การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] – ตอนที่ 94

อ่านนิยายจีนเรื่อง การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] ตอนที่ 94 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ ๙๔

 

“การแข่งขันระหว่างซูหลี่กับอาจารย์ฉุยได้รบกวนสภาพแวดล้อมในโรงเรียน ตอนนี้จึงมีคำสั่งให้ซูหลี่กับอาจารย์ฉุยกลับบ้านไปพิจารณาตนเองและรอคอยผลการตัดสิน”

 

แค่กลับบ้านไปพิจารณาตนเอง!

 

เม่ยรั่วหานกับอากั่วรู้สึกโล่งใจขึ้นมาพร้อมกันและเอ่ยขึ้น “ดูเหมือนว่าอาจารย์ใหญ่จะยังต้านทานไว้ได้อยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นแล้ว จากนิสัยของคนตระกูลหยาง เจ้าต้องถูกไล่ออกแน่!”

 

หลังซูหลี่อ่านมันแล้ว ชายธุรการก็รีบเอ่ยขึ้นมา “อาจารย์ใหญ่สั่งไว้ว่าเพื่อป้องกันไม่ให้ตระกูลหยางมาสร้างความลำบากให้เจ้า เขาได้เตรียมรถม้าเพื่อพาเจ้ากลับบ้านในคืนนี้แล้ว”

 

ซูหลี่พยักหน้าอย่างนุ่มนวลและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ท่านอาจารย์ใหญ่ช่างใจดีจริง ๆ ข้ารู้สึกซาบซึ้งยิ่งนักเจ้าค่ะ”

 

ธุรการมีสีหน้าแดงพร้อมกับเกาศีรษะ คุณหนูซูช่างงดงามนักยามที่นางยิ้ม…โชคร้ายที่หญิงสาวโฉมงามเปี่ยมพรสวรรค์เช่นนี้กลับเป็นที่เกลียดชังของผู้ร้าย

 

คืนนั้นเอง ซูหลี่ก็ได้อำลาเม่ยรั่วหานกับอากั่วแล้วจากไปพร้อมกับพจนานุกรมต้าฮั่น

 

รถม้าเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้าท่ามกลางความมืด จนกระทั่งถึงตอนเช้า ซูหลี่ก็กลับไปที่ตึกไป๋เว่ย แม่บ้านหลี่กำลังทำความสะอาดห้องให้คุณหนูของนาง แม้คุณหนูจะไม่ได้อยู่ที่นี่ นางก็รู้สึกไม่สบายใจหากไม่ได้ทำความสะอาดมัน

 

ทันใดนั้นเองเเม่บ้านหลี่ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าอันคุ้นเคยจากเบื้องหลัง นางหันกลับไปอย่างประหลาดใจและเห็นคุณหนูยืนอยู่ จึงวางไม้กวาดลงในทันทีและเอ่ยด้วยความประหลาดใจ “คุณหนู ทำไมท่านถึงกลับมาเร็วนักล่ะเจ้าค่ะ? โรงเรียนสตรีมู่หยางเป็นอย่างไรบ้าง? คุณหนูไปทำอะไรผิดมาหรือเจ้าคะ? ครั้งหน้าให้ข้าไปพร้อมกับท่านไหมเจ้าคะ?”

 

ซูหลี่หัวเราะไม่ได้และร้องไห้ไม่ออกจากคำถามของแม่บ้านหลี่ นางเดินผ่านแม่บ้านหลี่ไปแล้วนั่งลงรินชาให้ตนเอง แล้วเอ่ยขึ้น “แม่บ้านหลี่ ข้าจะไม่ไปโรงเรียนระยะหนึ่งนะจ๊ะ หากท่านต้องการไปก็ไปขอจื่อเผยเถอะ”

 

สีหน้าของแม่บ้านหลี่เปลี่ยนไปเล็กน้อยพร้อมกับเอ่ยอย่างกระวนกระวาย “เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ? ข้าจำได้ว่าตอนที่ท่านออกจากบ้าน ท่านบอกว่าการเรียนในโรงเรียนสตรีมู่หยางจะยากมากในตอนแรก ๆ หาากท่านมีเวลาจะกลับมาเยี่ยมเยียนตึกไป๋เว่ยทีหลัง ทำไมท่านถึงกลับมาแล้วหลังจากเข้าไปเรียนได้เพียงสามสี่วันล่ะเจ้าคะ?”

 

ซูหลี่ส่ายหน้าเงียบ ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นช่างซับซ้อนนัก จะอธิบายให้จบภายในคำพูดไม่กี่คำได้อย่างไร?

 

ไม่นานนักข่าวที่ซูหลี่กลับมาก็เป็นที่รับรู้กันทั่วทุกคนในตึกไป๋เว่ย แม้จะไม่มีใครรู้ว่าเพราะเหตุใดซูหลี่ถึงกลับมาเร็วนัก แต่พวกเขาก็ดีใจอย่างยิ่ง ตึกไป๋เว่ยที่ไร้ซูหลี่เหมือนเรือที่ไม่มีหางเสือ แม้มันจะทำงานได้ตามปกติแต่คนในนั้นต่างก็รู้สึกไม่ค่อยสะดวกสบายเท่าใด

 

“คุณหนู ข้ามีบางสิ่งอยากจะบอกท่านขอรับ”

 

ขณะที่ซูหลี่กำลังจะจัดการทำไก่ขอทานอันล้ำค่า เหอชี่ก็โพล่งขึ้นมาอย่างอึกอัก เขามีท่าทีรู้สึกผิด

 

ซูหลี่งุนงงไปเล็กน้อยแต่ก็ไม่กล่าวอะไร นางเดินไปที่นอกชานของห้องใต้หลังคาอันว่างเปล่า

 

เห็นร่างของซูหลี่ยืนหันหลัง เหอชี่ก็ถอนหายใจยาวและเดินลากเท้า จากนั้นซูหลี่ก็ได้ยินเสียง พลั่ก จากทางด้านหลังก่อนจะมีปฏิกิริยา

 

นางหันหลังกลับด้วยความประหลาดใจและพบว่าเหอชี่กำลังคุกเข่าลงตรงหน้า!

 

“คุณหนู ข้าขอโทษขอรับ!”

 

หยาดน้ำตาคลอในดวงตาของเหอชี่ เขาถอนหายใจ “ตระกูลซูจับได้ว่าข้าสามารถปรุงไก่ขอทานได้ พวกเขาจึงขอให้ข้ารับหน้าที่ปรุงมันและให้เงินเดือนข้าเพิ่มสิบชั่งต่อเดือนขอรับ”

 

ซูหลี่มองเหอชี่ด้วยสายตาว่างเปล่าแล้วเอ่ยถาม “ท่านรับปากกับนางไปแล้วใช่ไหม?”

 

เหอชี่หายใจติดขัดเล็กน้อยและเอ่ยด้วยความยากลำบาก “จริง ๆ แล้วข้าไม่อยากตกปากรับคำนางเลยขอรับ แต่…ข้ามีภรรยาและบุตรที่ต้องเลี้ยงดู พวกเขาต้องพึ่งพาข้าเพื่ออยู่รอด หญิงชราตระกูลซูบอกว่าถ้าข้าไม่รับปาก…นางจะฟ้องข้าต่อทางการด้วยข้อหาขโมยสูตรอาหารของตระกูลซูและจับข้าเข้าคุก! แล้วข้าจะกล้าสู้กับตระกูลซูได้อย่างไรขอรับ!”

 

จากนั้นเหอชี่ก็ผ่อนคลายลงในทันทีและเอ่ยต่อ “คุณหนู ท่านเป็นเหมือนเจ้านายของข้าเช่นกัน เหตุผลว่าทำไมข้าจึงบอกเรื่องนี้กับท่านเพราะข้ารู้สึกเสียใจและไม่รู้จะช่วยเหลือท่านแทนการรับคำให้อภัยอย่างไร ข้าช่างไร้ประโยชน์นัก…”

 

ชายอายุสามสิบปีคุกเข่าลงต่อหน้าเด็กสาวอายุสิบห้าปีและร้องไห้ฟูมฟายยิ่งกว่าเด็กเล็กเสียอีก

 

ซูหลี่ถอนหายใจเบา ๆ “บอกข้ามาเถอะว่าท่านถูกจับได้ตอนไหน?”

 

เหอชี่หยุดร้องไห้และเอ่ยด้วยเสียงสะอึกสะอื้น

 

กลายเป็นว่าเมื่อซูหลี่ออกไป ไก่ขอทานล้ำค่าก็ขายดีเทน้ำเทท่า ท่านย่าซู/ฉุยมาที่ตึกไป๋เว่ยอย่างหงอยเหงาเกือบทุกวัน ดูเหมือนว่าหากไม่มีใครสามารถปรุงไก่ขอทานอันล้ำค่าได้ ตึกไป๋เว่ยก็จะต้องถูกปิดลง จากนั้นนางก็เอ่ยย้ำหัวหน้าพ่อครัวซ้ำ ๆ ว่านางรักซูหลี่มากเพื่อจะเพิ่มความสนิทสนม

 

หลังจากนั้นสองหรือสามครั้ง เหอชี่ก็ถูกโกงอย่างที่คาดไว้ ท่านย่าซู/ฉุยเปลี่ยนความคิดหลังจากที่เขาปรุงไก่ขอทานอันล้ำค่า จากนั้นเขาก็รู้ตัวว่าถูกโกง

 

หลังได้ยินสิ่งที่เหอชี่พูด ซูหลี่ก็สรุปได้ว่าแผนการของท่านย่าซู/ฉุยยังดำเนินต่อไป นางเพียงต้องการกำจัดซูหลี่ เหอชี่เป็นเพียงคนน่าสงสารที่เข้ามาติดร่างแหกับนางไปด้วย

 

“คุณหนู แย่แล้วเจ้าค่ะ! ท่านย่ามาที่นี่พร้อมกับแม่บ้านหลายคนเลยเจ้าค่ะ!”

 

แม่บ้านหลี่เดินเข้ามาที่ห้องใต้หลังคาด้วยอาการตื่นตระหนก เมื่อนางเห็นเหอชี่คุกเข่าลงตรงหน้าคุณหนูของนาง นางก็รู้สึกงุนงงไม่รู้จะทำเช่นไรไปในทันที

 

เหอชี่ปาดน้ำตาในทันทีและลุกขึ้นยืน ซูหลี่กระพริบตาและเดินลงไปยังชั้นล่างเป็นคนแรก

ในตอนนี้เป็นเวลารับประทานอาหาร ชั้นแรกของตึกเต็มไปด้วยแขกเหรื่อดูคึกคักมีชีวิตชีวา

 

เมื่อท่านย่าซู/ฉุยเห็นซูหลี่กลับมา นางก็รู้สึกดีใจในทันที แต่แสร้งทำเป็นโกรธเคืองและตวาดเสียงดัง “เจ้ามันหลานสาวอกตัญญู ข้ารู้สึกโมโหยิ่งนัก!!”

 

จากนั้นนางก็เดินเขยกไปหาซูหลี่พร้อมไม้เท้าและตบหน้าซูหลี่

 

เพียะ!

 

แก้มขวาของซูหลี่ปรากฏรอยฝ่ามือสีแดงทันที นางไม่อาจปิดซ่อนมันไว้ได้

 

เสียงดังกังวานไปทั่วทั้งโถงจนแขกทั้งหมดที่กำลังทานอาหารอยู่ถึงกับหยุดดูพวกนางในทันที

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

“ดูเหมือนแม่ย่าตระกูลซูจะตบหน้าซูหลี่ล่ะ”

 

“หน้าแม่นางซูหลี่บวมแล้ว ช่างใจร้ายนัก!”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด