่าจะเป็นพรรคพวกที่เชื่อถือได้ของฉันและตัวฉันเองก็ยังมีพลังอานาจที่นายนึกไม่ถึงอยู่”
“ฉันรู้ฉันเคยได้ยินเสียงของมัน”
โรเจอร์ได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
เมื่อได้ยินคําพูดของโรเจอร์โรแกนก็รู้สึกตกใจมาก เขาเคยสงสัยอยู่เหมือนกันว่าความสามารถในการได้ยินเสียงของทุกสรรพสิ่งนั้นจะสามารถได้ยินเสียงของระบบหรือเปล่า? แต่ในตอนนี้ค่าพูดของโรเจอร์นั้นได้พิสูจน์แล้วว่ามันสามารถทําได้
“คลื่นนั้นมักจะผ่านไปเร็วเสมอ, โลกใบนี้เองก็เปรียบเสมือนคลื่นลูกใหญ่ในทุกยุคสมัยนั้นล้วนแล้วแต่มีผู้ปกครองมันเวลานั้นไหลผ่านไปอย่างรวดเร็วนายคิดว่านายจะคว้าช่วงเวลานั้นเอาไว้ได้ไหม?”
ค่าพูดของเขานั้นราวกับว่าตัวเขานั้นสังเกตเห็นอะไรบางอย่างซึ่งมันทําให้โรแกนรู้สึกสงสัย
ในวันปกตินั้นโรเจอร์ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
“ถ้าเวลาของฉันมาถึงมันก็จะไม่มีเวลาของคนอื่นอีกต่อไป!”
โรแกนได้ยกยิ้มและกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ
ความมั่นใจในคําพูดของโรแกนทําให้โรเจอร์รู้สึกประหลาดใจก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ตั้งแต่เด็กนายก็มักจะชอบคุยโวอยู่เสมอ”
“คราวนี้ฉันไม่ได้โม้”
โรแกนได้ส่ายหน้าไปมา
“ต่อให้ในช่วงเวลาของฉันจะมีผู้คนอยู่มากมายขนาดไหนฉันก็จะก้าวข้ามพวกมันไปให้หมดทุกคน!”
จิตวิญาณของทิมได้พลิ้วไหวไปมาตามสายลม แววตาของโรแกนในตอนนี้นั้นดูลึกลับอย่างน่าประหลาด บรรยากาศที่เปลี่ยนไปของโรแกนทําให้ดวงตาของโรเจอร์หดแคบลง
ในเวลานี้เขารู้แล้วว่าน้องชายของเขานั้นเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
“นายอยากจะทําอะไรล่ะ?”
“เหล่าผู้บุกเบิกในยุคก่อนๆนั้นต่างก็วิ่งหาแต่ประวัติศาสตร์ 100 ปีแห่งความว่างเปล่าที่พวกรัฐบาลโลกพยายามปกปิดแต่ฉันคิดว่าแค่นั้นมันยังไม่พอ”
“ประวัติศาสตร์นั้นถูกเขียนโดยผู้ชนะ ภายใต้ความฝันที่ยิ่งใหญ่ผู้ที่อ่อนแอก็จะถูกทิ้งเอาไว้ข้างหลังและจมลึกลงไปในท้องทะเล ในเวลาเดียวกันผู้ชนะก็จะยังคงก้าวเดินต่อไปข้างหน้า”
“ผู้คนกลัวอะไร? โจรสลัดกลัวอะไร? และรัฐบาลโลกกําลังปิดบังอะไรเอาไว้อยู่? ไม่ช้าก็เร็วทุกอย่างจะต้องถูกเปิดเผยต่อหน้าทุกคนบนโลกใบนี้!
“โรเจอร์ , ฉันไม่เคยเป็นคนที่เป็นความหวังให้กับคนอื่นและนั่นก็คือสิ่งที่พวกเราแตกต่างกัน”
“ดังนั้นถ้านายเลือกที่จะพึ่งพาสิ่งที่โลกนี้มีฉันก็จะทําทุกอย่างด้วยมือของฉันเอง!”
โรแกนได้จ้องมองไปที่โรเจอร์และกล่าวออกมาอย่างจริงจัง
ทั้งที่พวกเขาทั้งสองเป็นแค่ผู้ชายปกติธรรมดาคนหนึ่งแต่พวกเขากลับกําลังแบกรับน้ําหนักของโลกใบนี้เอาไว้ด้วยตัวคนเดียว
“ไม่ใช่เล่นเลยนะเนี่ย!”
โรเจอร์ได้กล่าวออกมาด้วยความตกใจ
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเขาจะต้องเจอกับอะไรในอนาคต แต่เมื่อมองไปที่ท่าที่ที่จริงจังของโรแกนเขาก็พอที่จะเดาได้
แม้ว่าเขาจะสามารถพึ่งพาโลกใบนี้เพื่อทําฝันของเขาให้กลายเป็นจริงได้แต่มันก็ยังมีภาระหน้าที่อีกมากมายที่ไม่สามารถจินตนาการได้รอเขาอยู่
“ฉันจะก้าวข้ามนาย!”
เมื่อได้ยินคําพูดนี้ของโรแกนโรเจอร์ก็ได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“ฉันดีใจนะที่ได้ยินแบบนี้”
ในขณะที่พวกเขาทั้งสองกําลังพูดคุยกันอยู่นั้นไรอันเองก็ก่าลังเก็บจิตวิญาณของทิมอยู่
บทสนทนาของพวกเขานั้นมีเพียงแค่พวกเขาเท่านั้นที่เขาใจความหมายของมัน
โรเจอร์รู้สึกขอบคุณโรแกนมากที่เปิดเผยเรื่องราวในอนาคตให้เขาฟังซึ่งมันมากเกินไปสําหรับเขา
มิติแห่งนี้นั้นคือดินแดนที่มิติเวลาแปรปรวนทําให้เมื่อมีคนนอกหลงเข้ามาในที่แห่งนี้พวกเขาจึงไม่ค่อยที่จะบอกกล่าวอะไรที่เกี่ยวกับอนาคตออกมา
แต่อีกเหตุผลหนึ่งที่กลุ่มโจรสลัดโรเจอร์ไม่เคยกล่าวถามเกี่ยวกับอนาคตเลยก็เพราะว่าพวกเขามั่นใจ! พวกเขามั่นใจว่าไม่ว่าจะเป็นอะไรพวกเขาก็จะสามารถข้ามผ่านมันไปได้
สําหรับพวกเขาแล้วการรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับอนาคตก็รั้งแต่จะทําให้พวกเขาคิดมากและเมื่อเป็นแบบนั้นพวกเขาจะทําตามความฝันของพวกเขาได้ยังไง?
“ฉันเตรียมจิตวิญญาณของทิมให้พวกนายเสร็จแล้วนะ”
ไรอันได้ตะโกนขึ้นมาพร้อมกับโบกดอกไม้สองดอกในมือไปมา
“ว่าแต่เมื่อกี้พวกนายสองคนกําลังคุยเรื่องอะไรกันงั้นหรอ?”
“ในเมื่อเตรียมจิตวิญญาณของทิมเสร็จแล้วพวกเราก็ไปเตรียมดอกเจ็ดสีกันต่อเลยดีกว่า”
โรเจอร์ได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มที่สดใสดูเหมือนว่าโรเจอร์จะกลับมาเป็นปกติแล้ว
“ดอกเจ็ดสีนั้นอยู่ในทะเลภายนอก,พวกนายมีเรือไหม?”
ไรอันได้กล่าวถามออกมา
“ต้องมีอยู่แล้วสิ”
โรแกนได้กล่าวตอบออกมาอย่างรวดเร็ว
ในเวลาต่อมาทั้งสามก็ได้แล่นเรือออกไปที่ท้องทะเล, หนึ่งชั่วโมงต่อมารูทดราก้อนก็ได้แล่นมาถึงที่ทะเลภายนอก
“เรือล่านี้ดีกว่าเรือของฉันเยอะเลย!”
โรเจอร์ได้กวาดตามองไปรอบๆและกล่าวชมออกมา
“ต้นแบบของเรือล่านี้นั้นมาจากพิมพ์เขียวของพลูตันที่อยู่ในมือของนายช่างทอมจากเกาะวอเตอร์เซเว่นซึ่งสมรรถภาพโดยรวมของมันนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าพลกันเลยแม้แต่น้อย
โรแกนได้กล่าวอธิบายออกมาอย่างช้าๆ
“นายช่างทอมสุดยอดขนาดนี้เลยงั้นหรอเนี่ย? ดูเหมือนว่าหลังจากออกไปจากที่นี่ได้ฉันต้องให้เขาสร้างเรือสมบัติให้ฉันสักล่าแล้ว”
โรเจอร์ได้กล่าวออกมาด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
แน่นอนว่าถ้าไม่ได้ตาบอดก็จะรู้ว่าสิ่งที่โรแกนต้องการก็คือการบอกกล่าวถึงความสุดยอดของทอมให้โรเจอร์ได้รับรู้
ในตอนนั้นเองโรแกนก็ได้หันไปกล่าวถามเกี่ยวกับดอกเจ็ดสีจากไรอัน
“ดอกเจ็ดสีนั้นเป็นปลาชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในทะเลภายนอกแม้ว่ามันจะหายากแต่มันก็ไม่ได้ยากจนไม่มีทางหาได้ ด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์อันประกอบไปด้วยออร่าแสงเจ็ดสีวงกลมเหนือหัวที่เหมือนกับดอกไม้ทําให้พวกเราสามารถรับรู้ถึงการคงอยู่ของมันได้ในทันที”
เมื่อได้ยินแบบนั้นโรแกนก็ได้หลับตาลงพร้อมกับยกมือขวาขึ้นมาและในเวลาต่อมาตรงมือขวาของโรแกนก็ได้ปรากฏวังวนสีดําขึ้นมาพร้อมกับร่างของวิถีสวรรค์ที่ก้าวเท้าออกมา
เมื่อก้าวเดินออกมาวิถีสวรรค์ก็ได้กระโดดลงไปในท้องทะเลอย่างรวดเร็ว
“นี่นายเก็บคนเอาไว้ภายในร่างกายของตัวเองงั้นหรอ?”
ไรอันนั้นทั้งรู้สึกตกใจและสนใจเป็นอย่างมาก
ดูเหมือนว่าโลกใบนี้ยังมีอะไรอีกมากมายที่เขายังไม่รู้
“นายยังต้องตกใจอีกเยอะ
โรเจอร์ได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
ในขณะที่พวกเขาทั้งสองกําลังประหลาดใจโรแกนก็ได้ลืมตาขึ้นมา
เมื่อดูจากวิสัยทัศน์ของวิถีสวรรค์ทําให้โรแกนรู้ว่าดอกเจ็ดสีนั้นหายากอย่างที่ไรอันกล่าวจริงๆ หลังจากนั้นประมาณสามชั่วโมงวิถีสวรรค์ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาเหนือผิวน้ําพร้อมกับร่างของปลาที่ดิ้นไปมาจากทั้งมือซ้ายและมือขวา
“ไม่ใช่ว่ามีใครบางคนเอาดอกไม้ไปปักเอาไว้บนหัวของพวกมันหรอกใช่ไหม?”
โรเจอร์ได้จ้องมองไปที่ร่างของปลาตัวดังกล่าวและกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ
คอมเม้นต์