การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] – LS ตอนที่ 1 ซูเอ้อร์หยา
LS ตอนที่ ๑ ซูเอ้อร์หยา
มันเป็นต้นฤดูใบไม้ผลิในเมืองต้าซู หิมะบางส่วนยังคงจับอยู่บนกิ่งไม้เหลืองแห้งเหี่ยวในป่า เมื่อสายลมพัดพา เกล็ดหิมะเบาบางก็ร่วงหล่นลงจากต้นไม้
ภายในสายลมเย็นเยือก ก็มีเสียงกระซิบกระซาบบางอย่างดังมาจากเหล่าแม่บ้านชราทั้งหลาย
“คุณหนูสองแห่งตระกูลซูถูกไล่ออกจากบ้านแล้วล่ะ!”
“นางสมควรโดนแล้ว! ข้าได้ยินมาว่านางทำลายอนาคตของคุณชายใหญ่ตระกูลซู โชคดีแล้วที่นางไม่ถูกฆ่า!”
“จุ๊ๆ !”
…
…
ท้องฟ้าส่งแสงสลัวราง บนถนนที่พาดบนภูเขา หญิงชราหลังค่อมกำลังเดินฝ่าอากาศหนาวเย็น ทุกเสี้ยววินาทีนางจะปาดผลึกน้ำแข็งออกจากคิ้ว เมื่อนางเดินมาถึงกระท่อมผุพังปรุโปร่งตรงเชิงเขา นางก็เปิดประตูและเบียดตัวเข้าไป จากนั้นก็ปิดประตูไม้ราวกับว่ามันจะสามารถกันความหนาวเย็นได้
กองฟืนภายในกระท่อมมอดดับนานแล้ว หญิงชราย่นคิ้ว ใบหน้าเหี่ยวย่นเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง นางก้าวเดินไม่กี่ก้าวตรงไปยังเตียง เลิกผ้านวมแข็งกระด้างราวกับเหล็กขึ้น เผยให้เห็นเด็กหญิงตัวน้อยที่ใบหน้าเป็นสีม่วงเพราะอากาศเย็น
“บาปกรรมอะไรเช่นนี้! ฮูหยินสองช่างใจร้ายนักที่ทำแบบนี้กับคุณหนูสองตระกูลซู!”
หญิงชราปาดน้ำตา แล้วนางก็หยิบชามน้ำข้าวควันกรุ่นออกมาจากใต้ผ้าคลุมไหล่และป้อนให้กับซูเอ้อร์หยา นางก่อฟืนใหม่ในกระท่อม กอดซูเอ้อร์หยาในอ้อมแขนให้ไออุ่นกับนางครู่หนึ่ง จากนั้นก็จากไปอย่างรวดเร็ว
อีกไม่กี่ชั่วยาม คุณหนูสามก็จะตื่น และนางก็ต้องกลับไปดูแล
แม้นางจะรู้ว่าคุณหนูสองคงไม่มีชีวิตอยู่จนผ่านฤดูใบไม้ผลิ แต่หญิงชราก็ยังเก็บเศษเสี้ยวความหวังไว้ในใจอยู่ นางจึงย่องออกไปดูแลนางในทุกเช้า
ไม่นานนักหลังจากที่หญิงชราจากไป ซูเอ้อร์หยาที่ยังนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนเบาะหญ้าก็พลันตื่นขึ้น หนังตาของนางสั่นระริกเผยให้เห็นดวงตาอันแห้งผากคู่หนึ่ง
กองฟืนยังคงเผาไหม้อย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลาผ่านไป ดวงตาของซูเอ้อร์หยาก็กลอกไหว จากนั้นศีรษะน้อย ๆ ของนางจึงหันไปเล็กน้อย ดวงตาจับจ้องอยู่ที่เปลวไฟ
ในชีวิตชาติอดีต ใบหน้าของนางถูกทำลายด้วยไฟในกองฟืน
“แม่บ้านหลี่…”
ซูเอ้อร์หยาพึมพำ นางดึงผ้านวมผืนบางที่พันแน่นรอบกายออกและพยายามดิ้นลงจากเตียง ในที่สุดก็นอนพิงเข้ากับขอบเตาผิง นางรู้สึกว่าความหนาวเสียดแทงได้ลดลงเล็กน้อย กองถ่านเล็ก ๆ ถูกเรียงเป็นตั้งตรงมุมกระท่อม นางรู้ว่าพี่เลี้ยงหลี่ขโมยมันมาจากห้องของน้องสาวคนที่สาม น้องสาวคนที่สามของนางเป็นบุตรสาวคนโปรดของท่านเเม่ ท่านแม่ของนางได้รับส่วนแบ่งถ่านหนึ่งร้อยชั่งไว้ใช้ในฤดูหนาว ซึ่งนางไม่อาจใช้มันได้
มองยอดไม้บอบบางบนกิ่งโกร๋นด้านนอกกระท่อมแล้ว ดวงตาของซูเอ้อร์หยาก็ฉายแววสับสน แต่ความสับสนนั้นก็ถูกพัดออกไปและเปลี่ยนเป็นแววหม่นหมองลงอย่างไม่สิ้นสุดในทันที ภาพทั้งหลายในชีวิตชาติอดีตฉายเข้ามาในใจ
นางเคยเป็นคุณหนูสองของตระกูลซู แต่ชีวิตของนางในจวนตระกูลซูไม่ได้ดีไปกว่าสาวใช้เลย พ่อแม่ของนางไม่ชอบนาง และนางก็ไม่ได้รับการตั้งชื่อที่เหมาะสม มีเพียงตอนที่นางอายุสิบขวบเท่านั้นถึงได้ชื่อว่าซูหลี่
ก่อนหน้านี้ในตระกูลซู มีเพียงพี่ชายคนโตของนาง ซูชิงถาน และน้องชายคนเล็กอันดับสี่ซูชิงฮ่าวเท่านั้นที่ทำให้นางมีเหตุผลในการอยู่ต่อ แต่นับจากหายนะนั้นแล้ว แม้แต่พี่ชายคนโตก็ยังเหินห่างกับนาง นางถูกมารดาทรมาน มีชีวิตเหมือนอยู่ในนรกทุกวัน
อีกหลายสิบปีต่อมา เนื่องเพราะต้องทำงานหนัก นางจึงทุกข์ทรมานจากโรคต่าง ๆ นางมีอายุเพียงยี่สิบปีแต่ดูเหมือนหญิงอายุสี่สิบปี เทียบกับน้องสาวคนที่สาม ซูจื่อเผย ที่อ่อนวัยกว่านางเพียงปีเดียว นางก็ดูเหมือนมารดาของอีกฝ่ายมากกว่าพี่สาว
ตระกูลซูพยายามหาคู่ครองให้นางเพื่อหวังประโยชน์จากนาง แต่เนื่องเพราะใบหน้าของนางเสียโฉมจึงไม่มีใครอยากแต่งงานด้วย ในที่สุดตระกูลซูก็พบว่านางไม่มีประโยชน์ต่อพวกเขา และด้วยคำแนะนำของซูจื่อเผย นางก็ได้แต่งงานกับชายหนุ่มยากจนอนาถาคนหนึ่ง
ไม่ใช่ในฐานะภรรยา แต่เป็นฐานะนางบำเรอ
แต่นั่นก็เป็นวันที่มีความสุขมากที่สุดในชีวิตชาติก่อนของนาง นางหวาดกลัวการทรมานของมารดาเสียจนรู้สึกดีใจที่หนีมาได้
สามีของนางเป็นคนใจดีอย่างน่าประหลาดและยังอ่อนโยนกับนาง ในปีต่อมานางก็ได้ให้กำเนิดบุตรชายแก่เขา
นางคิดว่าในที่สุดนางจะได้พ้นจากความทุกข์ตรมและมีชีวิตที่ดีขึ้น
แต่ภายในไม่กี่เดือน สามีของนางก็ถูกโบยจนตายบนถนนและบุตรชายก็ถูกแขวนคอจนตาย เรื่องนั้นเองก็ทำให้นางอยู่ในจุดตกต่ำที่สุดของชีวิต
หลังจากนั้นนางก็ได้พบว่าจุดพลิกผันทั้งหมดนี้เป็นเพียงเพราะคำพูดง่าย ๆ ของซูจื่อเผยผู้เป็นภรรยานายพลว่า “ต่อให้นางเป็นพี่สาวข้า” นางกล่าว “นั่นก็ไม่ได้ลบล้างความจริงที่ว่าสามีของนางเป็นลูกหลานของคนทรยศได้หรอก”
ภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน นางก็ตกจากสวรรค์ลงมาอยู่ในนรก
ขณะเดียวกัน ซูจื่อเผยกลับได้รับการยกย่องจากการวางความถูกต้องไว้เหนือความภักดีต่อตระกูล
หลังจากนั้นเองซูหลี่ก็ปฏิญาณตัวเองว่าจะเป็นคนชั่วช้าและแอบเรียนศาสตร์แห่งพิษ นางต้องการวางยาตระกูลซู แต่ในที่สุดนางกลับพลั้งพลาดวางยาบิดาบังเกิดเกล้าของตัวเอง…
ซูเอ้อร์หยาหลับตาด้วยความเจ็บปวดและร้องไห้ออกมา ตอนที่นางถูกประหาร นางฝันถึงชีวิตหลังความตายไว้ แต่นางไม่คิดเลยว่าสวรรค์จะส่งนางกลับมาอยู่ในร่างตัวเองเมื่อตอนอายุสิบสี่ เสียงจากกระเพาะปลุกซูเอ้อร์หยาให้กลับสู่โลกความเป็นจริง
นางมีชีวิตอยู่ด้วยน้ำข้าวจากแม่บ้านหลี่ในเดือนนี้ มันไม่เป็นอะไรนักหากนางยังหมดสติ แต่ตอนนี้นางตื่นแล้วและรู้สึกหิวมาก
ซูเอ้อร์หยานำผ้านวมพันตัวและเปิดประตู แสงตะวันเจิดจ้าทำให้นางต้องหยีตา นางคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนวางผ้านวมลงเดินฝ่าลมหนาวในชุดบางเบาที่ทำมาจากผ้าเพียงชั้นเดียว
คอมเม้นต์