เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) – ตอนที่ 400 ฉินหงเหยียนให้ของขวัญคู่แต่งงาน!

อ่านนิยายจีนเรื่อง เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) ตอนที่ 400 ฉินหงเหยียนให้ของขวัญคู่แต่งงาน! อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 400 ฉินหงเหยียนให้ของขวัญคู่แต่งงาน!

ที่เย่เฉินไม่ได้ให้สร้อยเส้นนี้กับอีกฝ่ายแต่แรก นั่นเพราะเขาอยากจะมอบสร้อยที่ราคาแพงที่สุดในโลกเส้นนี้ให้ฉินหงเหยียน!

ฉินหงเหยียนเป็นผู้หญิงที่เขารัก แล้วก่อนหน้านี้เย่เฉินยังเคยให้ตุ้มหูที่ราคาแพงที่สุดในโลกให้หญิงสาว

ถ้าหากใส่กับสร้อยที่แพงที่สุดในโลกเส้นนี้ คงจะทำให้หญิงสาวสวยจนเหมือนเป็นนางฟ้า…

และแน่นอนว่าด้วยบุคลิกสูงส่งและใบหน้าที่สะสวยของหญิงสาว หล่อนสามารถดึงความงดงามของสร้อยเส้นนี้ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เย่เฉินยิ้มขณะมองซูมู่ชิง เขาจับมือหล่อนเพื่อประคองลงเวที

แต่ในเวลานี้เองบริเวณประตู จู่ๆ ก็มีพนักงานส่งของคนหนึ่งพรวดพราดเข้ามา

มือเขาถือกล่องของขวัญที่ถูกห่ออย่างประณีตประจง และเถียงกับยามหน้าประตู

“ขอโทษด้วยนะครับ ไม่มีบัตรเชิญจะเข้างานไม่ได้ เอาของวางไว้ตรงนี้เถอะ”

พนักงานส่งของกล่าว “รบกวนช่วยอะลุ่มอล่วยเถอะนะครับ ลูกค้าให้เงินผมหนึ่งหมื่นแล้วย้ำแล้วย้ำอีก บอกว่าจะต้องมอบของขวัญชิ้นนี้ให้คู่บ่าวสาวด้วยตัวเอง”

เย่เฉินรู้สึกสนิทชิดเชื้อกับพนักงานส่งของของบริษัทไป๋ลี่ เขาจึงหันไปบอกซีกวา

“ให้พนักงานคนนั้นเข้ามาเถอะ”

ซีกวาไปกล่าวกับยาม “ให้เขาเข้ามา!”

จากนั้นพนักงานส่งของก็เดินไปตรงหน้าซูมู่ชิงและเย่เฉินอย่างรวดเร็วแล้วกล่าวถาม

“สอบถามหน่อยครับว่าท่านทั้งสองคนคือคุณเย่เฉินและคุณซูมู่ชิงบ่าวสาวที่แต่งงานในวันนี้ใช่ไหมครับ”

เย่เฉินและซูมู่ชิงพยักหน้ารับอย่างประหลาดใจ

พนักงานส่งของกล่าว “นี่คือของขวัญวันแต่งงานที่มีคนฝากมาให้ครับ บอกว่าขอให้คุณรักกันจนแก่เฒ่า สมัครสมานสามัคคี”

เย่เฉินและซูมู่ชิงประสานสายตากัน พวกเขาไม่รู้ว่าใครใช้วิธีแปลกๆ แบบนี้เอาของขวัญมาให้พวกเขา

งานแต่งงานครั้งนี้ ตระกูลซูจงใจลดระดับแขกในงานแต่งงานลง ขอแค่รู้จักกันก็เข้ามาได้ทั้งนั้น

ต่อให้ไม่รู้จักแบบหวังเจียเหยา จ่ายเงินนิดหน่อยก็ได้บัตรเชิญมาแล้ว

แต่ก็ไม่น่าจะมีคนที่อยากจะมาร่วมอวยพรแต่ไม่มางานแล้วส่งของขวัญมาแบบนี้

ทว่าเย่เฉินก็รับเอื้อมมือมารับของขวัญชิ้นนี้ เปิดกล่องสีแดงออก แล้วเย่เฉินก็เห็นกล่องที่คุ้นเคย

วินาทีที่เห็นกล่องนี้เย่เฉินและซีกวาก็ชะงักไป!

“กล่องใบนี้คือ…”

เย่เฉินและซีกวารู้ได้ทันทีว่าของด้านในคืออะไร!

“ไม่นะ…”

เย่เฉินตึงเครียด!

เขาเปิดกล่องแสนสวยใบนี้ทันทีและเป็นไปอย่างที่คิดจริงๆ ของสองชิ้นในนั้นคือของที่เขาคิดเอาไว้!

มันคือ blue Apollo และ pink Artemis!

ตุ้มหูเพชรสีที่แพงที่สุดในโลก!

นี่คือของที่เขาให้ฉินหงเหยียน!

“หงเหยียน…”

เย่เฉินไม่อาจสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้ได้ เขารู้ว่าตุ้มหูคู่นี้อยู่ติดตัวฉินหงเหยียนตลอด

ฉินหงเหยียนเป็นคนส่งมา!

“ขอโทษด้วย ขอผมดูหน่อยสิ!”

ในทันทีที่ผู้บริหารของบริษัทฟ่านสือคนเดิมเห็นตุ้มหูเพชรคู่นี้ ตาก็เบิกกว้าง แล้วรีบถลามาดูเพชรสองเม็ดนี้เพื่อยืนยันมั!

เย่เฉินเองก็อยากให้เขาช่วยพิสูจน์ให้หน่อย

ถ้าหากว่าเป็นเรื่องจริงละก็แปลว่าตุ้มหูเพชรคู่นี้ ฉินหงเหยียนเป็นคนส่งมา!

หลังจากที่ผู้บริหารบริษัทจิลเวอรี่ท่านนี้ตรวจสอบโดยละเอียดแล้วก็ชื่นชมไม่ขาดปาก

“สวรรค์ทรงโปรด! เป็นเพชรสองเม็ดนั้นจริงๆ ด้วย! นี่คือตุ้มหูเพชรที่แพงที่สุดในโลก เพชรสองเม็ดบวกกันแล้วมีราคาเกิน 700 ล้าน!”

“ใครมีเงินเยอะจนให้ของขวัญแพงขนาดนี้นะ?”

เป็นของจริงจริงๆ ด้วย!

ทันใดนั้นเย่เฉินก็เหลือบไปเห็นกระดาษโน้ตใบน้อยๆ ด้านล่างกล่อง เย่เฉินจึงหยิบออกมา

แล้วจึงเห็นอักษรบนกระดาษ

“เย่เฉิน สุขสันต์วันแต่งงาน!”

ทั้ง 7 อักษรนี้งดงาม พริ้วไหว เป็นลายมือของตัวฉินหงเหยียนเอง!

“หงเหยียน!”

เย่เฉินด่าตนเอง ไม่รู้ว่าน้ำตามาจากไหนไหลลงหยดใส่กระดาษแผ่นนี้

ซูมู่ชิงและหวังเจียเหยาชะงักไป

คิดไม่ถึงว่าเย่เฉินร้องไห้?

ลูกผู้ชายอกสามศอกแบบเย่เฉินเคยโดยรังแกมาก็มาก แต่เขาไม่เคยร้องไห้มาก่อน

แล้วทำไมถึงได้ร้องไห้เพราะของขวัญชิ้นเดียว?

“นี่ เจ้าบ่าวร้องไห้ทำไม?”

“แม่ง ถ้าเป็นฉันได้ของขวัญราคาขนาดนี้ก็ร้องไห้เหมือนกัน!”

คนทั่วๆ ไปจะรู้ไปรู้ได้ยังไงว่าที่เขาร้องไห้เป็นเพราะของชิ้นนี้มาจากฉินหงเหยียน!

เย่เฉินหยิบกระดาษโน้ตที่เขียนว่าสุขสันต์วันแต่งงานแผ่นนั้น ดวงตาค่อยๆ พร่าเบลอ มือสองข้างสั่นระริก

“หงเหยียน ทำไมคุณต้องไปด้วย…”

เย่เฉินจึงได้รู้ว่าตอนนี้ฉินหงเหยียนปลอดภัย แล้วหล่อนก็รู้ว่าตนเองแต่งงานแล้ว

แต่ทางที่ฉินหงเหยียนเลือกนั้นไม่ใช่การขัดขวาง แต่เป็นการอวยพร หล่อนอยากให้เย่เฉินได้ครองรักกับซูมู่ชิง!

“ทำไม…”

และในเวลานี้ซูมู่ชิงเองก็หยิบทิชชู่ที่ซวงเอ๋อร์ให้มา เช็ดน้ำตาให้เย่เฉินด้วยตนเองแล้วกล่าวถามเสียงแผ่ว

“ที่รัก ใครส่งมาคะ?”

เย่เฉินไม่อยากบอกหญิงสาวจึงตอบ “แม่ผมเอง”

หวังเจียเหยาโกรธจนจะประสาทเสีย “แม่ของเย่เฉินเป็นอะไร? ลูกชายตัวเอจะแต่งเข้าแต่กลับให้ตุ้มหูราคาเจ็ดร้อยล้านมา ตอนนั้นที่เขาแต่งเข้าตระกูลหวังเรา ไม่เห็นจะให้ของอะไรสักชิ้นเลย! แล้วปล่อยให้เขาเกาะตระกูลหวังกินตั้งสามปี!”

ซูมู่ชิงก่อนหน้านี้ได้สร้อยคอที่แพงที่สุดในโลกก็ทำให้หวังเจียเหยาริษยาอย่างที่สุดแล้ว

ตอนนี้ตุ้มหูเพชรที่แพงที่สุดในโลกก็อยู่ในครอบครองของซูมู่ชิง หวังเจียเหยาเองก็อิจฉาจนจะเป็นบ้าแล้ว!

ซูมู่ชิงดีใจอย่างมาก “ที่แท้แม่ก็ให้มานี่เอง ตุ้มหูเพชรเม็ดนี้สวยจังเลยแล้วยังมีตั้งสองสีด้วย ที่รัก ช่วยใส่ให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ?”

เย่เฉินปาดน้ำตาลวกๆ แล้วกล่าว “ได้สิ”

เย่เฉินใช้มือหยิบเพชรสีฟ้าเม็ดนั้นขึ้นมาเบาๆ เขาถึงขนาดรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของฉินหงเหยียนที่อยู่บนนั้น

เขาจินตนาการถึงท่าทางตอนที่หญิงสาวถอดมันออก!

เขายืนนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วเย่เฉินก็จัดการสวมมันไว้บนหูของซูมู่ชิง

จากนั้นเขาก็เอาเพชรสีชมพูออกมาสวมบนหูอีกข้างของหญิงสาว

และในเวลานี้เองทุกคนต่างก็พร้อมใจกันหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพหญิงสาวจนแสงแฟลชวูบวาบ!

คิดไม่ถึงว่าจิลเวอรี่ราคา 2,100 ล้านจะประโคมอยู่บนตัวซูมู่ชิง!

ผู้หญิงที่เห็นแก่เงินเห็นแล้วก็ริษยาจนแทบกระอักเลือด!

ในวินาทีนี้เองเมื่อเห็นตุ้มหูเพชรบนหูซูมู่ชิง เย่เฉินเองก็เหมือนเห็นภาพฉินหงเหยียนซ้อนทับขึ้นมา

บางทีอาจเพราะเขาคิดถึงฉินหงเหยียน ดูไปดูมา เย่เฉินก็เห็นเจ้าสาวเป็นฉินหงเหยียน!

รอยยิ้มของหญิงสาวก็กลายเป็นรอยยิ้มของฉินหงเหยียน!

“หงเหยียน…”

เย่เฉินละเมอ สาวเท้าเดินไปด้านหน้าแล้วจุมพิตหญิงสาว!

ซูมู่ชิงประหลาดใจเล็กนน้อยแต่ก็มีความสุขอย่างรวดเร็ว

บรรดาแขกเหรื่อในงานต่างก็ร่วมกันปรบมือ

ส่วนหวังเจียเหยาเองก็โมโหจนกระทืบพื้นเร่าๆ “เย่เฉินนายทำเกินไปแล้วนะ งานแต่งงานฉันคราวหน้า ถ้านายมาก่อเรื่องฉันจะจูบผู้ชายคนอื่นให้นายดู! ฉันจะให้นายโมโหจนบ้าเลย!”

และในเวลานี้ก็มีหญิงชายอายุประมาณ 30 ปีท่าทางร่ำรวยคู่หนึ่ง จู่ๆ ก็ปรากฏกายขึ้นที่หน้าประตู

“คุณผู้หญิง คุณผู้ชาย มีบัตรเชิญไหมครับ?” คนหน้างานเอ่ยถาม

ชายวัยกลางคนกล่าว “ไม่มี”

“งั้นต้องขอโทษด้วยนะครับ ถ้าไม่มีบัตรจะเข้าไม่ได้”

คนที่เฝ้าหน้างานเองก็มีมารยาทอย่างมาก เพราะเขาพอจะมองเห็นกลิ่นอายของพลังอำนาจที่แผ่ออกมาจากร่างกายของอีกฝ่าย

ส่วนผู้หญิงข้างๆ เขาดูสูงส่งและสวยมากๆ!

ชายคนนั้นกล่าว “น้องชายของฉันจะแต่งงาน ฉันเป็นพี่ชาย ต้องมีบัตรเชิญถึงจะเข้างานได้เหรอ?”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด