เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) – ตอนที่ 116 ท่าทีที่เปลี่ยนไปของหวังเจียเหยา

อ่านนิยายจีนเรื่อง เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) ตอนที่ 116 ท่าทีที่เปลี่ยนไปของหวังเจียเหยา อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

วิลล่าเฝยชุ่ย ณ เมืองเทียนไห่

“ฮ่าๆ… ฮ่าๆ… เย่เฉินลาออกจากตำแหน่งประธานบริษัทแล้ว! เย่เฉินลาออกจากตำแหน่งแล้ว! เขาแพ้แล้ว! เขาแพ้ฉันแล้ว!!”

หลิ่วอวี่เจ๋อหัวเราะร่วนอย่างบ้าคลั่ง เขาและฟางเชาเพิ่งจะดูคลิปแถลงข่าวของบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปจบ

ภาพในคลิปเย่เฉินประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานบริษัทด้วยใบหน้าเศร้าหมอง และประกาศแต่งตั้งฉินหงเหยียนเป็นประธานบริษัทแทนตนเอง

แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเองฟางเชานั้นมีความสุขกว่าหลิ่วอวี่เจ๋อพันเท่าหมื่นเท่า!

ฟางเชากระโดดบนโซฟาห้องรับแขกทั้งๆ ที่สวมรองเท้าอยู่แล้วตะโกนใส่หลิ่วอวี่เจ๋อ

“เจ๋งชิบ! หลิวอวี่เจ๋อนายนี่มันสุดยอดจริงๆ! นายลากเย่เฉินลงจากตำแหน่งประธานบริษัทกลายมาเป็นชาวบ้านธรรมดา! นายนี่มันเจ๋งจริงๆ!”

หลิวอวี่เจ๋อหัวเราะเสียงดัง“นั่นมันแน่อยู่แล้ว”

พวกเขาตีมือกันเพื่อฉลองเหมือนหลิ่วอวี่เจ๋อปล่อยท่าไม้ตายหรือไม่ก็ดังก์บาสในสนามบาสเก็ตบอลไม่มีผิด

เมื่อฉลองกับหลิ่วอวี่เจ๋อได้สำเร็จ ฟางเชาก็คุกข่าบนโซฟาอย่างดีอกดีใจแหงนหน้ามองเพดานแล้วกล่าว

“พ่อครับ เย่เฉินทำให้พ่อเจ๊ง แม่ครับ เย่เฉินหยามเกียรติแม่คืนนั้น ในที่สุดตอนนี้ผมก็แก้แค้นให้พ่อกับแม่ได้แล้ว! พ่อกับแม่เห็นไหมครับ?”

หลิ่วอวี่เจ๋อฟาดฝ่ามือลงมา “อาฉันยังไม่ตายสักหน่อย นายจะตะโกนกับอากาศไปทำไม อยากให้พวกเขารู้ก็โทรหาเขาสิ”

ฟางเชาย่อมต้องโทรหาพ่อแม่เขาอยู่แล้ว แต่ว่าตอนนี้ตระกูลฟางไม่มีเงินแล้ว ต่อให้ล้างแค้นเย่เฉินได้พวกเขาก็อาจจะไม่ได้ดีใจเท่าไหร่นัก

ฟางเชากล่าวกับหลิ่วอวี่เจ๋อ “ตอนนี้คนที่ควรโทรศัพท์น่าจะเป็นนายนะ อวี่เจ๋อ ยังไม่โทรหานังแพศยาหวังเจียเหยาอีก ไม่โอ้อวดหล่อนสักหน่อยละ?”

หลิ่วอวี่เจ๋อผงกศีรษะ “จริงด้วย ผู้หญิงเหลวแหลกคนนั้นตอนนี้จะเป็นของฉันแล้ว! ฮ่าๆ”

ตอนหลิ่วอวี่เจ๋ออยู่ต่อหน้าหล่อนมักจะเรียกหล่อนเป็นนางฟ้า เทิดทูนหญิงสาว แล้วกดตนเองจนมีท่าทีต่ำต้อยดูเหมือนสุนัขเชื่องๆ ของหล่อนไม่มีผิด

ทว่าลับหลังนั้นเรียกหวังเจียเหยาอย่างเหยียดหยาม!

หลิ่วอวี่เจ๋อกดโทรหาหวังเจียเหยา แต่โดนหญิงสาวกดตัดสาย

“กล้าตัดสายฉันเชียวเรอะ?” หลิ่วอวี่เจี๋ยหัวเสีย

ทว่าไม่ถึงสิบวินาที หลิ่วอวี่เจ๋อก็ได้รับวีแชทข้อความหนึ่งจากหวังเจียเหยา “เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะโทรหา!”

“ฮ่าๆ คิดว่าหวังเจียเหยาคงอยู่กับเย่เฉินล่ะมั้ง ถ้างั้นคืนนี้ค่อยพลอดรักกับหล่อนแล้วกัน!”

หลิ่วอวี่เจ๋อยิ้มอย่างลำพองใจก่อนจะเปิดแชมเปญฉลองกับฟางเชา

……

ตึกบริษัทหัวเซิ่งกรุ๊ปในอวิ๋นโจว

หลังจากแถลงข่าวเสร็จและมอบตำแหน่งประธานบริษัทให้ฉินหงเหยียนแล้ว เย่เฉินก็เริ่มเก็บของเพื่อจะออกจากบริษัท

“ขับรถฉันกลับไปเถอะ”

ฉินหงเหยียนส่งเย่เฉินและหวังเจียเหยาที่หน้าลิฟต์แล้วส่งกุญแจพอร์ชให้เย่เฉิน

หล่อนรู้ว่ามายบัคที่เย่เฉินนั่งมาเมื่อเช้าโดนพ่อบ้านฟางยึดไปแล้ว

เย่เฉินผลักมือขาวนวลเนียนของฉินหงเหยียนออก “ขอบคุณครับ แต่ว่าไม่เป็นไรพวกเราเรียกรถกลับก็ได้”

หวังเจียเหยาก้มหน้าก้มตา เพื่อนร่วมงานมากมายในบริษัทต่างก็ออกมาส่ง ถึงทุกคนจะมีเจตนาที่ดีแต่หวังเจียเหยากลับรู้สึกขายหน้าอย่างมาก!

ตอนครั้งแรกที่หล่อนมาถึงบริษัทดูมีหน้ามีตาขนาดไหน ทุกคนต่างก็ชื่นชมหล่อนที่เป็นภรรยาท่านประธานว่าสวดสดงดงามขนาดไหน

แต่ในตอนนี้หล่อนรู้สึกว่าทุกคนกำลังเยาะเย้ยหล่อน!

“คุณเย่เดินทางปลอดภัยนะคะ มีเวลาก็มาเที่ยวหาพวกเรานะ”

พวกโจวหรงหรงโบกมือลาเย่เฉิน

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเย่เฉินดีกับลูกน้องอย่างมากหลังจากที่เขารับตำแหน่งท่านประธานแล้วก็เพิ่มเงินเดือนให้พนักงานไม่น้อย พวกหล่อนจึงชอบหัวหน้าคนนี้มาก

เย่เฉินไม่พูดอะไรอีกเขาขึ้นลิฟต์ลงมาด้านล่างแล้วเดินออกจากบริษัท

หวังเจียเหยาโอดครวญ “จะกลับบ้านยังไง? เหมยกุยหยวนอยู่ไกลจากที่นี่ขนาดนี้ ฉินหงเหยียนให้กุญแจรถนายทำไมไม่รับมาล่ะ? ไม่ได้จะไม่คืนเสียหน่อย”

เย่เฉินกล่าวว่า “คุณชอบนั่งรถแท็กซี่ไม่ใช่เหรอ? ผมเรียกแท็กซี่แล้วกัน”

หวังเจียเหยารีบแย้งทันที “ใครชอบนั่งรถแท็กซี่กัน? ฉันชอบนั่งพอร์ช!”

ตั้งแต่คืนดีกันนี่เป็นครั้งแรกที่หล่อนทำท่าทีเช่นนี้ใส่เขา

เย่เฉินไม่ได้เสียใจแต่อย่างใด ในทางกลับกันเขาดีใจอย่างมาก

เป็นไปอย่างที่คาดว่าทันทีที่หน้าที่การงานของเย่เฉินแย่ลง ท่าทีของหวังเจียเหยาจะต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน

นี่แปลว่าตนเองมาถูกทางแล้ว หวังเจียเหยาจะต้องเป็นฝ่ายของหย่ากับตนเองอย่างรวดเร็ว!

เย่เฉินกล่าวอย่างอ่อนโยน “เมื่อวันก่อนคุณนั่งรถแท็กซี่กลับบ้านตลอดไม่ใช่เหรอ?”

หวังเจียเหยารู้สึกผิดจนไม่กล้าคัดค้านอะไรอีก “นั่งแท็กซี่ก็นั่งแท็กซี่สิ อากาศแย่ๆ แบบนี้ร้อนจะตายอยู่แล้ว”

หวังเจียเหยาหยิบแว่นตากันแดดแบรนด์เจนเทิลมอนสเตอร์ออกมาจากกระเป๋าเพื่อบังแสงแดดให้ดวงตา

แว่นตากันแดดรุ่นนี้เป็นรุ่นเดียวกับที่ดารานิยมใส่ หลังจากที่หล่อนใส่แล้วก็ดูเหมือนดาราสวยมากจริงๆ

ไม่นานแท็กซี่ที่เย่เฉินเรียกก็ขับมาถึงหน้าประตูบริษัท

เป็นรถคันที่หวังเจียเหยาไม่รู้จักยี่ห้อด้วยซ้ำ

หวังเจียเหยาเป็นหญิงสาวที่เกิดในตระกูลร่ำรวย หล่อนรู้จักรถยี่ห้อดีๆ ทุกยี่ห้อเพียงแต่ไม่รู้จักรถที่ผลิตในประเทศที่มีมูลค่าแสนกว่า

หวังเจียเหยามองรถปราดหนึ่งแล้วกล่าว “นายเรียกรถธรรมดามาเหรอ? เมารถ! ฉันไม่นั่งรถแบบนี้”

ทุกครั้งที่หวังเจียเหยาเรียกแท็กซี่ หล่อนก็เรียกแต่รถหรู

หวังเจียเหยากล่าวอย่างโง่งม “เลือกรถได้ไหม? ฉันไม่ค่อยเข้าใจเลย”

เย่เฉินจงใจเรียกรถราคาถูกแบบนี้มาเพราะหวังเจียเหยาเป็นนังแพศยาที่เห็นแก่เงิน!

ปิ๊ปๆ

คนขับรถก็เริ่มเร่งโดยการบีบแตรเมื่อเห็นทั้งสองคนไม่ขึ้นรถเสียที เขาเปิดกระจกแล้วถามคนทั้งสอง “สรุปจะขึ้นรถไหม?”

หวังเจียเหยาพุ่งไปหาคนขับรถ “ไปเถอะ พวกเราไม่นั่งรถแบบนี้หรอก”

จากนั้นหวังเจียเหยาจึงใช้โทรศัพท์ตนเองเรียกรถพรีเมี่ยมมา

“หึ ช่างเป็นผู้หญิงที่เห็นแก่เงินจริงๆ! ขนาดรถแท็กซี่ธรรมดายังไม่อยากนั่ง ยิ่งไม่ต้องหวังให้มาลำบากไปด้วยกัน !”

เย่เฉินตีตราหวังเจียเหยาไปแล้วว่าหล่อนเป็นแค่หญิงสาวที่แค่เป็นคนมีเงินก็สามารถนอนกับหล่อนได้ และขอแค่มีเงินก็สามารถคบหาหล่อนได้

สองวันมานี้เย่เฉินยังกังวลใจเล็กน้อยว่าถ้าหากตนเองโดนขับไล่ออกจากตระกูลแล้ว หวังเจียเหยาจะยังไม่ยอมหย่ากับตนเองแล้วถ้ายอมลำบากไปด้วยกันตนเองจะทำยังไง?

เย่เฉินรักหล่อนขนาดนี้ไม่แน่ว่าอาจจะใจอ่อนแล้วให้อภัยอีกฝ่ายอีกครั้ง!

แต่ตอนนี้เย่เฉินไม่ต้องกังวลเรื่องนี้อีกต่อไป เขาเห็นแล้วว่าหวังเจียเหยาไม่มีทางจะเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะฝ่าฝันอุปสรรคไปพร้อมกับเขา!

ทั้งสองคนนั่งแท็กซี่กลับไปยังวิลล่าที่เขตเหมยกุยหยวน ทันทีที่เข้าในบ้านซูหลานก็ถือแก้วชาลาเวนเดอร์มะนาวเดินมาหาเย่เฉิน

“เสี่ยวเฉินกลับมาแล้วเหรอจ๊ะ? วันนี้ทำไมกลับเช้าแบบนี้? เมื่อกี้แม่เพิ่งรับสายจากหวังเจียเหยารู้ว่าพวกเธอจะกลับบ้านกันก็รีบชงชาให้เลย นี่คือชาลาเวนเดอร์มะนาว หวังเจียเหยาบอกว่าสองวันมานี้เธอรู้สึกพะอืดพะอมบ่อยๆ บางครั้งจูบกันยังอยากอ้วกเลย แม่ถามเพื่อนมาพวกหล่อนบอกว่าชานี้ช่วยลดความขยะแขยงได้ มาลองสิเร็ว”

“ขอบคุณครับแม่”

เย่เฉินรับแก้วชาแล้วคิดในใจ “คนที่ทำให้ผมรู้สึกขยะแขยงก็คือลูกสาวคุณ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ชาจะช่วยให้หายได้!”

ทว่าเย่เฉินกำลังจะดื่มชานั้นเอง หวังจื้อหย่วนที่นั่งอยู่ด้านข้างก็เปิดปากถามขึ้น “เสี่ยวเฉินอย่าเพิ่งดื่มชา พ่อถามอะไรหน่อย”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด