การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] – ตอนที่ 56

อ่านนิยายจีนเรื่อง การแก้แค้นของคุณหนูซู [毒妻在上] ตอนที่ 56 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ ๕๖

 

“ข้าได้ยินมาว่าเจ้ามียาชนิดหนึ่งอยู่ ถ้าอย่างนั้น…จากนั้นชื่อเสียงของพี่สาวสองของข้าก็จะถูกทำลายป่นปี้และไม่มีใครช่วยนางได้!” ซูจื่อเผยกระซิบและสีหน้าของหลินเซียงก็เปลี่ยนเป็นจริงจังอย่างยิ่ง

 

ซูจื่อเผยรู้ได้อย่างไรว่านางมียาชนิดนั้นอยู่?!

 

“วางใจเถอะ ข้าจะไม่มีวันเอ่ยคำนี้ให้ใครคนอื่นฟัง” ซูจื่อเผยรู้สึกร้อนใจเล็กน้อย “ตราบใดที่ท่านช่วยข้า ข้าก็จะเชื่อฟังคำสั่งของท่าน!”

 

หลินเซียงคิดครู่หนึ่งและมองจูเหยียนที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งผู้อาวุโสโดยไม่มีความรู้สึกใด ๆ นางยกยิ้มพลางคิด “ช่างน่าสนใจนักที่จะเห็นพี่น้องท้องเดียวกันพวกนี้พยายามจะทำร้ายกัน”

 

“เอาล่ะ ข้าจะช่วยเจ้า มันจะทำให้ซูหลี่กลายเป็นนางแพศยาและสูญเสียชื่อเสียงของนาง!”

 

หลังดื่มไปสามจอก บรรยากาศก็ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น คืนนี้ไม่มีใครเอ่ยถึงความบาดหมางภายในครอบครัว ทั้งเจ้าบ้านและแขกต่างมีความสุขกันถ้วนหน้า

 

หลังจากซูหลี่ดื่มสุราไปจำนวนหนึ่ง คุณชายหลายคนราวกับฝูงผึ้งหรือผีเสื้อบ้าคลั่งก็ยังคงดื่มอวยพรให้กับนาง มันช่างน่ารำคาญนัก นางจึงเเกล้งทำเป็นเมา ผลก็คือคุณชายหลายคนที่หมายจะเอาอกเอาใจก็ไม่ได้เข้ามาประชิดตัวอีก

 

“ทุกคนล้วนรู้จักชื่อของเจ้าในเมืองต้าซู ตอนนี้ข้าเห็นเจ้าแล้ว เจ้าช่างสมกับชื่อเสียงที่ได้รับยิ่งนัก ช่างน่าอิจฉานักที่เจ้างดงามเหลือเกิน”

 

หลินเซียงเดินมาหาซูหลี่เงียบ ๆ พร้อมน้ำชาสองจอก “เจ้าดื่มมากเกินไปแล้ว ข้าเลยเปลี่ยนเหล้าเป็นชาเพื่อดื่มอวยพรให้กับเจ้า”

 

ซูหลี่ไม่ได้สงสัยนาง นางหยิบจอกชาและยิ้มให้ “ขอบคุณ ข้าเมามากและกระหายน้ำเหลือเกิน”

 

นางดื่มชาจนหมดจอก

 

ซูจื่อเผยที่ยืนห่างออกไปเห็นภาพนั้นแล้วก็ดีใจเนื้อเต้น “ซูหลี่ ต่อให้เจ้ามีความสามารถมาก เจ้าก็ไม่อาจหนีหายนะในวันนี้ได้หรอก หลังจากคืนนี้แล้วเจ้าจะไม่มีความภาคภูมิใจเหลืออยู่อีกแล้ว”

 

หลินเซียงโล่งใจและสีหน้าของนางไม่เปลี่ยนไป นางหันหลังกลับหลังเอ่ยคำบางคำกับซูหลี่แล้ว

 

หลังจากที่หลินเซียงผละจากไป ซูหลี่ก็ยิ้มแต่เหงื่อกลับผุดเต็มหน้าผาก นางยิ้มแทบไม่ออก “ข้าต้องขอโทษด้วยที่ไม่สบายและจะขอเข้าไปพักที่ห้องรับแขกก่อน”

 

นางไม่รอคำเชิญจากคุณชายเหล่านั้นเพื่อตามไปส่งนางและรีบลุกออกจากที่นั่งอย่างรวดเร็ว

 

“จื่อเผย ยาออกฤทธิ์แล้วล่ะ เจ้าต้องพาคนไปที่ห้องนะ ไม่อย่างนั้นเจ้าจะทำแผนทั้งหมดของข้าพัง อย่าว่าข้าถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นก็แล้วกัน” หลังจากที่หลินเซียงเอ่ยเตือนซูจื่อเผย นางก็ผละจากไป

 

ซูจื่อเผยพยักหน้าและส่งสายตาขุ่นเคืองไปให้หยางเว่ย “ท่านพี่ ข้ามีของขวัญใหญ่จะให้ท่าน ท่านต้องขอบคุณข้าให้มาก ๆ นะ…”

 

แต่ซูหลี่กลับเข้าไปที่เรือนด้านหลังของตระกูลหยางและเข้าไปในห้องว่างห้องหนึ่ง นางไม่ได้เข้าไปที่ห้องรับรองแขก

 

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ซูหลี่ก็เอนพิงโต๊ะน้ำชา นางรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา

 

“โชคดีที่ข้าตอบสนองไว หลินเซียงใส่ยาลงไปในน้ำชา ข้ามันประมาทเอง”

 

ดวงตาของซูหลี่เย็นเยือกและนางไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดหลินเซียงที่นางไม่เคยเจอหน้ามาก่อนถึงต้องการทำร้ายนาง

 

หลังจากเหงื่อบนหน้าผากระเหยไปแล้ว ซูหลี่ก็กลับคืนสู่อาการปกติ นางหยิบถ้วยชาบนโต๊ะและมองมันอย่างระมัดระวัง น้ำชาใสถูกขับออกมาจากร่างของนางเป็นปริมาณครึ่งจอก

 

“ถ้ายาถูกย่อยแล้ว แม้แต่ข้าก็ไม่อาจต้านทานมันได้”

 

ซูหลี่กำลังจะเทน้ำชาทิ้ง ทันใดนั้นนางก็ได้ยินอะไรบางอย่างผิดปกติจากด้านนอก นางรีบหายตัวกระโดดขึ้นกำแพงสูงออกจากบ้านตระกูลหยาง ทิ้งจอกชาไว้บนโต๊ะ

 

ครู่ต่อมา สตรีที่ยังคงมีเสน่ห์ดึงดูดก็เปิดประตูเดินเข้ามา

 

“อาเว่ยอยู่ไหน? เขาตามหาซูหลี่อีกแล้วหรือ?”

 

ซูเยว่จู๋หงุดหงิดเสียจนต้องพูดกับตัวเอง นางกระหายน้ำขึ้นมาและหยิบชาบนโต๊ะขึ้นซด หลังจากนางดื่มเข้าไปแล้วนางก็เดินกลับไปที่ห้องรับรองแขก

 

หลังจากที่ซูจื่อเผยส่งหยางเว่ยเข้าไปในห้องรับรองแขกแล้ว นางก็อยู่ที่หน้าประตูและคอยเงี่ยหูฟัง เมื่อนางได้ยินเสียงในแบบที่ฟังแล้วหูแดงนางก็ขบฟันกรอดและหันหลังกลับไปที่เรือนใหญ่

 

“จื่อเผย เจ้าไปเจออะไรที่น่าอัศจรรย์มาอีกล่ะ? เจ้าถึงต้องการให้คนเฒ่าคนแก่ตามเจ้ามา”

 

บนทางเดินไปสู่ห้องรับรองเเขก ซูจื่อเผยก็นำทางไป เบื้องหลังของนางเป็นคนกลุ่มใหญ่

 

พวกเขาคือหยางลี่ ซูฮ่วนหลี่ จูหรงคุน และคนอื่น ๆ แม้แต่หยางหวาย อดีตนายใหญ่ของบ้านตระกูลหยางก็เข้ามาร่วมสนุกด้วย

 

“ไอ้หยา ท่านลุง อย่าถามมากนักเลยเจ้าค่ะ ตามข้ามาแล้วท่านจะรู้เอง” ซูจื่อเผยเอ่ย ทุกคนต่างร้อนใจ ดูเหมือนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องรับรองแขกจะไม่ใช่เรื่องที่ดี

 

ซูเหยียนเองก็คาดหวังว่าจะเห็นซูหลี่ ซูจื่อเผยบอกแผนการของนางให้นางรับรู้แล้ว ทว่าจูเหยียนก็ยังไม่เชื่อบุตรสาวอย่างสนิทใจนัก

 

ในชั่วพริบตาเดียว พวกเขาก็มาถึงห้องรับรองแขก

 

เมื่อหยางลี่ได้ยินเสียงภายในห้อง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลันจนต้องพุ่งตัวเข้าไป พอเขาเห็นคนสองคนกำลังมีสัมพันธ์สวาทกันอยู่ในห้อง เขาก็ตกใจสุดขีดจนล้มลงบนพื้น

 

เมื่อคนที่ตามมาได้เห็นภาพอนาจารภายในห้อง พวกเขาก็เบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ

 

“ว้าว…”

 

“หยางลี่โดนตีท้ายครัวงั้นหรือ?”

 

ใครบางคนถามขึ้นในฝูงชน อดีตนายใหญ่ตระกูลหยางเบนสายตาหลบและกระอักเลือดออกมา จากนั้นเขาก็ล้มลงบนพื้น!

 

“นายใหญ่!”

 

ฝูงชนทั้งหลายต่างอยู่ในความวุ่นวายและส่งเสียงดังอื้ออึง ตอนนี้คนทั้งสองพลันตื่นขึ้น เมื่อซูเยว่จู๋เห็นกลุ่มคนขนาดใหญ่รายล้อมรอบเตียง นางก็กรีดร้องและเป็นลมไป

 

หยางเว่ยตัวสั่นเทิ้มและปีนลงมาจากร่างของซูเยว่จู๋ เขาดูซีดเผือดอย่างยิ่ง เหลือบมองบิดาที่กำลังจ้องมองเขาอย่างพร้อมจะสังหาร เขาก็รู้สึกเข่าอ่อน คุกเข่าลงและร้องไห้อย่างหนัก “ท่านพ่อ มันไม่ใช่อย่างที่ท่านคิดนะขอรับ นาง…นางยั่วยวนข้า ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำอย่างนั้น!”

 

“ไอ้เวรตะไล! ข้าจะฆ่าแก!”

 

ดวงตาของหยางลี่แดงก่ำและหยิบไม้ตะพดของบิดามาฟาดบุตรชาย คนอื่น ๆ รีบกรูกันแยกตัวทั้งคู่ออกจากกัน หากมีใครตายมันก็จะทำให้เรื่องเลวร้ายลง

 

“เป็นท่านน้าไปได้อย่างไร…ข้า…”

 

ซูจื่อเผยตะลึงงัน ไม่ว่านางจะพยายามนึก นางก็ไม่รู้ว่าทำไมคนที่อยู่บนเตียงถึงไม่ใช่พี่สาวแต่กลับเป็นท่านน้าของนาง

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด