เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) – ตอนที่ 317 แอบฟังบทสนทนาระหว่างสวี่ฉู่หมิงและฉินหงเหยียน!

อ่านนิยายจีนเรื่อง เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) ตอนที่ 317 แอบฟังบทสนทนาระหว่างสวี่ฉู่หมิงและฉินหงเหยียน! อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 317 แอบฟังบทสนทนาระหว่างสวี่ฉู่หมิงและฉินหงเหยียน!
“สวี่ฉู่หมิง กล้านอนกับผู้หญิงของคุณชายเย่เชียวเหรอ! ยังกล้าพูดออกมาหน้าตาเฉย! เบื่อชีวิตแล้วสิ!”

หลิวเจิ้งคุนและซีกวาเดือดจนควันออกหู

ส่วนเย่เฉินเมื่อฟังจบ ก็ทนไม่ไหวเขาประเคนหมัดเข้าหน้าสวี่ฉู่หมิงทันที!

ผลัวะ!

เย่เฉินต่อยเข้าโครมจนแว่นตาของคนที่สูงวัยกว่าร่วงลงบนพื้น!

จากนั้นเย่เฉินก็คว้าเสื้อเชิ้ตอีกฝ่ายแล้วตะคอกใส่อีกฝ่ายอย่างดุดัน

“สวี่ฉู่หมิงไม่ไปลองส่องกระจกดูหน้าแย่ๆ ของตัวเองดูหน่อย หน้าตาห่วยๆ แบบนี้เนี่ยนะจะสวมเขาให้ผมได้? ไม่สำเหนียกตัวเองเลย ถุย!”

เย่เฉินไม่เชื่อที่เขาพูดว่าเคยนอนกับฉินหงเหยียนด้วยซ้ำไป

ถ้ามองจากในแง่ของเสน่ห์ที่มีกับเพศตรงข้าม ระหว่างพวกเขาสองคนแล้ว สวี่ฉู่หมิงสู้เย่เฉินไม่ได้แม้แต่ปลายนิ้ว

เหมือนกับผู้ชายที่ไม่ว่ายังไงก็ชอบผู้หญิงอายุ 18 ปี ผู้หญิงเองก็ไม่มีทางชอบผู้ชายแก่ๆ เหมือนกัน

บางทีพวกหล่อนก็คงจะชอบผู้ชายแก่ๆ ตอนยังเป็นสาววัยแรกแย้ม แต่พออายุ 30 หล่อนก็ชอบผู้ชายอายุน้อยร่างกายแข็งแรง

คิดไม่ถึงว่าสวี่ฉู่หมิงคนนี้จะโอ้อวดว่าตนเองสวมเขาให้เย่เฉิน ช่างไม่รู้จักประมาณตัวจริงๆ!

ไม่ใช่เย่เฉินดูถูกเขา แต่สวี่ฉู่หมิงไม่มีความสามารถนี้จริงๆ!

จะต้องมีสาเหตุอื่นที่สวี่ฉู่หมิงพูดไม่ได้แน่นอน!

และในตอนที่เย่เฉินอยากจะเค้นถามสวี่ฉู่หมิงนั้นเอง ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น จากนั้นก็มีตำรวจในเครื่องแบบสองคนเดินเข้ามา

“พวกคุณทำอะไรกัน ทะเลาะวิวาทกันเหรอ รีบหยุดเลย!”

ตำรวจเห็นเย่เฉินคว้าคอเสื้อสวี่ฉู่หมิงก็รีบตะโกนห้าม

ซีกวารีบร้อนเดินมาแล้วหัวเราะ “มิได้ครับ มิได้ พวกเขาสองคนหยอกล้อกัน ไม่ได้วิวาทกันครับ”

เย่เฉินรู้ว่าในเมืองเสินเฉิง ไม่ว่าจะเส้นสายหรือว่าคอนเนคชั่น เย่เฉินไม่อาจสู้กับสวี่ฉู่หมิงได้เลย

วันนี้หากว่าจะดึงดันเอาชนะอีกฝ่ายเกรงว่าไม่ใช่เรื่องง่าย

ดังนั้นเย่เฉินถึงยอมคลายมือปล่อยอีกฝ่าย จากนั้นก็ก้มตัวลงไปเก็บแว่นตาของอีกฝ่ายที่หล่นลงบนพื้นขึ้นมา

“ชิ” สวี่ฉู่หมิงแค่นเสียง เมื่อเห็นเย่เฉินยอมก้มลงไปเก็บบุหรี่ให้เขาแต่โดยดีก็รู้เลยว่าอีกฝ่ายยอมอ่อนข้อให้เขาแล้ว!

แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่าตอนที่เย่เฉินก้มลงไปเก็บแว่นตานั้น มือขวาของเขาแอบล้วงเครื่องดักฟังที่มีขนาดประมาณเมล็ดถั่วเขียวในกระเป๋าเสื้อซ้ายซ่อนไว้ในง่ามนิ้ว

เย่เฉินเป็นฝ่ายสวมแว่นตาให้สวี่ฉู่หมิง จากนั้นยังแสร้งช่วยจัดสูทให้เขา แต่ความจริงแล้วเขากำลังแอบใส่เครื่องดักฟังที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกเข้าไปในกระเป๋าเสื้อสูทของอีกฝ่าย

จากนั้นเย่เฉินก็กล่าวพลางระบายยิ้ม “คุณตำรวจครับ ผมแค่หยอกคุณสวี่เท่านั้นเอง”

และตอนนี้เย่เฉินก็เป็นฝ่ายกุมความผิดของลูกสาวสวี่ฉู่หมิงเอาไว้ ดังนั้นเขาย่อมไม่กล้าพูดว่าเย่เฉินทำร้ายร่างกายเขา

สวี่ฉู่หมิงตอบ “เย่เฉิน ฉินหงเหยียนเลือกแล้ว อย่างไรเสียนายก็เป็นถึงประธานบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ เป็นคนใหญ่โตโด่งดังในวงการธุรกิจ หวังว่านายจะรู้ตัว อย่าทำพฤติกรรมเหมือนเด็กแบบนี้เลย!”

พูดจบสวี่ฉู่หมิงก็หันมองตำรวจทั้งสองคนแล้วกล่าว “คุณตำรวจครับ ต้องขอบคุณทุกท่านมากนะครับ เราไม่เป็นอะไรแล้วครับ ผมกลับไปพร้อมพวกคุณแล้วกัน”

หลังจากที่สวี่ฉู่หมิงเดินกลับไปกับตำรวจแล้ว ซีกวาก็สาวเท้าเดินไปหาเย่เฉิน “คุณชายเย่ ตอนนี้จะทำยังไงดี? สวี่ฉู่หมิงนี่ฉลาดเป็นกรด มีคนจำนวนตั้งมากคอยปกป้องเขา คราวหน้าเราสองคนน่าจะจับเขาไม่ได้แล้ว”

เย่เฉินกล่าวเสียงเรียบ “จับเขามาก็ไม่มีประโยชน์หรอก เขาไม่มีทางบอกความจริงกับฉัน แต่ฉันแอบหย่อนเครื่องดักฟังลงไปในกระเป๋าสูทเขา อีกเดี๋ยวเขาจะบอกฉันเอง!”

เย่เฉินเชื่อว่า จิ้งจอกเฒ่าแบบสวี่ฉู่หมิงต่อให้เค้นถามยังไงเขาก็ไม่มีทางพูดแน่ๆ

ไม่สู้แอบฟังเขาดีกว่า แบบนี้อาจจะได้ความจริงมากกว่า!

หลังจากนั้นเย่เฉินและพวกหลิวเจิ้งคุนต่างก็กลับไปพักผ่อนที่ห้อง เย่เฉินจัดแจงเปิดโปรแกรมของเครื่องแอบฟังในคอมพิวเตอร์ แล้วใส่หูฟังเพื่อเริ่มดักฟังสวี่ฉู่หมิง!

“เกล็ดหิมะโปรยปราย ลมวสันต์พัดผ่าน ผืนฟ้าที่เวิ้งว้าง”

ในหูฟังของเขามีเสียงเพลงดังลอดออกมาเบาๆ และยังมีเสียงลมคลอมาด้วย

เย่เฉินเดาว่า สวี่ฉู่หมิงในตอนนี้น่าจะยังอยู่บนรถ

เครื่องดักฟังรุ่นนี้ยังสามารถบอกตำแหน่งได้ด้วยในเวลาเดียวกัน จากตำแหน่งของสวี่ฉู่หมิงที่ปรากฏขึ้นในคอมพิวเตอร์ก็เห็นว่าเขากำลังเคลื่อนที่

อีกทั้งทิศทางที่เขากำลังจะมุ่งหน้าไปนั้นก็คือวิลล่าอ้ายฉินไห่ซานจวง

ถ้าเย่เฉินทายถูก สวี่ฉู่หมิงน่าจะกำลังจะไปหาฉินหงเหยียน

และเป็นไปตามคาดไม่นานหลังจากนั้น เขาก็ได้ยินเสียงลอดมาจากในหูฟัง “หงเหยียน”

“คุณกลับมาแล้วเหรอ” ฉินหงเหยียนกล่าวเสียงเย็นชา ไม่ได้มีความสนิทสนม อ่อนหวานเหมือนคู่สามีภรรยาที่เจอหน้ากัน

“อ้อ” สวี่ฉู่หมิงรับคำ “ฉันได้ยินเรื่องของโม่โม่แล้ว หงเหยียนขอโทษด้วยนะ ลูกสาวฉันคนนี้เหลวไหลจริงๆ หล่อนกลัวว่าที่เธอแต่งกับฉันเพราะอยากได้เงินฉันน่ะ แต่ไม่ได้รู้เลยว่าเราสองคนเซ็นสัญญาตกลงกันเอาไว้ ถึงจะหย่าเธอก็จะไม่ได้ทรัพย์สมบัติใดๆ ของฉัน ก่อนจะมาฉันจัดการบอกเรื่องนี้กับโม่โม่แล้ว เธอวางใจเถอะนะ ต่อไปหล่อนจะไม่มายุ่งกับเธอแล้วล่ะ”

ได้ยินแบบนี้เย่เฉินก็งุนงง

คิดไม่ถึงว่าทั้งสองคนนั้นเซ็นสัญญาก่อนแต่งงานกันด้วย? ฉินหงเหยียนจะไม่ได้ทรัพย์สมบัติใดๆ ของอีกฝ่าย

เช่นนั้นแล้วฉินหงเหยียนจะแต่งงานกับสวี่ฉู่หมิงไปทำไมกัน!

หญิงสาวแรกรุ่นแต่งงานกับคนแก่มีเพียงจุดประสงค์เดียวนั้น นั่นคือเพื่อเงิน คนอย่างสวี่ฉู่หมิงนอกจากเงินแล้วจะมีข้อได้เปรียบอะไรอีก!

“อือ” ฉินหงเหยียนตอบเสียงแผ่ว

สวี่ฉู่หมิงเงียบไปครู่หนึ่งแล้วกล่าว “เมื่อครู่ฉันไปเจอเย่เฉินมา”

ฉินหงเหยียนถาม “เขา…เขาได้ถามถึงฉันไหม?”

สวี่ฉู่หมิงตอบ “ถามสิ เอาแต่เซ้าซี้ซักไซ้ฉันว่าพูดอะไรกับเธอ เธอถึงได้เลิกกับเขา”

ฉินหงเหยียนถามต่อ “แล้วคุณพูดว่ายังไง”

อีกฝ่ายตอบ “ก็บอกไปว่าเราสองคนรำลึกอดีตกัน แล้วเผลอใจนอนด้วยกัน แล้วเธอเลยขอเลิกกับเขา ”

ฉินหงเหยียนแหวทันที “เราไม่ได้ทำอะไรกันชัดๆ ทำไมคุณต้องพูดแบบนั้น?”

สวี่ฉู่หมิงตอบ “ถ้าฉันไม่พูดแบบนี้ เขาจะยอมถอดใจเรื่องเธอได้ยังไง?”

ฉินหงเหยียนซักต่อ “แล้วเขาเชื่อไหม?”

สวี่ฉู่หมิงส่ายหน้า “ไม่สิ แถมยังต่อยฉันอีกหนึ่งหมัด บอกว่าฉันไม่มีปัญญาจะสวมเขาให้เขาได้ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้มั่นอกมั่นใจอะไรขนาดนี้!!”

ฉินหงเหยียนอดหัวเราะไม่ได้ หญิงสาวอธิบาย “เพราะว่าเมียเก่าเขาเคยนอกใจเขา หลอกลวงเขา ดังนั้นตอนที่ฉันกับเขาคบหากันเคยให้สัญญากับเขาเอาไว้ว่าจะไม่มีทางหลอกลวงเขา ถ้าฉันทรยศเขาจริงๆ จะเป็นฝ่ายสารภาพกับเขาเอง เขาเข้าใจนิสัยฉัน ถ้าหากว่าเป็นเพราะเรื่องนี้จริงๆ ฉันคงบอกเขาไปนานแล้ว”

สวี่ฉู่หมิงเข้าใจทุกอย่างทันที “ที่แท้ก็เพราะสาเหตุนี้”

ฉินหงเหยียนเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายเขียวคล้ำไปน้อยๆ “เดี๋ยวฉันประคบน้ำแข็งให้แล้วกัน”

สวี่ฉู่หมิงตอบ “อืม”

ฉินหงเหยียนนั่งประคบน้ำแข็งบนใบหน้าสวี่ฉู่หมิงให้เขาบนโซฟา สวี่ฉู่หมิงมองหญิงสาวเงียบๆ ก่อนจะกล่าว “หงเหยียน ได้ยินมาว่าโม่โม่วางยาเธอ ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม?”

ฉินหงเหยียนตอบ “ไม่เป็นไรแล้วค่ะ”

สวี่ฉู่หมิงผ่อนลมหายใจยาว “เฮ้อ นังหนูคนนี้เลอะเลือนจริงๆ เธอว่าถ้ามีวันนั้นเย่เฉินไม่โผล่ขึ้นมาให้ทันเวลา เธอโดนหมอนั่นข่มขืน จะทำยังไง? แต่ว่าหงเหยียน ต่อให้เกิดเรื่องนี้จริงๆ ฉันก็จะแต่งงานกับเธออยู่ดี”

เย่เฉินที่กำลังแอบฟังอยู่ก็ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพึมพำ “ตาแก่สวี่ฉู่หมิงปลอบสาวเก่งจริงๆ นะ! คิดว่าทำแบบนี้จะเหมือนรักหงเหยียนมากเลยล่ะสินะ? คิดว่าจะมองข้ามเปลือกนอกทั้งหมดได้หรือไง? เรื่องนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นจะพูดยังไงก็ได้ทั้งนั้น!”

เย่เฉินไม่รู้เลยว่าคำพูดนี้ของอีกฝ่ายทำให้หญิงสาวซาบซึ้งใจหรือไม่!

จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงของสวี่ฉู่หมิงดังขึ้นอีกครั้ง

เขากล่าวว่า “หงเหยียน ขอฉันจูบเธอได้ไหม?”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด