The Soul Purchasing Pirate – บทที่ 373: ได้เวลาแล้ว!
S.PP: บทที่ 373: ได้เวลาแล้ว!
“มันก็แค่ต้องรออีกหน่อยเองคริกเกต”
โรแกนได้กล่าวออกมาอย่างช้าๆ
ตัวเขานั้นไม่ได้รีบร้อนอะไรอยู่แล้ว ดีซะอีกจะได้ถือโอกาสให้พวกลูกเรือฝึกหัดและลูกเรือของเขาได้ทําความรู้จักกัน
เนื่องจากยังไม่มีน็อคอัพสตรีมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมา พวกเขาจึงยังคงพักอยู่ที่บ้านของคริกเกตดังเดิม
ในขณะนี้โรแกนนั้นก่าลังนั่งสมาธิอยู่บนหัวเรือ พร้อมกับซึมซับประสบการณ์การต่อสู้ที่ได้จากมิฮอร์คอยู่อย่างเงียบๆ
เขานั้นไม่ได้รับแนวทางของวิถีดาบอย่างมิฮอร์คหรือตระหนักถึงพลังอํานาจที่แปลกใหม่แต่อย่างใด สิ่งที่เขาได้รับกลับมานั่นมันคือประสบการณ์ในการต่อสู้ที่ลึกซึ้ง
ในเวลานี้ภายในหัวของโรแกนนั้นมีภาพการปะทะกันของเขา และมิฮอร์คฉายซ้ําไปมาครั้งแล้วครั้งเล่า
วันเวลาได้ไหลผ่านไปอย่างรวดเร็วเพียงพริบตาเดียว มันก็ผ่านมาห้าวันแล้วนับตั้งแต่ที่พวกเขาแล่นเรือมาถึงที่นี่
ในช่วงห้าวันที่ผ่านมานี้คริกเกตนั้นได้ทําการตรวจสอบ และวิเคราะห์เกี่ยวกับน็อคอัพสตรีมที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างขยันขันแข็ง
เพราะเขาเชื่อว่าคนกลุ่มนี้จะต้องขึ้นไปยังเกาะแห่งท้องฟ้าได้อย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงตั้งใจช่วยเหลือพวกเขาอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นการช่วยเหลือพวกเขาและสานต่อเจตนารมณ์ที่มีมาตั้งแต่ในอดีตของบรรพบุรุษของเขา
เมื่อถึงพลบค่ําของวันที่ห้าคริกเกตก็ได้ตรวจพบความผิดปกติบางอย่างบนผิวทะเลที่อยู่ห่างออกไปจากเกาะจายา
ที่กันทะเลในบริเวณดังกล่าวได้ปรากฏฟองอากาศขึ้นมาเป็นจํานวนมาก
“เป็นความถี่ในการสั่นสะเทือนที่รุนแรงมาก!”
คลิกเกตดูจะตกใจไม่น้อยกับแรงสั่นสะเทือนที่สัมผัสได้
ในตอนนั้นเองคริกเกตก็ได้ว่ายน้ําไปตรงบริเวณที่ปรากฏฟองอากาศขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
ในขณะที่เขากําลังว่ายเข้าไปในบริเวณนั้นฟองอากาศก็ได้ผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
สามนาทีต่อมาแววตาของคริกเกตก็ได้ปรากฏความตื่นเต้น
“ด้วยแรงสั่นสะเทือนระดับนี้มันจะต้องมุ่งตรงไปถึงเกาะแห่งท้องฟ้าได้อย่างแน่นอน”
ในตอนนั้นเองเขาก็ได้ดําน้ําลงไปเพื่อคํานวณระยะเวลาที่มันจะปะทุขึ้นมา
แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็กําลังจะขาดอากาศหายใจ ทําให้เขาต้องรีบว่ายน้ํากลับอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
หลังจากกลับมาถึงเกาะจายาเขาก็ได้วิ่งเข้าไปหาโรแกนด้วยความตื่นเต้น
“พวกนายฉันเจอมันแล้ว!”
โรแกนและคนอื่นๆได้จ้องมองมาที่เขาเป็นตาเดียว
“ในตอนนี้ที่ทางตอนเหนือของเกาะจายาห่างออกไปประมาณ 15 ไมล์ได้ปรากฏปฏิกิริยาการไหลเวียนของกระแสน้ําและกระแสลมที่รุนแรงอยู่ และฉันเชื่อว่าเมื่อไหร่ที่มันปะทุขึ้นมาเป็นน็อคอัพสตรีมมันจะต้องส่งพวกนายไปที่เกาะแห่งท้องฟ้าได้อย่างแน่นอน!”
คริกเกตได้ตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น
ร่างกายของเขานั้นกําลังสั่นสะท้านสิ่งนี้มันเกิดขึ้นมาจากความตื่นเต้น มันเป็นความตื่นเต้นที่อัดอั้นมาเป็นเวลานาน!
“อีกนานขนาดไหน?”
โรแกนได้กล่าวถามออกมาด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย
“เรื่องนี้ฉันยังไม่แน่ใจ แต่ฉันรู้ถึงตําแหน่งที่แน่นอนของมันแล้ว”
ในตอนนั้นเองคริกเกตก็ได้ซื้ออกไปที่ทะเลทางตอนเหนือ
ในตอนนี้สิ่งที่พวกเขารอคอยก่าลังจะมาถึงแล้ว เมื่อไหร่ที่มันปะทุขึ้นมาพวกเขาก็จะได้ไปยังเกาะแห่งท้องฟ้าอันเป็นสถานที่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความน่าค้นหา
ไม่แน่ที่นั้นอาจจะมีเทพเจ้าอยู่จริงๆก็ได้
“นี่มันยอดไปเลย!”
ชาร์โปลอสและไดน่าได้กระโดดขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น
หลังจากบอกข่าวดีกับทุกคนเสร็จคริกเกตก็ได้ไปเติมออกซิเจนให้กับชุดดําน้ําของเขาเพื่อที่จะไปตรวจสอบทุกอย่างให้เสร็จสมบรูณ์ในทันที
ในครั้งนี้คร็กเกตสามารถระบุเวลาที่แน่นอนของมันได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“อีกสามวันหลังจากนี้!”
คริกเกตได้กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ
“มันน่าจะปะทุขึ้นมาในเวลา 9 โมงเช้าของอีกสามวันข้างหน้า และฉันเชื่อว่ามันจะต้องส่งพวกนายขึ้นไปที่เกาะแห่งท้องฟ้าได้อย่างแน่นอน”
ในตอนนี้คริกเกตได้ทําการบังคับรูทดราก้อน เพื่อพาพวกโรแกนมายังบริเวณดังกล่าว
เมื่อพวกเขาจ้องมองไปที่ท้องทะเลพวกเขาก็ไม่เห็นถึงความผิดปกติใดๆ แม้แต่ฟองอากาศบนผิวน้ํา พวกเขาก็ยังไม่เห็นมันดูราวกับท้องทะเลในยามปกติไม่มีผิด
“พวกเราจะออกเดินทางในเก้าโมงเช้าของอีกสามวันข้างหน้า และมุ่งหน้าไปยังเกาะแห่งท้องฟ้า!”
โรแกนได้กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
ในตอนนี้ภายในหัวของพวกเขาได้ปรากฏภาพของเมฆสีขาวและเหล่าเทวดานางฟ้า ในตอนนี้ พวกเขาแทบจะรอเวลากันไม่ไหวแล้ว
เพียงพริบตาเดียววันที่พวกเขารอคอยก็ได้มาถึง
ในขณะนี้คริกเกตได้แล่นเรือลําเล็กตามรูทดราก้อนมายังท้องทะเลทางตอนเหนือของเกาะจายาด้วยความระมัดระวัง
“ตอนนี้ก็เป็นเวลา 7:30 แล้วอีกประมาณชั่วโมงครึ่งน็อคอัพสตรีมก็น่าจะปะทุขึ้นมาแล้ว”
คริกเกตได้จ้องมองไปที่นาฬิกาที่อยู่บนข้อมือพร้อมกับตะโกนออกมาด้วยความกังวล
การที่เขาจะรู้สึกกังวลนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจแต่อย่างใด เพราะน็อคอัพสตรีมที่จะปรากฏขึ้นมาในครั้งนี้นั้นคือน็อคอัพสตรีมที่แรงกว่าปกติถึง 10 เท่า
ต่อให้เป็นพวกโรแกนถ้าพวกเขาถูกน็อคอัพสตรีมระดับนี้อัดกระแทกเข้าละก็ พวกเขาต้องถูกท่าลายจนสิ้นซากอย่างแน่นอน
ไม่ว่าจะแข็งแกร่งหรือยิ่งใหญ่มาจากไหน เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังแห่งธรรมชาติพวกเขาก็ไม่อาจที่จะต้านทานมันได้
“คริกเกต,นายกลับไปเถอะมันอันตรายเกินไปเดี๋ยวที่เหลือพวกเราจัดการเอง”
เจสันที่อยู่บนรูทดราก้อนได้ตะโกนออกมาเสียงดัง
ในขณะนี้โรแกนกําลังนั่งอยู่บนหัวเรือและจ้องมองไปที่ท้องทะเล
ในตอนนั้นเองดวงตาของเขาก็ได้เปลี่ยนไปเป็นดวงตาของเนตรสังสาระ
ด้วยพลังอํานาจของเนตรสังสาระทําให้เขาสามารถมองเห็นฟองอากาศที่อยู่ใต้ท้องทะเลได้อย่างชัดเจน
แม้แต่เขาเองก็ไม่สามารถจินตนาการได้ว่าน็อคอัพสตรีมที่กําลังจะเกิดขึ้นนั้นจะรุนแรงและน่ากลัวขนาดไหน
เมื่อได้ยินคําพูดของเจสันคริกเกตก็ได้ถอยกลับไปในทันที แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ยังเฝ้ามองมาที่พวกโรแกนผ่านทางกล้องส่องทางไกล
เขานั้นไม่ต้องการถูกบดขยี้โดยน็อคอัพสตรีมเขานั้นยังคงหวงแหนชีวิตของเขาอยู่
คริกเกตได้จ้องมองลงไปที่นาฬิกาด้วยความกังวล
แม้ว่าเขาจะคํานวณเวลาที่น็อคอัพสตรีมจะปะทุขึ้นมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่ธรรมชาตินั่นคือสิ่งที่ไม่แน่นอนและไม่สามารถควบคุมได้
หนึ่งชั่วโมงต่อมา,ในเวลานี้คร็อกโคไดล์นั่นกําลังสูบซิการ์ พร้อมกับจ้องมองไปที่ท้องทะเลที่ยังคงสงบนิ่ง และไม่มีสิ่งผิดปกติใดๆเกิดขึ้นด้วยแววตาที่เปี่ยมล้นไปด้วยความสงสัย
“หรือว่าคริกเกตจะคํานวณผิด เพราะจนถึงตอนนี้มันก็ยังไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย”
คร็อกโคไดล์ได้เดินเข้ามาหาโรแกนและกล่าวถามออกมาด้วยความสงสัย
ในตอนนั้นเองโรแกนก็ได้กล่าวขึ้นมาว่า
“นายเคยเห็นภูเขาไฟระเบิดไหม?”
“มันเกี่ยวอะไรกัน?”
“ก่อนที่มันจะปะทุขึ้นมามันเคยส่งสัญญาณอะไรให้นายเห็นไหมละ”
เมื่อกล่าวจบโรแกนก็ได้กลับไปจ้องมองที่ท้องทะเลดังเดิม
ในเวลานี้ฟองอากาศนั้นได้แพร่กระจายออกไปไกลถึง 1,000 เมตรแถมยังคงทวียิ่งๆขึ้นไปเรื่อยๆ
ราวกับสัตว์ร้ายที่กําลังกรีดร้องออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว
“ใกล้ได้เวลาแล้ว!”
คริกเกตได้กล่าวออกมาพร้อมกับจ้องมองไปที่นาฬิกา
ในตอนนั้นเองบนท้องฟ้าก็ได้ปรากฏสิ่งผิดปกติขึ้นมา
“เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!”
ทันใดนั้นเองเมฆด่าทมิฬก็ได้เข้าปกคลุมท้องฟ้าพร้อมกับสายฟ้าที่กรีดร้องออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด
ในเวลานี้ท้องฟ้าได้เปลี่ยนไปแล้ว!
คอมเม้นต์